เมื่อต้องกลับบ้านเกิดไปดูแลครอบครัวจึงคิดค้นการสร้างแบรนด์ “ชา” ภายใต้ชื่อ “สวรรค์บนดิน” ที่รวบรวมวัตถุดิบจากทั่วมุมโลกมาผลิตเป็นสูตรชาชนิดต่างๆ พร้อมชูจุดเด่นสร้าง “ความรู้สึก” ผ่านการสัมผัสและดื่มชาสมุนไพรไทยเพื่อส่งต่อวัฒนธรรมและความเป็น “ชาของคนไทย” สู่เวทีโลกและสายตาทั่วโลก
นายชูเกียรติ เวสารัชชพงศ์ หรือ โต เจ้าของแบรนด์สวรรค์บนดิน เล่าว่า สวรรค์บนดินเริ่มต้นจากการกลับมาดูแลคุณพ่อที่ไม่สบายที่จังหวัดเชียงราย เดิมทีคุณโตทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงที่กลับมาดูแลคุณพ่อในช่วงนั้นคุณแม่ปลูกสมุนไพรพื้นบ้าน เช่น อัญชัน ตระไคร้ กระเจี๊ยบและอีกมากมาย คุณโตจึงนำเอาความรู้เกี่ยวกับการทำกาแฟ การทำพืชสมุนไพรเบื้องต้นมาแปรรูป โดยในตอนแรกทำธุรกิจโฮมสเตย์ขึ้นมา 1 หลังและทำเป็นร้านชาสมุนไพร กาแฟและอาหาร พร้อมกับปลูกผักกินเอง ทั้งนี้คำว่า “สวรรค์บนดิน” มาจากความตั้งใจและแนวคิดที่ว่าคนทุกคนบนโลกเป็นสวรรค์บนดินร่วมกันและทางแบรนด์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สวรรค์บนดินเกิดขึ้นได้
ในภายหลังเริ่มมีแรงบันดาลใจในการทำชามากขึ้นเพราะในช่วงที่เป็นนักศึกษาชอบทำงานเป็นอาสาสมัครขึ้นไปบนดอยโดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย ซึ่งคุณโตบอกว่าบนดอยจะมีพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ทำให้รู้ว่าภาคเหนือมีต้นชาอัสสัมมิกก้าหรือที่คนภาคเหนือเรียกว่า “เมี่ยง” ซึ่งเป็นต้นชาต้นใหญ่และสามารถนำมาแปรรูปให้เกิดมูลค่าสูง ประจวบกับที่คุณโตได้มองเห็นถึงสิ่งแวดล้อมที่ดีและโฟกัสที่ชาตัวนี้เป็นหลัก
ก่อนหน้าจะมาทำธุรกิจร้านชาคุณโตเคยเป็นช่างภาพมาก่อนและไม่มีความรู้เกี่ยวกับชา แต่พอได้กลับมาบ้านเกิดก็เริ่มศึกษาและขื่นชอบมากขึ้น พร้อมด้วยเรียนรู้วิชาต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทำชา กาแฟและแปรรูป ต่อยอดและพัฒนามาเรื่อยๆ จนปีนี้เข้าปีที่ 10 ที่เป็นแบรนด์ชาสวรรค์บนดินที่เป็นแบรนด์ชาสมุนไพรต่างๆ ซึ่งกว่าจะได้ชาสมุนไพรแต่ละกลิ่นแต่ละรสชาติทางแบรนด์ใช้เวลาในการทดลองนานพอสมควรและมีตัวทดลองกว่า 1,000 สูตร นอกจากนี้ยังรับทำ OEM ให้กับแบรนด์อื่นกว่า 100 ราย
ทั้งนี้สินค้าที่ขายดีที่สุดของแบรนด์คือชาที่ช่วยเรื่องการนอนชื่อว่า “นมัสการ” เป็นชาคาโมมายล์ของจังหวัดเชียงรายที่ปลูกแบบไร้สารเคมี รวมถึงมีมะตูม ชะเอม ดอกคำฝอย ใบเตยและสารสกัดแอลธีอะนีนที่ช่วยเรื่องความทรงจำดีและหลับสบาย สินค้าที่ขายดีเป็นอันดับสองคือ “ชาสวนดอกไม้” และ “ชาขนมไทย” ที่เป็นสเปเชียลเบลนด์ โดยนำเอาแต่ละวัตถุดิบมาชั่งตวงทีละอย่างให้แม่นยำและละเอียดมากที่สุด ซึ่งชาทั้งสองสูตรเป็นชาที่ส่งผลดีต่อร่างกาย ชาที่ขายดีอันดับสามคือ “ชาดำ” หรือที่คนจีนเรียกว่า “หงฉา” เป็นชาที่ได้รับรางวัลในเวทีการประกวดชาระดับสากลจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นของอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีกลิ่นหอม รสชาตินุ่มละมุน เป็นต้น
นอกจากนี้แบรนด์สวรรค์บนดินทำงานร่วมกันกับชุมชนและเป็นการช่วยส่งเสริมให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มจากการส่งวัตถุดิบอย่างสมุนไพรต่างๆ มาให้ ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นทั้งสองฝ่าย รวมถึงลูกค้าที่บริโภคชาของทางแบรนด์ด้วย เรียกได้ว่าเป็นประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งอัตราการเติบโตของสวรรค์บนดินเฉลี่ยแล้วสามารถเติบโตขึ้น 60-70% ต่อปี
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาสั่งซื้อชาของทางแบรนด์ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่ชื่นชอบการดื่มชาโดยตรง โดยสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Shopee รวมถึงลูกค้าที่เป็น B2B ในกลุ่มโรงแรมต่างๆ ที่ทั่วประเทศจะมีจำนวนมากกว่า B2C นอกจากนี้จุดแข็งของชาสวรรค์บนดินนั้นจะโดดเด่นเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมและช่วยสิ่งแวดล้อมร่วมกัน เมื่อลูกค้าได้สัมผัสก็จะรับรู้ถึงความตั้งใจของทางแบรนด์พร้อมกับเข้าใจในสิ่งที่สื่อออกไปผ่านการผลิตชาสูตรต่างๆ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ที่สนใจนั้นมาจากการรับรู้เรื่องราวผ่านการบริโภคชานั่นเอง
นอกจากนี้ซิกเนเจอร์ของสวรรค์บนดินจะเป็นชาทั้งหมด 2 แบบคือ 1.ชาที่ไม่ได้เบลนด์หรือซิงเกิลออริจิ้น ที่มีกลิ่นและรสชาติของพื้นที่นั้นๆ และผ่านกระบวนการคิด ผ่านความรู้สึกต่างๆ ซึ่งดึงเอาความรู้สึกที่แฝงอยู่ในวัตถุดิบออกมา 2.เรียงลำดับชา แล้วนำมาเบลนด์รวมกันเพื่อให้เกิดกลิ่นและรสชาติใหม่ พร้อมกับความรู้สึกใหม่ๆ ผ่านการรวมกันของชา
อย่างไรก็ตามในตลาดชาสมุนไพรในปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางแบรนด์มองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีแบรนด์ชาสมุนไพรแบบเดียวกันเริ่มสนใจและใส่ใจสิ่งแวดล้อมผ่านการทำแบรนด์เพิ่มมากขึ้น เพื่อส่งเสริมสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน ทางแบรนด์ไม่ได้มองว่าเป็นคู่แข่งทางการตลาดแต่อย่างใด แต่กลับมองว่าเป็นเพื่อนร่วมทางที่ช่วยให้มีผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมทั้งชาวบ้านและสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน ปัจจุบันเปิดขายในประเทศเพียงอย่างเดียวเพราะกำลังการผลิตยังไม่สามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ แต่ในอนาคตทางแบรนด์วางแผนส่งต่อการรับรู้เรื่องชาสมุนไพรไทยให้คนทั่วโลกได้มาสัมผัสชาสมุนไพรของคนไทย และอยากส่งต่อวัฒนธรรมไทยในรูปแบบของชาหรืออาหารไปให้ไกลทั่วโลก
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : Sawanbondin Tea House & Experience
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *