ศูนย์ข่าวภูเก็ต –กลุ่มทุนท้องถิ่นภูเก็ต ร่วมลงขันทำ “ดิวตี้ฟรีโซน” ที่บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึก คาดใช้งบประมาณในการดำเนินการประมาณ 1,000 ล้านบาท พร้อมมั่นใจหากทำได้สำเร็จจะเพิ่มจำนวนวันพักและรายจ่ายมากยิ่งขึ้น
นายวินัย บัวประดิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้า ของการจัดทำดิวตี้ฟรีโซน ของจังหวัดภูเก็ต ว่า หลังจากที่ได้มีการประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้มีการนำเสนอข้อสรุปที่ได้ ไปยังคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกรมศุลกากร โดยได้เสนอพื้นที่ 4 จุด
โดยเป็นพื้นที่ของภาครัฐ 3 จุด ประกอบด้วย บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึก บริเวณสะพานหิน และบริเวณถนนถลาง ส่วนของภาคเอกชนนั้น บริษัทวังถลาง จิวเวอร์รี่ จำกัด ได้เสนอตัวเพื่อขอจัดทำ เนื่องจากปัจจุบันก็ได้เปิดให้บริการในลักษณะของดิวตี้ฟรีชอปอยู่แล้ว
สำหรับการเลือกพื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึก ซึ่งเป็นที่ดินซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต เนื้อที่ประมาณ 100 ไร่เศษ สามารถที่จะก่อสร้างในลักษณะของคอมเพล็กซ์ได้อย่างครบวงจร ซึ่งมีทั้งโรงแรมที่พัก หอประชุมและศูนย์การค้า ขณะนี้ภาคเอกชนของภูเก็ต 1ราย สนในที่เข้ามาร่วมดำเนินโครงการนี้แล้ว
ทั้งนี้ ภาคเอกชนดังกล่าว เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มทุนในพื้นที่ และได้มีการพูดคุยในเรื่องของรายละเอียดกับจังหวัดแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษา ในรายละเอียดเพิ่มเติม ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นการลงทุนของกลุ่มใด
แต่งบประมาณที่จะใช้ในการลงทุนโครงการดังกล่าว คาดว่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
นายวินัย กล่าวอีกว่า การลงทุนครั้งนี้ เป็นการลงทุนโดยภาคเอกชนเอง ในส่วนของภาครัฐ จะให้การสนับสนุนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เท่านั้น หากมีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก ก็จะต้องมีการเปิดประมูลอย่างเป็นทางการ เพื่อขอเช่าพื้นที่จากกรมธนารักษ์ด้วย
นายวินัย ยังได้กล่าวอีกว่า ส่วนพื้นที่บริเวณสะพานหินกับถนนถลาง เนื่องจากมองในแง่ของการเปิดตลาดคนเดิน ซึ่งทั้งสองจุดปัจจุบันก็เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอยู่แล้ว ส่วนของภาคเอกชน ก็ไม่มีปัญหา เพราะมีความพร้อมอยู่แล้ว
สำหรับปัญหาเรื่องของการจัดตั้งดิวตี้ฟรีโซน ยังมีปัญหาบางอย่างในเรื่องของหลักเกณฑ์ในการดำเนินการ เช่น ระยะเวลาวันพักของผู้ซื้อกรณีที่เป็นคนไทย เป็นต้น ซึ่งจะต้องมีการปรับให้เหมาะสมกับความเป็นจริง อย่างไรก็ตามในส่วนของการลงทุน หากนักลงทุนรายใดมีความพร้อม ก็สามารถที่จะดำเนินการได้ทันที เพราะกฎหมายได้เปิดช่องให้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนด โดยผู้ที่จะอนุญาตให้ดำเนินการได้นั้น คือ กรมศุลกากร ผู้ดูแลในเรื่องนี้
นายวินัย กล่าวในตอนท้ายว่า หากภูเก็ตสามารถเปิดให้บริการในส่วนของดิวตี้ฟรีโซนได้ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ให้กับภูเก็ตมากขึ้น และจะสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมเรื่องของชอปปิ้งพาราไดส์ด้วย