พารู้จักกับ “กระป๋องคาร์ไทยแลนด์” รถกระป๋องที่ทำจากถังน้ำมัน 200 ลิตรที่มีจุดเริ่มต้นจากการต้องการทำรถของเล่นให้ลูกชาย สู่การต่อยอดเป็นรถกระป๋องที่ใช้งานได้จริง สร้างรายได้หลักให้ครอบครัว ใน 2 เดือนผลิตได้ 5 คัน ตอบโจทย์ลูกค้าผู้ประกอบการร้านคาเฟ่และลูกค้าที่ชื่นชอบงานคัสตอมฝีมือคนไทย ราคาสุดปังเริ่มต้นที่ 69,000 บาท
นายวัชรพงษ์ พาพาน หรือ ช่างต้อง เจ้าของร้านกระป๋องคาร์ไทยแลนด์ จ.ร้อยเอ็ด เล่าว่า จุดเริ่มต้นในการทำรถกระป๋องมีที่มาจากการเป็นลูกจ้างช่างเหล็ก ช่างเชื่อมมาก่อน ซึ่งระหว่างการทำงานก็จะใกล้กับวันเกิดของลูกชาย จึงเกิดความคิดถึงเพราะไปทำงานต่างจังหวัด เลยคิดจะสร้างของขวัญเป็นรถเล็กๆ ที่สามารถขับเล่นด้วยกันพ่อลูกได้ โดยเริ่มจากเก็บเอาของเก่าจากร้านขายของเก่าแล้วเจอกับวัสดุต่างๆ ที่สามารถประกอบเป็นรถขึ้นมาได้ ซึ่งช่างต้องประกอบรถขี่เล่นจากวัสดุของเก่ากับเครื่องยนต์การเกษตร เครื่องสูบน้ำและเครื่องปั่นไฟ มาเป็นแรงขับเคลื่อนจนกลายเป็นรถที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเอง
หลังจากนั้นช่างต้องก็ได้ลาออกจากงานและกลับมาอยู่บ้านที่ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งรถดังกล่าวก็นำกลับมาให้ลูกชายและขับเล่นกันตามประสาพ่อลูก จากนั้นก็มีคนพบเห็นและถ่ายรูปแล้วนำไปโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก ทำให้มีคนรู้จักและสนใจจนทำให้เกิดการสั่งทำรถแบบเดียวกันกับที่ช่างต้องมี ทำให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นในการประดิษฐ์รถยนต์กระป๋องขึ้นมาและมีชื่อแบรนด์ว่า “กระป๋องคาร์ไทยแลนด์” โดยเริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2016 ปัจจุบันเป็นปีที่ 9 นั่นเอง
จากจุดเริ่มต้นที่นำเอาเครื่องสูบน้ำหรือเครื่องปั่นไฟมาประยุกต์เป็นเครื่องยนต์ ช่างต้องก็ปรับปรุงและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับการที่ลูกค้าสามารถออกแบบร่วมกับช่างได้เพราะแบบของแต่ละคันไม่ตายตัว สามารถดัดแปลงพลิกแพลงได้ตามใจชอบตามที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งก็มีลูกค้าหลายคนสงสัยว่ารถที่ช่างทำคือรถอะไร ช่างต้องบอกว่าเพราะว่าทำจากกระป๋องเลยตั้งชื่อให้ว่ารถกระป๋อง ซึ่งกระป๋องที่นำมาทำคือถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร
จุดเด่นของรถกระป๋องคือการทำจากถังน้ำมันเมื่อนำมาขึ้นรูปเป็นชิ้นส่วนรถแล้วตัวถังน้ำมันจะไม่มีการเปลี่ยนรูป เมื่อมองก็จะทราบได้ทันทีว่าทำมาจากถังน้ำมัน ซึ่งเมื่อผลิตออกมาเป็นรถสมบูรณ์แล้วจะให้ความรู้สึกคล้ายกับรถคลาสสิคแนวโบราณ มีไฟหน้าแบบกลม มีกระจังหน้า เป็นต้น ปัจจุบันทางแบรนด์มีเพจเฟซบุ๊กเพื่อเอาไว้โปรโมตสินค้าและพูดคุยกับลูกค้า ซึ่งเป็นช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ไปในตัว นอกจากนี้ยังมีรายการทีวีต่างๆ จากช่องยูทูป มาถ่ายทำเพื่อนำเสนอให้ทางแบรนด์อีกหนึ่งช่องทาง ทำให้มีคนรู้จักมากยิ่งขึ้น
สำหรับกลุ่มลูกค้านั้นช่างต้องเปิดเผยว่าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้ากลุ่มที่เป็นผู้ประกอบการร้านคาเฟ่ต่างๆ ที่ต้องการนำรถสไตล์คลาสสิคโบราณไปวางโชว์และเพิ่มกิจกรรมให้กับคาเฟ่ของตนเอง รวมถึงลูกค้าที่ชื่นชอบของแปลกและสนใจในฝีมือของช่างต้องมาสั่งทำเพื่อนำไปขับในหมู่บ้าน นอกจากนี้ก็ยังมีลูกค้าที่ชื่นชอบเพราะเป็นงานฝีมือจากคนไทยด้วยกัน ทำให้ได้รับผลตอบรับที่ดีและความพึงพอใจต่อสินค้าที่ได้รับ โดยช่างต้องบอกว่ารถกระป๋องของทางร้านเป็นรถสวยงามสามารถขับวิ่งเล่นได้ในพื้นที่เฉพาะ ลูกค้าก็ให้การตอบรับดีและสนใจกันอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนการผลิตนั้นช่างต้องทำคนเดียวและจะทำเป็นล็อต ในเวลา 2 เดือนจะสามารถผลิตรถกระป๋องได้จำนวน 5 คัน ยกเว้นเรื่องการพ่นสี ปัจจุบันเครื่องยนต์ที่นำมาผลิตเป็นเครื่องยนต์รถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อ Lifan 125cc มีเกียร์ถอยหลัง ซึ่งเรียกได้ว่ามีการพัฒนาจากเครื่องสูบน้ำ เครื่องปั่นไฟมาเป็นเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ ส่งผลให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น สามารถเดินหน้าและถอยหลังได้และมีระบบไฟครบถ้วน สำหรับวัสดุและอุปกรณ์อื่นๆ จะรับซื้อจากร้านค้าใกล้บ้านและสั่งผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
ทั้งนี้การใช้งานช่างต้องบอกว่าการใช้งานคล้ายกับรถยนต์ทั่วไปและรถโกคาร์ท โดยที่ตัวรถจะมีเบรก คันเร่ง และพวงมาลัย นอกจากนี้ในส่วนของราคาขายนั้นมีราคาเริ่มต้นที่ 69,000 บาท เป็นรถ 1 ที่นั่งและมีอุปกรณ์เสริมพ่วงท้ายที่นั่งเพิ่มได้อีก 2 ที่นั่ง รับน้ำหนักได้ไม่เกิน 150 กิโลกรัม โดยจะแยกเป็นตัว ตัวละ 16,000 บาท แบบมีหลังคากันแดดราคาต่อชิ้นอยู่ที่ 4,500 บาทเช่นเดียวกับแบบที่เป็นโบกี้รถไฟจากถังน้ำมัน 200 ลิตร แบบมีหลังคาและพวงมาลัยสำหรับเด็กเริ่มต้นที่ตัวละ 8,500 บาท
นอกจากนี้เคยผลิตรถในราคาที่สูงสุดประมาณ 139,000 บาท ปัจจุบันสามารถผลิตและขายรถออกไปได้ประมาณ 100 คัน
นอกจากจะมีลูกค้าคนไทยให้ความสนใจแล้ว ยังมีลูกค้าจากต่างประเทศที่ให้ความสนใจ เช่น ญี่ปุ่นและอังกฤษ แต่ทางร้านบอกว่าไม่สามารถจัดส่งให้ได้เนื่องจากติดปัญหากับการขนส่ง แต่ในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว มีลูกค้าสนใจและสามารถจัดส่งข้ามประเทศไปให้ได้
ในอนาคตทางร้านวางแผนการต่อยอดให้ไปในทิศทางของการผลิตรถเพื่อให้ลูกค้าเช่าในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงพัฒนารถกระป๋องให้เป็นในรูปแบบของรถ EV แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการทดลอง เพราะเดิมทีรถกระป๋องของทางร้านจะเป็นรถที่เติมน้ำมัน โดยน้ำมันที่สามารถเติมได้คือแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 นอกจากนี้ยังมีรถแบบไฟฟ้าที่ลูกค้าสั่งทำโดยเฉพาะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบเติมน้ำมันมากกว่า
“ตั้งแต่ตอนแรกที่เราคิดจะทำบางทีผมคิดว่ามันเกินความคาดหมายเพราะผมไม่ได้ตั้งใจจะทำไปขาย ผมไม่คิดว่าจะมีคนที่ชอบเหมือนผม ผมก็แค่ทำตามใจตัวเอง ทำตามจินตนาการตัวเองให้พ่อลูกสองคนยิ้มได้ก็พอ คือต้องการแค่นั้น แต่พอมาเป็นแบบนี้เราก็ยังคิดอยู่เลยว่ามีคนที่ชอบเหมือนเราแล้วก็มีความคิดคล้ายเรา ผมก็เลยสร้างมาเรื่อยๆ ก็เป็นอะไรที่เกินความคาดหมาย จากที่ทำแค่ของเล่นจนตอนนี้ก็กลายเป็นรายได้หลักให้ครอบครัว” ช่างต้อง ระบุ
อย่างไรก็ตามนอกจากจะผลิตรถกระป๋องขายเป็นงานหลักแล้ว ช่างต้องยังมีการรับงานเชื่อม งานเหล็กที่เคยทำอยู่ตลอดในช่วงที่ไม่ได้ผลิตรถ และรับออเดอร์งานผลิตรถตามที่ลูกค้าต้องการอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับพัฒนารูปแบบรถให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook :กระป๋องคาร์ไทยแลนด์, ต้องกระป๋องคาร์ไทยแลนด์
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *