ศูนย์ข่าวภูเก็ต -แขวงการทางของบฯปี 48 กว่า 4.2 ล้านบาทซ่อมคานคอนกรีตอัดแรงสะพาน “สารสิน”เชื่อภูเก็ต-พังงา หลังตรวจพบชำรุดหลายจุด พร้อมกำหนดช่องทางเดินรถใหม่ ป้องกันการชำรุดเสียหายเพิ่ม

นายธนิต สากิฮะ นายช่างแขวงการทางจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึง การประกาศเปลี่ยนช่องทางการเดินรถของสะพานสารสิน หรือสะพานรักสารสิน ซึ่งเป็นสะพานเก่าแก่ที่สร้างเมืองปี 2510 และใช้เป็นสะพานเชื่อการเดินทางระหว่างจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา ว่า
ขณะนี้จากการสำรวจสะพานสารสิน ซึ่งเป็นสะพานเก่าแก่ที่มีอายุการใช้งานมาแล้วประมาณ 37 ปี พบว่า สะพานมีสภาพชำรุดเสียหายมาก และมีเหล็กลวดอัดแรงขาด หลุดออกจากคานหลายจุด ซึ่งสาเหตุของความเสียหายของสะพาน เกิดจากปัยหาของน้ำเค็มที่กัดกร่อนเหล็ก ทำให้มีการผุพัง
แขวงการทางจังหวัดภูเก็ต จึงได้แจ้งไปยังศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 4 อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ให้มาตรวจสอบอย่างละเอียดเอียกครั้งว่า สภาพสะพานดังกล่าวจะอยู่ได้มากน้อยแค่ไหน
หลังจากการตรวจสอบสภาพความเสียหายของสะพานแล้ว ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานมีความเห็นว่าควรซ่อมสะพานคอนกรีตอัดแรงของสะพานใหม่ คือ บริเวณคานช่วงยาว 30 เมตร จำนวน 3 คาด และคานยาว 50 เมตรจำนวน 6 คาน ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณในการซ่อมประมาณ 4.2 ล้านบาท เพื่อให้สะพานสามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยงบประมาณดังกล่าวจะขอรับการสนับสนุนในปีงบประมาณ 48 แต่ขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะได้รับงบประมาณสนับสนุนหรือไม่
นายธนิต กล่าวว่า ระหว่างที่กำลังรองบประมาณ เพื่อนำมาปรับปรุงและซ่อมสะพาน แขวงการทางจังหวัดภูเก็ต จึงได้ออกประกาศเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถ บริเวณสะพานดังกล่าวใหม่ เพื่อให้การจราจรเป็นไปได้ตามปกติ และลดน้ำหนักรถ ที่จะไปเพิ่มความเสียหายให้กับส่วนที่ชำรุดของสะพาน
สำหรับส่วนที่ชำรุดของสะพาน จะอยู่ที่บริเวณด้านข้างทั้ง 2 ข้อง จึงขอให้รถที่จะวิ่งออกจากจังหวัดภูเก็ตวิ่งอยู่ในส่วนกลางของสะพาน โดยขณะนี้ได้ติดตั้งป้ายแนะนำ ป้ายบังคับ และกรวยแบ่งช่องทางการจราจรไว้แล้ว
ส่วนการปิดสะพานถาวร ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็น เพราะสะพานยังสามารถรองรับการจราจรได้ แต่จะต้องมีการซ่อมแซม
ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาว แขวงการทางจะก่อสร้างสะพานใหม่อีก 1 สะพาน โดยให้มีความสูงเท่ากับสะพานท้าวเทพกระษัตรี ที่อยู่ขนานกับสะพานสารสินในปัจจุบัน โดยขณะนี้การออกแบบเสร็จแล้ว แต่ยังติดปัญหาอยู่ในเรื่องของสิ่งแวดล้อม
หลังจากที่สะพานใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ในส่วนของสะพานสารสิน ก็คงจะต้องรื้อออกเพื่อให้เรือสามารถวิ่งลอดใต้สะพานได้ ซึ่งปัจจุบันนี้เรือไม่สามารถวิ่งเข้าออกในบริเวณดังกล่าวได้
นายธนิต สากิฮะ นายช่างแขวงการทางจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึง การประกาศเปลี่ยนช่องทางการเดินรถของสะพานสารสิน หรือสะพานรักสารสิน ซึ่งเป็นสะพานเก่าแก่ที่สร้างเมืองปี 2510 และใช้เป็นสะพานเชื่อการเดินทางระหว่างจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา ว่า
ขณะนี้จากการสำรวจสะพานสารสิน ซึ่งเป็นสะพานเก่าแก่ที่มีอายุการใช้งานมาแล้วประมาณ 37 ปี พบว่า สะพานมีสภาพชำรุดเสียหายมาก และมีเหล็กลวดอัดแรงขาด หลุดออกจากคานหลายจุด ซึ่งสาเหตุของความเสียหายของสะพาน เกิดจากปัยหาของน้ำเค็มที่กัดกร่อนเหล็ก ทำให้มีการผุพัง
แขวงการทางจังหวัดภูเก็ต จึงได้แจ้งไปยังศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 4 อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ให้มาตรวจสอบอย่างละเอียดเอียกครั้งว่า สภาพสะพานดังกล่าวจะอยู่ได้มากน้อยแค่ไหน
หลังจากการตรวจสอบสภาพความเสียหายของสะพานแล้ว ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานมีความเห็นว่าควรซ่อมสะพานคอนกรีตอัดแรงของสะพานใหม่ คือ บริเวณคานช่วงยาว 30 เมตร จำนวน 3 คาด และคานยาว 50 เมตรจำนวน 6 คาน ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณในการซ่อมประมาณ 4.2 ล้านบาท เพื่อให้สะพานสามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยงบประมาณดังกล่าวจะขอรับการสนับสนุนในปีงบประมาณ 48 แต่ขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะได้รับงบประมาณสนับสนุนหรือไม่
นายธนิต กล่าวว่า ระหว่างที่กำลังรองบประมาณ เพื่อนำมาปรับปรุงและซ่อมสะพาน แขวงการทางจังหวัดภูเก็ต จึงได้ออกประกาศเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถ บริเวณสะพานดังกล่าวใหม่ เพื่อให้การจราจรเป็นไปได้ตามปกติ และลดน้ำหนักรถ ที่จะไปเพิ่มความเสียหายให้กับส่วนที่ชำรุดของสะพาน
สำหรับส่วนที่ชำรุดของสะพาน จะอยู่ที่บริเวณด้านข้างทั้ง 2 ข้อง จึงขอให้รถที่จะวิ่งออกจากจังหวัดภูเก็ตวิ่งอยู่ในส่วนกลางของสะพาน โดยขณะนี้ได้ติดตั้งป้ายแนะนำ ป้ายบังคับ และกรวยแบ่งช่องทางการจราจรไว้แล้ว
ส่วนการปิดสะพานถาวร ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็น เพราะสะพานยังสามารถรองรับการจราจรได้ แต่จะต้องมีการซ่อมแซม
ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาว แขวงการทางจะก่อสร้างสะพานใหม่อีก 1 สะพาน โดยให้มีความสูงเท่ากับสะพานท้าวเทพกระษัตรี ที่อยู่ขนานกับสะพานสารสินในปัจจุบัน โดยขณะนี้การออกแบบเสร็จแล้ว แต่ยังติดปัญหาอยู่ในเรื่องของสิ่งแวดล้อม
หลังจากที่สะพานใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ในส่วนของสะพานสารสิน ก็คงจะต้องรื้อออกเพื่อให้เรือสามารถวิ่งลอดใต้สะพานได้ ซึ่งปัจจุบันนี้เรือไม่สามารถวิ่งเข้าออกในบริเวณดังกล่าวได้


