“ตลาดน้อยสมัยก่อนมันเป็นแหล่งที่เขาขายอะไหล่เซียงกง ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยเลยก็เริ่มแรกมาจากที่นี่ ตั้งแต่ผมยังไม่เกิดเลย จริง ๆ แล้วผมไม่มีความคิดทางนี้หรอกเรื่องทำหุ่นยนต์พอดี ผอ.เขตคนเก่า เมื่อปีที่แล้วเขามาถามผม ว่าเฮียเซ้งตลาดน้อยมันเป็นแหล่งขายอะไหล่เซียงกงถ้าสร้าง “หุ่นยนต์” เป็น “แลนด์มาร์ค” หรือดูเป็นหน้าตาให้เขารู้ว่าที่นี่เป็นเซียงกงดีไหม?
ผมบอกเห็นด้วยเลย เห็นด้วยเลย เขาบอกเขาถามหลายคนแล้ว แต่ละคนส่ายหัวหมดเพราะว่าเขาใจไม่ถึง และอีกอย่างหนึ่งผมได้เพื่อนที่น่ารักในตลาดน้อยและก็ในวงการเซียงกงที่อยู่ต่างประเทศและต่างจังหวัด และเพื่อน ๆ อยู่ข้างนอกเขาก็ช่วยเหลือผมมา” เฮียเซ้ง จูเนียร์ตลาดน้อย หรือชื่อจริงคือ นายอารี มนัสภากร เถ้าแก่ใหญ่ในวงการอะไหล่เซียงกงเมืองไทยยุคสมัยที่เคยรุ่งเรืองสุด ๆ เอ่ยชื่อนี้แล้วไม่มีใครที่ไม่รู้จักเฮียเซ้งจูเนียร์ฯ จวบกระทั่งยุคสมัยที่เปลี่ยนไปวันนี้ทำให้เราได้กลับมารู้จักกับเขาคนนี้อีกครั้ง ในฐานะของผู้สร้างหุ่นยนต์ “ออพติมัส ไพร์ม”และ “บัมเบิ้ลบี” แห่งตลาดน้อยที่กำลังดังเป็นกระแสอยู่ในโซเชียลฯ ขณะนี้ แต่ก็ต้องให้เฮียเซ้งจูเนียร์ฯ ช่วยเล่าเท้าความในอดีตให้ฟังกันก่อนสักนิดเพื่อได้เห็นภาพชัดถึงที่มาที่ไป ซึ่งเฮียเซ้งก็ได้เล่าให้ฟังด้วย ผมทำอะไหล่เซียงกงมาตั้งแต่อายุประมาณสัก14 อายุ14-15-16 ผมก็มีตังค์เลย ตั้งแต่มีห้องเดียวกลายเป็น40 ห้องเลย แล้วทีนี้ผมเลยย้ายไปอยู่ที่ “หินกอง” เพราะว่าขายอะไหล่เซียงกงเนี่ย เครดิตมันยาว ซื้อเดือน 1 จ่ายเดือน 4 เดือน 5 แมร่งหนีเลย! ก็เลยเบื่อขายแต่พวกเงินเชื่อ เลยไปเปิดร้านที่หินกอง (สระบุรี) ที่นั่นขายเงินสดตลอดเลย ขายให้โรงโม่หิน ฯลฯ ไปอยู่โน่นเลยไปอยู่โน่นคนแรกเลย แล้วตอนหลังค่อยมา ไล่มาอยู่ที่เซียงกงรังสิต แล้วก็มาอยู่วังน้อย“ทีนี้ตลาดน้อยที่เคยทำเซียงกงอันดับ 1 เก่า เดี๋ยวนี้ก็ไม่มีแล้ว พวกเถ้าแก่เก่า ๆ ที่อยู่ในตลาดน้อยก็ส่วนมากย้ายไปอยู่ที่ กม.12 และก็รังสิตชานเมือง เพราะว่าในนี้ส่วนมากไม่ค่อยมีคนเข้ามาหรอกหนึ่งรถมันติด เขาย้ายไปอยู่หลักสี่ ย้ายไปที่วงเวียนหลักสี่เซียงกง บางนาเซียงกง(กม.12) และก็ศูนย์รังสิตเซียงกง และก็วังน้อย ตอนนี้เขาย้ายออกไปชานเมืองหมดเลยในนี้เลยเงียบเลย”
ความต่างกัน และการแข่งขันด้าน “ราคา”
ประกอบกับประเทศจีนมันมีสินค้าเข้ามาตีตลาด ของเก่าและก็ของญี่ปุ่นเนี่ยมันก็สู้เขาไม่ได้บอกตรง ๆ นะ“แต่เรื่องคุณภาพนี่นะจีนยังไงก็สู้ญี่ปุ่นไม่ได้หรอกเพราะว่า ญี่ปุ่นนี่เป็นสินค้าsecondhand ที่เป็นอันดับ 1 ของทั่ว ๆ ไปอ่ะคือเป็นการค้าที่ ในเมืองไทยส่วนมากส่วนใหญ่เป็นของญี่ปุ่นทั้งนั้นเลย แต่ที่ตลาดญี่ปุ่นสู้ไม่ได้เพราะว่า สินค้าจีนมันมาตีตลาด เช่น อะไหล่พวงมาลัยเนี่ยญี่ปุ่นเขาขายกัน 7,000 จีนขาย 3,000 บาท” คนที่เขาค้าขายพวกอะไหล่เก่ามันเลยต้อง อยู่ไม่ได้! เพราะว่ามันเสียราคากันสารพัดเลย แต่คนตอนนี้มันไม่มีเงินน่ะมันก็จำเป็นต้องใช้ไปก่อน เพราะว่าของจีนไม่ใช่มันใช้ไม่ได้นะ มันก็ใช้ได้ แต่ว่าการทนทานมันก็สู้ของญี่ปุ่นไม่ได้ใช่ไหม แล้วราคามันก็ถูก“ของธรรมดาหรอก ของฟรีไม่มีในโลกนี้หรอก ของถูกมันก็ไม่ใช่ของดีหรอกอันนี้ก็ย่อมรู้ ๆ กันอยู่ใช่ไหม”
เมื่อ “อะไหล่” รถเก่าตกรุ่นหมดยุค แล้วจะทำยังไง?
เนี่ย ๆ อย่างเกียร์พวกนี้ตัวละ 4,000-5,000 หรือ 6,000 พูดถึงขายคนไทยด้วยกันนะ แต่ตอนนี้ รถมันเปลี่ยนแปลงไปแล้วที่ผมพูดว่า 4,000-5,000 เมื่อสมัย 20 กว่าปีก่อนอะไหล่พวกนี้ เขาแย่งกันซื้อเลยรถนะ แต่ตอนนี้รถมันมารุ่นใหม่ ๆ แล้ว ไอ้รถพวกนี้มันรถเมื่อ 20 กว่าปีที่ผมพูดว่าราคาดี เพราะรถพวกนี้มันตั้ง 40-50 ปีแล้ว รถมันก็เก่า อะไหล่มันก็ เขาก็ไม่เอาแล้ว“แต่ว่าทุกวันนี้ผมก็ จับเสือมือเปล่านะ เช่นซื้อ ก. ไปขาย ข. เช่นซื้อบริษัทนี้ไปขายอีกบริษัทหนึ่ง เช่นไปเหมาไปรื้อรถไปประมูลรถตามอิตาเลียนไทยมาถึงผมก็ เขาจ่ายค่านักเลงผม ผมก็ให้เขาไป เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนซื้อเสร็จเราเก็บไว้ที่บ้านมารื้อขายมันกำไรเยอะ กำไรมันเป็น 400-500 เท่าตัวเลย แต่นี้เรากำไรแค่นิด ๆ หน่อย ๆ เพราะเราทำสนุกอ่ะ ทำสนุก ก็ไปทำใหญ่อย่างนั้นมันไม่ไหวแล้ว ปีนี้ก็ 60กว่าจะเข้า 70 ปีแล้ว”
นำมาสร้างใหม่ ให้เป็น “แลนด์มาร์ค” ของตลาดน้อย
หลังจากที่ ผอ.เขตสัมพันธวงศ์(คนก่อน) เขามาถามแล้ว เราก็เลยถามทีมงานว่าตอนนี้ เพราะว่าผมไม่รู้เรื่องหรอก มันชื่อ “ออพติมัส ไพร์ม”ชื่อ “บัมเบิ้ลบี” ผมไม่รู้หรอกเพราะว่าผมไม่เคยสนใจดูหนังเลย“ทีนี้เขาบอกว่าเฮียเซ้งเอาตัวนี้ดีไหม บัมเบิ้ลบี ตอนนี้ดัง ออพติมัส ไพร์ม ตอนนี้ดัง เพราะว่าสองคนนี้มันเป็นตัวฮีโร่ แล้วก็ตัวเมกะตรอนไอ้ตัวร้ายตัวนี้ ก็ต้องทำตัวนี้ก่อนแล้วไอ้พวกตัวประกอบก็อย่าไปสนใจมัน เพราะคนไม่สนใจ แม้แต่เด็ก ๆ เขายังดีใจเลยอุ๊ย! บัมเบิ้ลบี ผมยังไม่รู้ว่าไอ้ตัวนี้คือบัมเบิ้ลบีมาตั้ง มาตั้งเมื่อปีที่แล้วผมไม่รู้เรื่องเลย”เอารถเครนมายกมาตั้งให้ ส่วนใหญ่พวกนี้เอามาจากต่างจังหวัดนะไม่ใช่ในกรุงเทพฯ ทำนะ
เพิ่มมูลค่า กิโลละบาทสู่เงินล้าน!
เลยทำ 2 ตัวก็ ตัวหนึ่งก็เจ็ดหมื่นห้า “ตัวบัมเบิ้ลบี” ส่วนตัวออติมัส ไพร์ม ตัวนี้มันสูง 4 เมตรก็ 1.5 แสนบาท และก็ทำรั้วทำป้ายทำนู้นทำนี่จุก ๆ จิก ๆ รวมแล้วก็ประมาณ 3 แสนกว่าบาท พวกนี้ผมจะมีหน่วยทีมงานทำครับ ก็ไม่เชิงว่าเก่งก็ลองผิดลองถูกบ้าง ไม่สวยก็ลองใหม่ แต่ว่าพวกอะไหล่ชิ้นส่วนต่าง ๆ โกดังผมสมัยก่อนมีเป็นร้อย ๆ ตันเลยพวกอะไหล่ชิ้นส่วนที่เสียนะ“เพราะบางอย่างได้มาจากพวกประมูลรถ ได้มาจากโรงพัก พวกนี้ถ้าเรามาพูดนะพวกนี้มันมี คนตายนะ! มีวิญญาณนะ! เพราะบางทีรถทัวร์หัวขาดก็มี ไฟไหม้ก็มี บางทีผมก็ซื้อรถมาพวกนี้มาแล้วก็มาตัดอะไหล่ขาย กำไรดี ซื้อรถคันนึงแค่หมื่นสองหมื่น ขายทีนึงก็แสน-2 แสน พูดถึงว่าเราเอามารื้ออะไหล่ขายนะ บางอย่างไม่ดีเราก็เอาชั่งกิโลไป ก็เอาส่วนอะไหล่ไม่ดีเนี่ยมาทำหุ่นยนต์ เช่นเกียร์เสีย เราก็ถอดเฟืองเกียร์มาทำ เฟืองท้ายเสีย ก็ถอดเฟืองท้ายมาทำ เฟืองโซ่เสีย เครื่องเสีย เอนจิ้นเสีย เกียร์บ๊อกเสีย เทอร์โบเสีย ฯลฯ อะไหล่ที่มันเสีย ๆ เราก็เอามาจับแพะชนแกะ สร้างมันขึ้นมาดีกว่าเอาไปชั่งกิโล”เพราะถ้าชั่งกิโลได้บาทนึงแต่ทำหุ่นขึ้นมาได้ “ล้านนึง” เราขายกิโลละบาทสมมุติว่ากิโลละบาท แต่เราสร้างหุ่นได้เงินเป็นล้านเลย! เอามาเป็นมูลค่า
เกิดการต่อยอด สู่ออร์เดอส่งต่างประเทศ
ส่วนมากก็สั่งทำก็มีบ้าง ส่งต่างประเทศ เช่นตลาดจตุจักรพวกนี้เขาสั่งไปทำขาย เราไม่ได้ขายแพง ตัวหนึ่งก็กำไรนิด ๆ หน่อย ๆ แค่นั้นเอง เริ่มต้นที่ตัวละถ้าไซซ์ทั่ว ๆ ไปก็ 1.5 เมตร ประมาณ 5 หมื่น หรือ 6-7 หมื่นแล้วแต่ว่า วันนั้นเหล็กมันขึ้นอยู่ที่ว่าราคาสูงไหม ถ้าสมมุติว่า 4 เมตรก็ 1.5 แสน ถ้าสมมุติว่าเหล็กมันกิโลละ 10 กว่าบาทราคาหุ่นก็จะปรับสูงขึ้นตามราคาของ ถ้าเหล็กมันลงเหลือไม่ถึง 10 บาทราคาหุ่นมันก็ลงมาได้ ไม่เป็นไรสามารถคุยกันได้ คุณพอใจ ผมพอใจ ก็มาทำ“แต่ไม่ต้องห่วงนะทุกตัวสมมุติว่าเป็นบัมเบิ้ลบีแล้วแต่ 10 ตัวทำ ก็ไม่เหมือนกัน เพราะอะไหล่มันมีไม่เหมือนกัน เราเจออะไรก็ใส่ ๆ มันเข้าไปแต่ว่าทำออกมาแล้ว มันรูปหล่อแล้วกัน ทำออกมาแล้วสวยละกัน”ถ้าใครสนใจก็เดี๋ยวผมจะแนะนำให้ ไม่ต้องกลัวผมรับรองได้ว่าราคาถูกกว่าที่อื่น 100% รับรองได้ อยากได้เป็นตัวอะไรบ้างก็สามารถบอกได้ จะทำตัวใหญ่-ตัวเล็กก็ตามราคา ใหญ่ขึ้นก็แพงขึ้น เล็กลงก็ราคาตามไซซ์ และก็ตามสภาวะราคาเหล็กในตลาดตอนนั้น ไม่ต้องห่วง ถ้าทำแล้วไม่ถูกใจไม่ต้องเอา ไม่ต้องห่วงที่นี่ขายของรับประกัน 100%
เสียงลือเสียงเล่า ถึง “ความเชื่อ”!!?
จากปรากฏการณ์ทางด้านความเชื่อ! ที่มีหลาย ๆ คนนำของไปกราบไหว้ไปขอพร “หุ่นยนต์” ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์หรือเป็นแลนด์มาร์คแห่งตลาดน้อย โดยเฉพาะ “ออพติมัส ไพร์ม”ซึ่งถูกพูดถึงกันอย่างมากขณะนี้ในโซเชียลฯ เฮียเซ้ง จูเนียร์ตลาดน้อย บอกว่า ผมก็พูดตรง ๆ นะว่า บางทีบางครั้งนะผมก็ไม่เชื่อหรอก แต่บางทีบางครั้งก็เชื่อ แต่ผมก็ไม่เคยลบหลู่นะเพราะว่าอะไรรู้เปล่า เพราะว่าหุ่นพวกนี้ทุกตัวเนี่ยมันทำมาจาก “รถ” ที่ประสบอุบัติเหตุ(บางทีมันมีคนเสียชีวิต) บางทีเราซื้อรถมาทั้งคันยังมี “แขน”!!! ติดมาเลย เขาลืมเก็บปอเต็กตึ๊งลืมเก็บไปก็มี! รถบัสบางทีเสียชีวิตข้างในทีหนึ่ง 30 กว่าคน! โดนไฟครอก ผมไปประมูลที่โคราชได้มา 4 คัน ไหม้ทั้งคันเลย! เขาก็บอกเฮียเซ้งไปถึงปุ๊บเนี่ยนะเฮียเซ้งก็ไหว้เขาหน่อยนะ ผมก็เขาบอกมายังไงผมก็ทำตามที่เขาพูดแหละ ก็ขอให้ ผมซื้อมาผมไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีนะ ผมเป็นคนค้าขายนะ ถ้าไปล่วงเกินอะไรสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือว่า ผีสางนางไม้ก็แล้วแต่ ก็ขอให้อโหสิกรรมผมนะ ถ้าเกิดอยากจะกินอะไร หูฉลามหรือว่ากระเพาะปลาบอกผม มาเข้าฝัน เดี๋ยวจะซื้อไปให้กิน ก็พูดอย่างนี้ผมเล่น ๆ น่ะ“คือผมเป็นคนที่ ยังไงดีล่ะ คือไม่ค่อยกลัวพวกนี้หรอก เพราะว่าเราทำมาหากินทำยังไงได้ ใช่ไหม? ก็ซื้อไป ถามว่าผมกลัวไหม ผมไม่กลัว ถามว่าไอ้เรื่องนี้จริงหรือเปล่า ผมก็ไม่กล้าฟันธง”
สร้างชีวิตใหม่จากอะไหล่เก่า “เซียงกง สู่ ซูเปอร์ฮีโร่”
เพราะว่าจริง ๆ แล้วผมไม่ได้สนใจหุ่นยนต์อะไรพวกนี้เลยนะ แต่เป็นเพราะว่า ผอ.คนเก่า (ผอ.วัลลภ) เขาบอกว่าอยากจะทำเป็นแลนด์มาร์คเป็นสัญลักษณ์ของตลาดน้อย เพื่อให้คนรู้ว่าแถวนี้เขาเคยเป็นแหล่งของการค้าขายอะไหล่เซียงกงแหล่งใหญ่ในประเทศไทยมาก่อน หรือสมมุติว่าเพื่อนของผมมาบอก ผมก็เห็นด้วย ว่ามันดีเว้ย เพราะว่า “อะไหล่เหล็ก” พวกนี้มันทำทั้งตัวยังไม่ถึง 2,000-3,000 บาทเลย เฉพาะพวกค่าอะไหล่พวกเหล็กนะเพราะว่าชั่งกิโลมันไม่มีคุณค่า เนี่ยทั้งตัว ตัวหนึ่งประมาณ 400-500 กก. แล้วลองคูณด้วย 8 บาท เนี่ยค่าเหล็กแค่ 3,200 บาทเองใช่ไหม จะหลอมทิ้ง มันก็เสียดาย นี่เราเจออะไรเราก็ใส่เข้าไป เพราะว่าถ้าเป็นของทางฝรั่งเขาประกอบหุ่นยนต์เขาไม่ได้ใช้อะไหล่แบบนี้ เขาจะมีตัวบล็อกของมันเป็นอย่างงี้ ๆ เหมาะสม เขาจะปั๊มขึ้นมาเลย แต่นี่ไม่ใช่ นี่เอาพวก เอาตามที่มีเลยเราก็ใส่ไป ลองผิดลองถูก ทำออกมาแล้วเอ๊ยมันสวยไหม เชื่อมออกมาแล้วมันไม่สวยเปลี่ยนใหม่ อ๊อกใหม่ เชื่อมใหม่ แรก ๆ ก็ลองผิดลองถูก ตอนหลังรู้แล้วก็ทำง่ายแล้ว
ไม่เพียงแต่มีกระแสของ “หุ่นยนต์” ที่ดึงดูดผู้คนให้ต่างหลั่งไหลกันไปเที่ยวยัง “ตลาดน้อย” เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้ความมีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นแหล่งท่องเที่ยวชมความเก่าแก่ของสิ่งต่าง ๆ ในชุมชนแห่งนี้อันเป็นเสน่ห์ดึงดูดผู้คนทั้งคนไทยเองรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาเที่ยวที่ตลาดน้อย ซึ่งแต่ละปีก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกันกลายเป็นย่านของการท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานครที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง โอกาสนี้ เฮียเซ้ง จูเนียร์ตลาดน้อย ในฐานะตัวแทนของชุมชนก็ได้ฝากถึงคนที่มาเยือนหรือนักท่องเที่ยวด้วย นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวตลาดน้อยก็อยากจะให้ช่วยซื้อของอุดหนุนพวกร้านค้าเขาหน่อย เล็ก ๆ น้อย ๆ มีเพราะว่าบางร้าน “ร้านที่ยังไม่แข็งแรงดีหรือไม่ค่อยจะมีสตางค์เนี่ยก็ช่วยเขาซื้อ ๆ หน่อย ใช่ไหม คุณมาเที่ยวไม่ใช่ว่าถือกล้องถ่ายรูป แล้วก็ถ่าย ๆ แล้วกลับมาเยาวราชเพื่อที่จะกินแล้ว เยาวราชของมันก็อร่อย ที่นี่ก็อร่อย ก๋วยเตี๋ยวเอย ราดหน้าเอย อาหารตามสั่งเอย กะหรี่ปั๊บเอย ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น ก๋วยเตี๋ยวไก่ ขาหมู ฯลฯ แล้วข้างนอกขายขนมครกขายอะไรโอ๋ยเยอะแยะเลย คุณก็ช่วย ๆ เขาซื้อหน่อยนึงนะ มันก็ไม่ได้แพงนี่ 30, 50 ราคาในนี้ อร่อยทุกร้านแหละเข้าไปกินได้ ผมการันตีได้ว่าที่นี่สินค้าไม่มีการโขกไม่มีการฟัน”
ผู้สร้างชีวิตใหม่จากอะไหล่เก่า “เซียงกง สู่ ซูเปอร์ฮีโร่” เพิ่มมูลค่ากิโลละบาทสู่เงินล้าน! ขอบคุณ “เฮียเซ้งจูเนียร์ตลาดน้อย” ที่กรุณาร่วมแบ่งปันเรื่องราวที่น่าสนใจในครั้งนี้ ซึ่งหากใครสนใจเกี่ยวกับ “หุ่นยนต์” ต้องการที่จะนำไปสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ สำหรับการประกอบกิจการร้านค้าหรือการประดับตกแต่งสถานที่เพื่อเป็นแลนด์มาร์คช่วยในการดึงดูดผู้คนได้ สามารถติดต่อสอบถามหรือเข้าไปคุยกับเฮียเซ้งฯ ก่อนได้ที่ ตลาดน้อย ซอยเจริญกรุง 22 เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร หรือ โทร.091-791-4073
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด