xs
xsm
sm
md
lg

จี่เกีย อาหารอีสานสันดานญี่ปุ่น อีสานอิชากายะตัวจริง เสิร์ฟพร้อมสุราชุมชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จี่เกีย อาหารอีสานสันดานญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งร้านที่กลายเป็นจุดเช็กอินมุดหมายใหม่ที่ใครมาจังหวัดขอนแก่นจะต้องมาแวะ อันนี้ ยังไม่รวมถึงผู้คนอีกจำนวนมากที่ตั้งใจจะไปเพื่อไปกินอาหารอีสานสันดานญี่ปุ่นที่โด่งดัง เพราะร้านนี้ไม่ได้แค่ทำอาหารอีสานเสิร์ฟแบบญี่ปุ่น แต่ทุกเมนูเป็นการผสมผสานอาหารอีสานและญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว


ทำงานญี่ปุ่น 10 ปี กลับบ้านเกิด
เปิดร้านยกระดับอาหารอีสานสไตล์ญี่ปุ่น


ครั้งนี้ พามารู้จักกับ “จี่เกีย” อาหารอีสานสันดานญี่ปุ่น เป็นร้านอาหารอีสานที่จัดเสิร์ฟลูกค้าในสไตล์ญี่ปุ่นแบบอิซากายะ(Izakaya) เจ้าของ “ฑิฆัมพร ศรีคำแหง” (คุณหมู) อดีตดีไซน์เนอร์ บริษัทผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซต์ ประเทศญี่ปุ่น และด้วยความที่ทำงานกับองค์กรประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลากว่า 10 ปีและมีโอกาสใช้ชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่น พอได้กลับมาบ้านก็นึกถึงอาหารอีสานบ้านเกิดของตัวเอง ว่าจริงแล้วมีอะไรหลายอย่างคล้ายๆกับอาหารญี่ปุ่น มีการปิ้งย่างเหมือนกัน ทำไมไม่นำอาหารอีสาน มาจัดเสิร์ฟแบบอิซากายะ ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นการยกระดับอาหารอีสาน ให้หลายคนเห็นว่า อาหารอีสานบ้านเฮาก็ไม่ธรรมดา


ฑิฆัมพร เล่าว่า การได้มีประสบการณ์ที่ญี่ปุ่นทำให้มองว่าวัฒนธรรมญี่ปุ่น กับอาหารอีสานมีความใกล้เคียงกัน แต่ไม่ใช่แค่เอาอาหารอีสานมาจัดวางแบบญี่ปุ่น แต่เป็นการทวิตรสชาติอาหารอีสานให้เป็นแบบญี่ปุ่น ซึ่งไม่มีใครคิดว่า อาหารญี่ปุ่นแบบนี้ จะมีปลาร้า ก้อย มีซอยจุ โดยได้ตัดเอาข้อเสียที่หลายคนมองว่า ปลาร้ามีกลิ่นที่แรง เหม็น ไม่สะอาด แต่เราตัดตรงนี้ไปได้ทั้งหมด หลายคนที่ไม่เคยกินปลาร้า แต่พอมากินอาหารที่ร้านของเรา เค้าไม่รู้เลยว่า ได้กินปลาร้าเข้าไปแล้ว เพราะในเกือบทุกเมนูของเราจะมีส่วนผสมของน้ำปลาร้า


ที่มาชื่อของ “จี่เกีย” มาจาก “ย่างเกลือ”

ส่วนที่มาของชื่อ “จี่เกีย” มาจาก ย่างเกลือ จี่ภาษาอีสาน แปลว่า ย่าง ซึ่งย่างมีหลายอย่าง แต่อย่างแบบอีสานจะย่างแบบจี่ คือ ชิดไฟ เหมือนไหม้ อาหารที่นี่จะมีกลิ่นไหม้เกือบทุกตัว ส่วนเกลือ เรียกว่าเกีย ซึ่งปกติคนญี่ปุ่นเวลากินอาหารไม่ค่อยปรุงอะไรกันเยอะ แค่โรยเกลือ ซึ่งคนอีสานโบราณบ้านเราก็เหมือนกัน เวลาทำาหารไม่ได้มีเครื่องปรุงอะไรแยะแค่โรยเกลือ

นอกจากการจัดร้านสไตล์ญี่ปุ่น การกล่าวทักทายเชิญชวนลูกค้าสไตล์ญี่ปุ่นก็ต้องมีไม่เช่นนั้น จะไม่ใช่ร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งจี่เกีย จัดคำทักทายน่ารักตามแบบฉบับวัฒนธรรมอีสาน โดยใช้คำว่า “มาเด้อกินเข่าคร๊าบ” เพราะวัฒนธรรมอีสานการทักทายที่เห็นได้บ่อยจนติดปาก คือ การชักชวนกินข้าว เพราะพื้นที่ภาคอีสานแห้งแล้ง อาหารการกินเรื่องสำคัญ การชักชวนกินข้าว เป็นคำทักทายที่คนอีสานใช้กัน


ลงทุน 3 แสน เปิดไม่นานคืนทุน 1 ล้านบาท

สำหรับร้าน จี่เกีย เป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่คุณหมูตั้งใจจะทำมาก เพราะส่วนหนึ่งต้องการที่จะยกระดับอาหารอีสานบ้านเกิดของตัวเอง ให้คนที่ชื่นชอบอาหารอีสานได้มีทางเลือกมากขึ้น การเลือกเปิดร้านเล็กๆ เพราะไม่ต้องการลงทุนเยอะ และคืนทุนให้เร็วที่สุด ได้นำร้านของชำเก่าที่เป็นเหมือนตู้ร้านเครื่องดื่ม และนำมาปรับใหม่ ในรูปแบบของร้านตนเองก็คิดออกแบบมาอยู่แล้ว ว่าอย่างให้ร้านเราเป็นแบบนี้ และพื้นที่เท่านี้ ทำอะไรได้บ้างก็ทำได้ทุกอย่าง ซึ่งเห็นโมเดลที่ประเทศญี่ปุ่น ด้วยพื้นที่เค้ามีจำกัด แต่สามารถทำร้านอาหารได้อย่างลงตัว

คุณหมู บอกว่า ได้มาเจอพื้นที่ตรงนี้ และเป็นทำเลที่ดี และอยู่ตรงข้ามกับตลาดต้นตาล พื้นที่แบบนี้หายาก ก็หาได้แต่ต้องใช้เงินลงทุนเยอะ พอมาเจอร้านขายของชำแห่งนี้ ก็เลยตัดสินใจทำเลย ตอนนั้นใช้เงินไป 300,000 บาท คืนทุนได้เงินล้าน ในระยะเวลาเพียงไม่นาน ซึ่งตอนที่คิดว่าจะกลับมาทำร้านอาหารที่ขอนแก่น ช่วงนั้น คิดเมนูอาหารและทดลองทำอยู่แล้ว พร้อมกับคิดรูปแบบของร้าน พอได้ทำเลตรงนี้ ก็เลยสามารถตัดสินใจเปิดได้เลย


ต้องจองคิวก่อนถึงจะได้กิน

ทั้งนี้ ด้วยความที่เป็นร้านพื้นที่ไม่เยอะ มีแค่ 10 ที่นั่ง เจ้าของร้าน คุณหมู ก็เลยใช้การเทิร์นรอบ โดยลูกค้าจะนั่งทานได้แค่ รอบละ 90 นาที ซึ่งตอนเปิดร้านแรก คุณหมูเองก็กังวล ว่า แล้วจะโดนลูกค้าว่าไหม เพราะปกติคนอีสานจะสบายๆ มากำหนดเวลาแบบนี้ จะได้ไหม แต่พอมาเปิดจริง ลูกค้าเข้าใจและก็โอเครกับตรงนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกค้าที่มากินที่ร้านของเรา หลายคนก็เคยไปกินอาหารที่ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว ที่ญี่ปุ่นด้วยพื้นที่ร้านไม่เยอะใช้วิธีการแบบนี้เหมือนกัน

โดยลูกค้าที่จะมากินที่จี่เกีย จะใช้การโทรมาจองก่อน เพราะถ้าเป็นช่วงเวลาพีคๆ จะมีลูกค้าเต็มตลอด โดยเฉพาะช่วงหลังเลิกงาน หรือ เลิกเรียน ปัจจุบัน “คุณหมู” ได้ขยายร้านเพิ่มด้วยลูกค้าจองมาช่วง 5 โมงเย็นถึง 3 ทุ่มเป็นจำนวนมาก บางคนโทรมาหลายครั้งแล้วก็ยังไม่ได้คิว โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด “เชฟหมู” เจ้าของร้านก็เลยตัดสินใจขยายร้านเพิ่มเป็น 20 ที่นั่ง และเพิ่มอาหารที่เป็นของฝาก เพิ่มขึ้นมา จะได้มีพื้นที่วางสินค้าด้วย



ไม่ใช่ร้านอาหารอีสานที่เสิร์ฟบนจานญี่ปุ่นหรือตกแต่งร้านให้เป็นญี่ปุ่นแล้วขายอาหารอีสาน
แต่ทุกเมนูดีไซน์ผสมผสานระหว่างอีสานและญี่ปุ่น


ส่วนเมนูอาหาร จะไม่ใช่อีสานแบบดั้งเดิม แต่เป็นการทวิตอาหารญี่ปุ่น ก็เลยจะเป็นอีสานในแบบที่คนไม่เคยกินอาหารอีสานและลองกินครั้งแรก เหมาะกับมากินที่ จี่เกีย เพราะเราไม่ใช่แค่เอาอาหารอีสานมาจัดเสิร์ฟในสไตล์ญี่ปุ่น แต่เป็นการผสมผสานรสชาติของอาหารอีสานและอาหารญี่ปุ่น เข้ามาไว้ด้วยกัน จะเห็นได้ว่า จะมีลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆ ก็มากินอาหารที่ร้านของเราเยอะ


สำหรับเมนูที่ทางร้านมิกซ์ระหว่างอีสานและญี่ปุ่น เช่น ส้มปลาซาบะ คือเมนูซาบะดองที่ทำออกมาเป็นโทนปลาส้ม หน้าตาดูญี่ปุ่น เอาหอมใหญ่เอากระเทียมไปดอง เมนูก้อยปลาดิบ คนอีสานชอบกิน ซึ่งกินดิบไม่ได้ เราก็นำมาปรับโดยใช้ปลานิล ไบโอเทคที่เลี้ยงที่หนองคาย เลี้ยงบ่อปิด ไม่มีพยาธิเขาทำส่งญี่ปุ่นอยู่แล้ว นำมาทำเป็นลาบปลาดิบ คอนเซ็ปต์ของทางร้านจะไขว้กันไปมา บางทีก็คิดแบบญี่ปุ่นไปทางอีสาน บางทีคิดแบบจากอีสานไปทางอาหารญี่ปุ่น


เสิร์ฟสุราชุมชน ยกระดับสไตล์อิชากายะ

ในส่วนของเครื่องดื่ม เนื่องด้วยเป็นร้าน อิชากายะ Izakaya ทางร้านมีเครื่องดื่ม เลือกโคกับผู้ผลิตสุราพื้นบ้าน หรือ เหล้าขาว ที่ปัจจุบัน ทำออกมาหน้าดี รสชาติไม่แรง ดื่มง่าย ยังได้ช่วยสนับสนุนสุราชุมชน อีกทางหนึ่งด้วย ส่วนของแกล้มเหล้า เนื่องจากคนญี่ปุ่นจะมีของกินเล่น แกล้มเหล้า เช่น ทาโกะวาซาบิ ส่วนเมนูที่จี่เกีย จัดเมนูไส้เป็ดยำน้ำมัน และเมนูย่าง เครื่องใน ไส้เป็ดทอด ปากเป็ดทอด หาอะไรที่มีเท็กซ์เจอร์เดียวกันเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างอีสานกับญี่ปุ่น เลยเจอทั้งไส้เป็ดและหอยโข่ง เอามายำน้ำมัน

เชฟหมู เล่าว่า ประสบการณ์ตอนทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น สามารถเก็บเกี่ยวเอาประสบการณ์ตรงนั้น มาปรับใช้กับการทำร้านอาหารจี่เกีย ครั้งนี้ได้เยอะมาก ซึ่งคนญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมการทำงานที่สามารถนำมาใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผน การผลิตสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการอบรมเยอะมาก และการอบรมช่วยให้หาวิธีในการแก้ปัญหาตรรกะต่างของลูกค้าได้

ติดต่อ Facebook : จี่เกีย


คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น