xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) จากพ่อค้าเรือเร่ขายปลาทูคลองบางเขน สู่นายห้าง ยาขมเม็ดตราใบห่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พอพูดถึงยาขมเม็ดตราใบห่อ ไม่มีใครไม่รู้จัก เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ทุกบ้านเคยได้ซื้อมากิน วันนี้ ผ่านมากว่า 50 ปี ที่ยาขมเม็ดตราใบห่อ ได้ช่วยรักษาสุขภาพของคนไทย โดยไม่ต้องผ่านงานวิจัยในห้องแล็บวิทยาศาสตร์ แต่การันตี จากการยอมรับของผู้ใช้จริง


เส้นทางกว่าจะมาเป็นนายห้างยาขมเม็ดตราใบห่อ

นายอิศรา อัคคะประชา กรรมการผู้จัดการ บริษัทห้างขายยาตราใบห่อ จำกัด หรือ ทายาทรุ่นที่ 2 รับช่วงดูแลกิจการ ต่อจากคุณพ่อ “นายประสิทธิ อัคคะประชา” เจ้าของสูตรต้นตำรับ สมุนไพรตราใบห่อ เล่าถึง ตำนาน 50 ปี สมุนไพรตราใบห่อ ว่า จุดเริ่มต้นของห้างขายยาตราใบห่อมาจากคุณพ่อ “นายประสิทธิ์” มาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจน เดิมคุณพ่อ อาศัยอยู่ริมคลองบางเขน มีอาชีพ พายเรือขายของ สินค้าที่พ่อค้ามีทุกอย่าง เหมือนเป็นร้านค้าเคลื่อนที่ในสมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็นปลาทู ขายหอยแมลงภู่ รวมไปถึง สินค้าจำเป็นอื่นๆ พ่อก็นำมาขายหมด

จุดเปลี่ยน วันหนึ่ง พ่อเลิกขายขของในเรือ อยากขึ้นมาปักหลักเปิดร้านค้าบนบก พอเลือกใจกลางเมืองย่านจักรวรรดิ์ ซึ่งเป็นแหล่งศูนย์กลางจำหน่ายวัตถุดิบนำไปทำยาสมุนไพร หลายแบรนด์ดังๆ ก็มาปักหลักขายกันที่นี่ และแจ้งเกิดแบรนด์ดังบนถนนเส้นนี้ ตอนแรกที่พ่อเข้ามาก็มาเป็นลูกจ้าง ก่อน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ สักระยะหนึ่ง จนได้มาเปิดร้านขายสมุนไพร ชื่อว่า “ง้วน เฮง จั่น” ปัจจุบัน ร้านก็ยังคงเปิดจำหน่ายสมุนไพร ส่งให้กับผู้ผลิตสมุนไพร แบรนด์ดังมากมาย เช่น ยาสตรีเพ็ญภาค ฯลฯ





จ้าวแรกที่ยาสมุนไพรอัดเม็ด

หลังจากนั้น “พ่อ” ประสิทธิ์ สั่งสมประสบการณ์ ทำให้สามารถคิดค้นตำรับยา ตราใบห่อ และด้วยสมุนไพรทานลำบาก พ่อได้คิดค้นนวัตกรรมอัดเม็ด ในสมัยนั้น ตราใบห่อเป็นรายแรกที่นำนวัตกรรมอัดเม็ดมาใช้กับยาสมุนไพรไทย โดยคุณพ่อขายในราคาห่อละ 2 บาท 3 บาท เป็นราคาที่พ่อขายมาหลายสิบปี เพราะเป้าหมายของคุณพ่อ คือ ทำสินค้าดี มีคุณภาพ ราคาไม่แพง เพราะต้องการช่วยเหลือให้คนไทยเข้าถึงยาสมุนไพรทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดี มาจนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ราคาซองละ 7 บาท

ปัจจุบัน ตราใบห่อ มีสินค้า 2 แบรนด์ ตราใบห่อ และ ตราใบแก้วซึ่งเป็นยาระบายอ่อน และยังได้มีพัฒนาสินค้า อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ยาดม ยาหม่อง ชาสมุนไพร ผลิตภัณฑ์ขมิ้นชัน ฯลฯ นอกจากนี้ เพื่อตอบโจทย์ คนที่ไม่ชอบกลัวความขม ได้มีการผลิตยาขมตราใบห่อจากเดิมเป็นแบบอัดเม็ด รับประทานยาก ก็เลยเปลี่ยนมาทำเป็นแบบแคปซูล ซึ่งช่วยแก้โจทย์ ความขมไปได้
ผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบฟ้าทะลายโจร รายใหญ่ ช่วงโควิด


นายอิศรา กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์โควิดระบาด ได้มีผลิตฟ้าทะลายโจรในรูปแบบแคปซูลออกมาจำหน่ายด้วย อีกทั้งยังเป็นผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบสมุนไพรฟ้าทะลาย รายใหญ่ในย่านจักรวรรดิ์ ซึ่งมีลูกค้าผู้ผลิตยาสมุนไพรหลายๆ แบรนด์ก็มาสั่งซื้อฟ้าทะลายโจร

ทั้งนี้ จากการที่เราแหล่งจำหน่ายวัตถุดิบสมุนไพรมาตั้งแต่แรก ก่อนจะมาทำยาขมเสียอีก ดังนั้น ตัว วัตถุดิบเราก็จะสั่งตรงมาจากเกษตรกร ซึ่งซื้อกันมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ ทำให้เรามีวัตถุดิบที่สามารถป้อนให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง แม้แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด และฟ้าทะลายโจรขาดตลาด แต่เราก็มีฟ้าทะลายโจร ส่งให้กับลูกค้า แต่บางช่วงที่ราคาดีดเพิ่มขึ้นไปเยอะมาก


การเปลี่ยนผ่านจากคนรุ่นเก่า สู่ทายาทในวัยเพียง 27 ปี

สำหรับการเข้ามารับช่วงดูแลกิจการ ต่อจากคุณพ่อ ที่เสียชีวิตไปเมื่อ 8 ปี ที่แล้ว ทำให้ นายห้างคนใหม่ อย่าง คุณอิศรา ซึ่งในตอนนั้น อายุเพียง 27 ปี ก็ต้องมารับบทบาท นำพา ห้างขายยาตราใบห่อ เดินหน้าต่อไป และเป็นช่วงที่ สื่อการตลาด เปลี่ยนแปลง จาก ทีวีดิจิทัล เข้าสู่โลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทั้งยูทูบ เฟสบุ๊ก และ Tiktok เข้ามามีบทบาทต่อการรับข่าวสารของคนไทย นายห้างคนใหม่ ตราใบห่อ ก็เลยอาศัยความเป็นคนรุ่นใหม่ วางแผนการตลาดปัดฝุ่น แจ้งเกิดตราใบห่อ ในโลกโซเชียลฯ

จากโฆษณาผ่านรถเร่ เวทีมวย สู่ โลกโซเชียลฯ

มาดูกันว่า ในอดีตยาขมเม็ดตราใบห่อ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการทำสื่อโฆษณา จนคนไทยติดหู และคุ้นเคย โดยจุดเริ่มมาจากในยุคนั้น นายห้างประสิทธิ์ รู้จักคุ้นเคยกับ ประจวบจำปาทอง เจ้าของกวนอิม และเป็นนักร้อง เวลาไปฉายหนังเร่หรือไปร้องเพลงที่ไหน ก็จะมีการโฆษณายาขมเม็ดตราใบห่อ ด้วย รวมถึง เวทีมวย สนามมวยหลายแห่ง จะได้รับการสนับสนุนจากยาขมเม็ดตราใบห่อ ปัจจุบัน เวทีมวยก็ยังคงเป็นช่องทางที่ ตราใบห่อ เลือกใช้อยู่

อิศรา เล่าว่า หลังจากเรียนจบตั้งใจต่อยอดแบรนด์ พัฒนาปรับปรุงกิจการต่อจากคุณพ่ออยู่แล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะเราได้เห็นการทำงานและคลุกคลีตรงนี้ มาตั้งแต่เด็ก โดยสิ่งที่ได้ลงทุนทำไปแล้ว การมาช่วยปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ให้เป็นสินค้าร่วมสมัยเข้ากับลูกค้าได้ทุกกลุ่ม รวมถึงสิ่งสำคัญการต่อยอดปรับปรุงช่องทางสื่อสารที่จะเข้าถึงลูกค้าของเรา รองรับการเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพราะทุกวันนี้ โดยเฉพาะคนต่างจังหวัดที่เป็นลูกค้าของเรา ชื่นชอบการเล่น Tiktok เรามีการลงทุนสื่อ โซเชียลฯ มากขึ้น


การนำสมุนไพรไทยบุกตลาดต่างประเทศ

นอกจากนี้ สิ่งที่นายห้างคนใหม่ ให้ความสำคัญ คือ การทำตลาดในต่างประเทศ เพราะต้องยอมรับว่า ประเทศไทย เป็นเมืองท่องเที่ยว คนที่มาเที่ยวประเทศไทย ได้รับรู้วัฒนธรรมการกิน การใช้ชีวิตของคนไทย และรู้จักสมุนไพรไทย จากการเข้าไปใช้บริการในร้านขายยา และเมื่อใช้ได้ผลดี ก็อยากจะใช้อีก เพราะปัจจุบันทั่วโลกเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คนหันมาให้ความสำคัญกับธรรมชาติมากขึ้น สมุนไพรไทยหลายตัวก็เริ่มเป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับ โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจร จากสถานการณ์โควิด ทำให้เราได้มีโอกาสไปเปิดตลาดที่ประเทศรัสเซีย และนำสมุนไพรฟ้าทะลายโจร และยาขมเม็ดตราใบห่อ เข้าไปจำหน่าย ได้รับการตอบรับดีมาก คนรัสเซียหลายคนรู้จัก นอกจากนี้ มีประเทศอื่นๆ ประเทศในกลุ่ม เออีซี

สำหรับสมุนไพรไทย เป็นสินค้าที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน หลายแบรนด์อายุหลายสิบปี คนไทยให้การยอมรับสมุนไพรไทยจากการได้ใช้จริงมานานหลายสิบปี วันนี้ อาจจะมาทดแทนด้วยยาสมัยใหม่ แต่สังคมไทยเข้าสู่ผู้สูงอายุ การกลับมาผลิตภัณฑ์สมุนไพร การรักษาแบบดั้งเดิม เป็นทางเลือกที่อยู่คนไทยไปช้านาน ความขม ไม่ใช่โจทย์ที่ต้องแก้ก็ได้ เพราะมันคือเอกลักษณ์ ที่หลายคนจดจำได้ และหลายคนรู้ว่า ความขมช่วยดูแลปรับสมดุลร่างกาย ดังคำที่ว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา


กำลังโหลดความคิดเห็น