ศูนย์ข่าวภูเก็ต -จังหวัดภูเก็ตเสนอกรมที่ดินเพิกถอนที่ประทานบัตรเหมืองแร่แล้ว 1 แปลง ที่นำมาออกเอกสารสิทธิที่ดินทั้งน.ส. 3 ก.และโฉนดทับที่ป่าชายเลนคลองท่าจีนถึง 3 แปลง เนื้อที่ 147 ไร่
นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้า การตรวจสอบที่ประทานบัตรเหมืองแร่จำนวน 17 แปลง ว่า จังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดิน โดยมิชอบในที่ประทานบัตรทั้ง 17 แปลง ขณะนี้ผลการตรวจสอบของจังหวัดเสร็จสิ้นแล้ว
ทั้งนี้ได้ ข้อสรุปว่า มีการออกเอกสารสิทธิที่ดินในที่ประทานบัตรเหมืองแร่ ทับที่ป่าสงวนแห่งชาติและป่าชายเลนเต็มทั้งพื้นที่จำนวน 3 แปลง ซึ่งจังหวัดได้เสนอไปยังกรมที่ดิน เพื่อให้อธิบดีกรที่ดินทำการเพิกถอนที่ดินทั้ง 3 แปลงแล้ว
ส่วนกรมที่ดินจะเพิกถอนหรือไม่นั้นเป็นสิทธิของอธิบดีกรมที่ดิน และก่อนการเพิกถอนทางกรมที่ดินจะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าเอกสารสิทธิอีกครั้งหนึ่ง ว่าออกถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่หรือเอกสารที่ใช้ออกเอกสารสิทธิ ครบตามที่กำหมายกำหนดหรือไม่ เช่น ส.ค.1 หรือ นส.3 ก. เป็นต้น เพราะตั้งแต่เดือนมิ.ย.ทางกรมที่ดินได้มีการประกาศเตือน ให้มีการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินที่ใช้ส.ค. 1 ว่าส.ค.1ที่ใช้ออกเอกสารสิทธิน.ส.3 ก. นั้นที่มาถูกต้องหรือไม่
สำหรับเอกสารสิทธิที่ดินในที่ประทานบัตรเหมืองแร่ที่ออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง เป็นประทานบัตรเหมืองแร่เลขที่ 17983/12700 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีนางสาวอทิตยา อังคสินธรางกูร เป็นผู้ขอประทานบัตรเหมืองแร่ ขณะนี้ได้ มีการออกเอกสารสิทธิที่ดินในที่ประทานบัตรดังกล่าวแล้ว 3 แปลง โดยออกเป็นน.ส.3 ก. จำนวน 2 แปลง เลขที่ 32 และ 33
เมื่อปี 2532 และมีการออกเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดินจำนวน 1 แปลง เลขที่โฉนดที่ 66717 เมื่อปี 2544 เนื้อที่ 7 ไร่เศษ โดยเอกสารสิทธิทั้ง 3 แปลงมีพื้นที่รวมประมาณ 147 ไร่ โดยการออกเอกสารสิทธิดังกล่าวเป็นการออกทับที่ป่าชายเลนคลองท่าเรือ ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นที่ป่าชายเลนไม่สามารถที่จะออกเอกสารสิทธิใดๆได้
นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้า การตรวจสอบที่ประทานบัตรเหมืองแร่จำนวน 17 แปลง ว่า จังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดิน โดยมิชอบในที่ประทานบัตรทั้ง 17 แปลง ขณะนี้ผลการตรวจสอบของจังหวัดเสร็จสิ้นแล้ว
ทั้งนี้ได้ ข้อสรุปว่า มีการออกเอกสารสิทธิที่ดินในที่ประทานบัตรเหมืองแร่ ทับที่ป่าสงวนแห่งชาติและป่าชายเลนเต็มทั้งพื้นที่จำนวน 3 แปลง ซึ่งจังหวัดได้เสนอไปยังกรมที่ดิน เพื่อให้อธิบดีกรที่ดินทำการเพิกถอนที่ดินทั้ง 3 แปลงแล้ว
ส่วนกรมที่ดินจะเพิกถอนหรือไม่นั้นเป็นสิทธิของอธิบดีกรมที่ดิน และก่อนการเพิกถอนทางกรมที่ดินจะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าเอกสารสิทธิอีกครั้งหนึ่ง ว่าออกถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่หรือเอกสารที่ใช้ออกเอกสารสิทธิ ครบตามที่กำหมายกำหนดหรือไม่ เช่น ส.ค.1 หรือ นส.3 ก. เป็นต้น เพราะตั้งแต่เดือนมิ.ย.ทางกรมที่ดินได้มีการประกาศเตือน ให้มีการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินที่ใช้ส.ค. 1 ว่าส.ค.1ที่ใช้ออกเอกสารสิทธิน.ส.3 ก. นั้นที่มาถูกต้องหรือไม่
สำหรับเอกสารสิทธิที่ดินในที่ประทานบัตรเหมืองแร่ที่ออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง เป็นประทานบัตรเหมืองแร่เลขที่ 17983/12700 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีนางสาวอทิตยา อังคสินธรางกูร เป็นผู้ขอประทานบัตรเหมืองแร่ ขณะนี้ได้ มีการออกเอกสารสิทธิที่ดินในที่ประทานบัตรดังกล่าวแล้ว 3 แปลง โดยออกเป็นน.ส.3 ก. จำนวน 2 แปลง เลขที่ 32 และ 33
เมื่อปี 2532 และมีการออกเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดินจำนวน 1 แปลง เลขที่โฉนดที่ 66717 เมื่อปี 2544 เนื้อที่ 7 ไร่เศษ โดยเอกสารสิทธิทั้ง 3 แปลงมีพื้นที่รวมประมาณ 147 ไร่ โดยการออกเอกสารสิทธิดังกล่าวเป็นการออกทับที่ป่าชายเลนคลองท่าเรือ ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นที่ป่าชายเลนไม่สามารถที่จะออกเอกสารสิทธิใดๆได้