ทำความรู้จักแบรนด์สกรีนเสื้อลายต่างๆ จากแบรนด์ “เสื้อเฮีย” ที่โด่งดังจากระแสคำคมและวลีสุดฮิต จากกระแสสังคมต่อยอดเป็นแบรนด์สร้างเป็นธุรกิจ จุดพลิกผันเริ่มจากช่วงโควิด-19 ที่ได้รับผลกระทบทำยอดขายลดฮวบ ปิ๊งไอเดียรับสกรีนเสื้อขายปลีกสร้างเป็นคาแรกเตอร์ตัวเองจนติดตลาดลูกค้าติดใจ ผลิตขายพีคสุด 5,000 ตัวต่อวัน
นายภานุเดช จำเนียรแพทย์ และนางสาวฉัตรสุดา ธรรมสาร เจ้าของร้านเสื้อเฮีย เล่าว่า เดิมทีทำธุรกิจรับสกรีนเสื้ออยู่แล้วประมาณ 5 ปี แต่พอในช่วงโควิด-19 โดนผลกระทบอย่างหนักเพราะในงานอีเว้นท์หรืองานอื่นๆ งดทำกิจกรรมอัตราการสั่งเสื้อก็ลดลง ทำให้ส่งผลกระทบต่อร้านสกรีนเสื้ออย่างมาก แต่ทางร้านไม่อยากปิดร้านเพราะจำเป็นต้องให้เงินเดือนพนักงาน จึงต้องหาวิธีเอาตัวรอดจากอาชีพเดิมที่มีนั่นก็คือสกรีนเสื้อขายแบบค้าปลีกลองดู ซึ่งจุดเริ่มต้นการขายปลีกเริ่มตั้งแต่โควิด-19 และเริ่มเอานโยบายการป้องกันเชื้อโรค เช่น กรุณายืนห่าง 2 เมตร นำมาสกรีนเป็นข้อความลงบนเสื้อขายปลีก และเริ่มเอาข้อความที่เป็นกระแสเรื่องต่างๆ มาสกรีนลงบนเสื้อเช่นเดียวกัน และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์เสื้อเฮียและกลายเป็นแบรนด์เสื้อที่ทันกระแสต่างๆ ทั้งโควิด-19 การเมืองและอื่นๆ ที่เป็นประเด็นสังคม
สำหรับชื่อแบรนด์ที่มีชื่อว่า “เสื้อเฮีย” ทางร้านให้ข้อมูลว่าทั้งสองคนเป็นคนสนุกสนาน ขี้เล่น พอจะตั้งชื่อแบรนด์ก็ต้องการให้ชื่อออกมามีเอกลักษณ์และสนุกสนานไปพร้อมกับตัวเจ้าของร้าน เดิมทีจะเป็น “เสื้อเหี้ย” เพื่อให้เกิดความสนุกขี้เล่นและให้ความรู้สึกกวนๆ แต่ก็พยายามพ้องเสียงเพื่อให้ดูซอฟท์ลงและเป็นคำพูดติดปากลูกค้า จึงได้มาเป็นชื่อเสื้อเฮียและลูกค้าก็เข้าใจตรงกันว่ามีที่มาจากคำว่าอะไร
ทั้งนี้ในการนำข้อความที่เกิดขึ้นในกระแสสังคมมาสกรีนเสื้อนั้น ทางร้านบอกว่าถ้ากระแสสังคมเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมืองทางร้านก็จะนำเอาข้อความต่างๆ มาสกรีนให้ออกแนวตลก สนุกสนาน ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อสนองความรุนแรงแต่อย่างใด แต่ทำขึ้นในรูปแบบการล้อเลียนตลกฮาๆ มากกว่า ซึ่งเมื่อทำแล้วลูกค้าก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี
ในส่วนของจุดเด่นและความพิเศษของแบรนด์คือการสื่อสารโดยตรงและเข้าใจง่าย เมื่อเห็นแล้วเข้าใจได้ในทันทีหากคนรู้ว่าข้อความดังกล่าวมาจากกระแสสังคมเรื่องอะไรที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น รวมถึงเป็นการเล่นคำที่สื่อถึงอารมณ์ของคนได้เช่นเดียวกัน ซึ่งนอกจากลูกค้าจะซื้อเพื่อไปสวมใส่เองแล้วยังมีการซื้อเพื่อมอบเป็นของขวัญให้เพื่อนหรือคนพิเศษเพื่อความสนุกสนานเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้นั่นเอง
สำหรับตัวเนื้อผ้าทางร้านรับผ้ามาจากโรงงานโดยส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อผ้าคอตตอน 100% แต่ก็มีหลายเกรด ซึ่งจะผลิตเป็นเสื้อยืดเป็นหลัก นอกจากนี้กลุ่มลูกค้ามีหลากหลายกลุ่มที่เข้ามาสนใจ มีทุกเพศ ทุกวัย เพราะสามารถใส่ได้ทุกช่วงวัยและให้การตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงกลับมาซื้อซ้ำเป็นคอลเลกชั่นอีกด้วย ทั้งนี้ยังมีการทำคอนเทนต์บนสื่อโชเชียลในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น
นอกจากนี้ทางร้านยังปิ๊งไอเดียการนำเอาคอมเมนต์จากลูกค้าที่มาคอมเมนต์ในเพจมารังสรรค์ให้เป็นลวดลายที่น่าสนใจ เช่น คอมเมนต์ที่บอกว่า “เหี้ยมาก” ทางร้านก็จะออกแบบและวาดเป็นลายตัวเงินตัวทองหรือตัวเหี้ยหลายๆ ตัวรวมกันสกรีนลงบนเสื้อขาย เรียกได้ว่าเป็นไอเดียที่นำเอาคอมเมนต์จากลูกค้ามาสร้างเป็นลวดลายลงบนเสื้อเพื่อให้เกิดการสื่อสารที่สนุกสนานและให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับลายเสื้อดังกล่าว จนกลายเป็นทั้งคอนเทนต์และลายเสื้อขายอีกด้วย ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของแบรนด์เสื้อและเกิดการต่อยอดนั่นเอง
ปัจจุบันเสื้อของทางร้านวางขายในแพลตฟอร์มออนไลน์กว่า 95% อีก 5% จะเป็นหน้าร้านออฟไลน์ และนอกจากนี้ในส่วนของกำลังการผลิตทางร้านจะผลิตทุกวัน วันละประมาณ 2,000 ตัว และพีคสุดจะผลิตถึงวันละ 5,000 ตัว ซึ่งในจำนวนดังกล่าวจะเป็นจำนวนที่ทำตามออเดอร์เพราะทางร้านจะไม่มีการทำสต็อคทิ้งไว้ ทั้งนี้ลายเสื้อที่ขายดีที่สุดในช่วงนี้จะเป็นลายเสื้อที่วาดขึ้นมาใหม่จากคอมเมนต์ลูกค้าและคิดค้นคำขึ้นมาเองจนกลายเป็นคาแรกเตอร์ร้านไปแล้วนั่นเอง ทั้งนี้ใน 1 เดือนสามารถขายเสื้อได้ประมาณ 3-4 หมื่นตัว โดยขายราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 250 ขึ้นไปจนถึง 500-600 บาท ขึ้นอยู่กับลายสกรีนเสื้อและขนาดเสื้อตั้งแต่ S-5XL ใหญ่สุดรอบอก 60 นิ้ว
“ในตอนนี้เราจะโฟกัสที่การสร้างคาแรกเตอร์ให้ชัดเจน เมื่อก่อนเราเล่นแค่กระแสแต่ตอนนี้เราจะเล่นกระแสโดยที่มีคาแรกเตอร์ที่เราวาดขึ้นมาเอง แล้วในอนาคตอาจจะเป็นซีรีส์เสื้อไปเลยในแง่ของการต่อยอดในอนาคต แต่สิ่งที่เราทำเพิ่มเติมในตอนนี้ก็คือเราจะทำร้านใหม่ที่เป็นคาเฟ่เพื่อให้ลูกค้ามาแล้วได้ประสบการณ์การสกรีนเสื้อเอง เพนท์ลายเอง ที่เราจะทำขึ้นมาให้กับลูกค้าในพื้นที่หรือจากต่างจังหวัดและอยากมีประสบการณ์ก็มาหาเราที่ร้านได้ อันนี้คือสิ่งที่เราคิดจะเพิ่มค่ะ ซึ่งจะเห็นได้ในเดือนสิงหาคมร้านจะตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้กับห้างฯ เมญ่า จ.เชียงใหม่” คุณฉัตรสุดา ระบุ
นอกจากนี้ทางร้านกำลังวางแผนหลังบ้านเพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่สนใจมารับเสื้อแบรนด์เสื้อเฮียไปขายต่ออีกทีให้มีคุณภาพและตอบโจทย์ลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการเช่นเดียวกับทางร้าน เพราะต้องการขยายฐานลูกค้าที่เป็นออฟไลน์มากขึ้นเพราะบางคนอาจจะไม่รู้จักในแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งนี้นอกจากจะขายให้คนไทยด้วยกันเองแล้วยังมีลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป. ลาวติดต่อเข้ามาสั่งซื้อเสื้อเพื่อนำไปขายต่อ แต่ทางร้านยังคงไม่สะดวกหรือยังไม่พร้อมในการขายให้ลูกค้าต่างประเทศ
สำหรับกระแสการเมืองที่กำลังเป็นที่พูดถึงในตอนนี้ทางร้านก็เน้นความไวในการคว้าโอกาสทางธุรกิจ ดึงเอาคำคมหรือข้อความจากกระแสด้านการเมืองมาสกรีนลงบนเสื้ออย่างรวดเร็ว ซึ่งพอผลิตออกมาก็สามารถขายได้ประมาณ 1,000 กว่าตัว เพราะเป็นกระแสด้วยลูกค้าจึงให้ความสนใจกันเป็นอย่างดีและผลิตตามออเดอร์ส่งให้ลูกค้า
“รู้สึกดี รู้สึกสนุกที่ได้เจอกับคอมเมนต์ต่างๆ รู้สึกอยากทำงาน อยากตอบลูกค้า อย่างที่บอกค่ะว่าทุกอย่างที่เป็นสไตล์เราแล้วเป็นสินค้าเราและมีความเป็นตัวเราอยู่ในนั้น มันเหมือนชีวิตประจำวันอ่ะค่ะที่เราสนุกไปกับมัน และอยากเห็นฟีดแบกจากลูกค้าว่ามีฟีดแบกกลับมายังไงกับผลงานของเรา มันเหมือนกับเราสนุกไปกับการใช้ชีวิตผ่านการสร้างแบรนด์เสื้อไปด้วย” เจ้าของร้านระบุ
อย่างไรก็ตามในอนาคตทางร้านได้มีการวางแผนแตกไลน์การผลิตที่นอกจากเสื้อให้ไปในทิศทางของการเพิ่มเป็นกระเป๋าผ้า หมวกหรือแม้กระทั่งตุ๊กตามาสคอตที่สื่อถึงตัวตนของทางแบรนด์เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าและพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ติดต่อเพิ่มเพิ่ม
Facebook : เสื้อเฮีย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *