ถ้าพูดถึงชุดนักเรียนแบรนด์เบอร์ต้นๆ ที่ใครๆ รู้จัก ต้องยกให้กับ แบรนด์ชุดนักเรียนตราสมอ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุค กี่สมัย แบรนด์ชุดนักเรียนตราสมอ ก็ยังคงครองใจ ผู้ปกครองอันดับต้นๆ แต่ไม่ใช่แค่คุณภาพที่ครองใจผู้ปกครอง แต่การตลาดก็ต้องบอกว่าแบรนด์นี้ ไม่แผ่วจริงๆ เดินหน้ารุกแชร์ ส่วนแบ่งตลาดทั้งออฟไลน์ และออนไลน์
สำรวจตลาดชุดนักเรียน ก่อนเปิดเทอม
สำหรับช่องทางออนไลน์ แม้ว่าจะเป็นช่องทางน้องใหม่ ที่แบรนด์สมอ หันมาให้ความสำคัญหลังจากสถานการณ์โควิด แต่ต้องบอกว่าปีนี้ ยอดขายออนไลน์ ไม่ได้แพ้ช่องทางออฟไลน์ เป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดทุกปีหลังจากสถานการณ์โควิด ทำให้คนไทยหันมาซื้อสินค้าผ่านออนไลน์กันมากขึ้น
ซึ่งแบรนด์ชุดนักเรียนตราสมอ ก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่ได้รับการตอบรับค่อนข้างดีมากสำหรับการรุกเปิดตลาดออนไลน์ อย่างเป็นทางการในช่วงที่เผชิญสถานการณ์โควิด นับถึงตอนนี้ผ่านมา 5-6 ปี มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดทุกปี ซึ่งมาพร้อมกับการแข่งขันที่รุนแรงสำหรับตลาดชุดนักเรียนช่องทางออนไลน์
จากร้านออฟไลน์ สู่ ช่องทางออนไลน์โควิดเป็นเหตุ
นายวรวุฒิ ชูศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมอยูนิฟอร์ม จำกัด เล่าว่า สำหรับบริษัทสมอยูนิฟอร์ม จำกัด เราเป็นบริษัทที่จัดจำหน่ายชุดนักเรียนและยูนิฟอร์มภายใต้แบรนด์ตราสมอช่องทางออนไลน์ โดยเป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งจาก“บริษัทสมอทองการ์เมนท์ จำกัด” เจ้าของผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดนักเรียนตราสมอ ให้ทำการตลาดช่องทางออนไลน์
ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นที่มาของ “บริษัทสมอยูนิฟอร์ม” มาจากเมื่อประมาณ 5-6 ปี ที่ผ่านมาในช่วงสถานการณ์โควิด ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าช่วงนั้นลดการสัมผัสและโรงเรียนเปิดสอนออนไลน์ ร้านจำหน่ายชุดนักเรียนไม่รู้ว่าจะขายชุดนักเรียนได้อย่างไร ถ้าไม่สามารถเปิดร้านได้ ทางผู้ปกครองกังวลว่า และถ้าสถานการณ์คลี่คลายโรงเรียนกลับมาเปิดปกติจะเตรียมชุดนักเรียนให้กับลูกๆทันไหม
ไม่ว่าเศรษฐกิจอย่างไร ชุดนักเรียนก็ขายได้
คนไทยใส่ชุดนักเรียนมากกว่า 10 ล้านคน
ตอนนั้น ส่วนตัวทำธุรกิจอยู่หลายอย่าง ช่วงนั้นธุรกิจอื่นๆ ของตัวเอง ก็เริ่มจะสะดุดในช่วงโควิด ก็เลยหันมาเปิด “บริษัทสมอยูนิฟอร์ม จำกัด” เพื่อที่จะขายชุดนักเรียนทางออนไลน์ และที่ต้องเป็นแบรนด์สมอ เพราะสินค้าของเค้าคุณภาพดี ซึ่งส่วนตัวมองว่านักเรียนต้องใส่ชุดนักเรียนสัปดาห์ละ 5 วัน เราก็อยากให้เขาได้ใส่ชุดที่คุณภาพดี ประกอบกับครอบครัว คุณแม่ก็เปิดหน้าร้านขายเครื่องแบบนักเรียนด้วย ก็เลยกลับมามองธุรกิจของคุณแม่ คิดว่าเครื่องแบบเป็นสินค้าแฟชั่นที่ยังไงก็ขายได้ เพราะนักเรียนจำเป็นจะต้องสวมใส่ไม่ว่าจะได้รับผลกระทบเศรษฐกิจอย่างไร ชุดนักเรียนก็ยังขายได้
ทั้งนี้ ประเทศไทยเอง มีนักเรียนต้องสวมใส่ชุดนักเรียน กว่า 10 ล้านคน ถือว่าตลาดใหญ่ที่น่าสนใจ ถ้าเราสามารถเข้าถึงลูกค้า ช่องทางออนไลน์ ได้ในช่วงโควิด น่าจะเป็นโอกาสที่ดี ผมก็เลยตัดสินใจทำการพัฒนาแพลตฟอร์มการขายชุดนักเรียนออนไลน์ขึ้นมา โดยข้อแรกจะทำอย่างไร ให้คนที่มาซื้อชุดนักเรียนของเรา ได้ชุดที่ตรงกับไซต์ ซึ่งในช่วงแรกพัฒนาหลังบ้านให้พร้อมกัน ความยากชุดนักเรียนมีไซต์เยอะกว่าสินค้าแฟชั่นอื่นๆ มีไซต์ตั้งแต่ขนาด 30 ไปจนถึง 60 เซ็นติเมตร
ตอบรับดีเกินคาด โตแบบก้าวกระโดดทุกปี
เมื่อออนไลน์ตอบโจทย์การบริการครบวงจร
ทั้งนี้ เมื่อหลังจากพัฒนาหลังบ้านพร้อมแล้วทุกอย่างก็เริ่มต้นขาย ในครั้งแรกลงทุนไม่เยอะ แค่พัฒนาแพลตฟอร์มที่เหลือทำกันเองก่อน แต่พอผ่านไปกิจการเริ่มไปได้ดี ลูกค้าเยอะขึ้น ความจำเป็นที่ต้องมีพนักงานมาช่วย ทำให้การลงทุนก็เยอะขึ้น จากพนักงานแอดมินที่จะต้องมาช่วยรับลูกค้า ช่วยแพ็คของส่งของ ค่าจัดส่งสินค้า แต่สิ่งที่ได้ คือสามารถขายสินค้าได้ทั่วประเทศ จากเดิมถ้าขายหน้าร้าน ขายได้เฉพาะลูกค้าในพื้นที่เท่านั้น
โดยในช่วงปีแรกเปิดขายออนไลน์ได้รับการตอบรับดีมาก หลายคนให้ความสนใจกับการซื้อชุดนักเรียนทางออนไลน์ให้กับลูกๆ เพราะช่วงนั้น หลายคนยังไม่กล้าที่จะออกจะบ้านเพื่อพาลูกๆ ไปลองชุดนักเรียนที่ร้านเหมือนเช่นทุกปี แต่พอได้ทดลองซื้อออนไลน์ และได้ตรงตามที่ต้องการ และลดขั้นตอนการเดินทางไปลองชุดด้วย
และ ทางเรายังมีบริการเสริมรับบริการปักชื่อ นามสกุล ให้ด้วย หรือ ถ้าซื้อไปแล้วมีปัญหา ทางเราก็เปลี่ยนสินค้าให้ทันที การส่งสินค้าไม่ล่าช้าลูกค้าได้รับสินค้าไว ที่สำคัญราคาเดียวกับการซื้อหน้าร้าน บางครั้งอาจจะได้ราคาที่ถูกกว่า เพราะการแข่งขันในตลาดออนไลน์ มีสูง บางครั้งผู้ขายจำเป็นที่จะทำต้องราคาถูกลง เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ แต่ชุดนักเรียนเป็นสินค้าควบคุมราคาอยู่แล้ว ซึ่งก็ขายแพงมากไม่ได้ ก็ต้องขายตามราคาควบคุม
นายวรวุฒิ กล่าวว่า หลังจากเปิดมาได้ 5-6 ปี บริษัทฯ ของเราเติบโตแบบก้าวกระโดดทุกปี จะมีลูกค้าที่เคยซื้อไปแล้ว ก็จะมาเป็นลูกค้าประจำ เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพ และบริการที่เราจัดให้กับลูกค้าเช่น การปักชื่อ ให้ในราคาไม่แพง ส่วนช่วงเวลาการขายชุดนักเรียน จะมีเพียง 3 เดือน ตั้งแต่เดือน มีนาคม - เมษายน และ พฤษภาคม เท่านั้น หลังจากนั้น ขายได้น้อยลง ในช่วงที่ชุดนักเรียนขายไม่ได้ ทางบริษัทฯ มีสินค้าที่เป็นชุดยูนิฟอร์มต่างๆ และชุดปฏิบัติธรรม สำหรับพุทธศาสนิกชน ซึ่งสินค้าในกลุ่มนี้ จะขายได้ทั้งปื เรามีจัดกิจกรรมร่วมกับวัด สำนักสงฆ์ต่างๆ ด้วย
เตรียมแผนบุกตลาดโรงเรียน
ดึงโรงเรียนใช้แพลตฟอร์มออนไลน์
สำหรับในส่วนของตลาดชุดนักเรียนออนไลน์ มีแผนที่จะเข้าไปทำตลาดร่วมกับทางโรงเรียนต่างๆ โดยนำแพลตฟอร์มออนไลน์ไปให้กับทางโรงเรียนได้ใช้ฟรี ในรูปแบบของสหกรณ์ สิ่งที่โรงเรียนจะได้ ไม่ต้องสต็อกสินค้า เพียงแค่นำแพลตฟอร์มที่จัดทำให้ทางโรงเรียน ส่งให้กับผู้ปกครอง นอกจากจะช่วยโรงเรียนประหยัดค่าพนักงานและช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ปกครองด้วย
เมื่อมีการสั่งซื้อเข้ามาทางเราก็จะดำเนินการให้ทั้งหมด รวมถึงการจัดส่งด้วย และการพูดคุยกับผู้ปกครอง ช่วยโรงเรียนจะลดพนักงานขายหน้าร้านไปด้วย ตอนนี้อยู่ระหว่างการส่งพนักงานเข้าไปพูดคุยกับทางโรงเรียนต่างๆ คาดว่าปีหน้าแพลตฟอร์มสำหรับโรงเรียนน่าจะเริ่มต้นใช้งานได้
ประวัติ ชุดนักเรียนตราสมอ
ถ้าพูดถึงชุดนักเรียนตราสมอ เชื่อว่า คนไทยเกือบทั้งประเทศรู้จัก และได้เคยสวมใส่ เพราะเป็นแบรนด์ที่เกิดมาคู่กับชุดเครื่องแบบนักเรียนคนไทยมาช้านานกว่า 60 ปี โดยเจ้าของคือ คุณกิตติ และ คุณลักษมณ์สุนีย์ ศิริปทุมมาศ เปิดดำเนินกิจการ บริษัท สมอทองการ์เมนท์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ทำการผลิตชุดนักเรียนภายใต้แบรนด์ตราสมอ เมื่อปี 2500 โดยมีโรงงานผลิตอยู่ที่แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ บนพื้นที่ 7 ไร่
ความสำเร็จที่ทำให้ชุดนักเรียนตราสมอ ประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ มาจากเป้าหมายของผู้บริหาร ที่ต้องการผลิตชุดนักเรียนที่มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม รวมถึงการบริการที่ดี ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานกว่า 1,300 คน ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตัดเย็บที่ผ่านการอบรมจากทางบริษัทฯ เพื่อให้สามารถตัดเย็บสินค้าที่มีคุณภาพสูง และเกิดข้อบกพร่องต่ำที่สุด ซึ่งในส่วนการผลิตทางบริษัทสมอทองการ์เมนท์ ไม่ได้หยุดนิ่งในการพัฒนา โดยมีการนำเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพในการตัดเย็บมาใช้ในการตัดเย็บ เพื่อให้ชุดนักเรียนที่คุณภาพดีที่สุด
ในส่วนของวัตถุดิบ ผ้าที่เลือกมาใช้ ส่วนของผ้าขาวมาจากโรงงานทอผ้าอันดับหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งส่วนผ้าสี ที่ใช้สำหรับตัดเย็บกางเกง กระโปรง มาจาก บริษัทไทยโทเรเท็กซ์ไทล์มิลลส์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทฯผลิต ผ้าโทเรที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่น และไทย เป็นต้น
ติดต่อ www.samoruniform.com
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *