แบรนด์ขนมไทยเจ้าดังจากจังหวัดเพชรบุรีอย่าง “ลุงอเนกขนมหวานเมืองเพ็ชร์” ต่อยอดธุรกิจด้วยการเสิร์ฟ “หม้อแกงกะทิสดเผือกหอม” ส่งขายเซเว่น อีเลฟเว่น เพราะต้องการนำขนมไทยเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและยกระดับขนมหม้อแกงให้มีคนรู้จักมากขึ้น ผลิตส่งวันละ 14,000 ชิ้น ยอดขาย 400,000 บาทต่อวัน 6,000,000 บาทต่อเดือนในระยะเวลา 2 เดือน พร้อมพัฒนาต่อยอดรสชาติใหม่ที่กำลังวางแผน
นายประวิทย์ เครือทรัพย์ หรือ โจ้ เจ้าของแบรนด์ลุงอเนกขนมหวานเมืองเพ็ชร์ เล่าว่า สิ่งสำคัญของจังหวัดเพชรบุรีที่ทุกคนนึกถึงคือ “ขนมหม้อแกง” ซึ่งขนมหม้อแกงแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรีค่อนข้างชัดเจนและมีวัตถุดิบครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นไข่ น้ำตาล กะทิ และที่สำคัญคือ “เผือก” ที่เป็นวัตถุดิบหลักของจังหวัดและขนมหม้อแกงเป็นขนมที่อร่อยที่สุดของจังหวัดเพชรบุรี คุณโจ้จึงมีความมุ่งมั่นและตั้งใจนำขนมหม้อแกงเข้าไปวางขายที่ร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่น อีเลฟเว่น โดยขนมหม้อแกงที่นำไปวางขายในร้านเซเว่นฯ คือ “ขนมหม้อแกงกะทิสดเผือกหอม” เนื่องด้วยต้องการนำเสนอวัตถุดิบที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรีให้ผู้บริโภคได้รู้จักผ่านการผลิตเป็นขนมหม้อแกงนั่นเอง
ความท้าทายในการนำสินค้าเข้าร้านเซเว่น อีเลฟเว่น คุณโจ้เปิดเผยว่า ความท้าทายในครั้งนี้มีความตั้งใจทำให้ขนมไทยของเพชรบุรีเติบโตในระดับสากลและต้องการยกระดับขนมหวานเพชรบุรีให้มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการในจังหวัดเริ่มหันมาทำขายกันมากขึ้น และตลาดขนมหม้อแกงก็เริ่มคึกคักมากขึ้นกว่าเดิมเพราะมีการแข่งขัน ทำให้ผู้ประกอบการแต่ละเจ้าต้องพัฒนาและปรับปรุงสินค้าให้มีคุณภาพและได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การที่นำขนมเข้าร้านเซเว่นฯ นั้นเป็นเพราะพฤติกรรมการซื้อของฝากลดน้อยลง ทำให้คุณโจ้มุ่งเป้านำเอาขนมมาวางขายในร้านเซเว่นฯ เพื่อที่จะทำให้ขนมอยู่ใกล้มือลูกค้ามากขึ้น
ข้อจำกัดของการนำเอาขนมเข้าร้านเซเว่นฯ นั้นสิ่งสำคัญของขนมคืออายุการเก็บรักษา ซึ่งแบรนด์ขนมหวานต่างๆ ในร้านเซเว่นฯ มีการแข่งขันเรื่องการยืดอายุของขนม เนื่องจากเป็นขนมที่ต้องใช้วัตถุดิบที่สดใหม่และไม่ใช้สารเติมแต่งที่เกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด และต้องแข่งขันกับเวลาที่ต้องส่งให้กับร้านเซเว่นฯ โดยใช้เวลาในการส่งไม่เกิน 1 วัน โดยปกติขนมหม้อแกงเมื่อเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นจะยืดอายุได้ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ที่ส่งร้านเซเว่นฯ จะยืดอายุได้ประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อความปลอดภัยและให้ผู้บริโภคได้รับประทานขนมที่สดใหม่อยู่เสมอ
การแข่งขันในตลาดขนมหม้อแกงนั้นผู้บริโภคมีหลากหลายกลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มมีความต้องการที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะทำให้ฐานลูกค้าเดิมยังคงบริโภคต่อและลูกค้าใหม่หันมาสนใจมากขึ้นจึงขึ้นอยู่กับคุณภาพของขนมและการนำสินค้าเข้าไปหาลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งขนมหม้อแกงลุงอเนกชูจุดเด่นเรื่องการมีนวัตกรรมและความสร้างสรรค์ในการผลิตขนมหม้อแกงเผือกหอมเพื่อส่งขายในกับร้านเซเว่น อีเลฟเว่น นั่นเอง
ในส่วนของวัตถุดิบในการทำขนมนั้น วัตถุดิบหลักคือ “ไข่” โดยจะมีการรับมาจากเกษตรกรในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งก่อนหน้าจะเข้าร้านเซเว่นฯ การวางแผนในการผลิตอาจจะมีปัญหาเล็กน้อย แต่เมื่อเข้าร้านเซเว่นฯ แล้ว ทางแบรนด์ก็ได้มีการวางแผนการผลิตให้สามารถผลิตทั้งปีได้เพราะมีออเดอร์ที่ชัดเจน ส่งผลให้สามารถลดปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบได้เพราะได้มีการทำสัญญากับเกษตรกรเพื่อส่งวัตถุดิบมาให้ โดยทางแบรนด์สามารถผลิตขนมส่งขายได้วันละประมาณ 13,000-14,000 ชิ้นต่อวัน นอกจากนี้เดิมทีแบรนด์ลุงอเนกมีพนักงานประมาณ 60-70 คน แต่เมื่อนำสินค้าเข้าร้านเซเว่นฯ จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นเป็น 120 คนเพื่อให้เพียงพอต่อกำลังการผลิตในแต่ละวันและสร้างยอดขายวันละประมาณ 400,000 บาท เดือนละประมาณ 6,000,000 บาท ปัจจุบันขายในร้านเซเว่นฯ ได้ประมาณ 2 เดือน
แต่ทั้งนี้ การนำสินค้าเข้าร้านเซเว่นฯ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ในช่วงแรกคุณโจ้เปิดเผยว่าสินค้าเกิดความเสียหายกว่าครึ่ง เนื่องจากขนมหม้อแกงในเพชรบุรีทั้งหมดที่ทำเป็นธุรกิจจะใช้เตาอบแก๊สที่ควบคุมด้วยมือและประสบการณ์ของคนในการควบคุม ปัจจุบันใช้แบบนี้กันหมดซึ่งกว่าจะมีประสบการณ์นั้นต้องใช้เวลากว่า 2 เดือนเป็นอย่างต่ำ และไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำเป็นเพราะฉะนั้นต้องอาศัยการฝึกฝนและสั่งสมประสบการณ์
เดิมทีทางแบรนด์ทำอยู่ประมาณ 400 ถาดแต่เมื่อเข้าร้านเซเว่นฯ ก็เพิ่มเป็นหลักหมื่นถาด ซึ่งถ้าหากใช้เตาอบเดิมต้องใช้คนที่มีประสบการณ์สูงและจำนวนมากทางแบรนด์จึงมองว่าไม่รอดจึงเปลี่ยนมาเป็นเตาอบอุโมงค์แทนและมีการลองผิดลองถูกและขนมเกิดความเสียหาย สุดท้ายคุณโจ้จึงต้องเข้าไปอบขนมเองแต่ก็ยังเกิดความเสียหายกว่าครึ่งแต่ก็ไม่ย่อท้อเพราะมีการแก้ปัญหาไปทีละจุดเพื่อให้ได้ผลสำเร็จปัจจุบันปัญหาดังกล่าวเหลือเพียง 1-2%
ทั้งนี้ภายใน 2 เดือนที่ขายในสาขาสนามบินสุวรรณภูมิ คุณโจ้บอกว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาซื้อจะเป็นลูกค้าคนกรุงเทพฯ เป็นหลัก ซึ่งเฉลี่ยแล้วที่สาขาดังกล่าวขายได้วันละ 6,000-8,000 ชิ้น โดยมองว่าคนเมืองมีความสนใจและโหยหาขนมหม้อแกง เพราะฉะนั้นจึงทำให้สาขาดังกล่าวทำยอดขายได้ดีที่สุด
“สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรามีวันนี้คือการเอาจริงเอาจังครับ ทุกๆ คนอยากได้อยากมีแต่ขาดเรื่องความขวนขวาย ผมเชื่อว่าเราต้องพาตัวเองไปในจุดที่จะประสบความสำเร็จ พาตัวเองไปในจุดที่มีความรู้ที่ส่งเสริมจริงๆ กว่าจะเข้าเซเว่นฯ กว่าผมจะมีวันนี้คือผมผ่านทุกช่องทางทั้งการประกวดแทบไม่ได้ครับ ซึ่งผมมองว่าทุกช่องทางที่มีโอกาสผมไปหมดเลยและเตรียมพร้อมและปรับปรุงตัว ตอนโควิด-19 ผมขายไม่ดีครับแต่ผมได้ปรับปรุงโรงงานและได้มาตรฐาน GMP HACCP มาตอนโควิด-19 ระบาดหนักและเข้าหาสถาบันที่ส่งเสริมเราได้และพยายามอย่างไม่หยุดนิ่ง รวมถึงความขยันเราต้องออกไปแสวงหานอกบ้านไม่รอหน่วยงานเข้ามาหา เราต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเอง” คุณโจ้ ระบุ
สิ่งที่ได้จากการนำสินค้าเข้าขายในร้านเซเว่นฯ คือ มีความเป็นมาตรฐานมากขึ้น รับรู้เรื่องการสร้างแบรนด์มากขึ้น ได้ช่องทางการประชาสัมพันธ์ขนมชนิดอื่นมากขึ้น และลดเรื่องงบประมาณการตลาดของแบรนด์ลงได้ ปัจจุบันวางขายขนมหม้อแกงเพียงรสชาติเดียวคือ หม้อแกงกะทิสดเผือกหอมในราคาชิ้นละ 29 บาท
อย่างไรก็ตาม นอกจากจะผลิตส่งขายเซเว่นฯ แล้ว ทางแบรนด์ยังมีขนมอีกหลายประเภทซึ่งที่ไม่พูดถึงเลยไม่ได้ก็คือ “หม้อแกงชีสเค้ก” ที่ผสมผสานระหว่างหม้อแกงและชีสเค้กเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดเป็นขนมไทยฟิวชั่นที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่แล้วยังตอบโจทย์ต่างชาติได้อีกด้วย
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook :โรงงานลุงเอนกขนมหวานเมืองเพ็ชร์
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *