xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) จากหนี้หลายล้านที่กู้มาทำ “ฟาร์ม” ความสำเร็จที่มาพร้อมผลผลิตที่เรียกว่า “ความสุข” ปีกว่า ๆ ก็จบหนี้ได้!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เด็กเดี๋ยวนี้เขาไม่ค่อยได้เจอสิ่งเหล่านี้แล้วคือหายไปแล้วหายไปจากสังคมเมืองเนี่ยไม่มีเลย คืออยากให้เขาได้สัมผัสได้อย่างให้เขาได้เล่นตอนที่สมัยเด็ก ๆ เราได้เล่นอย่างท้องร่องอย่างเงี้ยในสวนเมื่อก่อนเราวิ่งเล่นกับเพื่อนกระโดดข้ามกันเด็กสมัยนี้โอกาสไม่มี


คือหนึ่งเลยน่าจะเป็น “ลูก” ผมมีลูกช้าไปหน่อยลูกตอนนี้เพิ่งจะ อย่างคนโตเพิ่งจะ 12 คนเล็กก็เพิ่งจะ 9 ขวบ อะไรอย่างเงี้ยครับ เขาอยู่ในวัยที่แบบว่าค้นหา อยากรู้ อยากทำอะไรพวกนี้ แล้วลูกผมชอบสายพวกนี้ ชอบลุยดินลุยโคลน ชอบเลี้ยงสัตว์ชอบอะไร ก็เลยให้ลูกทำแล้วให้ลูกแบบว่าได้เป็นคนเริ่ม คุณเลี้ยงไก่คุณต้องดูแลเอง เก็บขี้ไก่ขาย คุณก็ได้ตังค์เองอะไรแบบนี้ครับ เก็บไข่เก็บอะไร ก็คือมาจากลูกก่อน พอลูกมาปุ๊บลูกก็พาเพื่อนมาเยอะ เพื่อนลูกโอ้โหโรงเรียนมาดูอีกอะไร คือกลายเป็น ลุงอ้วนดีเหมือนกันนะเนี่ย! ให้เด็กมาดูตรงนี้ให้เด็กมาแบบว่าศึกษา ลุงอ้วนก็แบบตรงนี้อธิบายสักหน่อยอะไรเงี้ย ตอนแรกก็ไม่ได้เยอะหรอกครับมีเด็กมานิด ๆ หน่อย ๆ แต่พอทำไปทำมาเข้าคือด้วยโลกโซเชียลฯ ด้วย อะไรด้วยอย่างเงี้ยครับ คือไปเร็วมาก!” ลุงอ้วน หรือ คุณบุญญาฤทธิ์ จิรพัฒนกุล เจ้าของ “ฟาร์มลุงอ้วน” สวนสนุกธรรมชาติ ที่อยู่ใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งในธุรกิจน่าจับตา สำหรับคนที่มีพื้นที่อยู่แล้วลองพัฒนาสู่สิ่งใหม่เพิ่มเติม และที่สำคัญคือเป็นอะไรที่ได้รับการตอบรับดีมาก ๆ อย่างไม่น่าเชื่อด้วย! ในกลุ่มของผู้ปกครองและเด็ก ๆ วัยกำลังเรียนรู้ “จริงก็คืออยากให้เขาได้ EF (ทักษะสมองที่สำคัญ หรือ Executive Function) ให้มี EF เยอะ ๆ นะครับ เด็กที่มี EF เยอะ ๆ กล้าที่จะทำ กล้าที่จะทดลอง กล้าที่จะลองทำ ในการเรียนของเขาเนี่ยจะดีไปเอง คือจะแบบ เด็กที่มีEF มากเนี่ยคือเรียนเก่งแน่นอน คือแบบสมองเขากล้าที่จะคิด กล้าที่จะแบบกล้าที่จะทำกล้าที่จะลอง และเขาก็จะเก่งไปเอง ไม่ใช่ว่า “ห้าม”! ทุกอย่าง เด็กไม่ควรห้าม ไม่ใช่ ลูกอย่า ลูกอย่า ลูกอย่า! คือพ่อแม่เนี่ยเข้าใจว่าเป็นห่วงลูกทุกคน แต่การห้ามเนี่ย บางทีเด็กไม่ได้ลอง ไม่ได้คิดไม่ได้ลอง ไม่ได้แบบเขา ขาดในใจ จะขาด EF คือไม่กล้าที่จะทำอะไรใหม่ ๆ ไม่กล้าลองไม่กล้าอะไร ต้องให้เด็กลองทำ”


“ฟาร์มลุงอ้วน” สวนสนุกธรรมชาติ เพื่อการเสริมสร้างทักษะชีวิต
ไม่นึกว่ามันจะเป็นอาชีพได้เหมือนกัน ก่อนหน้านี้ตนเองทำงานบริษัทฯ ก็จะประจำอยู่ในส่วนของโรงงานผลิตอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี คือทำอยู่นานเลย ก็พอจะมีทุนสักนิดนึงและก็ด้วยว่าตรงนี้(ที่ดิน) มันไม่ได้เป็นภาระ เป็นของที่บ้านเอง ก็เลยแบบว่าเราก็เลยคิดว่า “ถ้าไม่มีภาระตรงนี้คือมันก็จะไม่กดดัน” เหมือนกับเราทำที่ให้ลูกเล่นอย่างเงี้ยครับ ในที่เราเอง คือมันไม่กดดันไม่ต้อง เดือน ๆ ค่าเช่ามาแล้ว! ถ้าอย่างนี้มันจะกดดัน จะเครียด เราก็เลยเอาวะ! ลองทำดู ทำที่ให้มันแบบ ให้มันดูมีอะไรขึ้นมาดีกว่าจาก “ที่นา” โล่ง ๆ ตรงนี้มัน 9 ไร่(เฉพาะในส่วนของที่ดินไม่ติดภาระเช่า) พอทำมาเรื่อย ๆ เออเราต้องการเปลี่ยนอะไรที่เด็กไม่รู้จัก เริ่มมีเต่า (เต่ายักษ์ซูลคาต้า) เริ่มมีจระเข้ มีนกกระจอกเทศ มีลิง มีงู มีอะไรอีกมากมายที่จะตามมาอีกเรื่อย ๆ ต่อไป คือเป็นสัตว์ที่เด็กเขาไม่ได้สัมผัส ไม่ค่อยได้รู้จัก เอามาให้เขาได้ศึกษาได้เรียนรู้ว่าเออมันมีกี่ชนิดนะ แล้วมันมีอันตรายตรงไหน อะไรอย่างเงี้ย คือให้เด็กได้รู้จักกับสัตว์ต่าง ๆ เยอะ ๆ หลาย ๆ แบบคือเพื่อการศึกษาเลี้ยงแค่นิดเดียว 1 ตัว 2 ตัวอะไรเงี้ย เพื่อให้เด็กได้รู้จักเฉย ๆ ไปสัมผัสมันอะไรอย่างเงี้ย ว่าเป็นอย่างไร




เติมเต็มให้กับ “เด็กเมือง” ได้เรียนรู้จากการสัมผัสของจริง
เด็กเดี๋ยวนี้เขาไม่ค่อยได้เจอสิ่งเหล่านี้แล้ว คือหายไปแล้ว หายไปจากสังคมเมืองเนี่ยไม่มีเลย “ดิน” เด็กบางคนเนี่ยครับคือในสวนบางทีมันเละใช่ไหม มันแฉะ บอกลองถอดรองเท้าได้ไหม? วันนี้ลองเป็นเศรษฐีเท้าเปล่ากันสักวันหนึ่ง มีใครเคยถอดรองเท้าเดินกับดินบ้าง? “โดยมากเด็กบางคนเจอนี่แบบ ไม่ไหว! แบบเอานิ้วยกเดินแบบเขย่ง ๆ ไป แบบว่ายี้! ลุงอ้วนมันสกปรกไหม? บอกดินไม่สกปรกเลยลูก ดินเนี่ยไม่สกปรก ดินเนี่ยในดินเขามีแร่ธาตุที่แบบเออเขาจะตัวสามารถดูดขึ้นมาได้ คนสมัยก่อนเขาไม่มีใส่รองเท้ากัน อายุเขาอยู่กันเป็น 100 ปีเลย 80 ปี 90 ปี 100 ปี เพราะเขาได้รับแร่ธาตุจากดิน แต่สมัยนี้ น้อยมากที่จะให้ลูกเดินกับดิน”พ่อแม่นี่ไม่ได้เลย อู้ยลูกสกปรก! สกปรกอย่างเดียวเลย เด็ก ๆ เขาก็เลยเข้าใจว่าดินเนี่ยมันสกปรก



น้องภูมิ (ลูกชายคนเล็ก) เด็กอินเตอร์เรียนโรงเรียนนานาชาติแต่ว่ามีโอกาสได้เล่นแบบติดดินมาก ๆ
แต่ลูกผมเนี่ยติดดินเลย ติดดินแบบว่า โอ้โหขุดดินปลูกต้นไม้นี่ 7 ขวบ ขุดแบบสามารถ(คือเราฝึกและก็ปลูกฝังแบบนี้มา) คือทุกอย่างได้หมด ขี้ไก่เนี่ยแบบโกยใส่กระสอบได้หมด ไม่มีแบบยึ๊ย! อะไรอย่างงี้ไม่มีเลย ลูกผมนี่แบบว่าสายลุยพวกนี้มาก(หัวเราะ) แต่ในขณะเดียวกันทางทีมงานก็ได้ทราบข้อมูลมาว่าเด็ก ๆ(ลูกของลุงอ้วน) เองก็จะเรียนแบบเป็น “โรงเรียนทางเลือก” ด้วยซึ่งในเรื่องนี้เจ้าตัวก็บอกด้วยว่า “เอ่อจริง ๆ แล้วผมไม่ได้คาดหวังเรื่องเรียนเท่าไรคือเหมือนกับว่า เราเน้นการใช้ชีวิตมากกว่า เน้นการใช้ชีวิตว่าถ้าป๊าไม่อยู่เนี่ย แม่ไม่อยู่ มึงอยู่กันได้ไหม? มึงต้องอยู่กันได้ อย่างลูกผมเนี่ยไม่ต้องมีตังค์สักบาทเขาก็อยู่ได้ เขาสามารถเข้าสวน เขาสามารถหาปลา เขาสามารถรู้ว่าผักอันนี้เอาไปกินได้ อะไรเงี้ย คือจับปลาเหรอเดี๋ยวเดินเข้าสวน หายไปแป๊บเดียวครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวหิ้วมาให้แล้วได้ปลาออกมาให้แล้ว! 7-8 ขวบ คือ เก่งแบบว่า อู้หูยหาไส้เดือนตรงไหนไปเอาเหยื่อตรงไหน เขารู้เลยนะเขาจะไปขุดตรงไหนเขาถึงจะได้ไส้เดือน แล้วเขาก็จะเอามาเป็นเหยื่อใส่เบ็ดเขาอะไรเขา คืออยู่แบบนี้เลย”


ผมก็เลยทำ “ร่องสวน” ให้เป็นที่เล่นไป คือกระโดดข้ามท้องร่อง โหนข้ามอะไรเงี้ย คือเด็กมาบางคนกลัวไม่กล้ากระโดด ลองดูก่อน เพราะผมวัดระยะแล้วว่าเด็กทุกคนเนี่ยกระโดดได้ พอเขากระโดดปุ๊บอันแรกได้ หน้าเปลี่ยน จากกลัว ๆ จากกังวล หน้าเปลี่ยน! สนุกเอ้ยฉันทำได้อะไรเงี้ย ทีนี้ไปยาวไม่กลัวอะไรแล้ว เด็กก็จะมั่นใจเออแบบ เกิดความแบบ แหมมันสนุกจังเลย มันภูมิใจตัวเองเก่ง มันสนุกมาก เขาจะประทับใจ“จุดสตาร์ทเลยนะครับ ก็จะมาบอกว่าเด็กก็จะมานั่งรวมกันตรงนี้ แล้วเราก็จะบอกว่าวันนี้เดี๋ยวเราจะทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง ก็คือได้มาเรียนรู้เรื่อง จระเข้ ล่ะและก็ได้มาผจญภัยหน่อย และก็ได้มาเรียนรู้เรื่องนกกระจอกเทศ เรื่องพืช&ผลไม้ แล้วก็อะไรต่าง ๆ นะครับ เนี่ยเดี๋ยวเราก็จะไปกัน เดินไป และก็หลังจากนั้นเราจะเล่น จะปล่อยให้เล่นโดยเสรี แต่ตอนนี้ต้องตั้งใจเรียนก่อนนะ” เรียนก็สนุก เพราะว่าเวลาเรียนไม่ได้เอาวิชาการแบบอะไรเยอะ คือเอาเรื่องสนุกคือบรรยายให้เด็กฟังจะต้อง หนึ่งจะต้องให้เขาแบบว่าไม่น่าเบื่อ ตื่นเต้นอยากรู้จังเลยอะไรเงี้ย เขาก็จะตั้งใจฟังตั้งใจที่จะรู้ คือกลับบ้านไปเนี่ยพูดให้แม่ฟัง พูดให้พ่อฟัง ได้หมดเลยลุงอ้วนสอนอะไรมา(หัวเราะ) คือเป๊ะ รู้ จำได้หมดทุกอย่าง“เพราะการเรียนรู้จริง ๆ เนี่ยมันต้องเรียนรู้แบบ ให้เขารู้สึกสนุก ให้เขารู้สึกเข้าถึง แล้วเด็กทุกคนเขาก็จะจำได้”




ได้เห็นจริง ได้สัมผัส ได้รู้สึกเออ..มันตื่นเต้น อยากรู้อะไรก็ถามมาได้ อะไรอย่างเงี้ย คือมันจะเป็นการเรียนรู้ที่ถูกหลักจริง ๆ แล้ว“พอเสร็จสิ้นจากการเรียนรู้ตรงส่วนนี้แล้ว ก็ไปเล่นข้างหลังเป็นสวนสนุกธรรมชาติ มีซิปไลน์ มีวิ่ง มีสไลเดอร์ มีบ้านกลางน้้ำมีแบบว่าที่กระโดดน้ำ อะไรอย่างเงี้ยครับ เยอะ ก็เล่นไปเลยเสรี”แต่ก็มีกติกานิดนึงทุกคนต้องใส่ “เสื้อชูชีพ” แล้วก็เวลาอยู่ในน้ำห้ามกอดกัน ห้ามเกาะกันเด็ดขาดอย่าไปกอดคอเพื่อน อย่าไปดึงกัน และก็ให้ระมัดระวัง เล่นอย่างสนุก แต่ให้มีสติ คืออันตรายตรงไหนที่มันผาดแผงไปก็เว้นไว้ก่อน ก็เลยด้วยการที่เรามีข้อตกลงกับเขาเนี่ยครับ อุบัติเหตุก็เลยจะไม่มี




ไม่ชี้นำว่าต้องทำอันไหน ไม่จำกัดเวลาเล่นจนกว่าจะ “1 เหี่ยว”
ทีมพี่ STAFF ที่คอยดูเวลาเด็กเล่นเนี่ยประมาณ 20 คน คือ 20-30 วินาทีนี่เข้าถึงตัวแล้ว คือแบบว่า คือใครมีปัญหาในน้ำก็คือจะบอกไว้ก่อนเลยว่า คนที่ว่ายน้ำไม่เก่ง-ไม่แข็งสมมติถ้ามีปัญหาทำยังไง? อยู่เฉย ๆ ทำปลาดาวลอย เงยหน้าขึ้น ลอยแบบนี้เราจะไม่จมแล้ว ตะโกนเรียก “พี่ช่วยด้วย!” พี่ STAFF 20 วิ ก็จะมายกเราขึ้นมาบนเบาะแล้ว ทุกคนก็จะเข้าใจตามหลักกติกาที่เราวาง “พอเล่นน้ำเสร็จ “ขี้โคลน” เนี่ยจะเป็นอันดับสุดท้าย เพื่อมาจับ “กบ” จะลงบ่อจับกบ จับกบเนี่ยเราจะสอนเขาก่อนว่าวิธีการจับ จับอย่างไรเขาถึงจะไม่เจ็บ เขาถึงจะไม่ตายนะครับ ก็ไม่ใช่ว่าหยิบขาได้ก็ยกขาอย่างเงี้ย โอ้โห! กบบอกขาฉันแย่ จะตายกันเสียเยอะ เพราะฉะนั้นเราจะบอกเขาว่าจับเขาเบา ๆ จับข้างหลัง แล้วค่อย ๆ ยก เวลาวางลงใส่กระป๋องให้วางเบา ๆ สงสารเขา ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็จะตายกันหมด” เราก็ต้องค่อย ๆ จับเบา ๆ ให้เขาเรียนรู้ก่อน ไม่อย่างนั้น(กบ) แย่แน่ ๆ


4 ชั่วโมง สำหรับการทำกิจกรรมทั้งหมด คือเล่นน้ำก็คือกำหนดกันแล้ว 1 เหี่ยว”คือถ้าถึงเวลาปึ๊บ จะบอกว่าทุกคนดูที่มือของตัวเอง ถ้าเราดูมือแล้วมือเราเหี่ยวแล้ว โอเคนั่นคือครบกำหนด แต่ถ้ายังไม่เหี่ยว เล่นต่อให้ได้เหี่ยว1 ก่อน ถึงจะครบตามกำหนด
(หัวเราะ) แล้วพอเล่นโคนเสร็จปึ๊บ เล่นสไลเดอร์โคลนมาจับกบ โอ้โหตรงนี้ เด็กไม่เคยเล่นนี่แบบ อู้หูมันสนุกเหลือเกิน คลุก นอนคลุกกับโคลน นอนนิ่งนอนแช่อยู่ในโคลนแบบ อู้หูอย่างกับหมูเด้ง(หัวเราะ) บางคนมันส์แบบ เด็กไม่เคยเล่น สนุกมาก พอเล่นเสร็จก็มาล้างตัวแล้วก็อาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จบางคนไม่กลับก็มี รถดุ๊กดิ๊ก มีเซิร์ฟสเก็ต จะให้เล่นเต็มไปหมดเลยลานนี่คือเด็กเต็มไปหมดเลย อย่างรถดุ๊กดิ๊กเด็กก็จะเล่นกันบางที 2-3 ทุ่ม




จัดเต็ม “4 ชม./รอบ” คิวจองล้น! ทั้งโรงเรียนและกลุ่มครอบครัว
ตอนนี้ที่ฟาร์มจะไม่ได้รับคิวแบบ walk in มาคือไม่ได้รับแล้ว เพราะคิวเต็มแล้ว เราจะไม่รับ walk in ก็คือจะเป็นในลักษณะของการจองล่วงหน้ามาก่อนเท่านั้น “แล้วก็วันเปิดก็คือ เสาร์-อาทิตย์ นะครับและก็วันนักขัตฤกษ์ คือถ้าเป็นช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์คนก็จะมากกว่าปกตินิดนึง ก็คือกิจกรรมเนี่ยจริง ๆ เรามี 2 รอบ ก็คือ รอบเช้า เริ่มตั้งแต่ 09.00 -13.00น. แล้วรอบบ่ายก็คือ เริ่มตั้งแต่ 14.00 -18.00น. นะครับ 2 รอบ/วัน” แต่วันนี้(วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน) มีรอบเดียวเพราะว่าเมื่อวานมีโรงเรียนมาหนัก! โอ้โหเด็กเป็น 100 เลย(150คน) ขอพักก่อนวันนี้ก็เลยมีแค่รอบบ่ายรอบเดียว ซึ่งในการจัดรอบแต่ละรอบก็จะกำหนดจำนวนของเด็ก ๆ ที่เข้าร่วมไม่เกิน50 คน/รอบ“คือเฉพาะเด็ก 50 แต่ผู้ใหญ่ต้องมีมาเกือบ 100 คน/รอบ ครับ(หัวเราะ) คือผู้ใหญ่เนี่ยหรือผู้ปกครองต้องมีเกือบ 100 คือผู้ปกครองจะแน่นมาก เด็กไม่น่ากลัว แต่ว่าผู้ปกครองจะเยอะมากผู้ปกครอบจะแบบ บางบ้านเนี่ยเด็ก 1 คน ผู้ปกครองมา 4 คนก็มี เยอะเลยมาเต็มไปหมด”ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายต่อเด็ก1 คนนะครับ 790 บาท ก็คือรวมกิจกรรมทั้งหมดและก็อาหารหลังจากน้องทำกิจกรรมเสร็จ และก็ผู้ปกครองจะเก็บคนละ 150 บาท มีเครื่องดื่มให้


จริง ๆ แล้ววันธรรมดา (วันจันทร์-ศุกร์) เราจะมี “โรงเรียน” จองมาตลอดเลย โรงเรียนหนึ่ง ๆ บางที 3 วันหรือ 4 วันก็มี เพราะผมจะไม่ได้ให้มาทีเดียว 600 คน มาทีเดียว 500 คน เรารับไม่ได้ เราจะให้ทยอยมาวันหนึ่งมา 100 คน ๆ บางโรงเรียนมา 4 วัน อย่างมี 600 คนเนี่ยมา 4 วันได้ บางโรงเรียนก็มา 3 วันอย่างเงี้ยครับ คือทยอยมา ป.1-ป.2 มาก่อน แล้วก็ ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 อะไรอย่างเงี้ย เนี่ยจองมา 5-6 โรงเรียนแล้ว คือจองมาตลอดมีโรงเรียนเข้ามาตลอด ๆ บางโรงเรียนมาทุกปีเลยก็มี “โรงเรียนก็ราคาก็อีกราคาหนึ่งนะครับ จะมีเรท ว่าโรงเรียนรัฐบาลราคาเท่านี้ โรงเรียนนานาชาติราคาเท่านี้ ก็จะมีเรทให้ด้วย” พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมทั้งหมดตอนนี้รวมแล้ว(มีการเช่าสวนมะพร้าวเพิ่มด้วย) ก็ประมาณ 13 ไร่


จากหนี้หลายล้านที่กู้มาถม “นา” เพียงปีกว่า ๆ ก็ปิดจบได้ทั้งหมด!
จริง ๆ แล้วการเปิดตัวของธุรกิจนี้ที่เริ่มมาคือปี 2567 (ช่วงปลายปี 2566-2567) เริ่มเป็นรูปเป็นร่างเริ่มมีคนรู้จักคือเริ่มเป็นธุรกิจจริง ๆ แล้ว“ปีกว่า ๆ ถึง 2 ปีมานี้เอง อาจจะเป็นเพราะว่า ด้วยดวงดีด้วย(หัวเราะ) อาจเพราะว่าช่วงหลังโควิดฯ มานี้คนส่วนใหญ่ก็ต้องการวิถีชีวิตในรูปแบบ แบบนี้ด้วยการทำกิจกรรม คือพ่อแม่นะครับถึงเศรษฐกิจจะเป็นยังไงก้แล้วแต่ พ่อแม่ประหยัดได้ไม่ซื้อหรอกเสื้อผ้า ของไม่จำเป็นฉันไม่ซื้อ แต่กับลูกนี่ยังไงก็จ่าย กับลูกนี่คือยังไงก็ต้องพาลูกไป พาลูกไปขอให้ลูกมีความสุขเถอะ ขอให้ลูกสนุกเถอะเขายอมเลย” ตรงนี้พอทำมาถึงตอนนี้ รายได้น่าตกใจมาก! (หัวเราะ) ด้วยการตอบรับจากลูกค้าที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา “คือแบบอู้หูมันขนาดนี้เลยเหรอ! เยอะแบบมีเงินไปทำตรงโน้นตรงนี้ได้ ตั้งใจปรับปรุง คือนึกไม่ถึงเลยครับ แรก ๆ กู้เงินมาก้อนหนึ่งเกือบ อู้หู! นอนไม่หลับเลย คืออยู่ ๆ เป็นหนี้ หาเรื่องไหมเนี่ย? หาเรื่องให้ตัวไหมเนี่ย แก่แล้วด้วย”




เดิมทีตรงนี้มันเป็นท้องนา ที่มันต่ำด้วย ถนนอยู่อย่างโน้นเลย(ยกมือเปรียบเทียบระดับความสูงให้ดู) คือสูงมาก แล้วเราแบบแค่ “ถม” อย่างเดียวก็คงจะหมดแล้ว ไม่เหลือแน่ ๆ ทำยังไงดีน้า? ก็เลยซื้อดินมาแค่ 22 รถพ่วง เอามาถมทำเป็นทางเข้ามาก่อน แล้วผมต้องการ “น้ำ” อยู่แล้วใช่ไหม ก็ขุดบ่อแล้วก็เอาดินขึ้นไปใส่เรื่อย ๆ มา ขุดลึก ๆ แล้วก็เอาดินมา“โอ๋ยเฉพาะค่าแบ็คโฮลค่ารถขุด ไม่ 2-3 ล้านแล้วมั้ง! ในระยะเวลา 2-3 เดือนน่ะครับ คือแบบอู้หู! คือเทมานิดเดียว รถสิบล้อ 3 คัน แบ็คโฮล 2 คันนี่แบบ ประมาณ 2-3 เดือนอู้หูยนานมาก! เททั้งวัน ตักทั้งวันเนี่ย เพราะที่มันต่ำ”ซึ่งตอนนั้นก็นอนไม่หลับเหมือนกันว่าจะ หาเรื่องไหมเนี่ย? คืออยู่ ๆ มาเป็นหนี้ซะงั้น แต่พอทำไปพอได้เปิดปุ๊บ โอ้! ลูกค้าตอบรับดีมาก ถึงตอนนี้ “หนี้” สามารถเคลียร์จบได้ทั้งหมดแล้ว ภายในระยะเวลาเพียงปีกว่า ๆ ถึงสองปีมานี้ ใช่ครับ สุดยอด!(หัวเราะ)


ความสำเร็จของการทำ “ฟาร์ม” ที่อาจมาพร้อมผลผลิตที่เรียกว่า “ความสุข”
ลุงอ้วน หรือ คุณบุญญาฤทธิ์ จิรพัฒนกุล เจ้าของ “ฟาร์มลุงอ้วน” สวนสนุกธรรมชาติ สร้างพื้นที่การเรียนรู้ชีวิตเพื่อเด็กเมือง ยังบอกด้วย อุปสรรคก็คือส่วนใหญ่ข้อบกพร่องต่าง ๆ เนี่ยผู้ปกครองก็จะมาบอกเรา ลุงอ้วนตรงนี้นะทำแบบนี้ ลุงอ้วนตรงนี้ทำแบบนี้หน่อยไหม อะไรแบบนี้ครับ เขาจะคอยบอกแต่เขามาบอกด้วยความเป็นมิตร คือทุกคนแบบว่าให้ความเห็น เราก็จะบอกขอบคุณมากครับ เออเราก็จะมาแก้ไขในส่วนนั้น ๆ“ภูมิใจครับ ก็คือได้เห็นเด็ก ๆ ที่มาแล้วเนี่ย คือก่อนกลับทุกคนจะต้องเดินมา ขอบคุณนะลุงอ้วนขอบคุณนะ คือแบบทุกคนแฮปปี้ ทุกคนมีความสุข คือเนี่ยแหละทำให้เราแบบรู้สึก เอ้อดีจังเลยทำอาชีพที่แบบเออมีความสุข คือทุกคนจะกลับเนี่ยมาขอบคุณมาแบบว่าพ่อแม่มา ลุงอ้วนสนุกมากค่ะเด็ก ๆ สนุกขอบคุณนะคะอะไรเงี้ย คือเอ้อ! หายเหนื่อย คือที่เราตั้งใจทำมาตลอด 4 ชม. คือก่อนกลับนี่ก็คือผู้ปกครองโอเค เด็ก ๆ สนุกอะไรเงี้ย เราก็ไม่รู้สึกเหนื่อย รู้สึกมีความสุขกับงานที่เราทำแสดงว่า เออทุกคนมีความสุขเนาะ ดีจังเลย อะไรอย่างเงี้ยครับ”

แล้วก็อยากฝากบอก “เกษตรกร” เนี่ยคนที่ทำเกษตรอยู่ ไม่ควรหนี ไม่ควรที่จะไป หนีไปทำอะไร ทำงานอะไรเงี้ย คือจริง ๆ แล้วตรงนี้มันเป็น “ความสุข” มันเป็นความสุขที่ คือเราสามารถหาจากเขาได้ รายได้อะไรอย่างเงี้ย คือเราสามารถทำอะไรกับเขาได้เยอะแค่แบบ “คิด” นิดหนึ่ง หลาย ๆ อย่างคือสามารถทำเงินได้เยอะแยะเลย แค่มีที่ดินอยู่ คือสามารถดัดแปลงทำโน่นทำนี่ได้หลายอย่าง แค่อยู่เฉย ๆ แล้วพาคนเข้ามาดูก็ยังได้รายได้เลย“คือจะปลูกข้าวนาปีรัฐบาลบอกว่าได้นะนาปี แต่นาปรังห้ามทำนะ น้ำไม่มีนะ อะไรอย่างเงี้ยคือมันก็ไม่มีรายได้ แต่ถ้าเราดัดแปลงเออใน 8 เดือนที่เหลือ เราจะทำอะไรได้?”เด็กรุ่นใหม่ ๆ ที่อยู่เป็นลูกเป็นหลานเนี่ยช่วยคิดให้ท่าน มองให้ท่าน เราก็สามารถเอาที่ดินนี้ให้มันมีประโยชน์ได้มาก ได้มหาศาลนะครับหรือถ้ายังมองภาพไม่ออก ก็สามารถมาดูตัวอย่างได้ที่ฟาร์มลุงอ้วนมาได้เลยมาปรึกษาได้ คือมีหลาย ๆ อย่างเลยที่สามารถทำได้แบบโอ้โห ไม่ต้องลงทุนมาก และก็สามารถทำเงินได้เยอะเลย ใช่!



จากหนี้หลายล้านที่กู้มาทำ “ฟาร์ม” ความสำเร็จที่มาพร้อมผลผลิตที่เรียกว่า “ความสุข” ปีกว่า ๆ ก็จบหนี้ได้! “ฟาร์มลุงอ้วน” สวนสนุกธรรมชาติ สร้างพื้นที่เรียนรู้ชีวิตเพื่อเด็กเมือง ขอบคุณเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจดี ๆ จากลุงอ้วน-น้าเมย์และน้องภูมิ เจ้าของฟาร์มที่ร่วมแบ่งปันประสบการณ์แห่งความสุขซึ่งมอบให้กับเด็ก ๆ ทุกคนที่มาเรียนรู้เพื่อฝึกทักษะชีวิตที่นี่ และยังถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจท่ามกลางยุคเศรษฐกิจแบบนี้ แต่ทว่ากลับสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ๆ เผื่อจะเป็น Inspiration ให้กับคนอื่น ๆ ที่สนใจได้นำไปปรับให้เข้ากับตัวเองต่อไป.. สามารถติดตามกิจกรรมของฟาร์มลุงอ้วนโดยฟาร์มตั้งอยู่ที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หรือต้องการจองคิวร่วมกิจกรรมติดต่อไปที่ เพจ: ฟาร์มลุงอ้วนby Farmer Surfer (ชาวนาบ้าคลื่น) เบอร์โทร.084-755-9997

คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น