ศูนย์ข่าวภูเก็ต -จังหวัดภูเก็ตปัดฝุ่นโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต นำแผนแม่บทที่กรมโยธาฯจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาและวางแผน มาทำ TOR ออกประกาศเชิญชวนให้นักลงทุน ทั้งคนไทยและต่างชาติเข้ามาลงทุน ไม่หวังพึ่งการลงทุนจากรัฐ ที่มีความเป็นไปได้น้อยมาก เพราะต้องใช้งบฯลงทุนสูงถึง 75,000 ล้านบาท
นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ในการประชุมคณะกรรมการบริหารจังหวัดแบบบูรณาการจังหวัดภูเก็ต ที่ห้องประชุมศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต วันนี้ (8 ก.ย.) ว่า จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาตรวจราชการที่จังหวัดภูเก็ต และได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอ่าวภูเก็ต โดยได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต วางแผนพัฒนา
จังหวัดภูเก็ตจะนำแผนแม่บทการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ที่กรมโยธาธิการและการผังเมือง ได้ศึกษาจัดแผนแม่บทไว้นั้น เป็นTOR (TERM OF REFFERENCE )ประกาศเชิญชวนเอกชนเข้ามาลงทุนโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต เพราะโครงการดังกล่าวทางกรมโยธาธิการและการผังเมือง ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาความเป็นไปได้และจัดทำแผนแม่บทเสร็จแล้ว ซึ่งหากจะพัฒนาอ่าวภูเก็ต ตามแผนแม่บทที่กรมโยธาธิการดำเนินการไว้ ต้องใช้เวลานานอย่างแน่นอน เพราะต้องใช้งบประมาณในการลงทุนสูงถึง 75,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลคงจะไม่เข้ามาลงทุน โดยใช้งบฯลงทุนสูงมากๆอย่างแน่นอน
“จังหวัดจะนำแผนแม่บทการพัฒนาอ่าวภูเก็ตมาเป็น TOR เพื่อประกาศเชิญชวนให้นักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่สนใจเข้ามาซื้อแบบไปศึกษาการลงทุนพัฒนาอ่าวภูเก็ต ซึ่งจะสามารถทำให้การพัฒนาอ่าวภูเก็ตตามแผนแม่บทเป็นไปได้เร็วขึ้น และจะทำให้การพัฒนาอ่าวภูเก็ตเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น “
นายอุดมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เท่าที่ทราบมีเอกชนสนใจ ที่จะเข้ามาพัฒนาอ่าวภูเก็ตแล้ว 1 ราย คือ บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับประทานบัตรทำเหมืองแร่ในบริเวณอ่าวภูเก็ต และเชื่อว่าหากทางจังหวัดประกาศเชิญชวนให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนจะมีนักลงทุนชาวต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนอย่างแน่นอน เพราะภูเก็ตมีศักยภาพในการลงทุนสูงอยู่แล้ว
นายอุดมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากอ่าวภูเก็ตแล้ว จังหวัดยังมีโครงการที่จะพัฒนาอ่าวฉลองให้เป็นที่จอดเรือยอชต์หรือมารีนา โดยจะขอช่วยเหลือด้านวิชาการจากรัฐบาลออสเตรเลีย ในการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาอ่าวฉลองให้เป็นมารีนา
ทั้งนี้ เนื่องจากออสเตรเลียมีความรู้เรื่องมารีนา และอยู่ใกล้กับเกาะภูเก็ต ซึ่งตนจะเชิญตัวแทนจากสถานทูตออสเตรเลียมาดูพื้นที่อ่าวฉลองในเร็วๆนี้ เพราะขณะนี้มารีนาในภูเก็ต กำลังได้รับการสนใจจากผู้นิยมเดินทางโดยเรือยอชต์ หากภูเก็ตมีความพร้อมในเรื่องมารีนา เรือยอชต์จากยุโรปและเมดิเตอร์เรเนียนจะเดินทางเข้ามาภูเก็ตจำนวนมาก
นอกจากนี้ เท่าที่ทราบ ก็พบว่า มีนักลงทุนสนใจที่จะเข้ามาลงทุนมารีนา ที่บริเวณอ่าวปอ ต.ป่าคลอกอีกหนึ่งราย เป็นโครงการขนาดใหญ่คล้ายกับรอยัล ภูเก็ต มารีนา ที่มีที่จอดเรือถึง 160 ลำ พร้อมทั้งโรงแรมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
สำหรับแผนแม่บทการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ที่กรมโยธาธิการได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เกาะใหญ่
โดยเกาะแรกจะเป็นเกาะที่มีการลงทุนทางด้านธุรกิจ ที่พรั่งพร้อมไปด้วย อารีนาขนาดใหญ่จุคนได้ 15,000 คน โรงแรมที่พัก ศูนย์พาณิชยกรรม ศูนย์แสงสินค้า เพื่อให้เกาะนี้เป็นเกาะสำหรับจัดการประชุมสัมมนา แสดงสินค้า และการแสดงต่างๆหรือเรียกว่าเกาะ MICE
ส่วนอีกเกาะจะเป็นเกาะเพื่อกิจกรรมเรือยอชต์โดยเฉพาะ ประกอบไปด้วย ที่จอดเรือยอชต์ ตั้งแต่ขนาดใหญ่-ขนาดเล็ก โรงแรม ที่พัก และอู่ซ่อมเรือ หรือเรียกว่า เกาะ “MARINA” โดยทั้งสองเกาะใช้พื้นที่ประมาณ 2,000 กว่าไร่
รูปแบบการก่อสร้าง จะเป็นการผสมผสานระหว่างการถมทะเล กับการใช้วิศวกรรมสมัยใหม่ โดยจะมีการถมทะเลประมาณ 25- 30% ในส่วนของการก่อสร้างเขื่อนรอบโครงการ ส่วนโครงสร้างที่จะก่อสร้างภายในเกาะนั้น จะนำวิศวกรรมสมัยใหม่เข้ามาใช้ ที่เรียกกว่า วิศวกรรมฐานราก โดยอาคารที่ก่อสร้างจะลอยอยู่บนน้ำ เหมือนเมืองลอยน้ำ ซึ่งต้นทุนจะสูงกว่าการถมทะเล แต่จะลดปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการไหลเวียนของน้ำ
นอกจากนี้ ในส่วนของการลงทุน ทั้งสองเกาะและสิ่งปลูกสร้างบนเกาะ จะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 66,000 ล้านบาท โดยแบ่งการพัฒนาเกาะ MICE 70% เกาะมารีนา 30% โดยในส่วนนี้เอกชนจะเป็นผู้ลงทุน หรือไม่ก็เป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลกับเอกชน
ส่วนโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด ที่จะรองรับโครงการ จะเป็นการลงทุนโดยภาครัฐ คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณลงทุน 4,900 ล้านบาท ในการสร้างถนนที่จะเชื่อมเข้ามายังโครงการ ระบบไฟฟ้า โทรศัพท์ ประปา และภายในโครงการเสนอให้มีการขนส่งโดยระบบรถรางไฟฟ้า แทนการนำรถยนต์ไปยังทั้งสองเกาะ และคาดว่าภายหลังโครงการนี้แล้วเสร็จ จะสร้างรายได้ให้ภูเก็ตไม่น้อยกว่าปีละ 19,500 ล้านบาท