“จริง ๆ กระบวนการเนี่ยเราเรียกว่า Upcycling เลยแล้วก็สิ่งที่เกิดขึ้นที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ Zero waste โรงงานแทนที่เขาจะทิ้งเอาไว้กลีบดอกไม้เอาไว้เป็น waste ของเขาหรือว่ากว่าจะรอมีออร์เดออีกครั้งต่อไปก็เอากลีบดอกไม้มาทำงานเป็นกลีบมาลัยแทน
ละมุนมาลัยเนี่ยเป็น Heart made garland นะคะ เป็นมาลัยที่ต้องทำด้วยใจ ต้องเป็นคนที่รักที่ชอบ ก็ยอมรับค่ะว่า “ช่างมาลัย” ของ LAMUN อาจจะเป็นผู้ที่สูงวัยนิดนึง ที่ชอบงานคราฟท์(เด็ก ๆ วัยรุ่นก็คงจะไม่ค่อยถนัดงานอย่างนี้กัน) เป็นความสุขใจของเค้าค่ะเราไปพบก็เอาขนมนมเนยไปฝากท่านแล้วก็คุยกับท่านเป็นอย่างไรคะเบื่อไหมถ้าเบื่อเนี่ยออกแบบให้หนูใหม่ได้เลยนะคุณยายก็จัดเต็มค่ะ ออกแบบสีออกแบบลวดลายให้คือทำยังไงก็ได้ให้ท่านมีความสุขเนาะงานถึงจะออกมาได้สวยงามด้วย” คุณปราณี เชาว์ชัยพร หรือ พี่ณี เจ้าของแบรนด์ ‘LAMUN’ มาลัยไทยร่วมสมัย ที่ใส่ใจโลก ด้วยจุดเริ่มที่เจ้าตัวได้พูดถึงในข้างต้น ประกอบกับธุรกิจนี้ยังมีมุมน่ารัก ๆ เบื้องหลังความงดงามของมาลัยได้ซ่อนไว้อีกอย่างหนึ่งก็คือการ “ฮีลใจ” ให้กับผู้สูงวัยหรือทีมช่างมาลัยของแบรนด์ ๆ นี้ด้วย เมื่อการจ้างงานหรือว่าค่าจ้างสำหรับลูกจ้างในวัยนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องของ “เงิน” ที่มาก่อนแต่ว่ามันคือ "ความสุข" ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ได้เริ่มลงมือทำงาน ด้วยใจรักที่มีอยู่เป็นทุนเดิมก่อนแล้ว บางคนใช้ช่วงเวลานี้เพื่อลืมความเจ็บป่วยที่ตนเองกำลังรับมือกับมันอยู่ หรือแม้แต่ความรู้สึกที่ว่าการได้มีงานมีรายได้เพื่อบ่งบอกถึงชีวิตนี้ยังมีความหมายในการอยู่ต่อไป.. แหละนี่คือเรื่องราวความน่าสนใจของละมุนมาลัยที่พอทีมงานได้มีโอกาสชวนเจ้าของแบรนด์มานั่งคุยกันแล้ว ทุก ๆ เรื่องราวบอกได้เลยว่าฟังแล้วทำให้รู้สึก “อิ่มใจ” อย่างบอกไม่ถูกเลย และเห็นพ้องไปด้วยกับคาแรคเตอร์ของความเป็นละมุนมาลัยอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น
‘LAMUN’ มาลัยใส่ใจโลก ธุรกิจหลังเกษียณที่ทำด้วยใจรัก
จุดเริ่มต้นอาจจะความรักความชอบ Passion ของตัวเอง ตัวเองเป็นลูกสาว “ช่างทอง” ได้เห็นความสวยความงามมาตลอดแล้วก็ ตอนที่ทำงานอยู่ในโรงเรียนรุ่งอรุณ (โรงเรียนทางเลือกชื่อดัง) ซึ่งเป็นที่ให้ความสำคัญเรื่องของงานศิลปะโดยมีคุณครูที่เป็น “ศิลปินแห่งชาติ” อาจารย์ผ่อง เซ่งกิ่ง จะอยู่ในบรรยากาศแบบนี้และก็ประสบการณ์ที่เราสั่งสมมา“พอมาวันหนึ่งบังเอิญได้ไปเจอกับงานร้อยมาลัยในลักษณะนี้ซึ่งเป็น pain point ที่เกิดในช่วงหลังโควิดฯ ที่โรงงานเขาเนี่ยมี “กลีบดอกไม้” เหลือเยอะแยะเลย และก็ไม่มีออร์เดอในช่วงโควิด-19 เขาก็เลยเอ๊ะจะให้คนงานทำอะไรกันขึ้นมาดีจากกลีบดอกไม้ที่มัน oversupply/overproduction อยู่? เขาก็เลยลองเอามาร้อยมาลัย ร้อยเป็นพวงมาลัยขึ้นมา แล้วพี่บังเอิญได้ไปพบเข้าก็เลยเอ๊ะ เป็นเรื่องที่เราชอบและน่าจะทำได้” ก็ลองซื้อกลีบดอกไม้ของเขาเอามาร้อยเล่น ๆ ก็เอาไปอวดเพื่อนฝูงกันว่าเนี่ย ฝีมือของเราทำอะไรเงี้ย ก็ทุกคนชอบหมด ก็เลยถือโอกาสว่าเออถ้าอย่างงั้นมันเป็นอาชีพหนึ่งที่ เป็นธุรกิจเล็ก ๆ เอสเอ็มอีสำหรับเราที่เพิ่งเกษียณมา“เป็นความรักความชอบที่มันลงตัวกับจังหวะเวลาในช่วงนั้น ก็เลย ทำมาตั้งแต่ประมาณปี 2565-2566 ค่ะ ที่ทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำแจกเพื่อน ทำไหว้พระเอง”
คือพอเรามาทำเต็มรูปแบบเนี่ย ก็จะมีทั้งในส่วนที่เราจำเป็นจะต้องเพิ่มการผลิตขึ้นมาเอง เป็นดีไซน์เป็นสีสันที่เราต้องการเอง
แต่ส่วนหนึ่งเนี่ยก็ยังเป็นเรียกว่า “มาลัย” ที่นำมาจากในส่วนที่เป็น overproduction อยู่เหมือนกัน ก็จะมีทั้งสองส่วน สลับกันไปแล้วแต่ลูกค้าชอบด้วยและก็พี่ก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ว่า ละมุนมาลัยเนี่ยก็ยังอยากให้เป็น “มาลัยใส่ใจโลก”
Heart made garland
ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการใช้พวงมาลัยคือคนไทยใช้ “ดอกไม้สด” มานมนานอันนี้ดอกไม้สดก็มี pain point บ้าง อายุการใช้งาน
ราคาที่อาจจะสูง(ฤดูกาล/ดอกมะลิราคาแพง) แล้วก็ที่นึกไม่ถึงคือที่คน concern มาก ๆ เรื่องของถ้าเป็นมะลิสด หรือดอกไม้สด“การที่มันอาบฟอร์มาลีนมาบ้าง หรือพอมันเหี่ยวมันก็เป็นสปอร์ของเชื้อรา มันก็มีผลต่อสุขภาพ” ซึ่งพี่ก็มีลูกค้ารายหนึ่งเนี่ยเขาเปลี่ยนทั้งบ้านเลยเพราะว่าในบ้านเขามีคนป่วย เขาก็แฮปปี้มากว่าต่อไปนี้เขาไม่ต้องมาซื้อดอกไม้สดในทุก ๆ อาทิตย์ ขณะเดียวกันก็ไม่เป็นไรสำหรับคนที่ยังชอบดอกไม้สดอยู่ ก็คือเป็นทางเลือก“หรือจริง ๆ เนี่ยคุณตกแต่งหรือ “ไหว้” บูชาไว้ที่หิ้งพระ แล้วสัปดาห์นึงคุณอยากจะซื้อดอกไม้สดมาเพิ่มหรือว่าวันพระใหญ่ หรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะก็สามารถทำได้ทั้งหมด”
สิ่งที่พี่พยายามทำคือให้เป็น มาลัยไทยร่วมสมัย ที่เหมาะสมกับยุคสมัยตอนนี้ มีสีสัน มีดีไซน์เป็นรูปแบบที่เหมาะกับผู้คนยุคนี้ที่เห็นแล้ว บางคนอยากได้มาลัย “สี” ประจำวันเกิด ก็มี สามารถที่จะสร้างสรรค์เป็นผลงานที่เราเรียกว่า “สืบสาน ต่อยอด พัฒนา” ซึ่งทำให้มันอยู่ในสมัยใหม่นี้ได้อยู่ตลอดไป ไม่ตกยุค ไม่ล้าสมัยและก็พี่ก็มีทีม “ช่างมาลัย” ที่มีคุณภาพล้วนแต่เป็นคนที่รักในงานแฮนด์เมด รักในงานคราฟท์ คนที่จะมาเป็นช่างมาลัยของ LAMUN ต้องมีความประณีตพิถีพิถัน“มาถึงจุดนี้ 3 ปีที่ผ่านมาเนี่ย ละมุนมาลัยก็มีผลิตภัณฑ์อีกหนึ่งตัวที่เป็นเครื่องแขวน ชื่อ อุรา by LAMUN ซึ่งเครื่องแขวนก็อยู่คู่กับบ้านของคนไทยมานานตลอดเวลา จริง ๆ ตอนนี้ LAMUN เองก็มี 9 คอลเล็กชั่น เป็นมาลัยที่เหมาะกับวาระ โอกาสต่าง ๆ" รวมทั้งเป็น Custom made เราก็ยินดีทำให้ อย่างเช่น เคยทำมาลัยสีขาว-น้ำเงิน เป็นสีของธงชาติฟินแลนด์ ให้ลูกค้านำไปใช้ นำไปมอบให้เอกอัครราชทูตฟินแลนด์
ความละมุนเนี่ยก็คือความ สำหรับพี่มันคือความลงตัว ความพอดี พอเหมาะ งานมาลัยของ LAMUN อย่างที่บอกว่าก็ไม่ได้สวยเว่อร์วัง แต่เป็นงานที่สวยเหมาะกับการใช้งานได้จริง ๆ มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนว่า อันนี้เห็นแล้วเป็นของ LAMUN มาลัยนะ! มีความนุ่มมือ มีความหอม“อย่างที่เมื่อสักครู่บอกว่าละมุนมาลัยเนี่ยเป็น Heart made garland เป็นมาลัยที่ต้องทำด้วยใจ ต้องเป็นคนที่รักที่ชอบ ช่างมาลัยของ LAMUN นี่ตั้งแต่แรกก็อาจจะเป็น เพื่อนฝูง ที่ชอบงานทางด้านนี้เห็นเราทำ แล้วก็ชวนกันมาทำเอ้ยมาทำสิ แล้วก็มีออร์เดอเข้ามาเรื่อย ๆ พัฒนาฝีมือกันมาเรื่อย ๆ มีแม้กระทั่งลูกค้าที่เดินมาซื้อมาลัยของเรา มาวันที่ 1 วันที่ 2 วันที่ 3 ขอสมัครเป็นช่างมาลัยได้ไหม? นะคะซึ่งทุกวันนี้ก็สองสาวพี่น้องนั้นก็ยังเป็นช่างมาลัยของเราอยู่” แล้วก็จริง ๆ เป้าหมายเนี่ยพี่คิดว่างานของละมุนมาลัยเนี่ยอยากทำ “ประโยชน์ตน-ประโยชน์ท่าน” ประโยชน์อะไรให้กับสังคมได้บ้าง คือเป็นแผนงานที่คิดในใจตั้งแต่แรก“แล้วบังเอิญได้มีโอกาสได้เข้าไปสอน “คุณยาย” ร้อยมาลัยที่บ้านบางแค 2 อยากให้ท่านร้อยแล้วก็เป็นของขวัญตอนวันสงกรานต์ให้กับท่าน ก็เลยพอท่านแฮปปี้ ชอบ ก็เลยคุยกันว่าถ้าอย่างนั้นคุณยายร้อยให้หนูด้วยนะคะ ค่ะ หลังจากนั้นมาคุณยายก็มีความสุขมากก็รอ เมื่อไรอาจารย์จะเอากลีบมาลัยมาให้” ก็จะประมาณไปพบท่านสักเดือนละครั้งอะไรเงี้ยค่ะ ท่านก็จะทำมาให้ มีความสุข ก็บอกท่านว่าไม่ต้องรีบ ทำไปเรื่อย ๆ ทำให้มีความสุข
สินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ไทย
ต่อมาก็มีโอกาสจากทาง “ไอคอนคราฟท์” ไอคอนสยาม ซึ่งเขาสนับสนุนคนทำงานคราฟท์หน้าใหม่ ๆ เขาก็สนับสนุนเห็นว่าเราตั้งใจจริง ก็เลยได้มีโอกาสไปวางจำหน่ายที่นั่นตลอดมาตั้งแต่ปี 2566-ทุกวันนี้“ก็เป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวี่ยนมาเยี่ยมชม มาซื้อไปเป็นของที่ระลึก แล้วก็แต่ละปีเนี่ยในช่วงเทศกาลที่คนไทยนิยมใช้มาลัยมากที่สุด ก็คือวันแม่นะคะ เราก็จะมีไปเป็นป๊อปอัพ สโตร์ ที่ห้างเซ็นทรัลฯ(หลาย ๆ สาขา) และก็ตามงานแฟร์ งานโชว์สินค้าต่าง ๆ” ก็ในปีหน้าก็คิดว่า คงจะมีวางจำหน่าย LAMUN มาลัย ในห้างสรรพสินค้าอื่น ๆ เพิ่มเติม แล้วก็รวมถึงปีนี้ก็มีแผนว่า จะลองทำตลาดนอกดูซิ“เพราะเรารู้ว่ามี อย่างมีลูกค้าที่ซื้อไปฝากเพื่อนที่ญี่ปุ่นเนี่ย เขาชอบมาก เขาเอาไปโพสต์ลงโซเชียลฯ ให้เราชื่นชมมาลัยจากเมืองไทย นะคะหรือล่าสุดเนี่ยเราก็ไปร่วมออกงานฯที่เกาหลีมา ก็เป็นตลาดอีกตลาดหนึ่งที่มองว่า LAMUN เนี่ยจะเติบโตไปก้าวไป อยากเผยแพร่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยให้ต่างชาติเขาเห็น” เมื่อปีที่แล้วก็มีโอกาสได้เข้าร่วมงานกับภาครัฐหลายแห่ง ละมุนมาลัยก็เป็นสินค้า OTOP ของเขตบางแค และก็เร็ว ๆ นี้ก็จะยื่นคัดสรรดาวโอทอปก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ของกรุงเทพมหานคร Bangkok Brand แล้วก็ได้ไปร่วมงาน Hero Brand เป็นโครงการที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และก็ได้เป็น 1 ใน 27 Hero Brand ไทย ที่ภาครัฐโดยกระทรวงอุตสาหกรรมสนับสนุน แล้วก็เป็น 1 ในสินค้าของ 1 ครอบครัว 1 พลังสร้างสรรค์
“ส่วนใหญ่เนี่ยลูกค้าก็จะเห็นมาลัยจากใน เพจ : LAMUN เราและก็ตามมาซื้อหรือว่า ไปเห็นจากงานต่าง ๆ ที่เวลาเราไปออกร้านแล้วก็ทักทายเข้ามาทางเพจค่ะ แต่ออนไลน์ก็อาจจะยังไม่ได้เป็นตลาดหลักทั้งหมด แต่ว่าก็จะมีเฟซบุ้ก ไอจี และก็มีติ๊กต่อกบ้างนิดหน่อย” โดยปริมาณในการผลิตของ LAMUN จะขึ้นอยู่กับเทศกาลด้วย อย่างเช่น เทศกาลวันแม่ ผลิต 300-500 พวง/ครั้ง หรือว่าทำในช่วง timing หนึ่ง ปกติการผลิตเนี่ยก็จะผลิตอยู่เรื่อย ๆ หมายถึงว่าตามรุ่น(หรือคอลเล็กชั่น) ที่ออกมาใหม่ ๆ คือละมุนมาลัยเนี่ยมีรุ่นใหม่ออกมาอยู่เรื่อย ๆ หรือตามออร์เดอที่ลูกค้าสั่ง อย่างเคยมีเจ้าใหญ่อยู่เจ้าหนึ่งก็สั่งที 200-300 พวงเพื่อไปมอบให้ลูกค้า วันสงกรานต์ อันนี้ก็จะเป็นการสั่งล่วงหน้าสัก 1-2 เดือน ให้เรามีเวลาเตรียมงานทำอะไร
เจ้าแรกที่ใช้ “กลีบดอกไม้ผ้า” ประดิษฐ์มาลัยเป็นแบรนด์เดียว
ก็มีเข้า ๆ ออก ๆ เป็นผู้สูงวัยนิดหนึ่ง สูงสุดอายุ 74 ปี ตอนนี้คุณป้าท่านนั้นก็แบบ ช่วงนี้ป่วยขอพักสักแปบนึง ก็เรียกว่าออน ๆ ออฟ ๆ อยู่ประมาณ 10 -15 คน (ทีมช่างมาลัยของ LAMUN) อาจจะไม่ได้ทำพร้อม ๆ กันทั้งหมดอาจจะเป็นช่วงที่ ช่วงนี้คนนี้ว่าง ช่วงนี้คนนี้พร้อม อย่างเงี้ยค่ะ“หรือเรามีช่างมาลัยท่านหนึ่งเป็นผู้ป่วย “มะเร็ง” อยู่ในระหว่างการรักษาอยู่ก็ อาการดีขึ้นแล้ว แต่ก็อยากมีรายได้อยากมีงานทำ อยากมีความสุขในการทำงานที่เพลิดเพลิน ไม่มาระลึกถึงความเจ็บป่วยของตัวเองอย่างเงี้ยค่ะ” หลังจากที่ช่างมาลัยทำงานมาก็จะส่งกลับมาที่เรา เราก็จะเป็นคนที่ QC คุณภาพทุก ๆ อย่าง ว่าตรงตามที่เราอยากได้ไหม มีอะไรจะปรับแก้อะไรไหม ก็จะตรวจสอบคุณภาพพวงมาลัยทุกพวงที่จะออกตลาดไป
จริง ๆ มาลัยที่ไม่ใช่ดอกไม้สดก็คือ มาลัยดอกไม้ประดิษฐ์ ก็จะมีหลากหลายมากเลย“มาลัยแบบของละมุนมาลัยซึ่งใช้ “กลีบดอกไม้ผ้า” มาผลิตเนี่ย มีเราเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียว ที่ทำเป็นแบรนด์ LAMUN มาลัย นะคะนอกนั้นก็อาจจะมีเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณครูเอาไปให้เด็ก ๆ ร้อยมาลัยกันในวิชาคหกรรมอะไรเงี้ยค่ะ เราเนี่ยทำออกมาเป็นแบรนด์เดียวที่มีในตอนนี้” เราเน้นในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ ในแง่ของการดีไซน์ เพราะฉะนั้นเราก็จะมีอะไรที่ออกมาใหม่เรื่อย ๆ คือในตอนนี้พี่ว่ามันคงเป็นงานที่ ประณีตใช้เวลา ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาอยากจะทำว่ามันคุ้มค่า คุ้มทุนไหม? คิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้นมากกว่า“หรือบางทีเราเห็นมาลัยที่เป็นดอกดาวเรืองเนาะที่อยู่ตามศาลพระภูมิต่าง ๆ เนี่ย เขาก็แค่เอาตัว “ดอกไม้”1 ดอกมาร้อย ต่อ ๆ ต่อเนื่องกัน แต่ของเราคือ 1 กลีบของดอกไม้ ในมาลัย 1 พวงเนี่ยใช้กลีบเกือบประมาณ 200 กลีบ แปลว่าเราต้องร้อยเข้าไป 200 ครั้ง และก็ยังมีเทคนิคต่าง ๆ ร้อยยังไงให้ช่องไฟให้แพทเทิร์นสม่ำเสมอ ออกมาสวยงาม อะไรทั้งหลายเหล่านี้ค่ะ”
ราคากลาง ๆ เมื่อเทียบกับคุณภาพ ที่จับต้องได้
ถ้าคิดว่าในตลาดยังเป็นมาลัยในราคาเรียกว่าราคากลาง ๆ ที่จับต้องได้ เหมาะสมกับคุณภาพ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 250 บาท 380 บาท 500 บาท 800 บาทถึง 1,000 บาทต้น ๆ เท่านั้นเอง“ซึ่งถ้าเทียบกับบางครั้งในช่วงเวลาที่เราต้องใช้มาลัยดอกไม้สดในช่วงมะลิแพง ๆ เนี่ย เขาหลักหลาย ๆ พันแต่อันนี้ อย่างที่บอกว่าความคุ้มค่าเนี่ยคือ ใช้ได้ตลอดชีวิตเอาง่าย ๆ นะคะ” มีอาม่าท่านหนึ่งบอกว่าโอ๊ไม่ถึง 300 บาท! เนี่ยไม่ถึงวันละบาทนึง ถ้าใช้ 1 ปี มีกลิ่นหอมที่เราเติมกลิ่นได้เรื่อย ๆ“ก็พยายามละมุนมาลัยใช้น้ำหอมที่มาเป็นน้ำหอมที่จะพ่นสเปรย์ไปบนพวง ด้วยความที่เกรดดอกไม้ของเราเนี่ย กลีบดอกไม้เป็นเกรดพรีเมียมจะมีคุณสมบัติในการซึมซับน้ำหอมได้ดี จะแตกต่างกับดอกไม้ที่คล้าย ๆ กันในตลาดแล้วก็ เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์น้ำหอมของ “ภูฟ้า” ใช้ของ “โครงการหลวง” ซึ่งก็ช่วยสนับสนุนชุมชน สนับสนุนชาวเขาอีกเช่นกัน” กลิ่นมะลิ กลิ่นกุหลาบ กลิ่นเฟิน ฯลฯ หลังจากที่กลิ่นหมดไปอาจจะสักเดือนสองเดือน เติมกลิ่นที่เราชอบได้เลย ส่วนเรื่องการดูแลก็เหมือนกันกับดอกไม้ประดิษฐ์ แจกันดอกไม้ที่บ้าน อันนี้ยังง่าย ๆ กว่าด้วยซ้ำ เอาไดร์เป่าผมมาเป่าฝุ่นออก เอาเศษฝุ่นออก แล้วก็ใช้ผ้าหมาดเช็ด ๆ เพราะว่าโดนน้ำได้ หรือถ้าอาการหนัก ๆ หน่อยก็อาจจะแบบ ผ่านน้ำ เปิดก๊อกน้ำให้ไหลผ่านเอาฝุ่นออกไป แล้วก็ผึ่งแดดไว้ เหมือนเดิม
เป็น “ธุรกิจความสุข” ที่พร้อมแบ่งปันพื้นที่แห่งการเรียนรู้
คุณปราณี เชาว์ชัยพร หรือพี่ณีเจ้าของแบรนด์ ‘LAMUN’ มาลัย ยังบอกด้วย ละมุนมาลัยเนี่ยตั้งใจทำ LAMUN Studio เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ เป็น Community ของคนรักงานคราฟท์ ก็จะมีเวิร์กช้อปต่าง ๆ ที่เรารับจัดทำให้กับองค์กรด้วย เพราะว่ามาลัยเนี่ยนอกจากเป็นความสวยงาม เป็นงานศิลปะแล้วเนี่ย ยังเป็น “งานศิลปะที่ฮีลใจ” ได้แบ่งปันความสุข แล้วคนร้อยมาลัยเองเนี่ยทุกคนก็จะบอกว่า มีความสุข มีสติกับการที่นั่งร้อยมาลัย มีความจดจ่อ มีความสุขเพลิดเพลินกับสิ่งที่เกิดขึ้นปัจจุบัน(ในปัจจุบันขณะ) ก็เลยเรียกว่ามาลัยสติก็ได้“จะเอาความสวย ความเพลิดเพลิน ดีไซน์ อย่างเคยจัดเวิร์กช้อปให้กับชาวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งเนี่ย เขาตกแต่งมาลัยคริสต์มาสเขาก็โอ้โห ตกแต่งประดับสวยงามเลย ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์” ก็เรียกว่าตอนนี้ก็คือเป็น “เป้าหมาย” ของปีหน้านี่เหมือนกันว่า เราจะพยายามเปิดเวิร์กช้อปให้ได้มากขึ้น ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ
“ทบทวนกับตัวเองอยู่เรื่อย ๆ ว่า ที่ทำทุกวันนี้ยังมีความสุขอยู่ไหมนะคะ ก็อย่างที่บอกว่า “ความละมุน” เนี่ยมันต้อง แบรนด์ที่ชื่อละมุนเนี่ย มันต้องละมุนแปลว่าคุณมีความลงตัว มีความพอดี-พอเหมาะ ในชีวิตนะคะ” ก็วัยขนาดนี้แล้วก็ทำอะไรก็ได้ที่มีความสุขนะคะ ถามว่าในอนาคตต่อไปเนี่ยก็ยังอยากให้ ‘LAMUN’ มาลัยเนี่ย มีความยั่งยืน แต่ก็ไม่ได้รีบอะไร ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสค่ะ ธุรกิจนี้ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องของกำไรเรื่องของรายได้อย่าง 100% ก็ยังต้องแบ่งชีวิต บาลานซ์ชีวิต ให้มีความสุข ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ไปทำกิจกรรมอื่น ๆ มีเวลาดูแลสุขภาพตัวเอง“เป็นธุรกิจความสุข ก็คือเริ่มจากตัวเจ้าของแบรนด์มีความสุขในการทำแบรนด์นี้ก่อนนะคะ มีคอมมูนิตี้ มีเพื่อนฝูง มีช่างมาลัยของเราที่มีความสุขกับการทำงานด้วยกัน เรามีลูกค้าที่มีเจตนามาซื้อพวงมาลัยเพื่อเอาไปทำให้ตัวเองเกิดความสุข หรือไปมอบให้กับผู้ที่รัก ญาติมิตรที่เคารพให้เกิดความสุข ทั้งหมดนี้เป็นเส้นทางของ “ความสุข” เป็นความสุข เป็นสิ่งดีดี สิ่งดีงามที่เกิดขึ้นนะคะ ก็คิดว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่มันเป็นปัจจัยสำคัญของมนุษย์เรานะคะ คือความสุข”
เริ่มต้นจากคนทำจนไปถึงคนรับ “ละมุนมาลัย” ธุรกิจแห่ง “ความสุข” เอกลักษณ์ไทยที่มอบได้หลายโอกาส จากเรื่องราวทั้งหมดรวมไปถึงมุมมองต่าง ๆ จากเจ้าของแบรนด์ ‘LAMUN’ มาลัย ทางทีมงานแอบคาดหวังไว้เล็ก ๆ ว่าคงจะเป็นอีก Inspiration ดี ๆ ให้กับเอสเอ็มอีหน้าใหม่ ที่อาจกำลังก่อร่างสร้างธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเองอยู่ตอนนี้ ได้ไอเดียดี ๆ หรือแม้แต่เป็น “พลังบวก” บางอย่างให้กับเชื้อไฟในใจที่พร้อมลุกโชนในการต่อสู้ต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง เป็นกำลังใจให้สำหรับทุก ๆ ธุรกิจและเจ้าของกิจการทุกท่าน ขอบคุณตัวอย่างแห่งการริเริ่มสร้างสรรค์ดี ๆ ที่กรุณามาร่วมแบ่งปันในครั้งนี้
สามารถติดตามผลงานหรือสนใจสั่งซื้อสินค้าของ ‘LAMUN’ มาลัย ได้ตามช่องทางต่าง ๆ ที่สะดวกหรือที่ เพจ: LAMUN หรือ โทร.081-658-7595
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


