“เด็กเดี๋ยวนี้เขาไม่ค่อยได้เจอสิ่งเหล่านี้แล้วคือหายไปแล้วหายไปจากสังคมเมืองเนี่ยไม่มีเลย คืออยากให้เขาได้สัมผัสได้อย่างให้เขาได้เล่นตอนที่สมัยเด็ก ๆ เราได้เล่นอย่างท้องร่องอย่างเงี้ยในสวนเมื่อก่อนเราวิ่งเล่นกับเพื่อนกระโดดข้ามกันเด็กสมัยนี้โอกาสไม่มี
คือหนึ่งเลยน่าจะเป็น “ลูก” ผมมีลูกช้าไปหน่อยลูกตอนนี้เพิ่งจะ อย่างคนโตเพิ่งจะ 12 คนเล็กก็เพิ่งจะ 9 ขวบ อะไรอย่างเงี้ยครับ เขาอยู่ในวัยที่แบบว่าค้นหา อยากรู้ อยากทำอะไรพวกนี้ แล้วลูกผมชอบสายพวกนี้ ชอบลุยดินลุยโคลน ชอบเลี้ยงสัตว์ชอบอะไร ก็เลยให้ลูกทำแล้วให้ลูกแบบว่าได้เป็นคนเริ่ม คุณเลี้ยงไก่คุณต้องดูแลเอง เก็บขี้ไก่ขาย คุณก็ได้ตังค์เองอะไรแบบนี้ครับ เก็บไข่เก็บอะไร ก็คือมาจากลูกก่อน พอลูกมาปุ๊บลูกก็พาเพื่อนมาเยอะ เพื่อนลูกโอ้โหโรงเรียนมาดูอีกอะไร คือกลายเป็น ลุงอ้วนดีเหมือนกันนะเนี่ย! ให้เด็กมาดูตรงนี้ให้เด็กมาแบบว่าศึกษา ลุงอ้วนก็แบบตรงนี้อธิบายสักหน่อยอะไรเงี้ย ตอนแรกก็ไม่ได้เยอะหรอกครับมีเด็กมานิด ๆ หน่อย ๆ แต่พอทำไปทำมาเข้าคือด้วยโลกโซเชียลฯ ด้วย อะไรด้วยอย่างเงี้ยครับ คือไปเร็วมาก!” ลุงอ้วน หรือ คุณบุญญาฤทธิ์ จิรพัฒนกุล เจ้าของ “ฟาร์มลุงอ้วน” สวนสนุกธรรมชาติ ที่อยู่ใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งในธุรกิจน่าจับตา สำหรับคนที่มีพื้นที่อยู่แล้วลองพัฒนาสู่สิ่งใหม่เพิ่มเติม และที่สำคัญคือเป็นอะไรที่ได้รับการตอบรับดีมาก ๆ อย่างไม่น่าเชื่อด้วย! ในกลุ่มของผู้ปกครองและเด็ก ๆ วัยกำลังเรียนรู้ “จริงก็คืออยากให้เขาได้ EF (ทักษะสมองที่สำคัญ หรือ Executive Function) ให้มี EF เยอะ ๆ นะครับ เด็กที่มี EF เยอะ ๆ กล้าที่จะทำ กล้าที่จะทดลอง กล้าที่จะลองทำ ในการเรียนของเขาเนี่ยจะดีไปเอง คือจะแบบ เด็กที่มีEF มากเนี่ยคือเรียนเก่งแน่นอน คือแบบสมองเขากล้าที่จะคิด กล้าที่จะแบบกล้าที่จะทำกล้าที่จะลอง และเขาก็จะเก่งไปเอง ไม่ใช่ว่า “ห้าม”! ทุกอย่าง เด็กไม่ควรห้าม ไม่ใช่ ลูกอย่า ลูกอย่า ลูกอย่า! คือพ่อแม่เนี่ยเข้าใจว่าเป็นห่วงลูกทุกคน แต่การห้ามเนี่ย บางทีเด็กไม่ได้ลอง ไม่ได้คิดไม่ได้ลอง ไม่ได้แบบเขา ขาดในใจ จะขาด EF คือไม่กล้าที่จะทำอะไรใหม่ ๆ ไม่กล้าลองไม่กล้าอะไร ต้องให้เด็กลองทำ”
“ฟาร์มลุงอ้วน” สวนสนุกธรรมชาติ เพื่อการเสริมสร้างทักษะชีวิต
ไม่นึกว่ามันจะเป็นอาชีพได้เหมือนกัน ก่อนหน้านี้ตนเองทำงานบริษัทฯ ก็จะประจำอยู่ในส่วนของโรงงานผลิตอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี คือทำอยู่นานเลย ก็พอจะมีทุนสักนิดนึงและก็ด้วยว่าตรงนี้(ที่ดิน) มันไม่ได้เป็นภาระ เป็นของที่บ้านเอง ก็เลยแบบว่าเราก็เลยคิดว่า “ถ้าไม่มีภาระตรงนี้คือมันก็จะไม่กดดัน” เหมือนกับเราทำที่ให้ลูกเล่นอย่างเงี้ยครับ ในที่เราเอง คือมันไม่กดดันไม่ต้อง เดือน ๆ ค่าเช่ามาแล้ว! ถ้าอย่างนี้มันจะกดดัน จะเครียด เราก็เลยเอาวะ! ลองทำดู ทำที่ให้มันแบบ ให้มันดูมีอะไรขึ้นมาดีกว่าจาก “ที่นา” โล่ง ๆ ตรงนี้มัน 9 ไร่(เฉพาะในส่วนของที่ดินไม่ติดภาระเช่า) พอทำมาเรื่อย ๆ เออเราต้องการเปลี่ยนอะไรที่เด็กไม่รู้จัก เริ่มมีเต่า (เต่ายักษ์ซูลคาต้า) เริ่มมีจระเข้ มีนกกระจอกเทศ มีลิง มีงู มีอะไรอีกมากมายที่จะตามมาอีกเรื่อย ๆ ต่อไป คือเป็นสัตว์ที่เด็กเขาไม่ได้สัมผัส ไม่ค่อยได้รู้จัก เอามาให้เขาได้ศึกษาได้เรียนรู้ว่าเออมันมีกี่ชนิดนะ แล้วมันมีอันตรายตรงไหน อะไรอย่างเงี้ย คือให้เด็กได้รู้จักกับสัตว์ต่าง ๆ เยอะ ๆ หลาย ๆ แบบคือเพื่อการศึกษาเลี้ยงแค่นิดเดียว 1 ตัว 2 ตัวอะไรเงี้ย เพื่อให้เด็กได้รู้จักเฉย ๆ ไปสัมผัสมันอะไรอย่างเงี้ย ว่าเป็นอย่างไร
เติมเต็มให้กับ “เด็กเมือง” ได้เรียนรู้จากการสัมผัสของจริง
เด็กเดี๋ยวนี้เขาไม่ค่อยได้เจอสิ่งเหล่านี้แล้ว คือหายไปแล้ว หายไปจากสังคมเมืองเนี่ยไม่มีเลย “ดิน” เด็กบางคนเนี่ยครับคือในสวนบางทีมันเละใช่ไหม มันแฉะ บอกลองถอดรองเท้าได้ไหม? วันนี้ลองเป็นเศรษฐีเท้าเปล่ากันสักวันหนึ่ง มีใครเคยถอดรองเท้าเดินกับดินบ้าง? “โดยมากเด็กบางคนเจอนี่แบบ ไม่ไหว! แบบเอานิ้วยกเดินแบบเขย่ง ๆ ไป แบบว่ายี้! ลุงอ้วนมันสกปรกไหม? บอกดินไม่สกปรกเลยลูก ดินเนี่ยไม่สกปรก ดินเนี่ยในดินเขามีแร่ธาตุที่แบบเออเขาจะตัวสามารถดูดขึ้นมาได้ คนสมัยก่อนเขาไม่มีใส่รองเท้ากัน อายุเขาอยู่กันเป็น 100 ปีเลย 80 ปี 90 ปี 100 ปี เพราะเขาได้รับแร่ธาตุจากดิน แต่สมัยนี้ น้อยมากที่จะให้ลูกเดินกับดิน”พ่อแม่นี่ไม่ได้เลย อู้ยลูกสกปรก! สกปรกอย่างเดียวเลย เด็ก ๆ เขาก็เลยเข้าใจว่าดินเนี่ยมันสกปรก
แต่ลูกผมเนี่ยติดดินเลย ติดดินแบบว่า โอ้โหขุดดินปลูกต้นไม้นี่ 7 ขวบ ขุดแบบสามารถ(คือเราฝึกและก็ปลูกฝังแบบนี้มา) คือทุกอย่างได้หมด ขี้ไก่เนี่ยแบบโกยใส่กระสอบได้หมด ไม่มีแบบยึ๊ย! อะไรอย่างงี้ไม่มีเลย ลูกผมนี่แบบว่าสายลุยพวกนี้มาก(หัวเราะ) แต่ในขณะเดียวกันทางทีมงานก็ได้ทราบข้อมูลมาว่าเด็ก ๆ(ลูกของลุงอ้วน) เองก็จะเรียนแบบเป็น “โรงเรียนทางเลือก” ด้วยซึ่งในเรื่องนี้เจ้าตัวก็บอกด้วยว่า “เอ่อจริง ๆ แล้วผมไม่ได้คาดหวังเรื่องเรียนเท่าไรคือเหมือนกับว่า เราเน้นการใช้ชีวิตมากกว่า เน้นการใช้ชีวิตว่าถ้าป๊าไม่อยู่เนี่ย แม่ไม่อยู่ มึงอยู่กันได้ไหม? มึงต้องอยู่กันได้ อย่างลูกผมเนี่ยไม่ต้องมีตังค์สักบาทเขาก็อยู่ได้ เขาสามารถเข้าสวน เขาสามารถหาปลา เขาสามารถรู้ว่าผักอันนี้เอาไปกินได้ อะไรเงี้ย คือจับปลาเหรอเดี๋ยวเดินเข้าสวน หายไปแป๊บเดียวครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวหิ้วมาให้แล้วได้ปลาออกมาให้แล้ว! 7-8 ขวบ คือ เก่งแบบว่า อู้หูยหาไส้เดือนตรงไหนไปเอาเหยื่อตรงไหน เขารู้เลยนะเขาจะไปขุดตรงไหนเขาถึงจะได้ไส้เดือน แล้วเขาก็จะเอามาเป็นเหยื่อใส่เบ็ดเขาอะไรเขา คืออยู่แบบนี้เลย”
ผมก็เลยทำ “ร่องสวน” ให้เป็นที่เล่นไป คือกระโดดข้ามท้องร่อง โหนข้ามอะไรเงี้ย คือเด็กมาบางคนกลัวไม่กล้ากระโดด ลองดูก่อน เพราะผมวัดระยะแล้วว่าเด็กทุกคนเนี่ยกระโดดได้ พอเขากระโดดปุ๊บอันแรกได้ หน้าเปลี่ยน จากกลัว ๆ จากกังวล หน้าเปลี่ยน! สนุกเอ้ยฉันทำได้อะไรเงี้ย ทีนี้ไปยาวไม่กลัวอะไรแล้ว เด็กก็จะมั่นใจเออแบบ เกิดความแบบ แหมมันสนุกจังเลย มันภูมิใจตัวเองเก่ง มันสนุกมาก เขาจะประทับใจ“จุดสตาร์ทเลยนะครับ ก็จะมาบอกว่าเด็กก็จะมานั่งรวมกันตรงนี้ แล้วเราก็จะบอกว่าวันนี้เดี๋ยวเราจะทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง ก็คือได้มาเรียนรู้เรื่อง จระเข้ ล่ะและก็ได้มาผจญภัยหน่อย และก็ได้มาเรียนรู้เรื่องนกกระจอกเทศ เรื่องพืช&ผลไม้ แล้วก็อะไรต่าง ๆ นะครับ เนี่ยเดี๋ยวเราก็จะไปกัน เดินไป และก็หลังจากนั้นเราจะเล่น จะปล่อยให้เล่นโดยเสรี แต่ตอนนี้ต้องตั้งใจเรียนก่อนนะ” เรียนก็สนุก เพราะว่าเวลาเรียนไม่ได้เอาวิชาการแบบอะไรเยอะ คือเอาเรื่องสนุกคือบรรยายให้เด็กฟังจะต้อง หนึ่งจะต้องให้เขาแบบว่าไม่น่าเบื่อ ตื่นเต้นอยากรู้จังเลยอะไรเงี้ย เขาก็จะตั้งใจฟังตั้งใจที่จะรู้ คือกลับบ้านไปเนี่ยพูดให้แม่ฟัง พูดให้พ่อฟัง ได้หมดเลยลุงอ้วนสอนอะไรมา(หัวเราะ) คือเป๊ะ รู้ จำได้หมดทุกอย่าง“เพราะการเรียนรู้จริง ๆ เนี่ยมันต้องเรียนรู้แบบ ให้เขารู้สึกสนุก ให้เขารู้สึกเข้าถึง แล้วเด็กทุกคนเขาก็จะจำได้”
ได้เห็นจริง ได้สัมผัส ได้รู้สึกเออ..มันตื่นเต้น อยากรู้อะไรก็ถามมาได้ อะไรอย่างเงี้ย คือมันจะเป็นการเรียนรู้ที่ถูกหลักจริง ๆ แล้ว“พอเสร็จสิ้นจากการเรียนรู้ตรงส่วนนี้แล้ว ก็ไปเล่นข้างหลังเป็นสวนสนุกธรรมชาติ มีซิปไลน์ มีวิ่ง มีสไลเดอร์ มีบ้านกลางน้้ำมีแบบว่าที่กระโดดน้ำ อะไรอย่างเงี้ยครับ เยอะ ก็เล่นไปเลยเสรี”แต่ก็มีกติกานิดนึงทุกคนต้องใส่ “เสื้อชูชีพ” แล้วก็เวลาอยู่ในน้ำห้ามกอดกัน ห้ามเกาะกันเด็ดขาดอย่าไปกอดคอเพื่อน อย่าไปดึงกัน และก็ให้ระมัดระวัง เล่นอย่างสนุก แต่ให้มีสติ คืออันตรายตรงไหนที่มันผาดแผงไปก็เว้นไว้ก่อน ก็เลยด้วยการที่เรามีข้อตกลงกับเขาเนี่ยครับ อุบัติเหตุก็เลยจะไม่มี
ไม่ชี้นำว่าต้องทำอันไหน ไม่จำกัดเวลาเล่นจนกว่าจะ “1 เหี่ยว”
ทีมพี่ STAFF ที่คอยดูเวลาเด็กเล่นเนี่ยประมาณ 20 คน คือ 20-30 วินาทีนี่เข้าถึงตัวแล้ว คือแบบว่า คือใครมีปัญหาในน้ำก็คือจะบอกไว้ก่อนเลยว่า คนที่ว่ายน้ำไม่เก่ง-ไม่แข็งสมมติถ้ามีปัญหาทำยังไง? อยู่เฉย ๆ ทำปลาดาวลอย เงยหน้าขึ้น ลอยแบบนี้เราจะไม่จมแล้ว ตะโกนเรียก “พี่ช่วยด้วย!” พี่ STAFF 20 วิ ก็จะมายกเราขึ้นมาบนเบาะแล้ว ทุกคนก็จะเข้าใจตามหลักกติกาที่เราวาง “พอเล่นน้ำเสร็จ “ขี้โคลน” เนี่ยจะเป็นอันดับสุดท้าย เพื่อมาจับ “กบ” จะลงบ่อจับกบ จับกบเนี่ยเราจะสอนเขาก่อนว่าวิธีการจับ จับอย่างไรเขาถึงจะไม่เจ็บ เขาถึงจะไม่ตายนะครับ ก็ไม่ใช่ว่าหยิบขาได้ก็ยกขาอย่างเงี้ย โอ้โห! กบบอกขาฉันแย่ จะตายกันเสียเยอะ เพราะฉะนั้นเราจะบอกเขาว่าจับเขาเบา ๆ จับข้างหลัง แล้วค่อย ๆ ยก เวลาวางลงใส่กระป๋องให้วางเบา ๆ สงสารเขา ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็จะตายกันหมด” เราก็ต้องค่อย ๆ จับเบา ๆ ให้เขาเรียนรู้ก่อน ไม่อย่างนั้น(กบ) แย่แน่ ๆ
4 ชั่วโมง สำหรับการทำกิจกรรมทั้งหมด คือเล่นน้ำก็คือกำหนดกันแล้ว “1 เหี่ยว”คือถ้าถึงเวลาปึ๊บ จะบอกว่าทุกคนดูที่มือของตัวเอง ถ้าเราดูมือแล้วมือเราเหี่ยวแล้ว โอเคนั่นคือครบกำหนด แต่ถ้ายังไม่เหี่ยว เล่นต่อให้ได้เหี่ยว1 ก่อน ถึงจะครบตามกำหนด
(หัวเราะ) แล้วพอเล่นโคนเสร็จปึ๊บ เล่นสไลเดอร์โคลนมาจับกบ โอ้โหตรงนี้ เด็กไม่เคยเล่นนี่แบบ อู้หูมันสนุกเหลือเกิน คลุก นอนคลุกกับโคลน นอนนิ่งนอนแช่อยู่ในโคลนแบบ อู้หูอย่างกับหมูเด้ง(หัวเราะ) บางคนมันส์แบบ เด็กไม่เคยเล่น สนุกมาก พอเล่นเสร็จก็มาล้างตัวแล้วก็อาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จบางคนไม่กลับก็มี รถดุ๊กดิ๊ก มีเซิร์ฟสเก็ต จะให้เล่นเต็มไปหมดเลยลานนี่คือเด็กเต็มไปหมดเลย อย่างรถดุ๊กดิ๊กเด็กก็จะเล่นกันบางที 2-3 ทุ่ม
จัดเต็ม “4 ชม./รอบ” คิวจองล้น! ทั้งโรงเรียนและกลุ่มครอบครัว
ตอนนี้ที่ฟาร์มจะไม่ได้รับคิวแบบ walk in มาคือไม่ได้รับแล้ว เพราะคิวเต็มแล้ว เราจะไม่รับ walk in ก็คือจะเป็นในลักษณะของการจองล่วงหน้ามาก่อนเท่านั้น “แล้วก็วันเปิดก็คือ เสาร์-อาทิตย์ นะครับและก็วันนักขัตฤกษ์ คือถ้าเป็นช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์คนก็จะมากกว่าปกตินิดนึง ก็คือกิจกรรมเนี่ยจริง ๆ เรามี 2 รอบ ก็คือ รอบเช้า เริ่มตั้งแต่ 09.00 -13.00น. แล้วรอบบ่ายก็คือ เริ่มตั้งแต่ 14.00 -18.00น. นะครับ 2 รอบ/วัน” แต่วันนี้(วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน) มีรอบเดียวเพราะว่าเมื่อวานมีโรงเรียนมาหนัก! โอ้โหเด็กเป็น 100 เลย(150คน) ขอพักก่อนวันนี้ก็เลยมีแค่รอบบ่ายรอบเดียว ซึ่งในการจัดรอบแต่ละรอบก็จะกำหนดจำนวนของเด็ก ๆ ที่เข้าร่วมไม่เกิน50 คน/รอบ“คือเฉพาะเด็ก 50 แต่ผู้ใหญ่ต้องมีมาเกือบ 100 คน/รอบ ครับ(หัวเราะ) คือผู้ใหญ่เนี่ยหรือผู้ปกครองต้องมีเกือบ 100 คือผู้ปกครองจะแน่นมาก เด็กไม่น่ากลัว แต่ว่าผู้ปกครองจะเยอะมากผู้ปกครอบจะแบบ บางบ้านเนี่ยเด็ก 1 คน ผู้ปกครองมา 4 คนก็มี เยอะเลยมาเต็มไปหมด”ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายต่อเด็ก1 คนนะครับ 790 บาท ก็คือรวมกิจกรรมทั้งหมดและก็อาหารหลังจากน้องทำกิจกรรมเสร็จ และก็ผู้ปกครองจะเก็บคนละ 150 บาท มีเครื่องดื่มให้
จริง ๆ แล้ววันธรรมดา (วันจันทร์-ศุกร์) เราจะมี “โรงเรียน” จองมาตลอดเลย โรงเรียนหนึ่ง ๆ บางที 3 วันหรือ 4 วันก็มี เพราะผมจะไม่ได้ให้มาทีเดียว 600 คน มาทีเดียว 500 คน เรารับไม่ได้ เราจะให้ทยอยมาวันหนึ่งมา 100 คน ๆ บางโรงเรียนมา 4 วัน อย่างมี 600 คนเนี่ยมา 4 วันได้ บางโรงเรียนก็มา 3 วันอย่างเงี้ยครับ คือทยอยมา ป.1-ป.2 มาก่อน แล้วก็ ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 อะไรอย่างเงี้ย เนี่ยจองมา 5-6 โรงเรียนแล้ว คือจองมาตลอดมีโรงเรียนเข้ามาตลอด ๆ บางโรงเรียนมาทุกปีเลยก็มี “โรงเรียนก็ราคาก็อีกราคาหนึ่งนะครับ จะมีเรท ว่าโรงเรียนรัฐบาลราคาเท่านี้ โรงเรียนนานาชาติราคาเท่านี้ ก็จะมีเรทให้ด้วย” พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมทั้งหมดตอนนี้รวมแล้ว(มีการเช่าสวนมะพร้าวเพิ่มด้วย) ก็ประมาณ 13 ไร่
จากหนี้หลายล้านที่กู้มาถม “นา” เพียงปีกว่า ๆ ก็ปิดจบได้ทั้งหมด!
จริง ๆ แล้วการเปิดตัวของธุรกิจนี้ที่เริ่มมาคือปี 2567 (ช่วงปลายปี 2566-2567) เริ่มเป็นรูปเป็นร่างเริ่มมีคนรู้จักคือเริ่มเป็นธุรกิจจริง ๆ แล้ว“ปีกว่า ๆ ถึง 2 ปีมานี้เอง อาจจะเป็นเพราะว่า ด้วยดวงดีด้วย(หัวเราะ) อาจเพราะว่าช่วงหลังโควิดฯ มานี้คนส่วนใหญ่ก็ต้องการวิถีชีวิตในรูปแบบ แบบนี้ด้วยการทำกิจกรรม คือพ่อแม่นะครับถึงเศรษฐกิจจะเป็นยังไงก้แล้วแต่ พ่อแม่ประหยัดได้ไม่ซื้อหรอกเสื้อผ้า ของไม่จำเป็นฉันไม่ซื้อ แต่กับลูกนี่ยังไงก็จ่าย กับลูกนี่คือยังไงก็ต้องพาลูกไป พาลูกไปขอให้ลูกมีความสุขเถอะ ขอให้ลูกสนุกเถอะเขายอมเลย” ตรงนี้พอทำมาถึงตอนนี้ รายได้น่าตกใจมาก! (หัวเราะ) ด้วยการตอบรับจากลูกค้าที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา “คือแบบอู้หูมันขนาดนี้เลยเหรอ! เยอะแบบมีเงินไปทำตรงโน้นตรงนี้ได้ ตั้งใจปรับปรุง คือนึกไม่ถึงเลยครับ แรก ๆ กู้เงินมาก้อนหนึ่งเกือบ อู้หู! นอนไม่หลับเลย คืออยู่ ๆ เป็นหนี้ หาเรื่องไหมเนี่ย? หาเรื่องให้ตัวไหมเนี่ย แก่แล้วด้วย”
เดิมทีตรงนี้มันเป็นท้องนา ที่มันต่ำด้วย ถนนอยู่อย่างโน้นเลย(ยกมือเปรียบเทียบระดับความสูงให้ดู) คือสูงมาก แล้วเราแบบแค่ “ถม” อย่างเดียวก็คงจะหมดแล้ว ไม่เหลือแน่ ๆ ทำยังไงดีน้า? ก็เลยซื้อดินมาแค่ 22 รถพ่วง เอามาถมทำเป็นทางเข้ามาก่อน แล้วผมต้องการ “น้ำ” อยู่แล้วใช่ไหม ก็ขุดบ่อแล้วก็เอาดินขึ้นไปใส่เรื่อย ๆ มา ขุดลึก ๆ แล้วก็เอาดินมา“โอ๋ยเฉพาะค่าแบ็คโฮลค่ารถขุด ไม่ 2-3 ล้านแล้วมั้ง! ในระยะเวลา 2-3 เดือนน่ะครับ คือแบบอู้หู! คือเทมานิดเดียว รถสิบล้อ 3 คัน แบ็คโฮล 2 คันนี่แบบ ประมาณ 2-3 เดือนอู้หูยนานมาก! เททั้งวัน ตักทั้งวันเนี่ย เพราะที่มันต่ำ”ซึ่งตอนนั้นก็นอนไม่หลับเหมือนกันว่าจะ หาเรื่องไหมเนี่ย? คืออยู่ ๆ มาเป็นหนี้ซะงั้น แต่พอทำไปพอได้เปิดปุ๊บ โอ้! ลูกค้าตอบรับดีมาก ถึงตอนนี้ “หนี้” สามารถเคลียร์จบได้ทั้งหมดแล้ว ภายในระยะเวลาเพียงปีกว่า ๆ ถึงสองปีมานี้ ใช่ครับ สุดยอด!(หัวเราะ)
ความสำเร็จของการทำ “ฟาร์ม” ที่อาจมาพร้อมผลผลิตที่เรียกว่า “ความสุข”
ลุงอ้วน หรือ คุณบุญญาฤทธิ์ จิรพัฒนกุล เจ้าของ “ฟาร์มลุงอ้วน” สวนสนุกธรรมชาติ สร้างพื้นที่การเรียนรู้ชีวิตเพื่อเด็กเมือง ยังบอกด้วย อุปสรรคก็คือส่วนใหญ่ข้อบกพร่องต่าง ๆ เนี่ยผู้ปกครองก็จะมาบอกเรา ลุงอ้วนตรงนี้นะทำแบบนี้ ลุงอ้วนตรงนี้ทำแบบนี้หน่อยไหม อะไรแบบนี้ครับ เขาจะคอยบอกแต่เขามาบอกด้วยความเป็นมิตร คือทุกคนแบบว่าให้ความเห็น เราก็จะบอกขอบคุณมากครับ เออเราก็จะมาแก้ไขในส่วนนั้น ๆ“ภูมิใจครับ ก็คือได้เห็นเด็ก ๆ ที่มาแล้วเนี่ย คือก่อนกลับทุกคนจะต้องเดินมา ขอบคุณนะลุงอ้วนขอบคุณนะ คือแบบทุกคนแฮปปี้ ทุกคนมีความสุข คือเนี่ยแหละทำให้เราแบบรู้สึก เอ้อดีจังเลยทำอาชีพที่แบบเออมีความสุข คือทุกคนจะกลับเนี่ยมาขอบคุณมาแบบว่าพ่อแม่มา ลุงอ้วนสนุกมากค่ะเด็ก ๆ สนุกขอบคุณนะคะอะไรเงี้ย คือเอ้อ! หายเหนื่อย คือที่เราตั้งใจทำมาตลอด 4 ชม. คือก่อนกลับนี่ก็คือผู้ปกครองโอเค เด็ก ๆ สนุกอะไรเงี้ย เราก็ไม่รู้สึกเหนื่อย รู้สึกมีความสุขกับงานที่เราทำแสดงว่า เออทุกคนมีความสุขเนาะ ดีจังเลย อะไรอย่างเงี้ยครับ”
แล้วก็อยากฝากบอก “เกษตรกร” เนี่ยคนที่ทำเกษตรอยู่ ไม่ควรหนี ไม่ควรที่จะไป หนีไปทำอะไร ทำงานอะไรเงี้ย คือจริง ๆ แล้วตรงนี้มันเป็น “ความสุข” มันเป็นความสุขที่ คือเราสามารถหาจากเขาได้ รายได้อะไรอย่างเงี้ย คือเราสามารถทำอะไรกับเขาได้เยอะแค่แบบ “คิด” นิดหนึ่ง หลาย ๆ อย่างคือสามารถทำเงินได้เยอะแยะเลย แค่มีที่ดินอยู่ คือสามารถดัดแปลงทำโน่นทำนี่ได้หลายอย่าง แค่อยู่เฉย ๆ แล้วพาคนเข้ามาดูก็ยังได้รายได้เลย“คือจะปลูกข้าวนาปีรัฐบาลบอกว่าได้นะนาปี แต่นาปรังห้ามทำนะ น้ำไม่มีนะ อะไรอย่างเงี้ยคือมันก็ไม่มีรายได้ แต่ถ้าเราดัดแปลงเออใน 8 เดือนที่เหลือ เราจะทำอะไรได้?”เด็กรุ่นใหม่ ๆ ที่อยู่เป็นลูกเป็นหลานเนี่ยช่วยคิดให้ท่าน มองให้ท่าน เราก็สามารถเอาที่ดินนี้ให้มันมีประโยชน์ได้มาก ได้มหาศาลนะครับหรือถ้ายังมองภาพไม่ออก ก็สามารถมาดูตัวอย่างได้ที่ฟาร์มลุงอ้วนมาได้เลยมาปรึกษาได้ คือมีหลาย ๆ อย่างเลยที่สามารถทำได้แบบโอ้โห ไม่ต้องลงทุนมาก และก็สามารถทำเงินได้เยอะเลย ใช่!
จากหนี้หลายล้านที่กู้มาทำ “ฟาร์ม” ความสำเร็จที่มาพร้อมผลผลิตที่เรียกว่า “ความสุข” ปีกว่า ๆ ก็จบหนี้ได้! “ฟาร์มลุงอ้วน” สวนสนุกธรรมชาติ สร้างพื้นที่เรียนรู้ชีวิตเพื่อเด็กเมือง ขอบคุณเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจดี ๆ จากลุงอ้วน-น้าเมย์และน้องภูมิ เจ้าของฟาร์มที่ร่วมแบ่งปันประสบการณ์แห่งความสุขซึ่งมอบให้กับเด็ก ๆ ทุกคนที่มาเรียนรู้เพื่อฝึกทักษะชีวิตที่นี่ และยังถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจท่ามกลางยุคเศรษฐกิจแบบนี้ แต่ทว่ากลับสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ๆ เผื่อจะเป็น Inspiration ให้กับคนอื่น ๆ ที่สนใจได้นำไปปรับให้เข้ากับตัวเองต่อไป.. สามารถติดตามกิจกรรมของฟาร์มลุงอ้วนโดยฟาร์มตั้งอยู่ที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หรือต้องการจองคิวร่วมกิจกรรมติดต่อไปที่ เพจ: ฟาร์มลุงอ้วนby Farmer Surfer (ชาวนาบ้าคลื่น) เบอร์โทร.084-755-9997
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


