พลิกวิกฤตสู่ “โอกาส” รู้จักศรีอยุธยา ไลอ้อน ปาร์คสวนสัตว์ที่รวมสัตว์หายาก! ติดอันดับ 1 ใน 3 ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาเอเชีย
ก่อนหน้านี้ “ฟาร์มจระเข้ศรีอยุธยา” เป็นฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ ต.หนองขนาก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เริ่มเพาะเลี้ยงจระเข้เมื่อปี 2531 มีจระเข้ทั้งหมดมากกว่า 1 แสนตัว มีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์อยู่เกือบ 2,000 ตัว
จระเข้ที่โตเต็มที่ทางฟาร์มจะนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่างครบวงจร นอกจากชำแหละเนื้อส่งขายแล้วยังทำเครื่องหนัง และอื่น ๆ อีกหลากหลายสินค้าภายใต้การบริหารของบริษัท ศรีอยุธยา กรุ๊ป
นายอรุณ เรืองเนตร CEO ศรีอยุธยา เจ้าของฟาร์มจระเข้ศรีอยุธยา เปิดเผยต่อ “ผู้จัดการออนไลน์” ว่า ตนเป็นรุ่นลูกที่สานต่อกิจการฟาร์มจระเข้จากพ่อแม่ เดิมทีเราเป็นเพียงผู้เลี้ยงจระเข้และส่งออกต่างประเทศอย่างเดียว ต่อมาประสบกับปัญหาราคาจระเข้ตกต่ำ จึงมีแนวคิดต่อยอดจากจระเข้ จึงแตกไลน์ธุรกิจออกมาเป็นธุรกิจเครื่องหนังที่ทำจากจระเข้ โดยเริ่มจากตั้งโรงงานเล็ก ๆ มีช่าง 5 คน จนกระทั่งมีช่างในโรงงานมากถึง 500-600 คน มีการแปรรูปผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง เช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าสตางค์ ทั้งชายและหญิง เข็มขัด พวงกุญแจ โดยช่างผู้ชำนาญการ นอกจากนี้เรายังมีเลือดจระเข้สกัดแคปซูลจำหน่ายอีกด้วย
หนังจระเข้ของศรีอยุธยาฟาร์มจะแตกต่างจากที่อื่น คือ จระเข้ของเราดูแลเป็นอย่างดีตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเข้าโรงงาน รับรองว่าผลิตภัณฑ์จากศรีอยุธยาคุณภาพไม่แพ้สินค้าแบรนด์ดังจากต่างประเทศแน่นอน ส่วนราคาที่เราวางไว้เป็นราคาที่คนไทยสามารถจับต้องได้ คนที่อยากใช้มีเงินไม่มากก็สามารถซื้อได้ ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวต่างชาติดีมากโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนให้ความสนใจมาเลือกซื้อไปใช้กันเป็นประจำ
วิกฤติจากโควิด 19 พลิกแนวคิดสู่ธุรกิจใหม่ “ศรีอยุธยา ไลอ้อน ปาร์ค”
คุณอรุณเล่าว่า ในช่วงเกิดการระบาดของโควิด ด้วยธุรกิจฟาร์มจระเข้ โรงชำแหละ สินค้าแปรรูปจากจระเข้ ต้องหยุดลง
การขายและส่งออกเครื่องหนังจระเข้ ซึ่งเป็นธุรกิจเริ่มต้นจากรุ่นคุณพ่อ (นายวิเชียร เรืองเนตร) เจอผลกระทบ เมื่อว่างงานก็คิดว่าจะเปิดคาเฟ่ แบบกินกาแฟไปด้วย ชมสัตว์เลี้ยงไปด้วย ประกอบกับผมชอบเลี้ยงสัตว์ ได้เลี้ยงสิงโต เสือ ยีราฟ เป็นหลัก จากเดิมที่ทำฟาร์มจระเข้ เดิมตั้งใจจะพัฒนาที่ดินจากที่มีอยู่ 2-3 ไร่ แต่พอมีจำนวนสัตว์ชนิดต่าง ๆ สะสมเพิ่มเรื่อย ๆ คุณพ่อเองก็เห็นว่าชอบ ก็ตามใจ ส่งเสริม จนขยายพื้นที่และเพิ่มจำนวนสัตว์ชนิดต่าง ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความชอบทุกอย่างอยู่ในหัว ออกแบบเองว่าตรงไหนเป็นพื้นที่อะไร ทั้งกรงสัตว์ สวนต้นไม้เล็ก สวนเล็ก ๆ และส่วนให้บริการ ลงมือพัฒนาเองทุกอย่าง ผมเสียแต่ค่าแรงก่อสร้าง ที่แตกต่างจากสวนสัตว์อื่น ๆ คือผมต้องการให้ผู้มาชมได้สัมผัสกับสัตว์อย่างใกล้ชิด โดยมีพนักงานที่มีความชำนาญคอยดูแลตลอดเวลา ป้องกันความปลอดภัยอย่างรอบคอบ จนวันนี้ขยายพื้นที่ไปถึง 70 ไร่แล้ว จากเริ่มแรกมีสัตว์ให้ชม64 ชนิด ตอนนี้เกิน164 ชนิดแล้ว และกำลังเพิ่มชนิดและจำนวนสัตว์หายากต่อเนื่อง จากวันที่ตั้งใจจะทำเป็นคาเฟ่ ถึงวันนี้เกินความคาดหวังไปมากแล้ว พอลงเงินไปเรื่อย ๆ เกิน 50 ล้านบาท วันนี้น่าจะลงไปแล้ว 200 ล้านบาท ก็มองว่าทำแค่ความชอบไม่ได้แล้ว ต้องทำเป็นธุรกิจและเป็นธุรกิจยั่งยืนไปถึงลูกหลาน ความฝันสูงสุดของผม ต้องการให้สวนสัตว์แห่งนี้ ติด 1 ใน 3 ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเอเชีย ต้องอยากมาชม เราพูดได้เลยเทียบกับสิงคโปร์ได้แล้ว คนสิงคโปร์เองยังมาดูสวนสัตว์เราเลย เราภูมิใจด้วยมีชนิดสัตว์ที่ในโลกก็ไม่มีหรือหายาก
สวนสัตว์เรามีคนไทยจากทั่วประเทศ เข้ามาชมต่อเนื่อง และที่มาซ้ำสัดส่วนเกิน 20% แล้ว ต่างชาติอย่างจีน อินเดีย ก็เข้ามาชมต่อเนื่อง หากเทียบกับรายได้ที่เก็บค่าบัตรเข้า ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 50 บาท เด็กสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร ให้เข้าฟรี สำหรับคนไทย ส่วนต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 100 บาท รายได้แตกต่างกันมาก แต่เราสบายใจ จากเดิมต้องชำแหละสัตว์เพื่อนำมาแปรรูปต่าง ๆ ซึ่งเราไม่หยุดแค่นี้
จุดประสงค์การเปิดสวนสัตว์นี้ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ ขยายพันธุ์และรักษาพันธุ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวประจำจังหวัด มุ่งสร้างความเจริญให้กับชุมชน และเป็นสถานที่ผ่อนคลาย เป็นความภูมิใจและไฮไลต์ของสวนสัตว์แห่งนี้ อย่าง ไลเกอร์ (สิงโตผสมเสือ) ไลไลเกอร์ (ไลเกอร์ผสมสิงโต) ซึ่งถูกระบุว่าไลไลเกอร์ชมได้ที่นี่ที่เดียวกับตัวแรกชื่อบุญรอด เดินไปเรื่อย ๆ ก็จะเห็นต่างชาติขึ้นไปนั่งรถกระเช้าใกล้ชิดกับยีราฟ
บรรยากาศครอบครัวคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาชมอย่างหนาตา เฉลี่ยต่อสัปดาห์กว่า 2 หมื่นคน หากเป็นวันหยุดยาวหรือวันหยุดพิเศษอย่างเช่น วันเด็ก วันเดียวยอดทะลุ 1 หมื่นคนก็มี ตลอดทางเดิน ก็จะได้ชมได้สัมผัสกับสัตว์หายากหลายชนิด ทั้งนี้ สำหรับสวนสัตว์ “ศรีอยุธยา ไลอ้อน ปาร์ค” ตั้งอยู่เลขที่ 91 หมู่ 12 ต.หนองขนาก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา โทร. 082-888-8984
เครดิต: พ่อเลี้ยงเจจากดาวอังคาร, MGR online (ภูมิภาค), มติชน
