ปัตตานี-สมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดแถลงประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ หลังการตรวจค้น 2 โรงเรียนที่ปัตตานี พร้อมระบุเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ วอนอย่าให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก และเตรียมละหมาดประณามการกระทำดังกล่าว
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (15 ก.ย.) ที่โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี นายนิเดร์ วาลา นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยนายอับดุลอาซิ ยานยา ประธานชมรมสถาบันศึกษาปอเนาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เปิดแถลงการณ์ว่า จากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความเป็นมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และโอกาสของผู้ก่อการร้าย ทุกครั้งที่มีการก่อความไม่สงบ จะมีผลกระทบและเกี่ยวข้องกับการศึกษาตลอดมา และยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
โดยเริ่มจากการเรียกค่าคุ้มครองและทำลายชีวิตครู เผาและทำลายทรัพย์สินของสถานศึกษา จนถึงขั้นเข้าแทรกแซงสถานศึกษาที่เป็นสถาบันสอนศาสนาอิสลาม เช่น ครูอบรมตาดีกาประจำมัสยิด สถาบันศึกษาปอเนาะ และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม เพื่อให้เกิดความระส่ำระส่าย โต๊ะครู ครูสอนศาสนาและเยาวชนในโรงเรียน ถูกตั้งข้อหาและถูกจับกุมจากฝ่ายความมั่นคงเป็นระยะๆ ในฐานะที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนผู้ก่อความไม่สงบดังที่ปรากฎอยู่ในขณะนี้
ดังนั้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงภายใต้ความรู้สึกของผู้นำสถาบันการศึกษาดังกล่าว คือ ความไม่มั่นคงในอนาคต ซึ่งเกิดความอ่อนแอ ขาดแนวร่วมที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็ง ความสมานฉันท์ ในสถาบันทุกสถาบันดังกล่าว ซึ่งทางสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และชมรมสถาบันศึกษาปอเนาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีแนวคิดร่วมกับส่วนราชการที่จะสร้างความเข้มแข็ง สมานฉันท์ทุกสถาบันให้เกิดความสันติสุขอย่างยั่งยืน
โดยกำหนดแผนงาน และโครงการร่วมกับส่วนราชการในการแก้ปัญหาด้านการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ การกำหนดแนวทางและวิธีการในการจดทะเบียนสถาบันศึกษาปอเนาะ กำหนดโครงสร้างเครือข่ายสถานศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และร่วมประชุมสัมมนาโต๊ะครู ผู้บริหารโรงเรียน เพื่อสร้างความเข้าใจในสถานการณ์ความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้มแข็งและสมานฉันท์ในสถาบันให้เกิดความสงบสุขและสันติสุขในสังคมอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น กระทบกระเทือนใจแก่บรรดาโต๊ะครู ผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามและประชาชนอย่างกว้างขวาง คือ เหตุการณ์ตรวจค้นสถาบันศึกษาปอเนาะ และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นสถาบันศึกษาสอนศาสนาอิสลามเป็นที่เคารพและยอมรับของสังคม โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2547 ที่ผ่านมากำลังทหารซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดปัตตานี ได้ยกกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นโรงเรียนอิสลามประชานุเคราะห์ ตำบลพิเทน อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ซึ่งมีนายอับดุลรอนิง กาหามะ เป็นผู้จัดการโรงเรียน
ทำให้โต๊ะครู ผู้บริหาร ครู และนักเรียน ผู้ปกครอง ประชาชนที่อยู่บริเวณโรงเรียนดังกล่าวเกิดความตระหนกตกใจ การตรวจค้นกระทำการที่ไม่เหมาะสม มีการห้ามมิให้นักเรียนที่พักอาศัยอยู่ในหอพักออกจากหอพัก โดนเฉพาะนักเรียนหญิง ซึ่งไม่สามารถออกไปประกอบศาสนกิจละหมาดซุบฮ์ ที่มัสยิด และผลการตรวจค้นบ้านพักและโรงเรียน ที่พักนักเรียนและห้องประกอบการต่าง ๆ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
สำหรับนายอับดุลรอนิง กาหามะ ผู้จัดการโรงเรียนอิสลามประชาสงเคราะห์เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับของสังคมได้รับเลือกตั้งเป็นเลขานุการสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม และเป็นกรรมการประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปัตตานี เขต 2 ซึ่งได้อุทิศเวลาให้แก่ทางราชการ ปฏิบัติงานร่วมกับภาคราชการ และยังเป็นคณะกรรมการแก้ปัญหาด้านการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้บริหารและหน่วยงานของรัฐ
ดังนั้น การกระทำของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองดังกล่าวข้างต้น จึงถือว่าไม่ให้เกียรติ ซึ่งกันและกันทั้งที่เคยพูดคุยและทำความตกลงในที่ประชุมมาก่อนหลายครั้งแล้วว่า ในส่วนของการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมานั้น ทำให้ผู้บริหารโรงเรียน โต๊ะครู ผู้ปกครอง ประชาชน ต่างก็ไม่พอใจในการกระทำของเจ้าหน้าที่ สมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
และใคร่วิงวอนว่า อย่าให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกซ้ำสอง และหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกทางสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และชมรมสถาบันการศึกษาปอเนาะจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป
นายนิเดร์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือถึงการเตรียมความพร้อมที่จะกำหนดกิจกรรม วัน เวลา ของการร่วมละหมาดเพื่อประณามการกระทำอันไม่เหมาะสมของทหาร
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (15 ก.ย.) ที่โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี นายนิเดร์ วาลา นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยนายอับดุลอาซิ ยานยา ประธานชมรมสถาบันศึกษาปอเนาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เปิดแถลงการณ์ว่า จากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความเป็นมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และโอกาสของผู้ก่อการร้าย ทุกครั้งที่มีการก่อความไม่สงบ จะมีผลกระทบและเกี่ยวข้องกับการศึกษาตลอดมา และยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
โดยเริ่มจากการเรียกค่าคุ้มครองและทำลายชีวิตครู เผาและทำลายทรัพย์สินของสถานศึกษา จนถึงขั้นเข้าแทรกแซงสถานศึกษาที่เป็นสถาบันสอนศาสนาอิสลาม เช่น ครูอบรมตาดีกาประจำมัสยิด สถาบันศึกษาปอเนาะ และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม เพื่อให้เกิดความระส่ำระส่าย โต๊ะครู ครูสอนศาสนาและเยาวชนในโรงเรียน ถูกตั้งข้อหาและถูกจับกุมจากฝ่ายความมั่นคงเป็นระยะๆ ในฐานะที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนผู้ก่อความไม่สงบดังที่ปรากฎอยู่ในขณะนี้
ดังนั้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงภายใต้ความรู้สึกของผู้นำสถาบันการศึกษาดังกล่าว คือ ความไม่มั่นคงในอนาคต ซึ่งเกิดความอ่อนแอ ขาดแนวร่วมที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็ง ความสมานฉันท์ ในสถาบันทุกสถาบันดังกล่าว ซึ่งทางสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และชมรมสถาบันศึกษาปอเนาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีแนวคิดร่วมกับส่วนราชการที่จะสร้างความเข้มแข็ง สมานฉันท์ทุกสถาบันให้เกิดความสันติสุขอย่างยั่งยืน
โดยกำหนดแผนงาน และโครงการร่วมกับส่วนราชการในการแก้ปัญหาด้านการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ การกำหนดแนวทางและวิธีการในการจดทะเบียนสถาบันศึกษาปอเนาะ กำหนดโครงสร้างเครือข่ายสถานศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และร่วมประชุมสัมมนาโต๊ะครู ผู้บริหารโรงเรียน เพื่อสร้างความเข้าใจในสถานการณ์ความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้มแข็งและสมานฉันท์ในสถาบันให้เกิดความสงบสุขและสันติสุขในสังคมอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น กระทบกระเทือนใจแก่บรรดาโต๊ะครู ผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามและประชาชนอย่างกว้างขวาง คือ เหตุการณ์ตรวจค้นสถาบันศึกษาปอเนาะ และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นสถาบันศึกษาสอนศาสนาอิสลามเป็นที่เคารพและยอมรับของสังคม โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2547 ที่ผ่านมากำลังทหารซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดปัตตานี ได้ยกกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นโรงเรียนอิสลามประชานุเคราะห์ ตำบลพิเทน อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ซึ่งมีนายอับดุลรอนิง กาหามะ เป็นผู้จัดการโรงเรียน
ทำให้โต๊ะครู ผู้บริหาร ครู และนักเรียน ผู้ปกครอง ประชาชนที่อยู่บริเวณโรงเรียนดังกล่าวเกิดความตระหนกตกใจ การตรวจค้นกระทำการที่ไม่เหมาะสม มีการห้ามมิให้นักเรียนที่พักอาศัยอยู่ในหอพักออกจากหอพัก โดนเฉพาะนักเรียนหญิง ซึ่งไม่สามารถออกไปประกอบศาสนกิจละหมาดซุบฮ์ ที่มัสยิด และผลการตรวจค้นบ้านพักและโรงเรียน ที่พักนักเรียนและห้องประกอบการต่าง ๆ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
สำหรับนายอับดุลรอนิง กาหามะ ผู้จัดการโรงเรียนอิสลามประชาสงเคราะห์เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับของสังคมได้รับเลือกตั้งเป็นเลขานุการสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม และเป็นกรรมการประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปัตตานี เขต 2 ซึ่งได้อุทิศเวลาให้แก่ทางราชการ ปฏิบัติงานร่วมกับภาคราชการ และยังเป็นคณะกรรมการแก้ปัญหาด้านการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้บริหารและหน่วยงานของรัฐ
ดังนั้น การกระทำของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองดังกล่าวข้างต้น จึงถือว่าไม่ให้เกียรติ ซึ่งกันและกันทั้งที่เคยพูดคุยและทำความตกลงในที่ประชุมมาก่อนหลายครั้งแล้วว่า ในส่วนของการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมานั้น ทำให้ผู้บริหารโรงเรียน โต๊ะครู ผู้ปกครอง ประชาชน ต่างก็ไม่พอใจในการกระทำของเจ้าหน้าที่ สมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
และใคร่วิงวอนว่า อย่าให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกซ้ำสอง และหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกทางสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และชมรมสถาบันการศึกษาปอเนาะจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป
นายนิเดร์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือถึงการเตรียมความพร้อมที่จะกำหนดกิจกรรม วัน เวลา ของการร่วมละหมาดเพื่อประณามการกระทำอันไม่เหมาะสมของทหาร