ระนอง –จังหวัดระนองติวเข้มเจ้าหน้าที่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองระนอง-เกาะสอง ตรวจสอบคนข้ามแดนอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (16 ก.ย. ) ที่ห้องประชุมสำนักงานจัดหางานจังหวัดระนอง นายวินัย มงคลธารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อปรับปรุงแนวทาง ในการควบคุมและอำนวยความสะดวก ในการสัญจรข้ามแดนระหว่างไทยกับพม่า ด่านระนอง-เกาะสอง ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตำรวจภูธร ตำรวจตระเวนชายแดน ข้าราชการฝ่ายปกครอง และภาคเอกชน จำนวน 50 คน
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ประชาชนชาวระนองกับเกาะสอง ประเทศพม่า มีความสัมพันธ์อันดีด้วยกันตลอดมา มีการข้ามแดนไปมาหาสู่กันตลอดเวลา หรือบางคนเป็นญาติพี่น้องกันแต่ต้องแยกกันอยู่คนละประเทศ เพราะเกิดการปักปันเขตแดนในอดีต ทำให้การเดินทางในแต่ละครั้งต้องปฏิบัติตามข้อตกลง ระเบียบ กฎหมายของแต่ละประเทศ ซึ่งอาจจะแตกต่างกันบ้าง
ดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบต้องบริการประชาชน นักท่องเที่ยวที่เดินทางข้ามแดนให้ได้รับความสะดวก แต่ต้องอยู่ภายใต้ระเบียบและกฎหมาย ที่สำคัญต้องตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารเดินทางและบุคคลว่าตรงกันหรือไม่ เพราะบางครั้งอาจมีผู้ไม่หวังดีเล็ดลอดเข้ามาได้ ต้องมีการจัดเก็บหลักฐานต่าง ๆ ให้สามารถตรวจสอบได้ด้วย นอกจากนี้ปัญหาที่พบบ่อยก็คือผู้ที่เดินทางข้ามแดนไม่ทราบว่าตนเองต้องใช้บัตรผ่านแดน หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องชี้แจงทำความเข้าใจให้ชัดเจน
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ปลัดจังหวัดระนอง กล่าวว่า รัฐบาลไทยกับรัฐบาลพม่า ได้ลงนามในความตกลงว่าด้วยการข้ามแดนระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2540 เพื่ออำนวยความสะดวกในการข้ามแดนแก่ประชาชนทั้งสองประเทศ โดยใช้เอกสาร 2 ประเภท คือ บัตรผ่านแดนชั่วคราว(TEMPORARY BORDER PASS) ออกให้ประชาชนที่อาศัยอยู่นอกแนวชายแดน และบัตรผ่านแดน(BORDER PASS) ออกให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ ตามแนวชายแดน
ปัจจุบันการออกบัตรผ่านแดนด่านระนอง อยู่ในความรับผิดชอบของที่ทำการปกครองจังหวัดและอำเภอเมือง ซึ่งการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ยังมีปัญหา ทั้งในส่วนของการออกหนังสือผ่านแดน การควบคุมการเข้าออก รวมทั้งการพำนักอยู่ในพื้นที่ของผู้ที่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงจำเป็นต้องสร้างความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญของความตกลง ว่าด้วยการข้ามแดนระหว่างประเทศ รวมทั้งการวางระบบ ในการออกบัตรผ่านแดนให้สามารถบริการประชาชนได้ด้วยความสะดวก รวดเร็วและประหยัด และการควบคุมการเข้า-ออกและการอยู่ในราชอาณาจักรของผู้ถือบัตรผ่านแดนให้เป็นไปตามความตกลงและระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (16 ก.ย. ) ที่ห้องประชุมสำนักงานจัดหางานจังหวัดระนอง นายวินัย มงคลธารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อปรับปรุงแนวทาง ในการควบคุมและอำนวยความสะดวก ในการสัญจรข้ามแดนระหว่างไทยกับพม่า ด่านระนอง-เกาะสอง ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตำรวจภูธร ตำรวจตระเวนชายแดน ข้าราชการฝ่ายปกครอง และภาคเอกชน จำนวน 50 คน
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ประชาชนชาวระนองกับเกาะสอง ประเทศพม่า มีความสัมพันธ์อันดีด้วยกันตลอดมา มีการข้ามแดนไปมาหาสู่กันตลอดเวลา หรือบางคนเป็นญาติพี่น้องกันแต่ต้องแยกกันอยู่คนละประเทศ เพราะเกิดการปักปันเขตแดนในอดีต ทำให้การเดินทางในแต่ละครั้งต้องปฏิบัติตามข้อตกลง ระเบียบ กฎหมายของแต่ละประเทศ ซึ่งอาจจะแตกต่างกันบ้าง
ดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบต้องบริการประชาชน นักท่องเที่ยวที่เดินทางข้ามแดนให้ได้รับความสะดวก แต่ต้องอยู่ภายใต้ระเบียบและกฎหมาย ที่สำคัญต้องตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารเดินทางและบุคคลว่าตรงกันหรือไม่ เพราะบางครั้งอาจมีผู้ไม่หวังดีเล็ดลอดเข้ามาได้ ต้องมีการจัดเก็บหลักฐานต่าง ๆ ให้สามารถตรวจสอบได้ด้วย นอกจากนี้ปัญหาที่พบบ่อยก็คือผู้ที่เดินทางข้ามแดนไม่ทราบว่าตนเองต้องใช้บัตรผ่านแดน หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องชี้แจงทำความเข้าใจให้ชัดเจน
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ปลัดจังหวัดระนอง กล่าวว่า รัฐบาลไทยกับรัฐบาลพม่า ได้ลงนามในความตกลงว่าด้วยการข้ามแดนระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2540 เพื่ออำนวยความสะดวกในการข้ามแดนแก่ประชาชนทั้งสองประเทศ โดยใช้เอกสาร 2 ประเภท คือ บัตรผ่านแดนชั่วคราว(TEMPORARY BORDER PASS) ออกให้ประชาชนที่อาศัยอยู่นอกแนวชายแดน และบัตรผ่านแดน(BORDER PASS) ออกให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ ตามแนวชายแดน
ปัจจุบันการออกบัตรผ่านแดนด่านระนอง อยู่ในความรับผิดชอบของที่ทำการปกครองจังหวัดและอำเภอเมือง ซึ่งการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ยังมีปัญหา ทั้งในส่วนของการออกหนังสือผ่านแดน การควบคุมการเข้าออก รวมทั้งการพำนักอยู่ในพื้นที่ของผู้ที่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงจำเป็นต้องสร้างความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญของความตกลง ว่าด้วยการข้ามแดนระหว่างประเทศ รวมทั้งการวางระบบ ในการออกบัตรผ่านแดนให้สามารถบริการประชาชนได้ด้วยความสะดวก รวดเร็วและประหยัด และการควบคุมการเข้า-ออกและการอยู่ในราชอาณาจักรของผู้ถือบัตรผ่านแดนให้เป็นไปตามความตกลงและระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง