xs
xsm
sm
md
lg

ลุงเฮง-ป้าใจดี ปลาหมึกบดตัวละ 1,000 บาท โกอินเตอร์ไปไกลถึงอเมริกา ส่งลูก 4 คนจบปริญญาโท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ใครอาจจะมองว่า ปลาหมึกบดรถเข็นเป็นตลาดล่าง ภาพจำพวกนั้น ไม่ใช่อีกต่อไป เพราะวันนี้ ถ้ามีเงินในกระเป๋าไม่ถึง 100 บาท 1,000 บาท อย่าหวังว่าจะได้กินปลาหมึกบดรถเข็นของ “ลุงเฮงและป้าใจดี” วัย 64 ปี รถเข็นปลาหมึกบด ย่านลาดพร้าวที่โด่งดังจาก ปลาหมึกบดที่ยาวที่สุดถึงกว่า 2 เมตร และลุงเฮง-ป้าใจดี ต้นแบบของผู้สูงอายุที่สร้างรายได้หลายหมื่นบาทต่อเดือน จากรถเข็นขายปลาหมึกบดเก่าๆ คันนี้ ส่งลูก 4 คน เรียนจบปริญญาตรี ปริญญาโท มาแล้ว


จากรถเข็นปลาหมึกบดข้างทาง
ยกระดับขึ้นมาขายบนห้างดัง


ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ วันนี้ พามารู้จักกับสามีภรรยา ในวัย 64 ปี ลุงเฮง&ป้าใจดีที่ยึดอาชีพขายปลาหมึกบดรถเข็นมาตั้งแต่ปี 2549 แต่วันนี้อาจจะเปลี่ยนไปจากในอดีตที่พบเห็นร้านรถเข็นปลาหมึกบดลุงเฮงได้ตามท้องถนน เพราะทั้งสองได้ขยับขึ้นมาขายบนห้างหรู เนื่องด้วยรสชาติปลาหมึกบดที่โดนใจรายการดัง ทำให้ได้รับเชิญติดตามรายดัง ออกบูทตามห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ซึ่งทั้งสองบอกว่าจะยังคงยึดอาชีพนี้ไปเรื่อยจนกว่าจะทำไม่ไหว ส่วนลูกค้าประจำที่ไม่เห็นลุงและป้าเข็นรถขายใช้การโทรมาสั่งแทน

นายทรงเกียรติ วิทูวินิต (ลุงเฮง) และ นางใจดี วิทูวินิต (ป้าใจดี) สองสามีภรรยา ทำอาชีพขายปลาหมีกบดรถเข็น มาตั้งแต่ปี 2549 โดยลุงเฮง เข็นรถขายปลาหมึกบดอยู่ในซอยลาดพร้าว 94 ย่านทาวน์อินทาวน์ เห็นรถเข็นลุงได้ตั้งแต่ 4 โมงเย็น ไปจนถึงมืด 3-4 ทุ่ม ซึ่ง ความพิเศษของปลาหมึกบดลุงเฮง และป้าใจดี ที่โดนใจใครหลายๆ คนจนมีลูกค้าประจำมากมาย และยังมีการบอกต่อจนได้ไปออกรายการทีวีและมียูทูบเบอร์หลายคนตามไปชิมกัน


แตกต่างด้วยเทคนิคการบดและย่าง
จนลูกค้าติดใจ ส่งต่อไปไกลอเมริกา

ทั้งนี้ ปลาหมึกบดของลุงเฮงและป้าใจดี จะความแตกต่างจากรถเข็นปลาหมึกบดทั่วไป ตรงที่วิธีการบด ที่เนื้อปลาหมึกจะไม่เหนียว แต่จะมีความนุ่มและกรอบ เพราะเมื่อบดเสร็จนำไปย่างอีกรอบ แต่ความพิเศษอยู่ที่น้ำจิ้ม เป็นสูตรพิเศษที่ตกทอดมานับ 100 ปี จากรุ่นแม่ลุงเฮง ที่เคยทำปลาหมึดบดขายมาก่อน และความลงตัวของปลาหมึกคัดมาพิเศษ จากแหล่งปลาหมึกแห้งคุณภาพจากจังหวัดปัตตานี และจากปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ปลาหมึกบดรถเข็นลุงเฮงและ ป้าใจดี มีลูกค้าติดอกติดใจ และลูกค้าประจำเป็นจำนวนมาก


ป้าใจดี เล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมา ปลาหมึกบดของลุงเฮง ไม่ได้ขายแค่ในประเทศ แต่มีลูกค้าสั่งปลาหมึกบดของป้าและลุง ส่งไปไกลถึง สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศในยุโรป เอเชีย หลายคนสงสัยว่า ปลาหมึกบดรถเข็นโกอินเตอร์ได้อย่างไร ป้าใจดี บอกว่า ลูกค้าป้า หลายคนชื่นชอบในรสชาติปลาหมึกของเรา ก็เลยต้องการจะให้ญาติที่อยู่ต่างประเทศ ได้กินบ้าง ก็เลยมาสั่งปลาหมึกลุงเฮง ซึ่งปลาหมึกบดของเราจะสามารถคงรสชาติ และความกรอบได้นานเป็นสัปดาห์ เมื่อส่งไปต่างประเทศ ก็ยังคงรสชาติเหมือนเดิม ทำให้ทุกวันนี้ ลูกค้าของเราหลายคน ก็ยังคงมาสั่งปลาหมึกของลุงส่งไปให้ญาติที่อยู่ต่างประเทศอยู่บ่อยๆ


ปลาหมึกบดรถเข็นไม่ใช่ตลาดล่างอีกต่อไป
มีไม่ถึงร้อยถึงพัน หมดสิทธิ์กินปลาหมึกรถเข็น

ป้าใจดี บอกว่า ในช่วงเช้า ก่อนลุงกับป้าจะออกมาเข็นรถขาย ก็จะมีลูกค้าโทรมาสั่ง มีทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด ในส่วนของลูกค้าต่างจังหวัด มีส่งบริษัทขนส่ง และไปรษณีย์ไทย ต้องแพกให้ดี เพื่อไปถึงลูกค้า ยังคงสภาพดี ไม่แตกหัก คงรสชาติเหมือนกับมากินที่ร้านรถเข็นของเรา

ในส่วนของราคาปลาหมึก ป้าใจดี บอกว่า ราคาปลาหมึก จะราคาตามขนาด เหมือนรถเข็นปลาหมึกบดทั่วไป คือ แถวบนจะราคาแพง ส่วนแถวล่างตัวเล็กจะราคาถูกลงมา โดยราคาเริ่มต้น 3 ตัว 100 บาท และไล่ขึ้นมาเป็น 2 ตัว 100 บาท และขยับตามเป็นตัวละ 200 บาท 500 บาท และแพงแถวบนสุด ตัวละ 1,000 บาท

ป้าใจดี
ป้าใจดี บอกว่า ตั้งแต่ขายมา เมื่อปี 2549 ป้าจะขายราคานี้มาตลอด ส่วนปลาหมึกตัวใหญ่ ขึ้นอยู่กับขนาด ตอนหลังป้าได้ปลาหมึกตัวใหญ่จากปัตตานี เป็นปลาหมึกที่รสชาติดีมาก ราคาสูงไปที่ตัวละ 1,000 บาท แต่ถ้าตัวเล็กลงมา ตัวละ 700 หรือ 800 บาท ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของปลาหมึก

ส่วนราคาปลาหมึกแห้งที่ป้าซื้อมาขาย ถ้าเป็นตัวเล็กราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 1,500 บาท ส่วนปลาหมึกตัวใหญ่ราคากิโลกรัมละ 3,000 บาท ซึ่งราคาปรับาขึ้นมาเรื่อย ๆ ปีหนึ่งปรับราคาหลายรอบ จากที่ป้าเคยซื้อเมื่อในอดีตกิโลกรัมละ 400 บาท ค่อยขยับขึ้นมาปัจจุบันกิโลกรัมละ 1,500 บาท ป้าเองก็ยังไม่ได้ปรับราคาขายเลย กำไรก็จะได้น้อยหน่อย


มาดูกันว่าปลาหมึกบดตัวละ 1,000 บาทขายได้จริงเหรอ

ป้าใจดี ยังบอกอีกว่า หลายคนมองว่า ตัวละ 1,000 บาท ลูกค้าจะซื้อเหรอ ต้องบอกว่า ลูกค้าของป้า ชอบปลาหมึกตัวใหญ่ ป้าเคยมีขายปลาหมึกตัวละ 1,000 บาท มากถึง 23 ตัว ในวันเดียว ส่วนปลาหมึกตัวเล็ก ป้าใจดี บอกว่า เป็นชุดๆ ละ 100 บาท ทำให้เราเห็นว่า แม้จะเป็นปลาหมึกบดรถเข็น แต่ลูกค้าป้าใจดี และลุงเฮง ต้องมีกำลังซื้อพอสมควร เพราะด้วยปัจจุบัน ราคาปลาหมึกแห้งสูงไปถึงกิโลละหลายพันบาท ส่งให้ราคาปลาหมึกบดรถเข็นปรับขึ้นตามไปด้วย

และที่สร้างเสียงฮือฮาและทำให้สื่อหลายแห่งพุ่งตรงไปที่รถเข็นปลาหมึกของลุงเฮง และป้าใจดี ก็มาจากปลาหมึกยักษ์ ตัวละ 1,000 บาท ที่ลุงเฮง สามารถบดออกมาได้ยาวถึงกว่า 2 เมตร จนกลายเป็นจุดขาย ที่หลายคนว้าว สร้างความฮือฮา กับ เทคนิคและวิธีการบดปลาหมึกของลุงเฮงว่า ทำได้อย่างไรกับการบดปลาหมึกให้ยาวกว่า 2 เมตร โดยไม่ขาด และยังคงรสชาติความกรอบอร่อย กลายเป็นจุดขายที่หลายคนจดจำ ป้าใจดีบอกว่า เวลาในการทำปลาหมึกบด ไม่ได้ใช้เวลานาน ลูกค้าไม่ต้องรอนาน


เคยทำงานโรงงานเงินเดือน 15,000 บาท
ออกมาขายปลาหมึกบดรายได้เพิ่ม 2 เท่า

ป้าใจดี เล่าให้ฟังว่า เดิมสามี ลุงเฮง ทำงานประจำ และป้าใจดีเองก็ทำมาหลายอาชีพ ขายของมาหลายอย่าง และสุดท้าย ป้าก็มาขายลูกชิ้นปิ้ง ย่านทาวน์อิน ทาวน์ ขายดีมาก เพราะป้าจะเลือกจะวัตถุดิบ ลูกชิ้นเกรดดี และน้ำจิ้มก็เป็นสูตรเด็ดป้าทำเอง แต่พอวันหนึ่ง ป้าโดนรถชน ก็เลยต้องหยุดขายไป เราก็เสียดาย เพราะอาชีพค้าขาย ทำรายได้ดีกว่าการทำงานประจำ ก็เลยขอให้ลุงออกจากงานตอนนั้นลุงเงินเดือน 15,000 บาท แต่ป้าขายลูกชิ้น ได้เงินมากกว่า ลุงอีก 

ลุงก็เลยออกจากงานมาค้าขาย และลุงไม่ได้ขายลูกชิ้น เพราะขายลูกชิ้นต้องเตรียมของ และถ้าขายไม่หมดของเน่าเสียหายได้ ลุงมาทำรถเข็นขายปลาหมึกบด เพราะเป็นอาชีพที่ครอบครัว คือ แม่ของลุงเคยทำขายมาก่อน และมีสูตรน้ำจิ้ม ปลาหมึกบดที่อร่อยมาก ลุงก็เลยมาขายปลาหมึกบด ทำรถเข็นขายหน้าบ้าน และเข็นขายในย่านทาวน์อินทาวน์ ผ่านมาตอนนี้ก็เกือบ 20 ปี ปัจจุบันไม่ได้ขายแค่ปลาหมึกบด แต่ลูกค้าชื่นชอบในน้ำจิ้ม ก็มาขอซื้อน้ำจิ้ม ป้าก็เลยทำน้ำจิ้มบรรจุขวดด้วย


ส่วนลูกค้าที่ต้องการจะกินปลาหมึกบด ลุงเฮง และป้าใจดี ตอนนี้ อาจจะไม่เจอลุงและป้าเข็นรถขายแล้ว เพราะมี เวลาส่วนใหญ่ไปอยู่กับการออกร้านในงานแสดงสินค้า ตามห้างสรรพสินค้า และออกงานอีเวนต์ต่างๆ

ติดต่อ โทร. 06-1449-9261

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น