xs
xsm
sm
md
lg

ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง ๒๔๙๗ แม่บังอร สูตรตำรับจีนโบราณ ยึดขายอีเวนต์หลายสิบปีดีมาตลอด ปีนี้แย่สุดแทบขาดทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ ไม่ว่าจะไปศูนย์การค้าไหน จะได้เห็นรายการดังๆในช่องดิจิทัล ต่างพาเหรดขนทัพอาหารมาออกบูทกันแทบจะทุกเดือน และร้านอาหารที่ออกบูทกันนั้น ยอดขายเป็นอย่างไร ดีกว่าการปักหลักเปิดหน้าร้านประจำหรือไม่


เจาะช่องทางขายผ่านงานอีเวนต์ยุคนี้ เป็นอย่างไร

ครั้งนี้ ได้สัมภาษณ์ ผู้ประกอบการที่ยึดช่องทางการขายออกงานอีเวนต์ มาตลอด และเป็นช่องทางการขายเดียวที่ทำมาตลอดนับ 10 ปี ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง ๒๔๙๗ แม่บังอร สูตรก๋วยเตี๋ยวหลอดโบราณ ที่มาจากฝีมือของ“นางบังอร พรมชัย” หรือแม่บังอร เปิดมานานกว่า 40 ปี โดยจะพบร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง๒๔๙๗ แม่บังอร ได้เฉพาะในงานอีเวนต์ต่างๆ เท่านั้น

สำหรับการออกบูทในงานอีเวนต์ รายการทีวีดังๆ ราคาจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับรายการไหนจัดใหญ่แค่ไหน เช่น รายการดังครัวคุณต๋อย ค่าใช้จ่ายในการออกบูทอยู่ที่วันละ 8,000 บาท ส่วนรายการผู้หญิงทำมาหากิน ช่องวัน 31 หรือ รายการแจ๋วพาแซบ ช่อง 3 และอื่นๆ ราคาจะลดลงมา ตามความฮอตของรายการ และขนาดของอีเวนต์ และสถานที่การจัดงาน มีราคาตั้งแต่ วันละ 5,000 บาท 4,500 บาท 4,000 บาท และบางงานเล็กทำเลไม่ดีนัก ราคาวันละ 2,500 บาท และ 1,000 บาท หรือ บางรายก็ดิวกันเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขายก็มีด้วยเช่นกัน

ด้านลูกชายของแม่บังอร พูดถึงการออกบูทตามงานอีเวนต์ ปัจจุบันไม่ได้เหมือนในอดีต เพราะปัจจุบันการแข่งขันสูง และกำลังซื้อของคนลดลงไป บางงานขายได้เยอะก็รอดไป แต่บางงานแทบจะขาดทุนก็มี ไม่เหมือนในอดีตที่ลงขายงานไหนก็ขายได้ วันหนึ่งไม่ต่ำ 2หมื่น ถึง 5 หมื่นบาท แต่ปัจจุบันบางวันไม่ถึง 1 หมื่นบาทก็มี ถ้าไม่ถึงหมื่น คือ ขาดทุน เพราะค่าบูทต่อวันสูงมาก ทำให้ ต้องเลือกที่จะไปออกบูทในงานอีเวนต์ใหญ่ ทำเลดี คนเดินเยอะ ตรงนี้ ต้องอาศัยประสบการณ์ถึงจะรู้ว่า อีเวนต์ไหนไปแล้วจะไม่ขาดทุน


มารู้จัก ก๋วยเตี๋ยวหลองทรงเครื่อง๒๔๙๗ แม่บังอร

แม่บังอร เล่าว่า สำหรับร้านก๋วยเตี๋ยวหลองทรงเครื่อง๒๔๙๗ แม่บังอร ตัวเลข ๒๔๙๗ ที่มาของชื่อร้าน มาจากอายุของแม่ เพราะแม่เกิดในปี 2497 แม่ก็เลยเอามาตั้งเป็นชื่อ จุดเริ่มต้นที่แม่บังอรมาขายก๋วยเตี๋ยวหลอดมาจาก สามี ได้ไปกินก๋วยเตี๋ยวหลอดเมนูของคนจีนในย่านแม้นศรี ในสมัยที่สามีทำงานอยู่ที่นั่น เวลาพักเที่ยงชอบกินไปก๋วยเตี๋ยวหลอดแถวนั้น ซึ่งสามีชื่นชอบมาก ไม่เหมือนที่อื่นๆ ที่เคยกิน โดยเฉพาะความกรอบของปลาหมึกบวกกับความนุ่มของเต้าหู้และหมูสามชั้นติดหนังที่ไม่มีขน อร่อยมาก สามีก็เลยได้พยายามที่จำส่วนประกอบหลักที่สำคัญ และพอกลับมาที่บ้าน ก็มาของให้แม่บังอรทำให้กิน

“ตอนที่แม่บังอรมาเปิดร้าน ก็เลยใช้ชื่อ ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง ๒๓๙๗ แม่บังอร เพราะแม่เกิดปี 2497 ซึ่งแม่เองก็ขายก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง มาหลายสิบปี นับถึงตอนนี้ผ่านมาเกือบ 40 ปี แต่ตอนหลังจะมีลูกๆ มาช่วย และแม่บังอรก็ไม่ได้มีหน้าร้านประจำ แต่จะยึดการขายผ่านอีเวนต์เป็นหลัก ออกอีเวนต์ตามงานต่างๆ ซึ่งก็มีงานอีเวนต์ให้ออกทุกเดือน บางเดือนก็มีงานอีเวนต์ออกหลายรอบ ลูกค้าจะติดตามผ่านช่องทางโซเชียลฯ โดยจะโพสต์ว่า เดือนนี้ จะไปขายที่ไหน ลูกค้าใกล้ที่ไหนก็จะตามไปกินที่นั่น”


ผลกระทบเศรษฐกิจทำยอดขายหดบางงานก็มีขาดทุน

สำหรับยอดขายจากการออกร้าน ต้องบอกว่า ปัจจุบันผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ยอดขายก็ลดลงไปเยอะมาก จากเดิมแม่บังอร บอกว่าขายในงานอย่างเช่น งานกาชาดวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 40,000-50,000 บาท ปัจจุบันยอดขายหายไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ บางงานแทบจะไม่มีกำไรเลย ขาดทุนก็มี ก็ขึ้นอยู่กับงานอีเวนต์นั้นๆ ด้วย ว่ามีคนเดินเยอะไหม

เมื่อถามว่า ยังคงยึดช่องทางการขายในงานอีเวนต์อยู่ไหม “แม่บังอร” บอกว่า แม่ใช้ช่องทางการขายแบบนี้มาตลอด คิดว่าจะยังคงใช้ช่องทางการขายนี้ไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ ไม่ได้มีลูกจ้างอะไร ทำกันในครอบครัวลูกชายออกจากงานมาช่วยทำตรงนี้เต็มตัว และยังมีลูกสาวอีกคนหนึ่ง มาช่วยกันขาย สมัยนี้ การเปิดร้านอยู่โอกาสมันน้อย ได้แค่ลูกค้าในพื้นที่ใกล้ ๆ แต่การออกร้านงานอีเวนต์ตระเวนขายไปหาลูกค้าตามจุดต่างๆ ดีกว่าเยอะ


จุดขายแตกต่างก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่องแม่บังอร

แม่บังอร เล่าถึง ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่องของตนเอง ว่า แตกต่างจากก๋วยเตี๋ยวหลอดทั่วไป ที่ม้วน และใส่เครื่องภายใน แต่ของเราไม่ได้นำมาม้วน แต่หั่นแยกเส้นเพื่อให้กินง่าย และในตัวเส้นก็จะมีกุ้งในเนื้อเส้นเลย เวลากินลูกค้าจะได้เนื้อสัมผัสเส้นที่มีกุ้งแดงอยู่ด้วย รสชาติที่ดีกว่า ซึ่งวัตถุดิบต่างๆ ก็จะทำเอง และทำสดใหม่ แบบวันต่อวัน

ส่วนเส้นก็จะซื้อมาจากโรงงานผลิตเส้น ซึ่งผลิตเส้นที่มีส่วนผสมของกุ้งแบบนี้อยู่ในเส้น สำหรับการทำก๋วยเตี๋ยวหลอดโดยเฉพาะ เรียกว่าเส้นใหญ่กุ้งฝอย และสูตรเด็ดของก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่องแม่บังอร ยังอยู่ที่หมูพะโล้สามชั้น เต้าหู้ต้มพะโล้ น้ำซอสดำ กุ้งแห้งทอดกรอบ ปลาหมึกแห้งทอดกรอบ ไข่เจียวหั่น กุ้งแห้งทอดกรอบ และถั่วงอกลวก นอกจากนี้ จุดเด่นที่เป็นไฮไลท์ อยู่ที่ รสชาติน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวหลอดที่เข้มข้น กลมกล่อม


ลูกค้ากลุ่มคนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้จัก

สำหรับลูกค้าก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่องแม่บังอร นั่น แม่บังอร บอกว่า มีทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนใหญ่ คนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่ก็จะไม่ค่อยรู้จักก๋วยเตี๋ยวหลอด แต่พอได้มากิน คนรุ่นใหม่ ก็ชื่นชอบ และก็กินได้ เหมือนกัน ลูกค้าของเราก็เลยมีทุกเพศทุกวัย ลูกค้าประจำที่ชื่นชอบในรสชาติก๋วยเตี๋ยวหลอดของเราก็จะติดตามมากิน เวลาเราออกร้านตามงานอีเวนต์ ถ้าไม่มีออกบูท ก็ไม่ได้มีหน้าร้าน แต่เราก็จะมีออกบูททุกเดือน ออกบูทงานอีเวนต์ครั้งหนึ่งไม่ต่ำกว่า 5วัน ถึง 10 วัน


ปรับราคารับวัตถุดิบพุ่ง

ในส่วนของราคา แม่บังอร บอกว่า เคยขายตั้งแต่ ราคา 35 บาท จนมาถึงวันนี้ ปรับราคาขึ้นมาที่ชามละ 70 บาท ที่ต้องปรับราคา เพราะต้นทุนวัตถุดิบที่สูงมาก และการออกบูทงานอีเวนต์แต่ละครั้ง ค่าใช้จ่ายสูง ก็เลยต้องปรับราคาขึ้นมา ซึ่งราคา 70 บาท ก็เพิ่งจะปรับปีนี้ 2568 ก่อนหน้านี้ ขายชามละ 60 บาท พอปรับราคาลูกค้ายอดขายก็ไม่ได้ลดลงมาก แต่ลูกค้าลดลงเพราะคนเดินงานอีเวนต์น้อย แต่ละคนเดินก็ซื้อของในงานน้อยลง จากเดิมจะซื้อ4-5 อย่าง ครั้งนี้ ซื้อแค่ 2-3 อย่าง

แม่บังอร เล่าว่า เดิมแม่ก็จะขายกับลูกสาว 2 คน มีคนงานบ้าง แต่ตอนหลังมีลูกชายลาออกจากงานมาช่วย เพราะแม่ก็ทำไม่ไหว และลูกจ้าง ค่าจ้างสูง เราก็จ้างไม่ไหว ได้ลูกชายมาช่วยทำกันสามคน ก็แบ่งรายได้กัน ลูกชายมาช่วยตรงนี้ มีรายได้ไม่ต่างจากการทำงานประจำ สามารถส่งต่ออาชีพให้กับลูกๆ ได้ต่อไป

ติดต่อ Facebook : ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง ๒๔๙๗

คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น