ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ปี 48 นักลงทุนไทยและต่างชาติ ผุดโรงแรม 4-5 ดาว และโครงการบ้านหรู5-40ล้านบาท ขายต่างชาตินับสิบโครงการ ที่ต.ราไวย์ อบต. คาดจัดเก็บรายได้เพิ่มไม่ต่ำกว่า30 ล้านบาท พร้อมเตรียมแผนป้องกันการทำลายสิ่งแวดล้อม และขอความร่วมมือนักลงทุน พัฒนาระบสาธารณูปโภครองรับ
นายอรุณ โสฬส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลราไวย์ (อบต.ราไวย์)กล่าวถึงการจัดเก็บรายได้ และการลงทุนด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในพื้นที่ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า ในปีงบประมาณ 2547 อบต.ราไวย์ จัดเก็บรายได้จากภาษีป้าย โรงเรือน การทำนิติกรรม และอื่นๆได้จำนวน 26 ล้านบาท เป็นรายได้ที่จัดเก็บได้เพิ่มจากปี 2546 จำนวน7 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2548 คาดว่าจะจัดเก็บรายได้ ได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจาก ขณะนี้ในพื้นที่ต.ราไวย์ มีโรงแรม บ้านจัดสรร และที่พักเกิดขึ้นมาก และมีแนวโน้มจะมีการลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ในปีงบประมาณ 2548 คาดว่ามีหลายโครงการ ที่อยู่ระหว่างการติดต่อ เพื่อขออนุญาตการก่อสร้าง เช่น การลงทุนด้านธุรกิจโรงแรม เข้ามาติดต่อเพื่อขอทราบรายละเอียดและขออนุญาตก่อสร้างแล้ว 2 ราย เป็นการลงทุนสร้างโรงแรมขนาดหลายร้อยห้อง ระดับ 4-5 ดาว ซึ่งทั้ง 2 โรงแรมเป็นการร่วมทุนกันระหว่างนักธุรกิจในพื้นที่และต่างพื้นที่
นอกจากนั้น ยังมีโครงการสร้างบ้านพักตากอากาศหรูอีกประมาณ 10 กว่าโครงการ ที่กำลังอยู่การขออนุญาต แต่ละโครงการจะมีประมาณ 10-100 ยูนิต โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 5-40 ล้านบาทต่อหลัง โครงการเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ที่ต้องการสร้างบ้านขายให้กับชาวต่างชาติ โดยพื้นที่ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุน จะอยู่ที่บริเวณหมู่ที่ 1 บ้านในหาน หมู่ที่ 7 บ้านใสยวนและหมู่ที่ 4 บ้านบางคณฑี
"จากการเติบโตทางด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง อบต.ได้มองถึงปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมที่จะตามมาด้วย จึงได้วางแผนงานโครงการเพื่อจัดระบบบริหารจัดการ เพื่อไม่ให้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆของต.ราไวย์ เช่น แหลมพรหมเทพ เกาะแก่งต่างๆ ได้รับผลกระทบจากการเติบโตทางด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์"
ขณะนี้ อบต.ได้เข้าไปสร้างเครือข่ายให้ชาวบ้าน ช่วยกันดูแลรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมในแต่ละจุด นอกจากนั้นในส่วนของเจ้าหน้าที่เอง ก็จะเข้าไปกำกับดูแลอีกครั้งหนึ่ง ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็นอย่างดี ในการช่วยกันดูแลรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมของพื้นที่
นายอรุณ กล่าวอีกว่า เมื่อมีการลงทุนในพื้นที่เพิ่มขึ้น ปัญหาเรื่องระบบสาธารณูปโภคไม่เพียงพอกับความต้องการจะเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ อบต.ได้ประสานงานกับนักธุรกิจ ที่จะเข้ามาลงทุน ถึงแนวทางในการบริหารจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของถนน น้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ และอื่นๆ โดยอบต.ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากนั้น อบต.ยังได้จัดทำผังเมืองเฉพาะขึ้นมา เพื่อควบคุมการลงทุนในพื้นที่ให้มีความสมดุลและเหมาะสมกับพื้นที่ด้วย
นายอรุณ โสฬส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลราไวย์ (อบต.ราไวย์)กล่าวถึงการจัดเก็บรายได้ และการลงทุนด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในพื้นที่ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า ในปีงบประมาณ 2547 อบต.ราไวย์ จัดเก็บรายได้จากภาษีป้าย โรงเรือน การทำนิติกรรม และอื่นๆได้จำนวน 26 ล้านบาท เป็นรายได้ที่จัดเก็บได้เพิ่มจากปี 2546 จำนวน7 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2548 คาดว่าจะจัดเก็บรายได้ ได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจาก ขณะนี้ในพื้นที่ต.ราไวย์ มีโรงแรม บ้านจัดสรร และที่พักเกิดขึ้นมาก และมีแนวโน้มจะมีการลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ในปีงบประมาณ 2548 คาดว่ามีหลายโครงการ ที่อยู่ระหว่างการติดต่อ เพื่อขออนุญาตการก่อสร้าง เช่น การลงทุนด้านธุรกิจโรงแรม เข้ามาติดต่อเพื่อขอทราบรายละเอียดและขออนุญาตก่อสร้างแล้ว 2 ราย เป็นการลงทุนสร้างโรงแรมขนาดหลายร้อยห้อง ระดับ 4-5 ดาว ซึ่งทั้ง 2 โรงแรมเป็นการร่วมทุนกันระหว่างนักธุรกิจในพื้นที่และต่างพื้นที่
นอกจากนั้น ยังมีโครงการสร้างบ้านพักตากอากาศหรูอีกประมาณ 10 กว่าโครงการ ที่กำลังอยู่การขออนุญาต แต่ละโครงการจะมีประมาณ 10-100 ยูนิต โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 5-40 ล้านบาทต่อหลัง โครงการเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ที่ต้องการสร้างบ้านขายให้กับชาวต่างชาติ โดยพื้นที่ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุน จะอยู่ที่บริเวณหมู่ที่ 1 บ้านในหาน หมู่ที่ 7 บ้านใสยวนและหมู่ที่ 4 บ้านบางคณฑี
"จากการเติบโตทางด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง อบต.ได้มองถึงปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมที่จะตามมาด้วย จึงได้วางแผนงานโครงการเพื่อจัดระบบบริหารจัดการ เพื่อไม่ให้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆของต.ราไวย์ เช่น แหลมพรหมเทพ เกาะแก่งต่างๆ ได้รับผลกระทบจากการเติบโตทางด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์"
ขณะนี้ อบต.ได้เข้าไปสร้างเครือข่ายให้ชาวบ้าน ช่วยกันดูแลรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมในแต่ละจุด นอกจากนั้นในส่วนของเจ้าหน้าที่เอง ก็จะเข้าไปกำกับดูแลอีกครั้งหนึ่ง ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็นอย่างดี ในการช่วยกันดูแลรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมของพื้นที่
นายอรุณ กล่าวอีกว่า เมื่อมีการลงทุนในพื้นที่เพิ่มขึ้น ปัญหาเรื่องระบบสาธารณูปโภคไม่เพียงพอกับความต้องการจะเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ อบต.ได้ประสานงานกับนักธุรกิจ ที่จะเข้ามาลงทุน ถึงแนวทางในการบริหารจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของถนน น้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ และอื่นๆ โดยอบต.ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากนั้น อบต.ยังได้จัดทำผังเมืองเฉพาะขึ้นมา เพื่อควบคุมการลงทุนในพื้นที่ให้มีความสมดุลและเหมาะสมกับพื้นที่ด้วย