“ทุเรียนนนท์” เป็นโลโก้แบรนด์ ที่ถูกยกระดับราชาผลไม้ อย่าง “ทุเรียน” ให้ขึ้นมาเจาะตลาดสำหรับคนกระเป๋าหนักที่ยอมจ่ายเงินซื้อสูงถึง ลูกละหลายพันจนถึงหลายหมื่นบาท เพื่อจะได้ลิ้มลองรสชาติ “ทุเรียนนนท์” สักครั้ง เพราะด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ “หวานมัน” อร่อยแบบที่หลายคนได้ชิมติดอกติดใจ ทำให้ราชาผลไม้ ภายใต้แบรนด์ “ทุเรียนนท์” แจ้งเกิดแบบไร้คู่แข่ง
ยิ่งหายาก ราคายิ่งสูง กลไกการตลาดใช้ได้ “ทุเรียนนนท์”
ทั้งนี้ หลายคนพอจะทราบถึง ชื่อเสียงของ “ทุเรียนนนท์” กันมาบ้าง และทำไมทุเรียนนนท์ ถึงราคาแพงกว่าพื้นที่อื่นๆ ประการแรก ด้วยจังหวัดนนทบุรี เป็นเมืองที่ส่วนขยายต่อจากเมืองหลวง พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้เชิงพาณิชย์ พื้นที่การทำเกษตร แทบจะไม่มีเลย รวมถึงสวนทุเรียนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ก็ถูกแปลงไปเป็นบ้านจัดสรร สำนักงาน ออฟฟิศ สถานที่ราชการ ฯลฯ การจะหาสวนทุเรียน จังหวัดนนทบุรี เวลานี้ เหลืออยู่น้อยมาก หรือแทบจะไม่มี เป็นเหตุผลที่ทำให้ทุเรียนนนท์กลายเป็นสิ่งที่หายาก
และ ประกอบกับชื่อเสียงที่ร่ำลือกันมานานถึงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนทุเรียนที่อื่นๆ เพราะด้วยพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เป็นดินเหนียว ทำให้ปลูกทุเรียนได้รสชาติที่อร่อย หอมหวานมัน และจังหวัดนนทบุรี มีสายพันธุ์ทุเรียนที่ดี ทุกอย่างลงตัว ทำให้ “ทุเรียนนนท์” โด่งดัง จะเห็นได้จากการถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของคำขวัญของจังหวัด
ด้วยเหตุนี้ เอง เจ้าของธุรกิจรับเหมา “อนุสรณ์ กลอยดี” เจ้าของสวนเสรีทุเรียนเมืองนนท์ คิดว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถอนุรักษ์ทุเรียนนนท์ ให้ยังคงอยู่คู่จังหวัดนนทบุรี จึงได้นำพื้นที่ดินของตัวเองในจังหวัดนนทบุรีกว่า 50 ไร่ มาทำเป็นสวนทุเรียน โดยนำสายพันธุ์ทุเรียนเก่าแก่ กว่า 10 สายพันธุ์ มาปลูกในพื้นที่ เพื่อเป็นการร่วมอนุรักษ์ “ทุเรียนนนท์” ให้ยังคงอยู่ต่อไป
คุ้มหรือไม่ นำพื้นที่ จ,นนทบุรี มีราคาแพงมาทำสวนทุเรียน
นางสาว อรยา กลอยดี (สาหร่าย) เจ้าของสวนเสรีทุเรียนเมืองนนท์ สาววัย 28 ปีที่ได้รับมอบหมายจากพ่ออนุสรณ์ ให้มาทำหน้าที่ในการทำตลาดทุเรียนของ “สวนเสรีทุเรียนเมืองนนท์” เล่าว่า ครอบครัว คือ คุณพ่อ (นายอนุสรณ์ กลอยดี) ทำสวนเสรีทุเรียนเมืองนนท์ บนพื้นที่ 50 ไร ตำบลคลองทวีวัฒนา อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นสวนทุเรียนนนท์ เพียงไม่กี่แห่งในจังหวัดนนทบุรี หลายคนถามว่า คุ้มไหมกับการนำพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ที่ปัจจุบันเป็นพื้นที่ทำหมู่บ้านจัดสรร และราคาที่ดินค่อนข้างสูง มาทำการเกษตร
“สาหร่าย” ทายาทสวนทุเรียนเมืองนนท์ บอกว่า ถ้าต้องซื้อที่ดินในจังหวัดนนท์ ที่มีราคาสูงมาทำเกษตรคงจะเป็นไปได้ยาก หรือ แม้แต่การปลูกทุเรียนที่ราคาสูง โอกาสคืนทุนยาก เพราะการปลูกทุเรียน ต้องลงทุนสูง และครอบครัวของเราไม่ได้เคยปลูกทุเรียนมาก่อน แต่ที่มาทำสวนทุเรียนครั้งนี้ มาจากคุณพ่ออนุสรณ์ อยากทำเกษตร และต้องการอนุรักษ์ทุเรียนนนท์ ที่ปัจจุบันหาทานได้ยากมากแล้ว
สำหรับราคาที่ดินในย่านนี้ ราคาค่อนข้างสูงต่อไม่ต่ำกว่า 3 ล้าน 5 ล้านบาทต่อไร่ หรือบางพื้นที่จังหวัดนนทบุรีต่อไร่ราคาสูงกว่านั้นมาก เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ และ เป็นจังหวัดที่เป็นส่วนขยายของเมืองหลวงจะเห็นได้จากหมู่บ้านจัดสรรจำนวนมากในพื้นที่นนทบุรี ด้วยเหตุนี้ เป็นไปได้ยากมากที่ใครจะลงทุนซื้อที่ดินเพื่อมาทำการเกษตรไม่คุ้ม แต่ที่เราเลือกที่จะทำเกษตรทำสวนทุเรียน เพราะเรามีที่ดินเป็นของเราเอง คุณพ่อชื่นชอบการทำเกษตร และเราเองก็มีธุรกิจรับเหมา มีธุรกิจให้บริการรถสิบล้อ และรถแบคโฮ เป็นธุรกิจหลักรองรับ
ลงทุนปลูกทุเรียนครั้งนี้ไปกว่า 5 ล้านบาท
โดยครอบครัวเรามีพื้นที่ดินของเราเอง ที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ และบางส่วนซื้อเพิ่ม ไม่ได้ลงทุนซื้อที่ดินทั้งหมด การลงทุนของเราหมดไปกับการจัดการที่ดิน และต้นพันธุ์ การปลูก การดูแล ซึ่งเท่านี้ คุณพ่อก็ต้องหมดไปกับลงทุนไปกับสวนเสรีทุเรียนนนท์ ครั้งนี้ ไปแล้วกว่า 5 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2562 และปีนี้ 2568 ก็เป็นปีแรกที่เราเก็บผลผลิตแบบเต็มๆ ได้ผลผลิตปีนี้ ประมาณ 1,000 ลูก ถึงตอนนี้ผลผลิตก็ถูกจองไปหมดแล้ว ทางช่องทางออนไลน์
สำหรับสวนเสรีทุเรียนเมืองนนท์ ได้มีการรวบรวมทุเรียนสายพันธุ์ต่างๆ ที่เป็นสายพันธุ์หายาก ของจังหวัดนนท์ และจังหวัดอื่นๆ โดยมีสายพันธุ์ทุเรียนมากกว่า 10 สายพันธุ์ ได้แก่ หมอนทอง พานพระศรี กบสุวรรณ กบแม่เฒ่า กบพิกุล กบตาขำ กบชายน้ำ ชายมะไฟ กระดุม และชะนี ฯลฯ ซึ่งมีทุเรียนอยู่ในพื้นที่ประมาณ 1,000 ต้น
ราคาทุเรียน เริ่มต้น 700บาท ถึง 1,500 บาท
ผลผลิตปีแรก 1,000 ลูก ถูกจองหมดแล้ว
ในส่วนของราคาทุเรียน เนื่องจากเป็น “ทุเรียนนนท์” อิงราคาขายในพื้นที่ โดยเริ่มต้นที่กิโลกรัมละ 700 บาท ไปจนถึง 1,500 บาท โดยเป็นราคาที่ตัดขายทั้งลูกหนาม ราคาจะขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ และชนิดของสายพันธุ์ แต่ถ้าเป็นทุเรียนแกะเปลือก ขายอยู่ที่ขีดละ 400 บาท กิโลกรัมละ 4,000 บาท เพราะการแกะเปลือก จะเลือกเฉพาะเมล็ดที่สวย เท่านั้น นำออกมาขาย ทำให้ราคาสูงกว่าทุเรียนที่ขายทั้งลูก
หลายคนสงสัยว่า ราคาขนาดนี้ ขายได้เหรอ "สาหร่าย" ทายาทเจ้าของสวนเสรีทุเรียนเมืองนนท์ บอกว่า ไม่ได้เป็นราคาที่เราตั้งขึ้นมาเอง แต่เป็นราคาของทุเรียนนนท์ ที่เค้าซื้อขายกันในราคานี้ ทุเรียนนนท์ เหมือนแบรนด์สินค้าที่ลูกค้ายอมรับ ว่าทุเรียนนนท์ มีเอกลักษณ์ที่หลายคนยอมที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อทุเรียนในราคานี้ และต้องบอกว่า ทุเรียนที่ออกจากสวนเรา ได้คัดเลือกเฉพาะทุเรียนคุณภาพดีเท่านั้น ที่จะขายให้ลูกค้า และในขั้นตอนการดูแลกว่าจะได้ทุเรียน อย่างที่ต้องการใช้เวลาและการดูแลที่มีหลายขั้นตอนมาก
ถ้าครอบครัวของเราไม่ได้มีใจ หรือ ความมุ่งมั่นจริงในการทำและต้องการอนุรักษ์ทุเรียนนนท์ ในฐานะที่เราเป็นคนเกิดจังหวัดนนทบุรี คงจะถอดใจไปแล้ว เพราะก่อนจะปลูกทุเรียน “คุณพ่ออนุสรณ์” ต้องเดินทางไปหลายแห่ง เพื่อจะเรียนรู้การปลูกทุเรียน และการไปคัดเลือกสายพันธุ์ทุเรียนมาปลูกด้วยตัวเอง เพราะการปลูกครั้งแรกโอกาสที่จะรอดและให้ผลผลิตถึงทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เช่น ปลูกทุเรียน 1,000 ต้น รอดแค่ 50-60 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือตายต้องปลูกใหม่ ทดแทน เป็นต้น ส่วนผลผลิตที่เราสามารถเก็บขายได้ใน 1,000 ต้น มีแค่ 50-60 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ทำให้ปีนี้ มีผลผลิตขายได้แค่ 1,000 ลูก และพอเราเปิดจองก็มีลูกค้าเข้ามาจองตอนนี้หมดแล้ว
ทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์
เปิดจองข้ามปีไปถีงปีหน้าแล้ว
สาหร่าย เล่าถึงการทำตลาดทุเรียนนนท์ ของเธอว่า ใช้ช่องทางออนไลน์ เปิดจองผ่านหน้าเพจ และทำคอนเท็นแนะนำสวนของเรา และมีสื่อมาสัมภาษณ์ ทำให้คนรู้จักสวนเสรีทุเรียนเมืองนนท์ ปีนี้ เป็นปีแรก เราจำเป็นจะต้องทำสื่อให้คนรู้จักก่อน เชื่อว่า ปีต่อๆไป พอลูกค้ารู้จักแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ ที่ลูกค้าจะแวะมาซื้อเราทุกปี แม้ว่าปีนี้ จะปิดการจองไปแล้ว แต่ก็ยังมีลูกค้าที่ยังจองทุเรียนอยู่ ตอนนี้ ก็เริ่มมีพรีออเดอร์ สำหรับการจองทุเรียนปีหน้าแล้ว
ติดต่อ Facebook : สวนเสรีทุเรียนเมืองนนท์
โทร. 06-2164-1624
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *
