xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) กว่า 2 ทศวรรษพาหุรัดดอทคอม ผู้นำตลาด “ชุดไทยฟิวชั่น” ต่างชาติถูกใจซื้อผ่านตู้หยอดเหรียญได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ผมพยายามทำชุดไทยให้มันใช้ได้ง่ายขึ้นและก็ทำ “ชุดไทยฟิวชั่น” ให้มันบวกกับเสื้อผ้าปกติที่เขาใส่ไปทำงานใส่ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งในช่วงแรกเนี่ยตรงนี้มันกระแสถกเถียงกันหลายเรื่องมากในช่วงแรกที่เริ่มมีการใช้ฟิวชั่นกัน หลายคนยังบอกว่าชุดไทยจะต้องเป็นแบบดั้งเดิมเท่านั้น ผิดเพี้ยนจากนี้เป็นเรื่องผิด


ซึ่งผมเข้าใจนะแล้วผมก็มีเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มที่เขาแต่งไทยแบบดั้งเดิมเขาอนุรักษ์และมีความหวงแหนว่ามันควรจะเป็นแบบนั้น
แต่เราก็คุยกันแลกเปลี่ยนกันซึ่งเราบอกว่าแบบนั้นคือแบบที่ดีแบบที่ดั้งเดิมแต่มันอาจจะใช้จริงยาก อย่าง โจงกระเบนนุ่งสด การที่จะนุ่งออกจากบ้านคนไม่คุ้นเคยถ้าจะต้องเข้าห้องน้ำหรืออะไรขึ้นมาเขาไม่สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง ฉะนั้น อย่างโจงกระเบนสำเร็จรูปมันเลยเป็นทางออกสำหรับคนที่อยากแต่งชุดไทยแต่ว่าไม่มีความสามารถมากพอที่จะแต่งแบบดั้งเดิม แล้วมันก็ย่อยง่ายขึ้นมันทำให้คนกลุ่มใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสชุดไทยเลยกล้าที่จะหยิบมาใช้ มันก็เลยเป็นเหมือน 2 ทางแต่ผมว่ามันเกื้อหนุนกันนะ ผมอาจจะเป็นกลุ่มที่เอาไปนำเสนอให้user ใหม่ ๆ เข้ามาแต่พอเขาเริ่มเข้ามาแล้วเขาอยากรู้แล้ว ชุดไทยแท้ ๆ ดั้งเดิมเป็นยังไงเขาก็จะพัฒนาไปเสพกับศิลปะที่มันอยู่ในชั้นที่สูงขึ้น” คุณนวนพ วงศ์เสงี่ยม เจ้าของร้านชุดไทย PHAHURAT.COM ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ธุรกิจชุดไทยรายใหญ่บนถนนพาหุรัด(กรุงเทพฯ) ก่อนจะแยกตัวออกมาทำร้าน Stand alone เองในย่านพระราม 9 เป็นสาขาแรกเมื่อช่วงปี 2547 พร้อมบุกเบิกการตลาดออนไลน์แบบเต็มตัวเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน


ร้านชุดไทยอันดับ 1 ทำไมต้อง PHAHURAT.COM ?
“ผมเป็นรุ่นที่ 3 ของธุรกิจชุดไทยในถนนพาหุรัด ก็ในเครือญาติทั้งหมดที่เป็นร้านค้าอยู่ริมถนนพาหุรัดก็จะขายตั้งแต่การ์ดแต่งงาน ของชำร่วย เครื่องโขน-เครื่องละคร ผ้าไหม แต่ว่าในเซคชันของครอบครัวผมทำก็จะมีการ์ดแต่งงาน ของชำร่วย และก็ชุดไทย”ในปี 2547 มันเป็นช่วงที่เริ่มแรกของ “เว็บไซต์” ที่เข้ามาในประเทศไทย ตอนนั้นผมก็มองเห็นโอกาสว่า เว็บไซต์จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางมาหาเราแล้วก็ซื้อสินค้าได้ ประกอบกับปีนั้นมันเป็นปีที่อยู่ ๆ ราคาน้ำมันของประเทศไทยราคาสูงขึ้นมาก คนเริ่มบ่นเรื่องการเดินทาง ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเริ่มมีปัญหา ผมก็มองว่าแนวโน้มในอนาคตคนที่จะเดินทางมาถึงพาหุรัดที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกรุงเทพฯ มันเป็นไปได้ยาก ฉะนั้น ก็เลยมองหาอะไรจะช่วยอำนวยความสะดวกเขาในการซื้อสินค้าได้ก็มองเห็นเว็บไซต์ “แต่ว่ามันมีความลำบากตรงว่า ในยุคนั้นเนี่ยเรายังอยู่ในช่วงที่ใช้ ICQ เราอยู่ในยุคเว็บบอร์ด ร้านค้าออนไลน์เสื้อผ้าเนี่ยยังไม่มีใครเริ่ม ซึ่งเราไม่มีตัวอย่างให้ดูต้นแบบ ผมก็ต้องดูแบบจากเว็บไซต์ต่างชาติที่เขาเริ่มขายออนไลน์กันแล้ว และก็เริ่มใช้แพลตฟอร์มง่าย ๆ ตอนนั้นเป็นปีที่ ตลาดดอทคอม เพิ่งเกิดเว็บอีคอมเมิร์ช ผมก็เริ่มสมัครกับเขา”แล้วก็หาความรู้เพิ่มเติมจากหนังสือ ไต่อันดับ SEO ก็ดูว่ามันเป็นคีย์แหละที่ลูกค้าคีย์คำว่า “ชุดไทย” แล้วจะต้องเจอเรา เพราะว่าเราเป็นคนขายอยู่ก็ไปหาความรู้ตรงนั้น ทำให้เราไต่อันดับขึ้นมาจนอยู่ อันดับ1 อยู่ตลอดซึ่งก็เป็นประตูบานแรกที่เริ่มเปิด


ความยากในช่วงการบุกเบิกตลาดออนไลน์ แต่ข้อดีกว่าของการแยกมาเป็น Stand alone
แต่ว่าความลำบากก็คือลูกค้าในยุคนั้นยังขาดประสบการณ์ในการซื้อสินค้าออนไลน์ ซึ่งทำให้เขาไม่กล้าซื้อ ทำให้ช่วงแรก 6 เดือนกว่าที่เราร้อนซ์เว็บไซต์ออกไปถ่ายรูปลงสินค้าไปแล้ว แต่ออร์เดอแรกเกิดขึ้นหลังผ่านไปแล้ว 6 เดือน“ลูกค้าจะสั่งแล้วแล้วเราจะทำยังไงต่อ ซึ่งตอนนั้นใช้วิธีว่าเขาดูภาพจากเว็บไซต์แล้วโทรคุยกันทางโทรศัพท์ สมัยนั้นเราไม่มีแชทเราส่งรูปไม่ได้ ก็ต้องคุยยืนยันกันเรื่องสีอะไรกันทางโทรศัพท์อย่างเดียว แล้วก็ออร์เดอแรกเนี่ยต้องส่งไปที่ตรง มศว.เป็นผู้ปกครอง ซึ่งผมก็ขับรถไปส่งเองเสร็จแล้วส่งเสร็จ ได้รับเงิน 1 ชุดกลับมามานั่งคำนวณ สรุป job นั้นขาดทุนค่ารถ” ซึ่งตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้คิดค่าส่ง ไม่รู้ว่าจะต้องคิดยังไงเพราะมันเป็นออร์เดอแรก ก็ต้องมาเรียนรู้กันว่าโอเคมันต้องมีค่าส่งแล้วนะ แล้วก็เรื่องสีเรื่องการเลือกตอนนั้น ไม่มีโซเชียลมีเดียผมก็ใช้วิธีว่า วงจรปิดของที่ร้านผมก็เอา IP ไปใส่ในเว็บ ลูกค้าเวลาจะซื้อสินค้าก็เข้าไปดูลิงก์มีภาพเห็นวงจรปิดแล้วคุยโทรศัพท์กับผม แล้วผมก็ใช้วิธีการชูให้ดูในจอแล้วก็คุยกันทางโทรศัพท์ว่า เลือกตัวนี้สีนั้นสีนี้นะ ก็เริ่มเรียนรู้แล้วว่าส่งตอนนั้น เราใช้ไปรษณีย์ส่งถ้าลูกค้าด่วนผมก็เรียกวินมอเตอร์ไซค์ที่รู้จักกันไปส่ง ก็มีบวกค่าส่งเพิ่มต่างหาก ก็ค่อย ๆ ปรับตัว ๆ ปรับตัวกันตามฟีดแบ็คที่ลูกค้าอยากได้


“ณ ปีนั้นเนี่ย 2547 มันเป็นเว็บที่สำเพ็ง พาหุรัด ยังบูมอยู่คนยังเยอะมาก จนเสาร์-อาทิตย์เนี่ยเราแฮนเดิลลูกค้าหน้าร้านกันไม่ไหว แต่ว่าสำหรับผม ผมมองเรื่องว่าแนวโน้มคนที่จะเดินทางมาเนี่ยมันจะน้อยลง อายุของลูกค้าที่มาซื้อเราจะมาจากต่างจังหวัดจะเป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น ผมยังไม่เห็นเจนใหม่ที่เข้ามาซื้อก็คาดการณ์ว่าอนาคตมันน่าจะเสื่อมถอยลงสำหรับพาหุรัด ฉะนั้นต้องมีเว็บไซต์เนี่ยแหละมาแก้ปัญหา”คุณแม่มีโรงงานเย็บของตัวเองซึ่งเราถนัดตรงชุดไทยเป็นหลัก ผมก็เลยเอาชุดไทยเป็นตัวชูของพาหุรัดดอทคอม แต่ว่าจากการที่มีการซื้อขายขึ้นมาเราเห็นลูกค้าหลักของเราแล้วจะอยู่ สุขุมวิท เพชรบุรี อยู่กลางใจเมืองเราก็มองแล้วพาหุรัดไม่น่าจะเหมาะ ที่จอดรถหายากมาก “คุณแม่มีตึกอยู่ตรงพระราม 9 ซึ่งมันลงทางด่วนแล้วก็ถึงเลย แล้วก็เชื่อมต่อไปสุขุมวิทได้ไปเพชรบุรีง่าย ก็เลยมาเปิดตรงนี้ที่จอดรถมีหน้าร้าน แก้ปัญหาเดิม ๆ ที่เราเคยอยู่ในโลเกชันพาหุรัดแล้วเราเจอ ก็มาเริ่มกันที่นี่”


ช่วงเริ่มแรกแต่ก็โชคดีว่า ช่วงนั้นมันใหม่มากคู่แข่งก็ยังแทบจะไม่มี แล้วพอเราอยู่ในอันดับ 1 ของคีย์เวิร์ดชุดไทยในกูเกิ้ลแล้ว มันก็คือลูกค้าเข้ามายังไงก็ต้องเจอเราตลอดเวลา แล้วพอลูกค้าเดินทางมาถึงหน้าร้านเราปุ๊บก็จอดรถง่าย เดินทางสะดวก พอเข้ามาแล้วเลือกแล้วเขาก็ไม่มีคู่แข่งเทียบด้วย ฉะนั้นการที่พอมันเป็น Stand alone ก็มีข้อดีของมันคือ เราไม่มีคู่แข่งเปรียบเทียบในสินค้าไลน์เดียวกัน


ปรากฏการณ์ชุดไทย Soft power เพิ่มความหลากหลายในการใช้ด้วย “ชุดไทยฟิวชั่น”
เนื่องจากพาหุรัดดอทคอมมันเป็นชุดไทยสำหรับทุกวัยเลย ตั้งแต่เด็กเล็ก เด็กโต วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ เจ้าบ่าว-เจ้าสาว ซึ่งเราก็จะทยอยออกอย่างช่วงนี้เราออกเป็นชุดเด็กก็จะมีเด็กใหม่มา หรือว่าชุดผู้ใหญ่ชุดจิตรลดาผ้าไหมมามีอะไรอย่างเงี้ย มันก็จะวนกันในทุก ๆ เซคชั่นแต่ในทุก ๆ หนึ่งปีมันจะมีของใหม่ออกเรื่อย ๆ หมุนเวียนกันอยู่ ซึ่งเหมือนเดิมผมทำตามฟีดแบ็คของลูกค้า เทรนด์ลูกค้ามาจากเดิม ๆ เราเคยใส่จิตรลดาเรียบ ๆ ตอนนี้บอกว่าอยากให้ดูหวานขึ้น เราก็ใช้ผ้าที่มันเป็นลายดอกไม้ตัดเป็นชุดจิตรลดาที่มันโดดเด่นกว่าปกตินิดหน่อย “เราเน้นว่าเราขายชุดไทยสำเร็จรูปเป็นหลัก เราก็จะทำสต็อกไว้หน้าร้านเผื่อฉุกเฉิน เราก็จะต้องมีแพลนกันว่าใกล้ถึงเทศกาลอะไรบ้าง ปีใหม่ ลอยกระทง สงกรานต์ วันภาษาไทย อะไรอย่างเงี้ยว่าเด็ก ๆ จะต้องใส่ชุดอะไรไปโรงเรียน เรามีแบบไหนที่จะนำเสนอเขาแล้วมันคล้องกับเทศกาลเหล่านั้น เราก็จะต้องเตรียมแพลนล่วงหน้าเตรียมผลิต”แล้วก็ในบางครั้งเวลาอยู่ในตลาดผ้าเราเห็นผ้าบางอย่างมันอยู่นอกอุตสาหกรรมผ้าไทย แต่มันเหมาะกับการเอามาฟิวชั่นแล้วทำเป็นชุดไทย เราก็จะนำมันมาทำแล้วก็นำเสนอให้ลูกค้าได้ดูว่ามันมีทางเลือกอื่นนะ แบบใหม่ที่มันไม่เคยมี เอามาให้เรื่อย ๆ




“ภารกิจหนึ่งของผมกับแฟนที่ทำพาหุรัดดอทคอม ผมเองเป็นคนชื่นชอบชุดไทยมาตั้งแต่เด็กแล้วเราอยากให้ชุดไทยมันถูกนำกลับมาใช้ใหม่ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ๆ ซึ่งจากหลายภาคส่วนที่ใช้ร่วมกันที่ผ่านมาทำให้เกิด “กระแสชุดไทย” กลับมาใส่กันได้บ่อยขึ้นเป็นประจำ สมัยผมเด็ก ๆ ขนาดผมใส่ชุดไทยเองเนี่ยผมยังแทบจะไม่ได้เคยใส่เลยด้วยซ้ำ เพราะว่าเมื่อก่อนจะมีใส่แค่เจ้าสาว เจ้าบ่าว แค่นั้นหรืออย่างมากก็คนเดินหน้าขบวนขันหมาก”ถ้าคุณใส่ถ้าปีนั้น ช่วง 2547 ถ้าคุณใส่ชุดไทยออกไปเดินถนนเนี่ย เขาจะเรียกว่าคุณไปแก้บนหรือว่าแบบสติไม่ดีหรืออะไร แต่วันนี้มันต่างไปแล้วสายตาคนอื่นที่มองการใส่ชุดไทยออกไปเดินข้างนอก ชื่นชม และก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เราน่าภูมิใจว่ามันยังมีสิ่งนี้ในชาติเรา แล้วมันก็เป็น Soft power ที่หนักแน่นที่สุดที่ชาวต่างชาติจดจำได้และก็นึกถึง “ตั้งแต่ช่วงงาน “อุ่นไอรัก” ผ่านมาต่อจาก “ออเจ้า” บุพเพสันนิวาสภาคแรกมันก็บูมสุด ๆ ในช่วงนั้น ซึ่งทำให้ทุกคนอยากจะหยิบชุดไทยแล้วไปถ่ายรูปตรงสวนอัมพรทุกคนอยากมีรูปในโซเชียลแบบนั้นหมด” การใส่ชุดไทยมันกลายเป็นเรื่องสวยงาม เป็นเรื่องเท่ แล้วมันเป็นเรื่องที่ว่าใครไม่ใส่มันจะตกเทรนด์ มันทำให้หลาย ๆ คนได้สัมผัสกับชุดไทย ณ โมเมนต์นั้น


ผมว่ามันก็เป็นปรากฏการณ์เป็นรูปแบบของสังคมการใช้ “ชุดไทย” ละกันมันจะมีในหลาย ๆ ระดับ ขึ้นอยู่กับกาละ ว่าโอเคมันเป็นงานทางการมาก ๆ คุณจะต้องใช้แบบไหน ตามแบบแผน หรือคุณเป็นตัวเอกวันนั้นอย่างเช่น คุณเป็นเจ้าบ่าว คุณอาจจะนุ่งสดวันนั้นเลยแต่งแบบดั้งเดิม เจ้าสาวแต่งแบบดั้งเดิมเต็มยศโอเคได้ แต่พอเป็นคนร่วมงานก็จะเป็นแบบที่อาจจะลำลองลงมานิดหนึ่งแต่ยังเป็นแบบมาตรฐาน และถ้าเกิดคุณจะใส่ไปแค่ปาร์ตี้บริษัทมันเป็นแบบฟิวชั่นได้ ทำให้มันย่อมลงมาเคลื่อนไหวสะดวกง่ายเหมาะกับการใช้งานยังมีความเป็นไทยอยู่ มันก็เป็นหลาย ๆ การใช้งานที่คนในสังคมได้เห็นว่าเขาเลือกใช้อะไรได้บ้าง“สิ่งนี้เนี่ยผมเห็นตั้งแต่ช่วงก่อนที่กระแสไทยจะมา ผมไปเที่ยวต่างประเทศผมเห็นชุดประจำชาติของญี่ปุ่น ของเกาหลี ซึ่งเขาก็แบ่งหลายระดับอย่างนี้เหมือนกันเขามีตั้งแต่แบบดั้งเดิมมาตรฐาน นุ่งแบบสูตร ชุดที่ว่าอยู่ในโรงแรมที่นักท่องเที่ยวไปใส่ได้ ชุดคอสเพลย์ที่เด็ก ๆ ใส่เล่นกัน ผมก็เอามาคุยกับภรรยาแล้วก็เราแยกเซคชั่นของเราว่า เราก็ล้อไปกับเขาเนี่ยแหละ ชุดไทยมันก็จะมีดั้งเดิม ระดับกลาง และก็เป็นคอสเพลย์”ซึ่งเราทำ serve ไว้แล้ว พอมันถึงตรงนั้นทุกคนก็หยิบใช้ได้ทันที แล้วมันก็เป็นกระแสด้วยว่าอย่างสงกรานต์ใส่ชุดไทยเล่นน้ำ มันกลายเป็นเรื่องเก๋


ชุดไทยฟิวชั่นที่สามารถซื้อได้ผ่านตู้ Vending Machine
“เสื้อยืดกรองคอ” มันเป็นตัวหนึ่งในเซคชั่นของชุดไทยฟิวชั่นของเรา ซึ่งเราอยากให้คนไทยหยิบมาใช้ได้ในชีวิตประจำวัน
แล้วมันก็ตอบสนองกับกลุ่มนักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งหลายท่านต่างชาติเขามาเที่ยวประเทศไทยแล้วเขาอยากได้เป็นที่ระลึกกลับไปที่ประเทศเขา ว่าเออวันหนึ่งฉันเคยมานะเวลาเขาเห็นอะไรบางอย่างแล้วเขานึกว่า วันนั้นเรื่องราวที่มันเกิดขึ้นในประเทศไทยมันมีอะไรบ้าง ตัวนี้มันก็เป็นของฝากเขาด้วย “จากลูกค้าที่ตอนแรกเราขายเฉพาะออนไลน์กับหน้าร้านเราก็รู้สึกว่า ลูกค้าต่างชาติซื้อไปฝากคนที่บ้านบอกว่าเอออันนี้เหมาะเขาก็ซื้อกลับไป เราก็เลยโฟกัสแล้วว่าโอเคอันนี้เป็นสินค้าที่เหมาะกับการซื้อเป็น souvenir กลับบ้าน แล้วมันจะเป็น Soft power ที่ต่างชาติค่อนข้างชอบด้วย เราก็เลยมองหาแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวเขาจะมาซื้อกลับได้”ผมก็เลยนึกถึงจินตนาการตัวเองตอนที่เราไปเที่ยวญี่ปุ่น หรือว่าไปเที่ยวประเทศต่าง ๆ ที่เราก็จะซื้อของฝากในจุดแลนด์มาร์กของเขาแหละ ที่มันจะเป็นสกรีนอย่างลอนดอน โตเกียว อะไรพวกนี้แล้วเราก็ว่า T-Shirt มันเป็นสากลเขาใส่ที่ไหนก็ได้ในโลก แล้วให้มันมีกิมมิคของประเทศไทยมันก็คือ “กรองคอ” อันนี้




ผมเริ่มจุดแรกที่ “วัดอรุณ” หนึ่งคือใกล้บ้านผม(ผมอยู่ฝั่งธน) สองมันคือ มันเป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจำได้
มันเป็นภาพเคาท์ดาวน์ของประเทศไทยซึ่งจะถูกถ่ายทอดในทุก ๆ ปี เราก็เริ่มจากตรงนั้น “ผมก็เริ่มศึกษาเรื่อง Vending
Machine ว่าตอนนี้มันพัฒนาไปถึงไหนแล้วเราก็ไปเจอตัวอย่างว่า มันมีนะตู้ที่เขาขายเสื้อยืดเขาก็จะขายเสื้อยึดเปล่าให้กับนักท่องเที่ยวตามหัวลำโพงอะไรเงี้ย ก็เลยติดต่อบริษัทเขา เราก็ว่าตัวนี้มันน่าจะแก้ปัญหาเรื่องไม่ต้องจ้างพนักงานเฝ้าและก็ให้นักท่องเที่ยวสามารถหยอดได้ แล้วมันก็เป็นค่อนข้างสากลด้วย”
ก็ลองออกแบบดีไซน์ตู้ขึ้นมา ซึ่งเราอยากให้ลูกค้ามองผ่านปึ๊บภายใน3 วินาทีพอเห็นแล้วแบบ มันหยุดสายตาเขาทำให้เขารู้ว่าอันนี้คือ Soft power อันหนึ่งของไทย แล้วก็เอาแบบนี้ไปนำเสนอกับท่านรองเจ้าอาวาสที่วัดอรุณ ซึ่งก็ต้องขอบคุณว่าท่านให้ความกรุณาว่าอนุญาตให้เราวางได้เพราะว่า ปกติพื้นที่ท่านมีจำกัดอยู่แล้ว และท่านเองก็ค่อนข้างเลือกอยู่แล้วว่า ท่านบอกว่าที่นี่เป็น เหมือนเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ อะไรก็ตามที่จะมาวางตรงนี้ต้องเป็นประโยชน์กับนักท่องเที่ยวและเป็นที่น่ายกย่อง เป็นหน้าเป็นตาได้ ทีนี้เราก็ให้ดูว่าเราตั้งใจมากจริง ๆ ทั้งตัวผลิตภัณฑ์และตัวหน้าตาตู้ดีไซน์เป็นแบบไหนให้ท่านดู ท่านก็บอกเอ้าโอเคลองดู“ท่านก็บอกว่ามันจะขายได้หรือเปล่า เพราะว่าราคาของเราเนี่ยเราขายอยู่ 340 บาท ซึ่งว่าร้านขายเสื้อยืดปกติในวัดอรุณก็จะขายอยู่ประมาณ 200 -200 กว่าบาทอะไรประมาณนี้ ผมบอกว่าอยากลองครับ เพราะผมเชื่อว่าโปรดักตัวนี้ผมเทสต์มาแล้วกับนักท่องเที่ยวหลายคน เขารู้สึกว่ามันแตกต่างจากเสื้อปกติลายไทยก็เลยลองวาง ได้รับโอกาสนั้นแล้วก็ผลตอบรับก็ เป็นที่น่าพอใจก็หลาย ๆ คนก็เห็นแล้วก็สะดุดตา หลายท่านหยอดแล้วใส่เลย! ถอดเสื้อที่ใส่อยู่ก็ใส่เที่ยวเลย ใส่ถ่ายรูปเลย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นไม่ใช่แค่ซื้อ เขาให้เพื่อนถ่ายรูปเขากับตัวตู้ว่าเออประเทศไทยมีตู้แบบนี้ด้วยนะ อะไรอย่างเงี้ย เราเห็นแล้วก็ชื่นใจนะว่าขนาดเป็นประเทศต้นตำรับตู้ Vending Machine เขาก็ยังตื่นเต้นกับตู้ของเรา”




เสื้อจะถูกบรรจุไว้ในกระบอกใส (ขนาดของกระบอกเท่ากัน) ซึ่งมันเหมาะกับนักท่องเที่ยวด้วยหลายคนเขามาแบบแบ็คแพ็คพอมันอยู่ในกระบอกเขาหยอดเสร็จเขาใส่ในกระเป๋าเลย มันพกสะดวกมันง่ายกว่าเสื้อเป็นตัว ๆ สามารถเลือกไซซ์ได้จากคำสั่งหน้าตู้ เสื้อมีไซซ์ S-XXL และก็ Limited เฉพาะตู้วัดอรุณ ผมมีลายกรองคอแล้วตรงกลางเป็นลายวัดอรุณต้องหยอดที่ตู้นี้เท่านั้นถึงจะได้ ก็คือลายนี้เราจะไม่ขายออนไลน์เลย ก็เป็นที่ระลึกครั้งหนึ่งคุณหยอดตู้นี้ที่วัดอรุณคุณจะได้จำได้ว่า เสื้อตัวนี้มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น


ทำมาร์เก็ตติ้งออนไลน์แล้ว ธุรกิจเสื้อผ้าการมีหน้าร้านก็สำคัญ
ลักษณะการขายชุดไทยการที่เราทำมาร์เก็ตติ้งออนไลน์มันเป็นตั้งแต่ Awareness ให้ลูกค้ารู้ว่าเราขายชุดไทยนะ จะเข้า seasonal มีอะไร serve เขา แต่กลยุทธ์ของการทำตลาด “ตู้สินค้า” ผมเรียกมันว่าเป็นการตลาดแบบฉับพลัน เขาเดินผ่านตู้แล้วเขาตัดสินใจภายในไม่กี่วินาที ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อตรงนั้นเลย โดยเขาไม่มีประสบการณ์มาก่อนเลยด้วยซ้ำว่ามันเคยมีสินค้านี้อยู่ตรงนี้ หรือวันนี้ฉันจะไปเจอตู้นี้ มันจะต่างกับคนไทยที่ว่าเขาเคยเห็นตู้ผมแล้วเขาอยากแวะไปดูที่ตู้ แต่นักท่องเที่ยวเขาแค่อยากจะมาวัดอรุณแต่บังเอิญเขาเดินผ่านตู้แล้วจะทำยังไงให้วินาทีนั้นเขาตัดสินใจว่าเฮ้ยฉันซื้ออันนี้กลับดีกว่า อันนี้มันก็จะเป็นผ่านกลยุทธ์อีกแบบหนึ่ง ซึ่งมันจะเป็นเรื่องการทำป้าย เรื่องการเชิญชวน ตู้ต้องชัด ภาพสินค้าต้องเชิญชวน เห็นแล้วเขาเข้าใจทันทีว่ามันคืออะไร

“สำหรับตัวแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่มันเกิดขึ้นในโลกตอนนี้ มันมีทั้งโซเชียลมีเดียมีทั้งเว็บไซต์ต่าง ๆ ผมใช้ทุก ๆ อย่างร่วมกัน มันเกื้อหนุนกันได้ โซเชียลมีเดียอาจจะทำให้ลูกค้าหลักของเราเนี่ยเมื่อเลื่อนผ่านฟีดเขาอาจจะเห็นเราขึ้นมา เมื่อวันหนึ่งเขานึกว่าเขาจะใช้สินค้าเราเขาก็จะกดเข้ามาหาเราทางเว็บไซต์ เพราะตัวเว็บไซต์มันเป็นแคตตาล็อกที่เหมาะสมมากกว่าโซเชียลมีเดีย หน้าตาของโซเชียลมีเดียไม่สามารถนำเสนอสินค้าทั้งหมดของเราได้ เพราะว่าอย่างในเว็บไซต์เรามี 600 กว่าไอเทมซึ่งไม่สามารถใส่อยู่ในโซเชียลมีเดียได้ เขาก็จะมาเลือกต่อในเว็บไซต์แล้วก็ช่องทางการคอนเฟิร์มขอข้อมูลเพิ่มเติม เราก็ใช้ไลน์หรือช่องแชทอย่างอื่นส่งรูปหรือ Live ให้ดูอะไรอย่างเงี้ยครับ หลาย ๆ อย่างหลาย ๆ แพลตฟอร์มช่วยเหลือกัน” เราไม่ได้มองว่าแพลตฟอร์มไหนดีกว่าอะไร แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นของมันเราพยายามดึงจุดเด่นของแต่ละเครื่องมือมาร่วมกันทำให้เกิดความสะดวกที่สุดกับลูกค้า ปัจจุบันสัดส่วนการตลาดระหว่าง ออนไลน์: ออฟไลน์(หน้าร้าน) คืออยู่ที่ 50 : 50 แต่ผมว่าลูกค้ามีความสนุกในการมาเลือกหน้าร้านมากกว่าออนไลน์ หลายคนที่เขามาแล้วเขารู้สึกว่าพอได้ลองแล้วมันมั่นใจ เขาไม่ต้องลุ้นเวลากล่องพัสดุมันไปถึงที่บ้านแล้วแกะมาเขาจะใส่ได้หรือใส่ไม่ได้ แต่ว่ากรณีถ้าเขามาแล้วครั้งหนึ่งเขารู้แล้วว่าเขาไซซ์ประจำ M ของร้าน รอบหน้าเขาก็ไม่ต้องมาก็ได้เขาสั่งออนไลน์แล้วก็ส่งไป เขาก็จะได้ลองแพทเทิร์นของเราแล้วครั้งหนึ่งก็หน้าร้านเนี่ยผมดูว่ามันจำเป็น สำหรับสินค้าเสื้อผ้าไม่ว่าคุณจะใส่ชุดไทยหรือว่าชุดแบบอื่น ชุดที่สวยมันจำเป็นจะต้องลองแหละ แล้วผมเห็นอยู่ว่าคนที่ขายออนไลน์หลาย ๆ คนที่ยังไม่สามารถเติบโตได้เพราะว่า ยังไม่มีหน้าร้าน หลายคนยังทำแต่พรีออร์เดออย่างเดียว พรีออร์เดอในมุมธุรกิจมันดีแหละตรงที่เขาไม่ต้องเสียเงินกับการสต็อกสินค้า แต่หนึ่งจริตของคนไทยต้องยอมรับว่าเราไม่ได้วางแผนอะไรกันนาน ๆ บางทีจะต้องใช้ชุดอีก 2 วัน แต่ต้องพรีออร์เดอครึ่งเดือนเนี่ย มันไม่สามารถ serve เหล่านั้นได้ซึ่งการมีสต็อกสินค้าที่หน้าร้าน ลูกค้ามาถึงปึ๊บลองปึ๊บบางคนให้รีดเลยแล้วใส่ไปเดี๋ยวนั้นเลย อะไรอย่างเงี้ยหน้าร้านก็มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในธุรกิจของเสื้อผ้านะ”


ให้ความสำคัญกับ “เสียงของลูกค้า” พัฒนาไปกับเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มโอกาสธุรกิจ
คุณนวนพ วงศ์เสงี่ยม เจ้าของร้านชุดไทย PHAHURAT.COM บอกด้วยว่า ถ้าเกิดไปในโทนของร้านชุดไทยเราก็ยังมั่นใจเราคือ อันดับ1 ของร้านชุดไทยในประเทศ แล้วก็ในส่วนของชุดยูนิฟอร์มก็อาจจะเป็นอีกเซคชั่นหนึ่งที่เราเข้าไปมีส่วน แต่เราอาจจะยังไม่ใช่เจ้าใหญ่ของชุดไทยยูนิฟอร์ม อย่างล่าสุดที่เราทำชุดยูนิฟอร์มเราทำให้กับงานWorld Expo 2025 ที่ตอนนี้พาวิลเลียนอยู่ที่โอซาก้า ชุดเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่เป็นชุดไทยในงานเราก็เป็นคนทำให้ ซึ่งโปรไฟล์เราสำหรับงานระดับประเทศนี่เราผ่านมาเยอะ งานซีเกมส์รอบก่อนที่เราเป็นเจ้าภาพผมก็ทำชุดไทยให้ ซึ่งเราค่อนข้างมั่นใจในส่วนนี้แต่ก็เราก็จะค่อย ๆ เติบโตในเซคชั่นของยูนิฟอร์มตลาดองค์กร


“ตอนนี้เราว่าคนรู้จักเรามากขึ้น แต่เราก็อยากจะครองใจให้เราเป็นชื่อแรกที่เวลาเขานึกถึงชุดไทยต้องนึกถึงเรา ไม่ว่าเขาจะใช้ชุดไทยของใครในครอบครัว ซึ่งก็อยู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับในทุก ๆ ช่วงวัย และช่วงเทศกาลในการประยุกต์และการพีอาร์การนำเสนอเซ็ตแฟชั่นใหม่ ๆ ซึ่งเราก็พยายามทำสม่ำเสมอเราก็มีการพัฒนาเรื่อย ๆ ผมให้ความสำคัญกับเสียงของลูกค้าเป็นหลัก ปัญหาที่เขาเจอ คำแนะนำที่เขาให้มา จะพยายามเก็บเอามาใส่ใจอะไรที่เราสามารถปรับปรุงได้คำแนะนำอันไหนที่มันจะต่อยอดให้เราได้ผมพยายามทำ แม้จะไม่มีใครเริ่มทำเลยเราก็จะพยายามเอามันมาทำเพื่อแก้ปัญหา เพราะเราเชื่อว่ายิ่งลูกค้าเขารู้สึกว่าเราเป็นทางออกให้เขา เขาจะยิ่งรักเรามากขึ้น”แล้วเราก็ยึดแนวนี้มาตลอด และก็ประกอบกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เราอัพเดตตลอดเวลามีอะไรที่เราหยิบฉวยเข้ามาใช้ อย่างตอนนี้การออกแบบชุดของเราสำหรับองค์กรผมก็ใช้ AI ในการเจนภาพให้เขาดู จากการที่เราเคยใช้ดินสอเขียนลงสีตอนนี้ผมทำเป็นภาพให้ บวกกับเดิมที่เคยใช้โฟโต้ช็อปอยู่แล้วเอาลายผ้าที่เขาเลือกใส่เข้าไปในรูปคนตอนนี้แล้วก็พรีเซนต์ให้ลูกค้าเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น ก็หยิบเทคโนโลยีทุกอย่างในทุก ๆ ช่วงเวลาเข้ามาใช้กับธุรกิจทั้งหมด



กว่า 2 ทศวรรษพาหุรัดดอทคอม ผู้นำตลาด “ชุดไทยฟิวชั่น” ต่างชาติถูกใจซื้อผ่านตู้หยอดเหรียญได้ ขอบคุณเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจดี ๆ จากธุรกิจร้านชุดไทยอันดับ 1 PHAHURAT.COM ที่กรุณาร่วมแบ่งปันประสบการณ์แห่งความสำเร็จในครั้งนี้ สามารถติดตามผลงานหรือแวะไปอุดหนุนชุดไทยสวย ๆ ของที่ร้านได้ปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 2 สาขา สาขาแรกอยู่ที่ ถนนพระราม 9 และสาขาที่สอง ถนนงามวงศ์วาน สอบถามเพิ่มเติม โทร.087-008-6646

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น