เรามาจากชาวสวนเลย “คุณแม่” มันมีอยู่ครั้งหนึ่งราคาตกต่ำกิโล 30 / 20 บาทเก็บกาแฟไปขายที่ชุมพร แหล่งซื้อของเนสท์เล่ แล้วไปนอนอยู่ 3-4 วันแถวยาวสมัยก่อน ทีนี้ก็ไปเจอผู้บริหารของบอนคอฟฟี่เขาบอกว่าทำไมถึงไม่คั่วเองกาแฟคุณมีคุณภาพนะเขาทัก เอะใจก็เลยตีรถกลับมาเลย
“พี่ติ๋ม” คุณทรรศิวรรณ จันทรักษ์ เจ้าของแบรนด์กาแฟ “คลองท่อมคอฟฟี่” กาแฟ GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ GI :
Geographical Indication) จาก อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เล่าถึงที่มาสมัยที่คุณแม่ (คุณป้าประไพ จันทรักษ์) ซึ่งเป็นผู้ที่ริเริ่มเปลี่ยนแนวในการทำอาชีพแบบใหม่จากเคยปลูกกาแฟโรบัสต้าเพื่อนำผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ (สารกาแฟ) ไปส่งขายให้กับทางโรงงานใหญ่แปรรูปกาแฟที่เปิดอยู่ในเขตภาคใต้อย่าง เนสท์เล่ แต่ทว่าด้วยภาวะราคาในตอนนั้นตกต่ำลงอย่างถึงขีดสุดจริง ๆ ก็เลยต้องตัดสินใจใหม่“ขนาดบริษัทบอนฯ เขายังชมว่าอร่อยเอะใจก็เลยตีรถกลับมาเลย แม่กลับมาถึง มาคั่วด้วยกระทะอุณหภูมิไฟมันไม่ได้เพราะทำกันแบบชาวบ้าน ๆ ลองผิดลองถูกกันมากับพี่ชายและมีการรวมกลุ่มกันในตอนนั้น ตอนหลังว่าทางเทศบาลฯ เขาเห็นความตั้งใจของแม่ก็เลยลงทุนซื้อเครื่องคั่วให้มาตัวหนึ่งประมาณเกือบล้าน(สมัยก่อนมันแพงเนาะ 6-7 แสน) ทีนี้ก็มีอาจารย์มาสอน เราก็คั่วขาย พอแบรนด์มันดังขึ้นโดยเฉพาะในอำเภอในจังหวัดนะ ทางพัฒนาชุมชนก็เข้ามาก็มีหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาช่วย เข้ามาส่งเสริมแล้วก็พาไปออกงานอีเว้นต์ต่าง ๆ มีที่ให้ไปขายของไม่เสียค่าเช่าอะไรอย่างเงี้ย ของแม่เนี่ยดังมากในกระบี่” แล้วจากนั้นก็ได้เข้ามาขายที่เมืองทองธานีด้วย งาน OTOP ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีเริ่มเข้ามาช่วงประมาณปี 2547 ตอนนั้นก็เอากาแฟมาเยอะเลยก็มาบดมาชงใหม่ ๆ เลยสูตรอะไรก็ยังไม่มี ชงแบบว่าใส่นมข้น น้ำตาล ใส่คอฟฟี่เมต ทำแบบธรรมดา ๆ เลยแต่ว่ากลิ่นกาแฟที่คั่วและบดใหม่ ๆ มันจะหอมมากคนก็เลยมารุมซื้อกันเยอะมาก ขายวันหนึ่ง ๆ ถือว่าได้เยอะมากนะตอนนั้นกว่า 4 หมื่นบาท!
ที่มาของ “คลองท่อม กาแฟ GI”
พื้นที่ปลูกของเราอยู่ที่ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เคยมีลูกค้าถามว่า “คลองท่อม” อยู่ตรงไหนของกระบี่พี่เลยถามว่า คุณเคยไปสระมรกตไหม? สวนกาแฟเลยสระมรกตขึ้นไปประมาณ 30 กม.“รสชาติของเขามันจะมีความเข้มข้น และมีความหวานในตัวเมล็ดเลย เพราะเกิดจาก “ดิน” เพราะว่าเป็นดินภูเขาไฟ(ที่มันไม่ประทุแล้ว) รสชาติมันแปลกกว่าที่อื่น มันมีความเข้มข้น แล้วมี“หวาน” ติดอยู่คอเวลาที่เราดื่มเข้าไปแล้ว โดยที่ว่าไม่ได้ใส่น้ำตาลเข้าไปเลย มันมีความหวานของมันในตัว”ข้อนี้แหละที่พี่ไปขอ "มผช." ซึ่งมันเป็นคาแรคเตอร์ของมันเลย ไม่เหมือนที่อื่น ที่กล้าการันตีได้เลย แล้วการเก็บเกี่ยวต้องเป็นสีเชอร์รี่จริง ๆ(สุกเป็นสีแดง) ราคาจากสวนจะสูงเท่าไรก็ไม่ว่าแต่ขอให้เก็บแก่ที่ระยะผลเชอร์รี่/สีแดงเลย แล้วก็ต้องซื้อจากสวนเจ้าประจำเท่านั้นถึงจะรู้ใจกัน "วันนี้ราคาเราเทียบกับของชุมพร (ตลาดกลางของกาแฟ) แต่เราสามารถให้สวนได้เยอะกว่า สมมุติชุมพรเขาซื้ออยู่(สารดิบนะคะ) สมมุตินะคะแต่เดี๋ยวนี้มันไม่ได้แล้ว 100 บาทสีแล้วนะคะ แต่เราให้ 120 /130 แต่ว่าเราขอคุณภาพคือต้องเป็นสีเชอร์รี่จริง ๆ” แล้วอีกอย่างหนึ่งที่ร้านบางทีเราคั่วไหม้ไปลูกค้าบอกมาว่า รอบนี้มันเข้มไปนะ พี่ติ๋มบอกขอดูเม็ดหน่อยเขาก็ส่งทางไลน์มาให้เราดู โอเคตีกลับมาแล้วก็พี่ติ๋มส่งใหม่ให้ ไอ้ตัวที่ไหม้ไม่เป็นไรเราก็เอาไปทำแปรรูปเป็นขัดผิว(สครับขัดผิว) ได้อีกหรือแปรรูปเป็นโอเลี้ยงได้ เป็นอีกเกรดหนึ่ง ถามว่าก็ยังไม่ขาดทุนในราคาที่เราซื้อมาเราสามารถนำไปแปรรูปได้ นี่ก็คือคุณสมบัติของเขาต้องเป็นสีเชอร์รี่จริง ๆ แล้วก็ต้อง “คั่ว” ตามอุณหภูมิที่เราตั้งไว้ คนคั่วต้องเก่งด้วย
“ลูกค้าอยากได้ความเป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดกระบี่ อัตลักษณ์กาแฟที่เราปลูกที่จังหวัดกระบี่เลยซึ่งกว่าพี่จะได้ GI คือนานมาก พี่ได้ปีที่ 4 แล้วคือต่อปีต่อปีนะ ก็ต้องต่อนะไม่ใช่ว่าได้หนเดียวแล้วก็ยาวเลยไม่ใช่! เขาจะมาตรวจทุกครั้งเลยเขาจะไปตรวจพื้นที่ แล้วก็ตรวจโรงงานมันเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ต้องไปดูที่เราปลูก ปลูกเสร็จการเก็บ เก็บอย่างไร แล้วก็การเก็บไว้ในห้องโรงคั่วเป็นอย่างไร ดูหมด ยาก!” สินค้า GI คือถ้าเป็นพืชต้องเป็นพืชที่ปลูกในพื้นที่นี้จริง ๆ แล้วใบรับรองที่หมดอายุ (ปีต่อปี) ก็ต้องต่อใหม่ การต่อของเขาก็คือ ต้องมาตรวจ/เริ่มนับหนึ่งใหม่ ต้องทำใหม่ทุกครั้งทุกปี ทั้งนี้เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ และป้องกันเรื่อง “คุณภาพ” ที่ต้องเหมือนเดิมทุกครั้ง
ลาออกจากงานโรงแรม มาต่อยอดแบรนด์กาแฟช่วยแม่
เมื่อก่อนพี่ติ๋มทำงานโรงแรม (ประจำแผนกครัวผลไม้แกะสลัก) อยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งแม่ก็จะมาออกงานอยู่เรื่อย ๆ เราก็ไปช่วย
เลิกงานจากโรงแรมก็ไปช่วย เข้าเวรเช้าหน่อยก็ได้ไปช่วยแม่ขายของเป็นอย่างนี้อยู่หลายปี สุดท้ายแล้วก็ต้องลาออกจากงานโรงแรมเพราะว่าแม่เขาเริ่มอายุมากแล้ว ก็มาต่อยอดทำเรื่องแพคเก็จจิ้ง (กล่อง) บ้าง ทำกาแฟดริป กาแฟแคปซูลก็มี “แคปซูลเราก็เคยทำ ปังมากเลย ตอนหลังบริษัทที่ผลิตเครื่องและก็อัดเม็ดแคปซูลให้มันย้ายฐานกลับบ้านมันที่เกาหลีเราก็เลยต้องหยุดเสียดาย! ตอนนี้ไม่มีแล้วเพราะว่า มันมีออร์เดอนะแต่ว่าเราต้องมานั่งหยอดเองอัดเองเป็น 1000-2000 ไม่ไหว! ไม่เอาดีกว่า แล้วตอนหลังก็มาทำ Instant โดยให้ทางบริษัทเขาช่องฯเป็นคนทำ รสชาติอย่างนี้เลย(ยกนิ้วโป้ง) เป็นกาแฟดำแบบชงละลายในน้ำ”แต่ว่าตอนนี้ที่ทำเป็นโปรดักหลัก ๆ เลยคือ 2 ตัวนี้ กาแฟคั่ว (แบบเม็ด) และ กาแฟดริป ส่วนในรูปแบบของการชงเสิร์ฟแบบนี้จะมีขายเฉพาะเวลาที่มาออกงานหรือการออกบูธเท่านั้น อย่างที่มีขายประจำ(ออกบูธ) ทุกเดือนจะอยู่ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เปิดขายทีละ 5 วัน/เดือน และก็ล่าสุดมีหน้าร้านด้วยเปิดอยู่ที่ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก แต่ว่าใช้ชื่อเป็นแบรนด์อื่นโดยให้เพื่อนซึ่งเป็นคนในพื้นที่เป็นคนดูแล เป็นร้านกาแฟที่ใช้วัตุดิบของคลองท่อมคอฟฟี่(กาแฟGI) โดยเปิดอยู่ในบริเวณของปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ที่ลูกค้าไปใช้บริการได้สะดวกสบาย
“กาแฟ GI” ใคร ๆ ก็อยากได้ ขายดีแต่มีผลผลิตไม่พอ
ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมาก็เยอะจนรู้ว่า “ลูกค้า/ตลาด” จริง ๆ คือใครที่กินกาแฟของเราจริง ๆ อย่างกรุงเทพฯ คนทำงาน
นักศึกษาก็กิน ผู้สูงอายุก็กิน แต่อย่างทางภาคใต้ให้พี่ติ๋มไปเปิดร้านกาแฟพี่ไม่เปิดนะ ทางใต้คือผู้บริโภคเราเทียบกับที่กรุงเทพฯแล้ว 100 ทั้ง100 แต่ทางใต้คือมีแค่ประมาณ 40% เท่านั้นเอง“เวลามาออกงานถี่ ๆ มีต่างประเทศอยากสั่งทีหนึ่งเป็น 4 ตู้คอนเทนเนอร์แต่ว่า พี่ไม่มีให้จริง ๆ แล้วพอให้ชิมกาแฟอย่างเวียดนามเนี่ยชิมปุ๊บเขาติดใจ บอกว่าเธอผลิตให้ฉันได้ไหมเดือนนึง 1 แสนซอง เขาอยากได้เยอะ ๆ แต่ว่าเราทำให้เขาไม่ได้ มันรู้สึกว่าอยากทำจริงนะพี่หาได้ พี่มีแหล่งซื้อด้วย แต่พี่ไม่ทำเพราะอะไรรู้ไหม มันหลอกเขา พี่ไม่เอา พี่ไม่เอา GI ไปสวมสิทธิ์ตรงนั้นไง ไม่เอาความเป็นชุมชนตรงนี้พี่เลยไม่เอา” ที่เป็นต้นทางของวัตถุดิบเราก็คือ เรารับซื้อจากเกษตรกรเครือข่ายในเขต อ.คลองท่อม เท่านั้น“รู้เปล่าว่าจากแม่เคยซื้อกิโลละ 70 /60 ตอนนี้นะ 220 จากสวนราคานั้นเลย คือมันมีน้อย ชาวบ้านเขาไปหลงคำว่าปลูกทุเรียนดีกว่า หลงกระแสไปกับทุเรียนกันเยอะ ตอนนี้เห็นว่าแนะนำทางหน่วยงานราชการของกระทรวงเกษตรฯ ให้เข้าไปช่วยปรับปรุงพื้นที่ใหม่เถอะเพราะตอนนี้กาแฟโรบัสต้านำอาราบิก้าเลยนะ สมัยก่อนอาราบิก้าจับไม่ได้ โลละ 100 /200 /300 นำหน้านะ ตอนนี้อาราบิก้าล่าสุด 160 /170 เอง โรบัสต้า 220 บาท/กก.”
จากกิโลละ 400 ขายได้ราคา 1,400 -1,500 บ.
มันเรียกแขกเพราะคำว่า “GI” เป็นอะไรที่คนรู้จักหมด มันเหมือนกับ “ตรา” ที่มันดีจริง ๆ คือเป็นสินค้าที่ต้องซื้อ อย่างน้อยใครที่ยังไม่เคยกินก็อยากลอง เขาได้มาอย่างไร GI ใช่ นี่แหละสำคัญ “ถึงต้องบอกว่า ทุกคนถามติ๋มว่า ได้ GI มาแล้วมันดีไหม? ดี จากกิโลละ 400 ติ๋มพูดกับเขาไปว่ากูขายกิโลละ 1,400 -1,500 มึงว่า GI ดีไหมล่ะ เขาบอกจริงเหรอ จริง! ขายได้ ขายได้จริง ๆ” เราสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าว่าของเราดีจริง เราสามารถสู้แบรนด์ดัง ๆ ได้ เพียงแต่ว่าเราไม่มีกำลังที่จะไปสู้เขาได้ในเรื่องของการโปรโมตสินค้า การยิงแอดโฆษณา ต่าง ๆ นานาในยุคนี้ที่มีการแข่งขันกันในการทำการตลาด เพราะว่าเราทำงานคนเดียวคือเป็นทั้ง manager เป็นทั้งการตลาด และก็บาริสต้าได้ด้วยทุกอย่างคือเราต้องเป็นคนปรับปรุงสูตร/เมนูกาแฟสำหรับการชงขายหน้าร้าน จากเมื่อก่อนที่มีอยู่ไม่กี่สูตร
ต้องหากลุ่มเป้าหมายให้เจอ ตอบโจทย์ลูกค้าได้
“พี่ติ๋ม” คุณทรรศิวรรณ จันทรักษ์ เจ้าของแบรนด์ “คลองท่อม คอฟฟี่” กาแฟ GI จาก อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ยังบอกด้วย ปัจจุบันการดำเนินงานในรูปแบบของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มสตรีเทศบาลคลองท่อมใต้ที่รับช่วงมาจาก “คุณแม่” ก็ยังคงเดินหน้าต่อไป“จากถุงฟอยด์ธรรมดาไม่มีโลโก้ก็มาเปลี่ยนเป็นถุง 250 กรัม แล้วก็มาเปลี่ยนเป็นซองนี้ คือแบบความที่เราอยู่ในที่ในกรุงเทพฯ เรารู้แล้ว ว่าลูกค้าเป้าหมายของเราคือใครหลัก ๆ เราไม่ใช่ชุมชนแล้ว เราต้องขยายออกจากชุมชน แล้วตอบโจทย์ลูกค้าว่าผลิตแต่ละตัวเนี่ย ขายใคร? ออกมาตัวหนึ่งนี่ขายใคร เราต้องตอบโจทย์ตรงนี้ให้ได้ แล้วกลุ่มไหนที่กิน กลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร นี่แหละสำคัญ” แล้วการโปรโมต การไว้เนื้อเชื่อใจกับลูกค้า(ระหว่างเรากับลูกค้า) เราต้องให้เขาเต็ม 100 อย่าเห็นแต่กำไร เราต้องขาดทุนบ้าง เราอย่าเอาแต่จากเขามากเกินไป เราต้องเป็นผู้ให้เขาก่อน“ให้ความจริงใจ นี่คือหลักค้าขายของพี่ วิธีเป็นอย่างนี้ บางทีคนมาปุ๊บ 5 แก้ว 10 แก้ว ฝากกันมา ร้านกาแฟเยอะมากข้างล่างศูนย์ราชการฯ รู้จักใช่ไหมคะ ข้างล่างเพียบ เราไปออกงานซื้อบูธวันละ 2,500 บาท(5 วัน) มีรายชื่อประจำอยู่ ทุกเดือน และก็จะมีงานอีเว้นต์อื่นซึ่งพี่ติ๋มซื้อบูธเฉพาะในกรุงเทพฯ” เวลาที่มาออกงานอย่างที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะก็จะขายได้อยู่ที่ประมาณ 300-400 แก้ว หรือบางที 400-500 แก้วก็มี ในราคาแก้วละ 60บ.นะ โดยใช้เวลาในการขายแค่ครึ่งวันเอง คือ เริ่มขายประมาณ 06.00น. พอถึงประมาณสัก 14.00น. ก็จะเก็บร้านแล้ว
ปลูกส่งโรงงานเราคาดการณ์ราคาเองไม่ได้ หันทำ“กาแฟGI” ขายได้กิโลละ 1,400 แถมตอนนี้ผลผลิตมีไม่พอกับความต้องการของตลาด! สามารถติดตามไปชิมรสเข้มละมุนลิ้นครีม่าโฟมนุ่ม ๆ หวานติดอยู่ในคอของกาแฟ GI จากจังหวัดกระบี่ชื่อแบรนด์ “คลองท่อมคอฟฟี่” ได้ตามงานอีเว้นต์ในเขตกรุงเทพฯ หรือสอบถามเพิ่มเติม/สนใจสั่งซื้อกาแฟ โทร/Line ID : 0974984991 ขอบคุณ: งานสีสันสวรรค์แดนใต้จัดโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง