“ก็เลยเป็นจุดแข็งของเราว่าขนมปังทำไมถึงแผ่นตรง สวย และก็ขนมกินแล้วรู้สึกว่ามันไม่กระด้าง ไม่เป็นตัวเนื้อขนมปังจนเกินไป มันผสมกันระหว่างเนยกับขนมปังก็คือมันจะทำให้ได้รสชาติดี ซึ่งเราก็คัดสรรมา ว่าเราต้องการ 3 มม. เท่านั้น
แล้วก็จะถามเป็นฟีดแบ็คถึงแม้ว่าลูกค้าเป็นเจ้าประจำก็ตาม สั่งกันมา 5-6 ปีเราก็จะฟีดแบ็คกลับไปตลอด เป็นไงบ้าง ช่วงนี้ขายดีไหม ช่วงนี้รสชาติคงที่ไหม หรือช่วงนี้ในการอบคือสีมันมีความเข้มไปไหม อะไรอย่างเงี้ยครับ ณ เวลานี้ถ้าเป็นช่วงวันปกติ (จ.-ศ.) ที่ชัยไปทำงานจะมีทีมงานน้อง ๆ คอยทำไว้ให้ก็จะได้อยู่ประมาณวันละ 150 ห่อ ที่ยืนพื้นเลย แล้วก็ถ้าเป็นช่วงวันหยุด (ส.-อา & นขตฤกษ์) ที่ชัยอยู่ทำด้วยก็จะได้ตั้งแต่ประมาณ 250-300 ห่อ/วัน อันนี้คือเต็มที่แล้ว” สุดปังขนมปังกรอบ ธุรกิจเสริมที่ทำควบคู่มากับงานประจำนานกว่า 7 ปีแล้วสำหรับ “คุณชัย-เฉลิมศักดิ์ วงศ์สุวรรณ” ในวัยเพียงแค่ 35 ปีเท่านั้นแต่ทว่าด้วยความที่เป็นคนขยันขวนขวายทำมาหากินอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง ทำมาแล้วหลากหลายอาชีพมากจนกระทั่งสุดปังเพราะขนมปังกรอบ ขายออนไลน์ผ่านทาง facebook ส่วนตัวแบบไม่ได้มีการโปรโมตใด ๆ ด้วยนะ เป็นโพสต์แบบออร์แกนิคล้วน ๆ เลย ไม่น่าเชื่อ!“ชื่อนี้ก็คือเริ่มจากหัวหน้าครับที่ออฟฟิศก็แนะนำว่าเออกิจการเราเริ่มโตขึ้น หัวหน้าเลยบอกควรที่จะมีชื่อแบรนด์เป็นของตัวเองนะ ก็เลยคิดว่าเออเราจะใช้ “แบรนด์” อะไรดี? มานอนคิดนั่งคิดพอเสร็จปุ๊บเพลงของน้องมิลลิออกมาชื่อว่า สุดปัง ก็เลยพอฟังแล้วแบบ เออชอบ! คำว่าสุดปังก็คือ ปังก็คือขนมปัง สุดก็คือไปให้สุด ไปให้สุดเลยปังของเรามันจะต้องสุด! เลยเอามาตั้งเป็นชื่อแบรนด์ “สุดปังขนมปังกรอบ” ครับ”
ทำมาหลายอย่างควบคู่ “งานประจำ” กระทั่ง “สุดปัง” เพราะขนมปังกรอบ
ก็คือของชัยทำงานประจำด้วยเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัย ทำอยู่ที่โรงพยาบาลรามาฯ ช่วงก่อนที่จะมาทำอันนี้คือชัยผ่านการทำมาหลากหลายอาชีพมาก ๆ ในระหว่างที่ทำงานก็จะมีอาชีพเสริมหลายอย่าง ขายยำ ขายทอดมัน ขายเสื้อผ้า เปิดร้านเครื่องสำอาง รับจัดทำสวน รับทำสังฆทาน ฯลฯ เยอะแยะเลยแต่ว่า ไม่สำเร็จ จนกระทั่งมีพี่ที่รู้จักกันเขาเลยบอกว่าหยุดเถอะไม่ต้องทำ มาช่วยพี่ขายเสื้อผ้าดีกว่า(อยู่ที่เทอร์มินอล21) ตอนแรกก็โอเคนะไปได้ดีก็คือทำเสาร์-อาทิตย์และช่วงวันหยุด พอกระทั่งช่วงโควิด-19 มาทุกอย่างก็จบ! ห้างก็ต้องปิด ชัยก็เลยคิดว่ามันก็ช่วงว่างเนาะระหว่างที่ทำงานประจำเอาอะไรเสริมดี? “ขนมปังกรอบแล้วกันเพราะว่าคิดแผนไว้ ตั้ง 3-4 ปีแล้วยังไม่ได้เริ่มทำสักที คือเราวางแผนไว้หมดแล้วว่าขนมปังต้องไปซื้อที่ไหน ตัวเนยต้องทำยังไง ต้องไปหาสูตรตรงไหน มาปรับสูตรตรงไหนให้มันเข้ากับสูตรของเราและก็ลูกค้า”หลังจากนั้นก็เริ่มทำได้เริ่มทำขนมปังกรอบจาก “หม้ออบลมร้อน” อบได้ครั้งละ 8 ชิ้น ออร์เดอมา 20 กระปุก อบตั้งแต่ช่วงเลิกงาน(18.00น.) จนถึงตี 4 กว่าจะได้ครบ แล้วหลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยน พอลูกค้าเริ่มมากขึ้นก็มีลูกค้าติดต่อมาว่าอยากเอาขนมลงร้านช่วยเคาะราคาให้หน่อย ช่วยทำออร์เดอให้หน่อยช่วงตอนเที่ยงคืน ตอนนั้นก็แบบว่านอนแบบอุ๊ยดีใจคิดว่าถ้าเกิดว่าเราได้ เราจะซื้อเตาเพิ่ม ตอนเช้าเคาะราคาส่งลูกค้า ลูกค้าบอกโอเค “รสชาติ” อร่อยมากเขาก็เอาลงร้านเลย ร้านเขาอยู่โชคชัย4 เป็นลูกค้าเจ้าแรก“ทุกวันนี้ก็ยังออร์เดอ ครั้งแรกเขาออร์เดอ 30 ห่อ ทุกอาทิตย์ ตอนนี้ออร์เดอก็เป็นร้อยห่อ ทำให้เราเริ่มรู้แล้วว่า เราควรที่จะไปทางไหนเราควรที่จะหาtarget ลูกค้าแบบไหน ลูกค้าปลีกหรือลูกค้าส่ง อะไรอย่างเงี้ยครับ”
จาก “หม้ออบลมร้อน” เล็ก ๆ เริ่มไม่ทัน! ต้องขยับไซซ์เป็นเตาใหญ่
เริ่มแรกเลยคือชัยซื้อเนยสำเร็จมาก่อน เนยที่เขาปั่นผสมสำเร็จแล้ว พอเอามาลองทำเรารู้สึกว่ารสชาติมันยังไม่ได้ ก็ต้องไปตามหาสูตร หาสูตรมีครูคนไหนเปิดสอนก็ไปเรียนออนไลน์ พอเรียนก็คือเพื่อที่จะได้รู้เทคนิค“1.ขนมปังทำยังไงไม่ให้มันงอ เพราะว่าขนมปังที่เราใช้คือมันแผ่นบาง แผ่นบางมาก เพราะว่าถ้าเกิดเวลาเราอบอย่างเงี้ยขนมปังมีความ “งอ” หงิกไม่สวย อย่างเงี้ยฮะก็ไปหาเรียนรู้กับครูออนไลน์ ก็ได้ทั้งสูตรได้อะไรมา เสร็จก็มาปรับรสชาติของ “เนย” ให้เข้ากับเราและก็ลูกค้า เวลาเราทำเสร็จปุ๊บเราก็จะส่งให้ลูกค้า ลูกค้ากลุ่มแรกเลยคือพี่ที่ออฟฟิศ เขาก็จะชิมให้เขาก็จะบอกให้ว่าควรเพิ่มอะไร ควรลดอะไร หรือควรจะไปแบบในทางไหน พอหลังจากนั้นพี่เขาก็จะแนะนำทุกอย่างให้หมดเลยแนะนำเสร็จปุ๊บ เขาก็จะไปบอกต่อให้ เออน้องคนนี้มันขายขนมปังกรอบนะมันไอ้นี่นะมันอร่อยนะ แผ่นมันบางมากเลยนะไม่เหมือนใครนะอะไรอย่างเงี้ยครับ มันก็เลยเป็นจุดเริ่มต้น”
รสชาติหลักในตอนแรก ๆ เลยก็จะมีอยู่ 2 รส มี เนยน้ำตาล กับเนยกระเทียม(รสชาติที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยดี) เพราะว่าตอนแรกก็คือลูกค้าเขาที่เราขายส่งให้ เขาแค่ต้องการ 2 รสนี้พอมาเรื่อย ๆ ลูกค้าคนนั้นต้องการรสนี้ ลูกค้าคนนี้ต้องการรสนั้นเขาก็จะแบบ ทำรสนี้เพิ่มสิ ใส่โกโก้เพิ่มสิ ฯลฯ รสชาติก็จะมีความแตกต่างกันไป และเราก็จะคิดค้นขึ้นมาหลาย ๆ รส เช่น รสเนยนมฮอกไกโด รสชาเขียว รสกระเทียมโบราณ อะไรอย่างเงี้ย มันก็จะมีหลายรสเพิ่มขึ้นมา “แล้วหลังจากนั้นเราก็โพสต์หน้า FB ว่าเราทำอะไรขึ้นมา เรามีอะไรขึ้นมาอะไรอย่างเงี้ยครับ ลูกค้าก็อยู่ใน FB เพื่อน ๆ เขาเห็นเขาก็เลยเอ้อสั่งหน่อยสิ ลองชิมหน่อยสิ”
ขนมปังคือของชัยทำมาทั้งหมดตอนนี้ เข้าปีที่ 7 ผ่านร้านผ่านหลายเจ้ามามาก กว่าจะลงตัวเจ้าที่แบบเออเนี่ยใช่! เพราะว่าบางเจ้ามาคือขนมปังเขาจะมีความชื้นมาก เนื้อเขาจะมีความหนา จะต้องเอามาผึ่งบ้างอะไรบ้างพื้นที่ตรงนี้แต่ก่อนจะเป็นที่ผึ่งขนมปังทั้งหมดเลย เรารู้สึกมันไม่ทัน เพราะออร์เดอลูกค้าเริ่มเยอะขึ้นเจ้าหนึ่ง เจ้าต่อไปก็ประมาณพันห่อแล้วอะไรแล้ว ทำยังไง? หาอีก มาสไลด์เองก็แล้ว ก็ไม่ได้อะไรไม่ได้ จนกระทั่งมาเจอเจ้านี้เขาก็คือแกะถุงแล้วก็ทำได้เลย
หลังจากประมาณ 4 ปี ใช้หม้ออบลมร้อนแล้วก็มาเปลี่ยนเป็นเตา 100 ลิตร พอมาเตา 100 ลิตรเสร็จเป็นเตาแก๊สล้วน เตาแก๊สล้วนก็จะอบได้อยู่ 2 ชั้น(5ถาด) พอหลังจากเตาแก๊สเสร็จปุ๊บเริ่มไม่ทันแล้ว! ก็เลยแบบว่าไม่ทันแล้ว ไม่ได้แล้วก็เลยไปเป็น “เตาอุตสาหกรรม” 3 ชั้น 9 ถาด แต่ของชัยอบ 3 ชั้น 15 ถาด แต่เวลาทำงานก็คงยังเป็นช่วงหลังจากเลิกงานกลับมา “ก็คือหลังจากชัยกลับมาถึงบ้าน 18.30น. ก็หลังจากนั้นคือสตาร์ททำทั้งหมดเลย หน้าที่หลัก ๆ เลยก็คือจะเป็นการอบ แพค เตรียมส่ง และก็พอเสร็จปุ๊บก็จะมาดูออร์เดอในแต่ละวัน วันรุ่งขึ้นต้องมีออร์เดออะไร ต้องส่งใคร ปั่นเนยเท่าไหร่ ก็จะเตรียมใส่ตู้เย็นไว้”
การตลาดแบบ “บอกต่อ” ลูกค้าอยู่ไกล ๆ ก็ส่งได้โดยไม่เสียหาย
ลูกค้าเริ่มพูดต่อ ๆ กัน คือชัยไม่ได้มีการโปรโมตเพจไม่ได้มีการอะไรเลย ก็จะเป็นการพูดต่อกันระหว่างลูกค้า ลูกค้า ๆ การโพสต์ก็จะเป็นใน facebook ส่วนตัว ก็คือใน FB ก็จะมีลูกค้าที่มาจากเครื่องสำอางบ้าง เสื้อผ้าบ้างอย่างเงี้ย ช่วงโควิดฯ เขาก็ช่วยซื้อ พอช่วยซื้อเสร็จเขาก็ไปรีวิวพอรีวิวเสร็จก็จะมีคนติดต่อมาอู้ยอยากกินบ้าง อู้ยเราเปิดร้านอยู่นะเราต้องการอะไรอย่างเงี้ย ในต่างจังหวัดที่เราจะส่ง เราก็ต้องมานั่งคิดแล้วเราจะส่งยังไง? เพราะว่าขนมปังคือมันแผ่นบางมันบางแบบ ถ้าส่งขนส่งเมืองไทยก็คือ(ได้ยินหลายๆ คนบอกว่ามันแตก) เละเลย! ชัยก็ต้องไปคิดหาวิวัฒนาการเพิ่มขึ้นอีก“ใส่ซองเพิ่มไหม หรือว่าใส่กันกระแทกตรงส่วนไหน ก็ลองทำมาหมดแล้วจนกระทั่งมาจบที่ “ใส่ซอง” แพคขนมเป็นชิ้น ๆ แล้วก็ใส่ลงกล่องอีกทีหนึ่ง ก็จะส่งต่างจังหวัด แล้วก็ขนมชัยไม่ได้ส่งแค่ในเมืองไทย ตอนนี้ก็คือส่งไปยันเกาหลี ไปลาว ไปอเมริกา ไป UK ไปญี่ปุ่น อย่างเงี้ยครับแถบพวกนี้ไปได้เยอะเลย สิงคโปร์ก็ไปมาแล้ว(หัวเราะ)” เป็นการตลาดบอกต่อทั้งหมดเลยชัยไม่ได้มีการโปรโมตเพจเลย ออร์แกนิคล้วน ๆ ลูกค้าบอกต่อกันล้วน ๆ
ก็คือของชัยเริ่มต้นก็คือเป็น “แผ่นบาง” ดังนั้นก็จะเป็นหลักเลยขนมปังต้องเป็นแผ่นบางเท่านั้น แล้วก็รสชาติก็จะมีตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 7 รสชาติ ก็จะมี เนยน้ำตาล เนยนมฮอกไกโด เนยกระเทียม เนยกระเทียมโบราณ เนยโกโก้ เนยชาเขียว เนยพริกเผาหมูหยอง อะไรพวกนี้ ที่ป๊อบปูลาร์และ TOP3 อยู่ตลอดเลยก็คือจะเนยน้ำตาล เนยนม และก็เนยกระเทียม นี่คือร้านไหนก็ต้องสั่งหรือลูกค้าปลีกที่สั่งไปกินก็ต้องมี “แล้วก็เรามีขนมปังตัวนี้แล้ว มันเริ่มซามันเริ่มลูกค้าก็ส่งได้แค่เฉพาะร้านเราก็เลยคิดขึ้นมา อ้าวงั้นทำเป็น “กล่อง” ไหมเพื่อที่จะส่งออร์เดอต่างจังหวัดได้ ก็ทำเป็นแบบกล่องเหมือนกล่องข้าวขึ้นก็ส่งเป็นออร์เดอต่างจังหวัดได้ด้วย หลังจากนั้นทำยังไงต่อยากจะคิดเพิ่มต่อยอดขึ้นไปอีก “ฝาแดง” ฝาแดงปกติเราจะเห็นขนมโหลฝาแดงที่ตามร้านทั่ว ๆ ไปใช่ไหมฮะ ซึ่งเขาก็ยังไม่มีขนมปังกรอบ ชัยก็เลยเอาลองขนมปังกรอบที่เป็นกะโหลกจิ๋ว(ขนาด4 มม.) ซึ่งมันก็จะเป็นบาง ๆ เหมือนกันก็เอาใส่ลงไป พอใส่ลงไปเสร็จปุ๊บ ลองโพสต์หน้า FB ว่าเออเรามีใส่อันนี้นะ เป็นการโพสต์ที่ไม่ได้เชิงขาย ก็เป็นการโพสต์เล่น ๆ ว่าเรามีใส่อันนี้ก็ดูสวยดีนะอะไรอย่างเงี้ย หลังจากนั้นพอโพสต์ไปเสร็จปุ๊บ ก็มีลูกค้าติดต่อเข้ามาต้องการ 1,000 กระปุก(หัวเราะ) แค่เจ้าเดียวนะฮะ แล้วก็จะมีอีกเจ้าสองสามเจ้าก็ต้องการเป็น 1,000 กระปุกเหมือนกัน ก็แบบโอ๊! ก็ต้องหาวิธีในการทำ”ลูกค้าก็สั่งออร์เดอเสมอ ก็โชคดีที่ลูกค้าเก่าก็ยังฟีดแบ็คกลับมาเหมือนเดิมก็ไม่ได้หายไปไหน 70% ของลูกค้าเก่าคือกลับมาสั่งซื้อ
ทำสดใหม่ต่อ order ลูกค้านำไปขายต่อ หรือสั่งเป็นของฝากก็ได้
เป็นร้านคาเฟ่ ร้านกาแฟ และก็เป็นร้านเบเกอรี่เฉพาะ แล้วก็มีร้านขายอาหาร หลัก ๆ เลยที่พี่เขาสั่ง เป็นลูกค้ากันมาตั้งแต่วันแรกก็ยังเป็นต่อเนื่องกันมาถึงปัจจุบันเลย จากที่ 30 ห่อ(ลูกค้า 1 เจ้า 30 ห่อ) เป็น 100 ห่อ อีกเจ้าหนึ่งทุกวันนี้ก็คืออาทิตย์ละ 1,000 ห่อ(หัวเราะ) ซึ่งขึ้นไปเป็น 1,000 เป็นอย่างเงี้ยอยู่ตลอดเลย ลูกค้าเคยฟีดแบ็คเรื่องรสชาติให้ฟัง“เอาล่าสุดเลยลูกค้าเป็นเจ้าประจำซึ่งเขาเปิดสาขา 2 เขาก็สั่งออร์เดออาทิตย์ละ 1,000 ห่อ เขาก็ไปวางขาย ลูกค้าของเขากลับมาบอกว่ารสชาติเหมือนห้างพารากอนเลย เขาไปกินที่ห้างพารากอนแล้วแบบว่า รสชาติแบบใช่เลย! แต่ราคาแบบว่าโอเค ราคาที่ไม่ได้แบบสูงอะไรอย่างเงี้ยฮะ ก็เลยแบบโชคดีจัง ดีใจจัง อะไรอย่างเงี้ย” เพราะว่าชัยจะไม่ทำสต็อกไว้พวกนี้ คือมันเป็นขนมแห้งถ้ามันมีการสต็อกแล้ว คือเราต้องเผื่อลูกค้าด้วยว่าเขาไปวางขายหน้าร้าน เขาจะขายจำนวนกี่วัน โดยประมาณ 10-15 วัน ถ้าเราเอาไปค้าง/ถ้าเราทำสต็อกมาค้าง 5 วัน ไปบวกกับเขาอีก (15 วัน) เป็น 20 วัน ขนมมันจะไม่มีความอร่อยแล้วอย่างเงี้ยครับ ชัยก็เลยคิดว่าเป็นออร์เดอต่อออร์เดอดีกว่า ลูกค้าออร์เดอมาเราทำ “ตอนนี้ก็จะมีอยู่ 3 เจ้าที่เป็นการสั่งทุกอาทิตย์ ต้องส่งทุกอาทิตย์เลย เพราะเขาก็ขายหมดเลย ก็คือเป็นความโชคดีที่ว่าเขาก็ขายเก่งด้วย เราก็ทำต่อส่งให้เขาได้ทันด้วย แล้วพอหลังจากนั้นก็จะมีลูกค้าที่เป็นกลุ่มรายย่อย 2 อาทิตย์/ครั้ง , 1 เดือน/2 ครั้ง หรือ 2 เดือน/1 ครั้ง อะไรอย่างเงี้ยครับ ก็จะมีเข้ามาเรื่อย ๆ
ราคา ถ้าเป็นห่อแบบนี้ก็จะเริ่มต้นอยู่ที่ราคาส่ง 32 บาท ราคาปลีกที่เขาไปขายกันก็อยู่ 50 บาท ก็คือคนที่เอาไปขายไม่ต้องทำอะไรเลยรับเหนาะ ๆ เลยสิบกว่าบาทแล้วกำไร ทุกรสชาติ แล้วก็จะมีที่เป็นกล่องแบบนี้ กล่องแบบนี้สามารถส่งต่างจังหวัดได้(ชัยก็จะแพคเป็นชิ้น ๆ ให้ก่อนใส่ลงไปในกล่องอีกทีหนึ่ง) ตัวนี้ก็ราคาปลีกอยู่ที่ 60 บาท ราคาส่งก็จะอยู่ที่ 45 บาท ขั้นต่ำ 30 กล่องอย่างเงี้ยครับ แล้วก็จะมีที่เป็นตัวกระปุกฝาแดง ตัวพีคตัวนี้มาใหม่ก็ราคาส่งจะอยู่ที่ 90 บาท ราคาปลีกเขาไปขายกันจะอยู่ที่ 120-130 บาท อันนี้ก็น้ำหนักประมาณ 250-260 กรัม“ก็จะมีลูกค้าหลาย ๆ ท่านเลยสั่งปีละครั้ง ช่วงปีใหม่เท่านั้น เป็นของฝากก็จะมีพี่ช่างแต่งหน้าดาราเขาก็จะออร์เดอมาพอดีเขาจะต้องไปให้คนโน้นคนนี้ ปีละครั้งเลย ครั้งเดียวแต่เขาก็มาสั่งเนี่ย 5,6, 7 ปีแล้วฮะ เพราะว่าชัยจะต้องรองรับลูกค้าทุกกลุ่มให้ได้ ว่ากลุ่มไหนช่วงเทศกาลไหน ต้องการแพคเก็จแบบไหน ต้องการอะไรอย่างเงี้ยฮะ”เพราะว่าอย่างว่าเมืองไทยเรามันมีหลายเทศกาล ตรุษจีน ปีใหม่ สงกรานต์ อะไรอย่างเงี้ยครับ ถ้าเป็นช่วงปีใหม่อย่างเงี้ยชัยจะเปิดรับออร์เดอตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน จองเข้ามาเลยว่าลูกค้าต้องการเมื่อไหร่วันไหน แล้วชัยก็จะไปลงในปฏิทินของชัยว่าต้องทำของเจ้านี้เมื่อไรต้องส่งเมื่อไหร่ แต่ชัยก็ต้องเผื่อของลูกค้าประจำเราด้วยที่เขาจะต้องออร์เดออยู่แล้วทุกสัปดาห์ จะพยายามถามเขาก่อนว่าช่วงปีใหม่คือออร์เดอจะอยู่ในช่วงประมาณกี่ห่อ เพื่อที่ว่าชัยจะได้รับจากเจ้าอื่น ๆ ได้เพิ่มขึ้นเยอะขึ้นอย่างเงี้ยครับ มันก็จะได้เป็นถัวเฉลี่ยกันไป
ดูเหมือนง่ายแต่แอบ “ยาก” ไม่เข้าใจก็ปราบเซียนได้เหมือนกัน!
ซึ่งเราก็จะฟีดแบ็คจากลูกค้าเรื่อย ๆ ว่า รอบนี้เป็นยังไง แบบไหนหรืออะไรอย่างเงี้ยครับ เพราะบางทีคือเราก็ต้องดูด้วยอย่าง
กระเทียม บางแต่ละรอบ “กลิ่น” มันไม่เท่ากัน กลิ่นไม่เหมือนกัน หรือแม้แต่ “น้ำตาล” ก็มีผลกับรสชาติที่เปลี่ยนไป ซึ่งเราก็ต้องดูเราก็ต้องเก็บรายละเอียด อย่างถ้าเกิดว่าเราไปใช้น้ำตาลขาวทั่วไปความหวานมันจะโดดมาก อย่างถ้าเราไปใช้ยี่ห้อนี้ความหวานไม่เท่ากับยี่ห้อนี้ ซึ่งเราก็ต้องดูแล้วว่าลูกค้าฟีดแบ็คมาความหวานเป็นยังไงแบบไหนเราต้องเก็บ DATA ทั้งหมด“เพราะว่าขนมคือของกินน่ะฮะบางคนคิดว่าก็แค่ ขนมปังกรอบ จะอะไรมากอะไรอย่างเงี้ยแต่พอถ้าเกิดว่า เป็นคนทำจริง ๆ แล้วจะรู้เลยว่าบางสิ่งบางอย่างคือมันไม่ใช่แค่ขนมปังกรอบมันคือเป็นขนมที่แบบ The Best มากทุกยุคทุกสมัย ทุกช่วงทุกเวลาและก็ช่วงวัยด้วย ทุกคนกินได้หมดอย่างเงี้ย ดังนั้นถ้าเราจะทำยังไงให้ขนมปังกรอบเราอยู่ยาว อยู่นาน และลูกค้ากินแล้วรู้สึกว่าเอ้อ มันเหมือนตั้งแต่วันแรกที่ทำ ดังนั้นเราต้องดูเลยว่าวันแรกเราใช้อะไร ยี่ห้ออะไร จำนวนเท่าไหร่ อะไรอย่างเงี้ยครับคือให้คงสภาพถึงแม้ว่าวัตถุดิบจะแพงขึ้นแต่เราก็ยังคงสภาพอยู่ ทั้งราคาและก็คุณภาพ”
เราต้องการกินแบบไหน (ความคาดหวังในเรื่องขนมปังกรอบ) เพราะว่าชัยเป็นคนชอบกินขนมปังกรอบมาก แล้วก็คือจะรู้เลยว่า
ตอนแรกโอแผ่นหนาจังเลย! แล้วพอไปเจออีกเจ้าหนึ่งแผ่นบางเอ้อ! รสชาติมันเข้ากันดีนะ แต่ว่าบางทีมันก็จะมีแบบ บางเกินไปอย่างเงี้ยซึ่งเราก็จะมอง เราต้องการแบบไหน เราดูซิว่าเออเราอยากกินแบบไหนเราอยากบริโภคแบบไหน เราอยากกินเรารู้สึกมีความรู้สึกแบบไหน เอามาใส่ลงในขนมปังของเราแล้วเราก็ดูฟีดแบ็คจากลูกค้า ว่าสิ่งที่เราใส่ลงไปลูกค้าโอเคไหม? ถ้าลูกค้าโอเค จบ แต่ถ้าลูกค้าไม่โอเค ฟีดแบ็คอะไรเราต้องแก้“แก้ในที่นี้ก็คือ ไม่ใช่แก้ทั้งหมดก็จะดูว่า ควรแก้ช่วงไหน ควรแก้อะไร ควรแก้แบบไหนอะไรอย่างเงี้ย เพราะว่าบางทีคือ “เตา” เตาอบเรามันมีความเหวี่ยง มันมีไฟเหวี่ยงอย่างเงี้ย ถ้าเกิดช่วงหน้าร้อนอู้ยไฟเหวี่ยงสูงเลย ถ้าช่วงหน้าฝนอย่างเงี้ย ก็จะมีความแบบว่าชื้น ๆ ขนมปังอบก็จะไม่ค่อยกรอบ มันก็เลยเป็นอะไรที่แบบว่า ขนมปังกรอบนี่คือ ปราบเซียน ถ้าคุณสู้ได้มันไปต่อได้ แต่ถ้าเกิดว่าคุณสู้ไม่ไหว จบ!”ก็คือเราก็ต้องคอยดู เข้าใจของตัวขนมปังกรอบเราด้วยว่าชีวิตของเขา เขาต้องการแบบไหน ความชื้นเยอะไปก็ไม่ดี ร้อนไปก็ไหม้ อากาศมีความพอดี ๆ คือช่วงไหนต้องทำยังไง ต้องไฟแบบไหน อะไรอย่างเงี้ยครับ
ออร์เดอปังแบบไม่มีพัก!
คุณชัย-เฉลิมศักดิ์ วงศ์สุวรรณ เจ้าของแบรนด์ “สุดปังขนมปังกรอบ” เล่าให้ฟังด้วย ตลาดก็ยังขยายเรื่อย ๆ โตเรื่อย ๆ และก็รสชาติก็จะมีผลัดเปลี่ยนมาเรื่อย ๆ อย่างเงี้ยครับ ในอนาคต “สุดปังฯ” อาจจะต้องขยายเพิ่มมากขึ้น มีฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้นแล้วก็มีไลน์การผลิตที่เพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น อาจจะผลิตขนมปังเอง อาจจะสไลด์ขนมปังเอง อะไรประมาณนี้ครับ แล้วก็มีไลน์เมนูของขนมปังหรือเมนูอื่น ๆ ของที่เกี่ยวกับเบเกอรี่มากขึ้น เจออุปสรรคอะไรบ้างในอาชีพนี้“โอ๊! อุปสรรคเยอะมากเพราะว่า ในเรื่องง่าย ๆ เลยตัวเมนูหลักของเราคือ ขนมปัง ขนมปังบางทีมาบางล็อตไม่ดี ขนมปังมาบางล็อตเป็นรู ขนมปังมาบางล็อตแบบว่าไม่แห้ง คือแบบบางทีโอ๊! เยอะเลยสารพัดเลย หรือแม้กระทั่งตัว “เนย” บางทีถ้าเกิดเราทำช่วงหน้าร้อน มันมีความเหลวมาก พอมันมีความเหลวเวลาเราปาดลงเนยก็มีปัญหา เนยมันก็จะไหลลงด้านใต้ของขนมก็เวลาอบเสร็จ ขนมปังติด แตกหักอีกอย่างเงี้ย หรือ “ไฟ” อีกของเตาอีก ถ้าเราเปิดไฟแรงเกินไปขนมไหม้ กลายเป็นว่าจากกรอบเป็นเกรียม อย่างเงี้ยครับก็จะมีหลายอย่าง ในเรื่องของ “ขนส่ง” อีกขนส่งถ้าเกิดว่าขนส่งบ้านเราคือแบบ เราก็ที่รู้ ๆ กันอยู่เนาะ(หัวเราะ) ยังไงก็แตก ก็เลยเราก็ต้องหาอีกวิธีว่าเราจะใช้ขนส่งไหน ถ้าเป็นขนส่งต่างจังหวัดเราถามลูกค้าก่อนสามารถส่งรถทัวร์ได้ไหม? ขอส่งรถทัวร์ได้หรือเปล่า ถ้าได้ โอเค แต่ถ้าเกิดเขาบอกว่าไม่ได้รถทัวร์ไม่เข้า ก็จะต้องทำเป็นขนมแพคเป็นชิ้นเป็นนู่นเป็นนี่แพคให้ดี ก็อาจจะมีแตกบ้างแต่น้อย” ซึ่งเราก็ต้องคิดเผื่อลูกค้าด้วยบางทีคือ ถ้าเกิดเราขายอย่างเดียวโดยที่เราไม่ได้คิดว่าขนมไปถึงแล้วจะปลอดภัยไหม ถ้าเกิดเราแบบจบ ๆ ฉันได้เงินแล้วฉันไม่รู้แล้วว่าปลายทางเป็นยังไง อย่างเงี้ยก็คือไม่โอเค ชัยก็จะแบบคิดไว้ว่าปลายทางต้องไปขนมสวยนะ เขาเพื่อที่จะได้ไปขายต่อและเพื่อที่เขาจะได้กลับมาหาเราต่ออย่างเงี้ยครับ ก็เคยมีแบบว่าที่ส่งแบบขนส่งทั่วไปแล้วแตก! 50 กล่อง เคลมหมดเลย โดยที่ชัยไม่ได้ให้เขาส่งกลับมาชัยทำเคลมส่งให้ใหม่หมด
มีการบริหารจัดการอย่างไรระหว่าง “ธุรกิจ” กับการทำงานประจำควบคู่ไปด้วย“ในการ manage ของชัยอาจจะยากนิดหนึ่ง แต่โชคดีที่ว่าเราทำงานประจำแล้วมีทีมงานที่ดีหรือมีทีมงานที่ support มีหัวหน้าที่ดี มีหัวหน้าที่เข้าใจ มีเพื่อนร่วมงานที่เข้าใจ ดังนั้นคือเมื่อเขาเข้าใจเรา เราก็ต้องเข้าใจเขา งานประจำก็คืองานประจำ ดังนั้นงานประจำเราจะต้องไม่พลาดต้องเป็นหลัก ถ้างานประจำเป็นหลัก เราทำได้ดี งานเสริมเราก็มาต่อยอดได้ ดังนั้นถ้าช่วงเช้าที่เราไปทำเราก็ทำงานของเราให้เต็มที่เลย มีงานอะไรเราก็ทำไป ถ้าช่วงเย็นก็คืองานนี้ คืองานของฉัน งานของเรา เราก็ทำงานของเรา ในการ manage ก็คือ อย่างพวกเนยพวกอะไรชัยก็จะปั่นไว้พร้อมเลย ในของออร์เดอในวันรุ่งขึ้น ก็จะบอกแม่ที่เขาเป็นพนักงานปาด บอกหลานบอกน้อง ๆ ทีมงานว่าออร์เดอของวันรุ่งขึ้นจะต้องปาดอะไรจำนวนเท่าไหร่ เราก็จะต้องวางแผนไว้ เราจะต้องดูแล้วว่าออร์เดอวันรุ่งขึ้นเรามีอะไร เนยเราจะต้องปั่นจำนวนเท่าไหร่เสร็จปุ๊บ เราก็จะเขียนไว้ที่หน้ากระดานไว้พร้อมเลย เช้ามาเขาก็จะจัดการ” มีวันหยุดบ้างไหม จะบอกว่าตอนนี้ยังไม่มี(หัวเราะ) จริง ๆ เคยกำหนดเอาไว้แล้วว่าจะหยุดทุกวันจันทร์ แต่บางทีออร์เดอมันมาก็เลยแบบว่าขอทำหน่อยนะอะไรอย่างเงี้ย กลายเป็นว่าวันจันทร์-อาทิตย์ คือ ผลิตทุกวัน ทำทุกวัน ส่วนกำลังการผลิตต่อวันก็ตามที่ได้แจ้งในข้างต้นแล้วซึ่งอันนี้คือเต็มที่สุด ๆ แล้ว บางทีก็คือมันล้น บางทีมันล้นมากแต่ว่าก็พยายามที่จะทำให้มันอยู่ในแม็กซ์ของเรา พยายามที่ไม่ให้ล้นเกินจะได้ ลูกน้องจะได้ไม่เหนื่อยมาก ตัวเราด้วยจะได้ไม่เหนื่อยมาก คืออย่างน้อยก็ต้องได้พักด้วย
การตลาดแบบบอกต่อส่งคาเฟ่และร้านเบเกอรี่ชื่อดัง “สุดปัง” ออร์เดอ7 วันไม่มีพัก! ขนมปังกรอบแผ่นบาง(3มม.) ทำสดก่อนส่งเท่านั้น ดูเหมือนง่ายแต่แอบ “ยาก” ถ้าไม่เข้าใจก็ปราบเซียนได้เหมือนกันสำหรับ “ขนมปังกรอบ” กว่าจะสำเร็จและมีออร์เดอสุดปังมาอย่างต่อเนื่องกว่า 7 ปีควบคู่กับการทำงานประจำด้วย ขอบคุณเรื่องราวและเทคนิคที่สำคัญในการผลิตจนสามารถครองใจตลาดได้ของ “สุดปังขนมปังกรอบ” โดยเจ้าของธุรกิจสุดขยัน “คุณชัย-เฉลิมศักดิ์ วงศ์สุวรรณ” ที่กรุณาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในครั้งนี้ สามารถติดตามหรือสั่งจองออร์เดอขนมปังกรอบที่ขอคอมเฟิร์มด้วยอีกแรงว่า อร่อยจริง ๆ ของทางร้านได้ทาง FB : เฉลิมศักดิ์ วงศ์สุวรรณ หรือ โทร.061-324-5391
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด