พารู้จักกับร้านอาหารอีสานสไตล์โมเดิร์น “แก่นกรุง” สะพานเชื่อมระหว่าง “ขอนแก่นและกรุงเทพฯ” ที่ขนทัพเมนูอาหารอีสานที่ถูกรังสรรค์มาอย่างประณีตเสิร์ฟให้กับคนเมืองได้ลิ้มลอง พร้อมชูจุดเด่นด้วยการใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นและฟิวชั่นอาหารอีสานให้คนเมืองสามารถรับประทานได้ ตั้งเป้าการเติบโตปักธงร้านอาหารอีสานในต่างประเทศ
เชฟไพศาล ชีวินศิริวัฒน์ หนึ่งในผู้บริหารร้านอาหารแก่นกรุง เล่าว่า ร้านแก่นกรุงเป็นร้านที่สองที่ทำเพราะร้านแรกอยู่จังหวัดขอนแก่น โดยใช้เวลารวบรวมความคิดในการตัดสินใจเปิดร้านแก่นกรุง ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการเปิดร้านอยู่ทั้งหมด 5 ข้อด้วยกัน คือ 1.แก่น ที่แปลว่าสิ่งสำคัญหรือแกนกลาง ซึ่งในความหมายของทางร้านคือวัตถุดิบอีสานที่นำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับอาหารและการตกแต่งร้านและเรื่องอื่นๆ ที่นำเสนอความเป็นอีสานเอาไว้ 2.แก่น ที่แปลว่าไม้ โดยทางครอบครัวเชฟไพศาลมีธุรกิจนำเข้าไม้จากประเทศลาว จึงนำไม้ของที่บ้านมาประยุกต์และตกแต่งร้านให้ออกมาสวยงามโดยผ่านการออกแบบจากดีไซน์เนอร์คนอีสาน 3.แก่น ที่แปลว่า ซน ที่ถูกนำเสนอผ่านเมนูอาหารต่างๆ โดยให้ความรู้สึกที่แก่นหรือซนเวลารับประทาน เพราะทางร้านคิดค้นเมนูโดยการนำเอาวัตถุดิบต่างๆ มาประยุกต์เข้าด้วยกัน 4.แก่น ที่แปลว่า อยู่สบาย ซึ่งเป็นแกนหลักของทางร้านผ่านการนำเสนอเมนูอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เมื่อเวลารับประทานเข้าไปแล้วจะรู้สึกดีรู้สึกสบาย และ 5.แก่น ที่แปลว่า ขอนแก่น
ด้านเชฟจิ๊บ กันยารัตน์ ถนอมแสง หนึ่งในผู้บริหารร้านอาหารแก่นกรุง เปิดเผยว่า ร้านอาหารแก่นกรุงถ้าหากมองทั่วไปอาจจะหมายถึงกรุงเทพฯ แต่ทางร้านให้ข้อมูลว่าแก่นกรุงที่แปลว่ากรุงธนบุรีเพราะเปิดร้านในย่านฝั่งธนจึงตั้งใจตั้งชื่อร้านให้เข้ากับสถานที่ โดยมีแนวคิดคือการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างขอนแก่นและกรุงเทพผ่านการรังสรรค์เมนูอาหารอีสานสไตล์โมเดิร์นออกมาให้กับลูกค้าได้ลิ้มลอง นอกจากนี้ยังมีการรวบรวมอาหารและวัตถุดิบจากภาคอีสานและระแวกร้านมาให้คนเมืองได้สัมผัสกับเมนูอาหารต่างๆ ผ่านร้านแก่นกรุงนั่นเอง
ปัจจุบันเปิดร้านมาได้ประมาณ 7 เดือนและมีผลตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง มีลูกค้ากลับมาซ้ำค่อนข้างเยอะพร้อมกับถูกบอกต่อผ่านปากต่อปากจากลูกค้าด้วยกันเอง ซึ่งลูกค้าที่เข้าร้านจะผสมผสานกันไปไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติ นักรีวิวอาหาร คนในท้องถิ่นและอีกหลายกลุ่ม ที่เริ่มรู้จักร้านมากขึ้น นอกจากนี้จุดเด่นเมนูอาหารของทางร้านคือการปรุงอาหารโดยไม่ใส่ผงชูรสแต่จะเน้นกรรมวิธีปรุงอาหารให้กลมกล่อมด้วยตัววัตถุดิบเอง รวมถึงปลาร้าที่รับมาก็เป็นปลาร้าที่ไม่ใส่ผงชูรสทำให้กลายเป็นจุดเด่นของเมนูอาหาร
ในส่วนของสถานการณ์ธุรกิจอาหารนั้นจะต้องเน้นความเด่นชัดและเป็นตัวของตัวเอง มีจุดยืนในการทำอาหาร ซึ่งในแต่ละร้านอาหารก็จะมีจุดยืนเป็นของตัวเองและขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้าว่าจะชื่นชอบเมนูอาหารของร้านไหน จึงจะสามารถมัดใจลูกค้าได้ ซึ่งในปัจจุบันราคาวัตถุดิบค่อนข้างแพง ทางร้านจึงตั้งราคาให้เหมาะสมกับกำลังซื้อของลูกค้า รวมทั้งการรับซื้อวัตถุดิบจากชาวบ้านก็อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ชาวบ้านไม่เดือดร้อนและทางร้านเองก็สามารถอยู่ได้
ทั้งนี้ทางร้านยังมีการมองไปถึงการแก้ไขปัญหาขยะอาหารหรือ Zero Waste โดยทางร้านมีมุมมองตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยในส่วนต้นน้ำทางร้านพยายามใช้วัตถุดิบชุมชนเพราะมีความเชื่อว่าถ้าหากเศรษฐกิจรากฐานดีก็จะทำให้เศรษฐกิจองค์รวมดี เพราะฉะนั้นทางร้านจึงใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ส่วนกลางน้ำก็ได้มีการเทรนด์พนักงานในร้านให้ใช้ของที่มีให้ได้คุณค่ามากที่สุด และสุดท้ายคือปลายน้ำทางร้านพยายามจะทำให้ขยะเหลือน้อยที่สุด รวมถึงเครื่องดื่มของทางร้านจะเป็นแบบรีฟิล ไม่มีขวดพลาสติก
นอกจากนี้การยกระดับอาหารอีสานของทางร้านคือการผสมผสานวัตถุดิบต่างๆ มาประยุกต์ให้เป็นเมนูที่แปลกตาแต่ไม่ได้เปลี่ยนความดั้งเดิมของอาหาร หากแต่เพิ่มเทคนิคการทำอาหารให้เกิดความแตกต่างและยังคงความอร่อยสไตล์ร้านอาหารแก่นกรุง ยกตัวอย่างเช่นเมนู ส้มตำ ที่ใช้มันแกวแทนเส้นมะละกอ เพื่อสร้างความแปลกใหม่
ทางร้านได้มีการตั้งเป้าความสำเร็จไว้ด้วยการอยากทำให้ร้านอาหารแก่นกรุงโกอินเตอร์สู่ต่างประเทศเพื่อที่จะนำเอาเมนูอาหารอีสานที่ทันสมัยไปเฉิดฉายสู่สายตาชาวต่างชาติ ซึ่งในยุคปัจจุบันอาหารอีสานเป็นที่นิยมอย่างมากทั้งคนไทยและต่างชาติ ทางร้านจึงมีความตั้งใจและตั้งเป้าหมายการเติบโตเอาไว้ด้วยการนำเมนูอาหารอีสานไปยังต่างประเทศ พร้อมกับตั้งเป้าการเติบโตด้วยการขยายสาขาเพิ่มในกรุงเทพมหานคร
สำหรับเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านได้แก่ เมนูอาหารจากหมูหลุม เช่น ไส้กรอกอิตาเลี่ยน ไส้กรอกอีสาน กุนเชียง และแหนมหมูที่เสิร์ฟคู่กับผักดอง พร้อมทั้งใช้ใบหูเสือที่มีกลิ่นเฉพาะแทนออริกาโน่ เมนูที่สองคือตำมันแกวแทนเส้นมะละกอ แกงเปรอะที่ปรับให้มีความแตกต่างด้วยการใส่ผักกว่า 20 ชนิดและมิโซะ รวมถึงลาบเป็ดกงฟี และเค้กมะตูมที่เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมชาไทย นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มอย่างสาโทที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ และสุราชุมชนพร้อมด้วยคอมบุฉะและค็อกเทลต่างๆ
อย่างไรก็ตามร้านอาหารแก่นกรุงเปิดทุกวันยกเว้นวันอังคาร-พุธ ตั้งแต่เวลา 12:00-22:00 น. นอกจากนี้ทางร้านยังร่วมโปรโมชั่นกับบัตรเครดิต KTC MASTERCARD ทุกประเภทรับฟรีไอศกรีมกะละแมหนมเหนียว 1 ที่ราคา 190 บาท เมื่อจ่ายผ่านบัตร 1,500 บาทขึ้นไป พร้อมกับบัตรเครดิต KTCxWORLD REWARDS MASTERCARD และ KTC WORLD MASTERCARD ทุกประเภทรับคะแนนสูงสุด x10 เมื่อจ่ายผ่านบัตรตามเงื่อนไขที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-31 ก.ค. 68
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : KaenKrung
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *