ปัตตานี-วิโรจน์ นวลแข กก.ผจก.กรุงไทย ลงพื้นที่ปัตตานีลงนามสัญญาสนับสนุน 66 โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาภาคใต้ เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนหมดสัญญา ขณะประธานอิสลามปัตตานีวอนให้”วิโรจน์ นวลแข “เป็นกก.ผจก.กรุงไทยต่อ เพราะเข้าใจ และตั้งใจ หลักชาริอะฮ์หนุนการเงินมุสลิม
ที่โรงแรมซีเอสปัตตานี วันนี้( 8 ก.ค.47) ธนาคารกรุงไทย ชาริอะฮ์ จัดพิธีลงนามในสัญญาให้การสนับสนุนทางการเงินตามหลักชาริอะฮ์(แนวทางอิสลาม) แก่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจำนวน 66 แห่ง จากพื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา พัทลุง สตูล นครศรีธรรมราช กระบี่ และสุราษฏร์ธานี รวมเป็นวงเงิน 275 ล้านบาท โดยมีนาย วิโรจน์ นวลแข กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกรุงไทย และคณะผู้บริหาร ร่วมลงนามกับเจ้าของ ผู้แทนโรงเรียนทั้ง 66 แห่ง มีนายเสนอ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ประธานคณะกรรมการอิสลาม 3 จ.ชายแดนภาคใต้ร่วมเป็นพยาน
กิจกรรมดังกล่าวนี้ ถือเป็นภารกิจสุดท้ายของ นายวิโรจน์ นวลแข ในตำแหน่งกก.ผจก.ธนาคารกรุงไทยเนื่องจากครบสัญญา
ภายหลังพิธีลงนาม นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า รู้สึกเสียดายที่ นายวิโรจน์ นวลแข จะหมดวาระในการดำรงตำแหน่ง ตนจึงอยากเสนอต่อผู้บริหารระดับสูงของธ.กรุงไทยที่มีอำนาจตัดสินใจ ในการคัดเลือกผู้มาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย
ให้เลือกนายวิโรจน์ เข้ามาดำรงตำแหน่งต่อไป เนื่องจากเห็นว่านายวิโรจน์ ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูง แต่ให้ความสำคัญต่อพี่น้องมุสลิม ซึ่งจะลงพื้นที่ด้วยตัวเองทุกครั้งที่มีกิจกรรมระหว่างกัน
ทั้งนี้ นายวิโรจน์ ยังมีความเข้าใจ และตั้งใจจริง ในการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้นับถือศาสนาอิสลาม ตามหลักศาสนาอิสลามหรือชารีอะฮ์
ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ในเรื่องการสนับสนุนทางการเงิน แก่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาของธนาคารกรุงไทยนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เพราะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนา โรงเรียนเอกชนสอนศาสนา
สำหรับจังหวัดปัตตานีซึ่งยังมีโรงเรียนที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ อีกกว่า 50 โรงเรียนนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอิสลามฯปัตตานี จะเร่งประสานให้มีการเข้าร่วมโครงการ ขอสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารกรุงไทยชาริอะฮ์โดยเร็ว เพื่อจะได้เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเยาวชนมุสลิมในพื้นที่
ที่โรงแรมซีเอสปัตตานี วันนี้( 8 ก.ค.47) ธนาคารกรุงไทย ชาริอะฮ์ จัดพิธีลงนามในสัญญาให้การสนับสนุนทางการเงินตามหลักชาริอะฮ์(แนวทางอิสลาม) แก่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจำนวน 66 แห่ง จากพื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา พัทลุง สตูล นครศรีธรรมราช กระบี่ และสุราษฏร์ธานี รวมเป็นวงเงิน 275 ล้านบาท โดยมีนาย วิโรจน์ นวลแข กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกรุงไทย และคณะผู้บริหาร ร่วมลงนามกับเจ้าของ ผู้แทนโรงเรียนทั้ง 66 แห่ง มีนายเสนอ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ประธานคณะกรรมการอิสลาม 3 จ.ชายแดนภาคใต้ร่วมเป็นพยาน
กิจกรรมดังกล่าวนี้ ถือเป็นภารกิจสุดท้ายของ นายวิโรจน์ นวลแข ในตำแหน่งกก.ผจก.ธนาคารกรุงไทยเนื่องจากครบสัญญา
ภายหลังพิธีลงนาม นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า รู้สึกเสียดายที่ นายวิโรจน์ นวลแข จะหมดวาระในการดำรงตำแหน่ง ตนจึงอยากเสนอต่อผู้บริหารระดับสูงของธ.กรุงไทยที่มีอำนาจตัดสินใจ ในการคัดเลือกผู้มาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย
ให้เลือกนายวิโรจน์ เข้ามาดำรงตำแหน่งต่อไป เนื่องจากเห็นว่านายวิโรจน์ ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูง แต่ให้ความสำคัญต่อพี่น้องมุสลิม ซึ่งจะลงพื้นที่ด้วยตัวเองทุกครั้งที่มีกิจกรรมระหว่างกัน
ทั้งนี้ นายวิโรจน์ ยังมีความเข้าใจ และตั้งใจจริง ในการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้นับถือศาสนาอิสลาม ตามหลักศาสนาอิสลามหรือชารีอะฮ์
ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ในเรื่องการสนับสนุนทางการเงิน แก่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาของธนาคารกรุงไทยนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เพราะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนา โรงเรียนเอกชนสอนศาสนา
สำหรับจังหวัดปัตตานีซึ่งยังมีโรงเรียนที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ อีกกว่า 50 โรงเรียนนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอิสลามฯปัตตานี จะเร่งประสานให้มีการเข้าร่วมโครงการ ขอสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารกรุงไทยชาริอะฮ์โดยเร็ว เพื่อจะได้เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเยาวชนมุสลิมในพื้นที่