ศูนย์ข่าวภูเก็ต -จังหวัดภูเก็ตล็อบบี้กระทรวงการคลัง ไม่ต่อสัมปทานให้เจ้าพระยาท่าเรือสากล ผู้บริหารท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต เพื่อนำพื้นที่จัดตั้งดิวตี้ฟรีโซน โดยเปิดโอกาสให้เอกชนประมูลใหม่
นายวินัย บัวประดิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้า การจัดหาสถานที่สำหรับจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซน ว่า ตามที่จังหวัดภูเก็ตได้นำเสนอสถานที่ สำหรับจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซนหรือเขตปลอดอากรในจังหวัดภูเก็ต โดยได้เสนอพื้นที่บริเวณท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต เป็นเขตจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซนไปยังกระทรวงการคลัง ภายหลังจากที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมอธิบดีกรมศุลกากรได้เดินทางมานำเสนอแนวคิด การจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซนที่ภูเก็ตเมื่อเร็วๆนี้ เนื่องจากจังหวัดและภาคเอกชนเห็นว่าท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตมีความเหมาะสมมาก
อย่างไรก็ตาม กรมธนารักษ์ได้เปิดให้สัมปทานกับบริษัทเอกชน ในการบริหารจัดการท่าเรือน้ำลึก จังหวัดจึงได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาไม่ต่อสัมปทานการบริหารจัดการท่าเรือน้ำลึกให้กับเอกชนรายเดิม โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาประมูลพื้นที่ดังกล่าว เพื่อจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซน ซึ่งล่าสุดกระทรวงการคลังยังไม่ได้ตอบรับข้อเสนอของจังหวัด
นายวินัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีเอกชนท้องถิ่นในภูเก็ตสนใจที่จะเข้าไปลงทุนจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซนที่บริเวณท่าเรือน้ำลึกแล้ว คาดว่าหากนำพื้นที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต มาเปิดประมูลน่าที่จะมีเอกชนสนใจเข้ามาลงทุนหลายรายแน่นอน
ก่อนหน้านี้ นายปมุข อัจฉริยะฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักธุรกิจจำนวนมาก โดยเฉพาะนักธุรกิจในจังหวัดภูเก็ต ให้ความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนพัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตเป็นดิวตี้ฟรีโซน โดยประกอบด้วย ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรม ศูนย์โอทอป ศูนย์การค้าและการบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มูลค่าการลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าในเรื่องนี้ อยู่ระหว่างการศึกษา โดยเมื่อได้ข้อสรุปแล้วหอการค้าจะนำเสนอให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป และมั่นใจว่า หากรัฐบาลสามารถที่จะจัดหาสถานที่ให้ได้ เอกพร้อมที่จะลงทุนโครงการดังกล่าวภายใน 2 ปี
อนึ่ง ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล ซึ่งมีการต่อสัญญาสัมปทานกับกรมธนารักษ์ปีต่อปี และเจ้าพระยาท่าเรือสากลก็มีโครงการที่จะลงทุนพัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตเช่นกัน โดยการขยายหน้าท่าให้ยาวเพิ่มอีกประมาณ 80-100 เมตร รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเรือโดยสาร คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของเรือโดยสาร เรือสำราญ หรือเรือท่องเที่ยวทั้งของไทยและนานาชาติเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ แผนการลงทุนดังกล่าวทางเจ้าพระยาฯได้นำเสนอไปยังกรมธนารักษ์แล้ว และขอให้กรมธนารักษ์ต่ออายุสัมปทานให้นานขึ้น เหมือนกับท่าเรือแหลมฉบังที่ให้สัมปทาน 30 ปี
นายวินัย บัวประดิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้า การจัดหาสถานที่สำหรับจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซน ว่า ตามที่จังหวัดภูเก็ตได้นำเสนอสถานที่ สำหรับจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซนหรือเขตปลอดอากรในจังหวัดภูเก็ต โดยได้เสนอพื้นที่บริเวณท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต เป็นเขตจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซนไปยังกระทรวงการคลัง ภายหลังจากที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมอธิบดีกรมศุลกากรได้เดินทางมานำเสนอแนวคิด การจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซนที่ภูเก็ตเมื่อเร็วๆนี้ เนื่องจากจังหวัดและภาคเอกชนเห็นว่าท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตมีความเหมาะสมมาก
อย่างไรก็ตาม กรมธนารักษ์ได้เปิดให้สัมปทานกับบริษัทเอกชน ในการบริหารจัดการท่าเรือน้ำลึก จังหวัดจึงได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาไม่ต่อสัมปทานการบริหารจัดการท่าเรือน้ำลึกให้กับเอกชนรายเดิม โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาประมูลพื้นที่ดังกล่าว เพื่อจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซน ซึ่งล่าสุดกระทรวงการคลังยังไม่ได้ตอบรับข้อเสนอของจังหวัด
นายวินัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีเอกชนท้องถิ่นในภูเก็ตสนใจที่จะเข้าไปลงทุนจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซนที่บริเวณท่าเรือน้ำลึกแล้ว คาดว่าหากนำพื้นที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต มาเปิดประมูลน่าที่จะมีเอกชนสนใจเข้ามาลงทุนหลายรายแน่นอน
ก่อนหน้านี้ นายปมุข อัจฉริยะฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักธุรกิจจำนวนมาก โดยเฉพาะนักธุรกิจในจังหวัดภูเก็ต ให้ความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนพัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตเป็นดิวตี้ฟรีโซน โดยประกอบด้วย ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรม ศูนย์โอทอป ศูนย์การค้าและการบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มูลค่าการลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าในเรื่องนี้ อยู่ระหว่างการศึกษา โดยเมื่อได้ข้อสรุปแล้วหอการค้าจะนำเสนอให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป และมั่นใจว่า หากรัฐบาลสามารถที่จะจัดหาสถานที่ให้ได้ เอกพร้อมที่จะลงทุนโครงการดังกล่าวภายใน 2 ปี
อนึ่ง ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล ซึ่งมีการต่อสัญญาสัมปทานกับกรมธนารักษ์ปีต่อปี และเจ้าพระยาท่าเรือสากลก็มีโครงการที่จะลงทุนพัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตเช่นกัน โดยการขยายหน้าท่าให้ยาวเพิ่มอีกประมาณ 80-100 เมตร รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเรือโดยสาร คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของเรือโดยสาร เรือสำราญ หรือเรือท่องเที่ยวทั้งของไทยและนานาชาติเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ แผนการลงทุนดังกล่าวทางเจ้าพระยาฯได้นำเสนอไปยังกรมธนารักษ์แล้ว และขอให้กรมธนารักษ์ต่ออายุสัมปทานให้นานขึ้น เหมือนกับท่าเรือแหลมฉบังที่ให้สัมปทาน 30 ปี