ศูนย์ข่าวภูเก็ต – ปปง.ผนึกกำลังกองปราบฯบุกยึด-อายัดที่ดินนายหัวภูเก็ตกว่า 1 พันล้านบาท ทั้งที่ ส.ป.ก., ส.ค.1 ประเดิมที่ดิน"บุ่นเก้ง ศรีแสนสุชาติ" เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรบริษัทขนส่ง บนเทือกเขานางพันธุรัตน์ 4 แปลง และของนางดารุณี ลูกจันทร์ อีก 2 แปลง เผยมีอดีตข้าราชการกรมที่ดิน รวมหัวทุจริตออกเอกสารสิทธิให้นายทุนด้วย 5-6 ราย
วันนี้(8 มิ.ย.)พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมกับ พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ ผู้บังคับการ กองปราบปราบ(ผบก.ป.)และ พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว(ผบก.ตำรวจท่องเที่ยว) พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปง. เข้ายึดและอายัดที่ดินในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ที่ออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 6 แปลงเนื้อที่ประมาณ 80 ไร่
ประกอบด้วยที่ดินของนางดารุณี ลูกจันทร์ บริเวณหน้าโรงแรมเลอเมอร์ลิเดียน และอีก 4 แปลงเป็นที่ดินของนายบุ่นเก้ง ศรีแสนสุชาติ หรือ"โกเก้ง"ที่บริเวณเทือกเขานางพันธุรัตน์ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต พร้อมทั้งบินสำรวจที่ดินทั้ง 6 แปลงและบริษัทภูเก็ตศรีสุชาติขนส่ง จำกัด และโครงการศรีสุชาติแกรนด์วิวของนายบุ่นเก้ง โดยที่ดินทั้ง 6 แปลง เจ้าของที่ดินไม่สามารถที่จะเข้าไปดำเนินการอะไรได้อีกแล้ว
ต่อมา พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ และคณะพร้อมกำลังเจ้าตำรวจประมาณ 20 นาย ได้ไปพบและสอบปากคำนายบุ่นเก้ง ศรีแสนสุชาติ ที่บริษัท ภูเก็ตศรีสุชาติขนส่ง จำกัด ถึงการได้มาของที่ดินทั้ง 4 แปลง ตามหนังสือแจ้งเลขที่ ปง.0005/5332 ลงวันที่ 8 มิ.ย.2547 เรื่องการ ยับยั้งการทำธุรกรรมที่ดินของนายบุ่นเก้ง
ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ของนายบุ่นเก้ง ที่มีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งที่ดินแปลงอื่นๆ โครงการบ้านจัดสรรศรีสุชาติแกรนด์วิว 1 และ 2 รวมทั้งบริษัท ภูเก็ตศรีสุชาติขนส่ง จำกัด ปปง.ไม่ได้ยึดทรัพย์ในขณะนี้ แต่จะมีการสอบสวนนายบุ่นเก้งอีกครั้งหนึ่ง ถึงที่มาของการได้มาซึ่งทรัพย์สินทั้งหมด หากนายบุ่นเก้ง ไม่สามารถชี้แจงถึงที่มาของทรัพย์สินได้ ปปง.จะยึดทรัพย์อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับที่ดินที่ ปปง.ยึดทรัพย์ทั้ง 6 แปลงในครั้งนี้มีมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท โดยที่ดินของนางดารุณี ลูกจันทร์ เป็นที่ดิน ส.ป.ก.ที่ได้นำ ส.ค.1 จากที่ดินแปลงอื่นๆ มาสวม เพื่อออกเอกสารสิทธิ น.ส. 3 ก.ได้ขายต่อให้นางยรรยง เก็บทรัพย์ น้องสาวนางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ขณะนี้ที่ดินติดจำนองธนาคารอยู่
ส่วนที่ดินของนายบุ่นเก้ง ทั้ง 4 แปลง อยู่บริเวณเทือกเขานางพันธุรัตน์ เป็นที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้องด้วยการนำ ส.ค.1 มาสวม ออกเอกสารสิทธิทับป่าสงวนแห่งชาติ และเป็นที่ ส.ป.ก.โดยที่ดินบางส่วนจำนวน 17-3-19 ไร่ นายบุ่นเก้ง ได้นำไปจำนองกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ไอทีเอฟ จำนวน 89 ล้านบาท หลังจากบริษัทเงินทุนฯดังกล่าวล้มไป หนี้จึงถูกโอนไปยัง ปรส.และกองรวมทุนบางกอกแคปปิตอล
พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปิดเผยภายหลังสอบปากคำนายบุ่นเก้งว่า ปปง.ได้รับความร่วมมือจากตำรวจกองปราบฯ ตำรวจท่องเที่ยวและจังหวัดภูเก็ต ในการยึดที่ดินจำนวน 6 แปลง ในพื้นที่ภูเก็ต ที่ออกเอกสารสิทธิที่ดินไม่ถูกต้องมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท เนื่องจากคณะรัฐมนตรี( ครม.)ได้มีมติให้ทำการตรวจสอบกรณีที่มีการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ป่าไม้ ภูเขา ที่ดิน ส.ป.ก.หรือป่าเสื่อมโทร ซึ่งพบว่ามีทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ทำการบุกรุกยึดครอง สร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นอันมาก และยังมีการสอบสวนพบว่า มีเจ้าหน้าที่ที่ดินบางคน รับเงินในการออกเอกสารสิทธิทับที่ดินของรัฐ ซึ่งไม่สามารออกเอกสารสิทธิได้
รวมทั้งมีการนำที่ดินดังกล่าวไปทำนิติกรรมกับสถาบันการเงิน เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน และเข้าไปทำประโยชน์ในที่สุด ซึ่งการกระทำดังกล่าว ผิดต่อการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ ส่วนบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลจะมีความผิดฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ทำการทุจริต สำนักงาน ปปง.ได้รับแจ้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เข้ามาดำเนินการ เพื่อนำที่ดินดังกล่าวคืนมาเป็นของรัฐต่อไป และเจ้าของที่ดินก็จะต้องมาชี้แจงให้กับปปง.ถึงการได้มาของทรัพย์สินดังกล่าวด้วย
สำหรับใน จ.ภูเก็ต ในวันนี้ได้ยึดที่ดินทั้งสิ้น 6 แปลง เนื้อที่ 80 ไร่ประมาณ 30 ล้านบาทโดยเป็นที่อยู่บนภูเขา ในป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งตามลักษณะกฎหมายแล้ว ไม่สามารถที่จะออกเอกสารสิทธิได้เลย ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้ที่ถูกยึดทรัพย์ คือ นายบุ่นเก้งนั้น ยังไม่ยึดในตอนนี้จะต้องมีการสำรวจและตรวจสอบก่อน เพราะปปง.ต้องการให้เจ้าของที่ดินชี้แจงก่อนว่า ทรัพย์สินและมูค่าของทรัพย์สินใดบ้างที่ไม่เกี่ยวข้อง
ส่วนข้าราชการที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตออกเอกสารสิทธิที่ดิน ทั้ง 6 แปลงนี้ เป็นอดีตข้าราชการกรมที่ดิน ที่กรมที่ดินได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน และได้ไปร้องทุกข์กับกองปราบให้ดำเนินคดีประมาณ 5-6 คน ซึ่งบางคนได้หลบหนีไปแล้ว ปปง.จึงได้ทำการยึดเงินและทรัพย์สิน บ้าน ที่ดินของอดีตข้าราชการที่ทุจริตประมาณ 26 ล้านบาท เช่น นายบุญชู หลิมรักษาสิน อดีตเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอกะทู้
พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ ผบก.ป.กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวที่ร่วมกับ ปปง.ยึดเป็นที่ดินที่สอบสวนแล้วว่าออกเอกสารสิทธิ ทั้งที่โฉนด นส.3 ก.โดยทุจริตในที่ดินของรัฐ ทั้ง ส.ป.ก. ป่าไม้ ป่าสงวนให้กับนายทุน และนำที่ดินดังกล่าวไปจำนองกับสถาบันการเงิน โดยนำเงินไปลงทุนและพัฒนาที่ดินต่อ ทั้งๆที่ที่ดินดังกล่าวออกเอกสารสิทธิไม่ได้ เป็นการออกโฉนดปลอม เมื่อบริษัทที่รับจำนองไปล้มเลิกกิจการก็ได้ขายต่อไปยัง ปรส. ทาง ปรส.ก็ไปประมูลขายต่อให้กับต่างชาติ ทั้งๆ ที่เป็นเอกสารปลอมไม่มีที่ดินอยู่จริง ซึ่งคนที่ได้ประโยชน์มากที่สุด คือ เจ้าหน้าที่ที่ดินที่ทุจริตกับนายทุนที่ไปจ้างข้าราชการให้ออกเอกสารสิทธิให้
กองปราบฯจึงได้ร่วมกับ ปปง.ให้กรมที่ดินยกเลิกเอกสารสิทธิ เพื่อนำที่ดินมาคืนให้กับรัฐและตรวจสอบว่าเงินที่ได้มานั้น ได้ไปทำอะไรและลงทุนในทรัพย์สินอะไรบ้าง ก็จะตามยึดมาให้มากที่สุด ซึ่งในที่ดินแปลงที่ยึดวันนี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา คิดว่าเงินดังกล่าวคงจะมีการลงทุนไปหลายทอดแล้ว แต่ก็จะตามยึดกลับมาให้มากที่สุดโดยใช้กฎหมายฟอกเงิน ซึ่งที่ดินที่จะยึดในภูเก็ตกว่า 10 แปลง เนื้อที่กว่า 100 ไร่ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท เช่น บริษัท ภูเก็ตศรีสุชาติขนส่ง โครงการศรีสุชาติแกรนด์วิว เป็นต้น ส่วนรายอื่นๆ จะทยอยยึดไปเพราะสำนวนการสอบสวนได้ส่งให้ ปปง.แล้ว
ช่วงบ่ายวันเดียวกันนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ยุติธรรม ได้เดินทางมาภูเก็ต และบินสำรวจที่ดินนายบุ่นเก้ง ที่เทือกเขานางพันธุรัตน์ พร้อมทั้งประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและนำป้ายยึดทรัพย์ไปติดตามที่ดินทั้งหมดที่ถูกยึด