มาตรการตอบโต้ภาษี ของ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ร้อนแรงในช่วงนี้ ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจส่งออก ที่ต้องส่งสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกา มีความกังวลกับมาตรการดังกล่าวว่าจะได้รับผลกระทบอย่างไร ครั้งนี้ มาดูว่า ผู้ประกอบการส่งออกอะไหล่ชิ้นส่วนของตกแต่งรถ ที่เพิ่งจะเข้ามาทำตลาดส่งออกมาได้ถึง 3 ปี มุมมองอย่างไรกับสถานการณ์ดังกล่าว
สำหรับ MOZY INDUSTRY เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนตกแต่งยานยนต์ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เปิดดำเนินกิจส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่ตกแต่งยานยนต์ มาได้ 3 ปี ลูกค้าหลักส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา 70 % และมียังมีผู้ถือหุ้นเป็นคนอเมริกา เข้ามาถือหุ้น 30 %
นายกิติศักดิ์ สินสุนทรไชย (มอส) ผู้ก่อตั้ง บริษัทโมซี่ อินดัสตรี้ส จำกัด เล่าว่า หลังจากได้มีกระแสข่าวเรื่องมาตรการตอบโต้ภาษีของ “ทรัมป์” ตนเองก็ยังไม่ได้วางแผนอะไร หุ้นส่วนเองที่เป็นคนอเมริกา เราก็ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ กันเลย ส่วนผลกระทบยอดการสั่งซื้อ ยังไม่มี แต่ช่วงนี้ มีลูกค้าเข้ามาสั่งสินค้ามากขึ้น และด้วยความที่เรายอดไม่เยอะแค่ปีละ 10 ล้านบาท ไม่ได้กระทบอะไรมาก
อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวในส่วนสินค้าที่เราผลิต เป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม ลุกค้าซื้อเพราะพึ่งพอใจ และผู้ผลิตแต่ละรายก็ผลิตออกมาในแบบของตัวเอง และเราอาจจะได้เปรียบอยู่บ้าง เพราะชิ้นงานคุณภาพและราคาของเรายังสู้ได้ แม้เจอกำแพงภาษีที่เพิ่มขึ้น ซึ่งประเทศอื่นๆ ก็เจอเหมือนกับเรา ถ้าถามว่า มีคู่แข่งที่ราคาใกล้เคียงกันไหม ก็อย่างประเทศญี่ปุ่น คุณภาพในระดับมาตรฐาน และแบรนด์ได้รับการยอมรับ แต่ราคาของเขาก็สูงกว่าเรา 30-40 เปอร์เซ็นต์ ถ้ารวมภาษีตามมาตรการตอบโต้ภาษี ทรัมป์ ราคาของเราก็ยังไม่ได้สูงไปมากในระดับที่ลูกค้ารับได้
ทั้งนี้ ถ้าได้รับผลกระทบและลูกค้ามาต่อรองราคาช่วงนี้ ก็คงต้องดูเป็นเครสๆ ไป เพราะถ้าเป็นชิ้นงานที่เราออกแบบเอง ไม่ได้ซื้อแบบมาจากคู่ค้าในต่างประเทศ สามารถลดราคาให้ลูกค้า แต่ทุกวันนี้ ไม่ได้แค่ส่งออกอย่างเดียว ก็มีการนำเข้าด้วย ซึ่ง นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เราก็โดนภาษีหนักเหมือนกัน 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ที่ผ่านมา เวลาส่งไปอเมริกา ไม่รู้ว่า ลูกค้าต้องเสียภาษีเท่าไหร่ ไม่แน่ใจ เพราะทางไปรษณีย์ จะเป็นคนดำเนินการให้ เท่าที่รู้ ไม่ได้เสียภาษีนำเข้า ส่วนยอดขายในช่วงนี้ ยอดขายดีขึ้น มีออเดอร์เข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา