ศูนย์ข่าวภูเก็ต –ผู้ว่าฯภูเก็ตฉุนขาด เจ้าของขุมเหมืองเอกชนยึดคืน ไม่ให้เทศบาลใช้น้ำผลิตน้ำประปา สั่งอุตสาหกรรมตรวจสอบข้อตกลง ระหว่างเจ้าของขุมเหมืองกับภาครัฐ เรื่องการใช้น้ำร่วมกัน ชี้ถ้าเอกชนไม่ให้ใช้น้ำจากขุมเหมือง จะสั่งกลบทันที ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อน รองรับการใช้ได้อีก4เดือน
นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการประชุมคณะกรมการจังหวัดภูเก็ต หรือการประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดภูเก็ต วันนี้(31 ม.ค) ที่ห้องประชุมศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต ถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง ว่า
เดิมจังหวัดภูเก็ตมีความเป็นห่วงเรื่องของปริมาณน้ำที่จะนำมาใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค ที่อาจจะมีไม่เพียงพอกับความต้องการ ในช่วงหน้าแล้งนี้ เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกลงมามีจำนวนน้อย แต่ปริมาณคนที่มาใช้น้ำมีจำนวนมาก
แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์ถล่ม ความเป็นห่วงในเรื่องนี้ก็ลดลงไป เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ มีจำนวนลดลง ทำให้ผู้ที่มาร่วมใช้น้ำในจังหวัดภูเก็ตลดน้อยลงไปด้วย ซึ่งปริมาณน้ำที่มีอยู่ น่าจะเพียงพอไปถึงช่วงหน้าฝนของปีนี้
นายอุดมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้ คือ เรื่องของเจ้าของขุมเหมืองเอกชนบางราย ที่ไม่อนุญาตให้เทศบาลใช้น้ำจากขุมเหมือง เพื่อนำมาผลิตเป็นน้ำประปา เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน ทำให้เทศบาลต้องใช้น้ำจากเขื่อนบางวาดแทน ซึ่งการใช้น้ำจากเขื่อนบางวาด ของเทศบาลนครภูเก็ตจะทำให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่ไม่เพียงพอได้
สำหรับปัญหานี้เป็นเรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการ และขอให้สำนักงานอุตสาหกรรมเข้าตรวจสอบขุมเหมือง ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่มีอยู่ 19 แห่งใหม่ เพราะจากการตรวจสอบพบว่า ขุมเหมืองทั้ง 19 แห่ง เป็นขุมเหมืองของรัฐเพียงแห่งเดียวเท่านั้น นอกนั้นเป็นขุมเหมืองของภาคเอกชน
ทั้งนี้ ตามกฎหมายการทำเหมืองแร่ ขุมสุดท้ายผู้ที่ขอสัมปทานจะต้องกลบหลุมที่ขุดไว้ ภายหลังจากทำเหมืองแร่เสร็จแล้ว แต่ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตได้มีการตกลงกัน ระหว่างผู้ที่รับสัมปทานและภาครัฐในเรื่องของการกลบหลุม โดยผู้ที่รับสัมปทานไม่ต้องกลบหลุม แต่จะต้องมีการใช้น้ำร่วมกันได้
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมจะต้องไปหาตัวหนังสือสัญญาฉบับดังกล่าวมาให้ได้ เพื่อที่จะมาเป็นหลักฐานในการดำเนินการ เรื่องของการใช้น้ำต่อไป แต่ถ้าไม่สามารถใช้น้ำจากขุมเหมืองเอกชนบางรายได้ก็จะใช้อำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งกลบขุมเหมืองดังกล่าวทันที ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ด้านนายวัชระ อาภรณ์ศิริ หัวหน้าโครงการชลประทานจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าขณะนี้น้ำในเขื่อนบางวาดจังหวัดภูเก็ตมีประมาณ 5.9 ลูกบาศก์เมตร คาดว่าจะสามารถรองรับการใช้น้ำได้อีกประมาณ 4 เดือนเท่านั้น หากไม่มีฝนตกลงมาช่วงฤดูฝนหน้า ภูเก็ตก็จะประสบปัญหากับภัยแล้งได้
ส่วนปัญหาที่เทศบาลนครภูเก็ต กำลังประสบในเรื่องของการผลิตน้ำประปา ซึ่งภาคเอกชนไม่ให้ใช้น้ำฟรี เป็นเรื่องที่เทศบาลจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนบางวาดเองก็มีน้อยลงมากแล้ว