xs
xsm
sm
md
lg

บรรทัดทอง”กับดักหรือของจริง” ข้าวต้มเทเวศร์ กว่า 70 ปี ไม่คิดมีสาขา เช่าเดือนละเกือบ2แสน คุ้มหรือไม่ ส่วนหนึ่งทำเลทอง “เยาวราช 2”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระแสความร้อนแรงแหล่งทำเลทอง “ร้านอาหาร” ย่านถนนบรรทัดทอง กลายเป็นประเด็นร้อนที่มีการพูดถึงกันผ่านช่องทางโซเชียลฯ มากมาย ถึงค่าเช่า สูงไปเฉียดเดือนหลักแสน จนหลายคนตั้งคำถามว่า จะขายอะไร และต้องขายได้วันละเท่าไหร่ถึงจะอยู่รอด รวมไปถึง นักรีวิว อินฟลูฯ ครีเอเตอร์ ทั้งหลายที่พาเหรดกันไปรีวิวอาหาร ว่าอร่อยหนัก อร่อยหนา จริงๆ แล้วอร่อยอย่างนั้นหรือไม่


เชี่ยวชาญพานิชข้าวต้มเก่าแก่ ย่านเทเวศร์
สาขา 2 บรรทัดทอง 70 ปีไม่เคยคิดมีสาขา



วันนี้ ก็พามาฟังจากปากเจ้าของร้านอาหาร ซึ่งเป็นร้านใหญ่อันดับต้นๆ ย่านถนนบรรทัดทอง พื้นที่เปิดร้าน 3 คูหา กับร้านข้าวต้มชื่อดังย่านเทเวศน์ “ร้านเชี่ยวชาญพานิช” รู้จักกันในนาม ข้าวต้มเทเวศน์ ร้านเก่าแก่ที่เปิดมา ตั้งแต่ปี 2498

และด้วยกระแสความร้อนแรงบรรทัดทอง ที่รวบรวมร้านอาหารดัง ทั่วกรุงเทพฯและทั่วประเทศ มาปักหลัก ณ ที่แห่งนี้ ทำให้ “นายสุทธิพล สมวสุนธรา” ทายาทรุ่นที่ 3 ข้าวต้มเทเวศร์ ยอมที่จะเปิดสาขาที่ 2 เป็นครั้งแรก ทั้งที่ตลอดกว่า 70 ปีมาครอบครัวไม่เคยคิดว่าจะต้องมีข้าวต้มเทเวศร์ (เชี่ยวชาญพานิช) สาขาที่ 2 แต่อย่างใด

ครั้งนี้ มาฟังจากปากของ ทายาทรุ่นที่ 3 ร้านข้าวต้มชื่อดัง เทเวศร์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจเลือกเปิดข้าวต้มเทเวศร์ สาขา 2 ถนนบรรทัดทอง กันว่า เป็นอย่างไรกันบ้าง ค่าเช่าโหดอย่างที่หลายคนคอมเมนท์หรือไม่ และยอดขายเป็นอย่างไร ตัดสินใจถูกไหมที่เลือกเปิดถนนบรรทัดทองแห่งนี้


ค่าเช่าเดือนหลักแสนบาท อยู่ได้ไหม
ยอดขายไม่เท่ากับร้านเดิม เทเวศร์

เริ่มจากประเด็นแรก “คุณสุทธิพล” พูดถึงค่าเช่าบนถนนบรรทัดทอง ว่า ตนเองได้มาติดต่อกับทาง เจ้าของสถานที่ คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยตรงไม่ได้มีการเช่าช่วงแต่อย่างใด ซึ่งได้ติดต่อก่อนล่วงหน้าที่จะมาเปิดร้านระยะหนึ่ง ตนเองและครอบครัววางแผนอยู่นานพอสมควร ว่าจะมาเปิดดีไหม และพอตัดสินใจจะมาเปิดได้ติดต่อทาง จุฬาฯ โชคดีที่มีห้องว่างให้เช่าพอดี 3 คูหาติดกัน และอยู่ในทำเลที่ดี ที่มีร้านอาหารดัง มาเปิดกันตรงนั้น เยอะ ก็เลยตัดสินใจเช่า เป็นการทำสัญญาเช่า 36 เดือน หรือ 3 ปี หมดสัญญา ส่วนราคาค่าเช่าห้องละ 55,000 บาท จำนวน 3 คูหา ต้องใช้เงินค่าเช่าเดือนละ 165,000 บาท

สำหรับค่าเช่าที่สูงขนาดนี้ “คุณสุทธิพล” บอกว่า ต้องยอมรับว่า เหนื่อยมากในการบริหารจัดการร้านอาหารของเราให้เพียงพอสำหรับค่าเช่า แต่ถ้าถามว่าขายได้กำไรพอจ่ายค่าเช่าไหม ก็ต้องบอกว่า พอจะมีกำไรเหลืออยู่บ้างหลังจากหักค่าเช่า ซึ่งถามว่ายอดขายเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ไหม ก็ต้องบอกว่าไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้เสียที่เดียว บางเดือนก็ได้ตามเป้าบางเดือนก็ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้า ไม่ได้แน่นอน ส่วนยอดขายเท่ากับที่เทเวศร์ไหม ก็ต้องบอกว่าไม่ได้เท่ากับที่เทเวศร์ เพราะเทเวศร์เปิดมานาน และมีลูกค้าประจำเยอะ

ทั้งนี้ รายได้แต่ละเดือนไม่แน่นอน เพราะคนเดินย่านนี้ จะมีทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว ซึ่งเป้าหมายของเราที่ตัดสินใจมาเปิดสาขา 2 ถนนบรรทัดทอง เป้าหมายแรก คือ ต้องการเป้าหมายนักท่องเที่ยวคนจีน เพราะตอนอยู่ที่เทเวศร์ ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราจะเป็น ฝรั่ง คนยุโรป ไม่ค่อยมีคนจีน แต่ด้วยอาหารของเรา คิดว่าคนจีนน่าจะชอบก็เลยเลือกจะลองมาเปิดบรรทัดทอง มีนักท่องเที่ยวคนจีนเดินเยอะ และก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ ได้กลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวจีน มากินอาหารที่ร้านเราค่อนข้างเยอะ


เลือกมาเปิดบรรทัดทองแหล่งรวมร้านดัง

นายสุทธิพล บอกว่า การเลือกมาเปิดที่บรรทัดทอง จุดมุ่งหมายที่สอง คือ เป็นแหล่งรวมร้านอาหารชื่อดัง เราก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่ง ก็เลยเลือกที่จะมาเปิดที่นี่ ซึ่งแน่นอนร่ายล้อมไปด้วยคู่แข่งที่เปิดร้านอาหารเหมือนกับเรา ตรงนี้ ไม่ได้กังวลอะไรเลย เพราะยิ่งมีร้านอาหารดังมาเปิดเยอะช่วยดึงลูกค้ามาเดินกันเยอะ และเชื่อมั่นในรสชาติอาหารของเราว่าจะสามารถดึงลูกค้าเข้าร้านของเราได้

สำหรับกลุ่มลูกค้า เนื่องจากเป็นอาหารประเภทข้าวต้ม และอาหารตามสั่ง เราก็อาจจะไม่ได้ลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น ที่มาเดินเที่ยวชิลๆ ซึ่งลูกค้าของเรายังเป็นกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนมีอายุหน่อย บางคนก็รู้จักเรา จากสาขาเทเวศน์ พอเราเปิดที่บรรทัดทองหลายคนดีใจมากที่เรามาเปิดที่นี่


หมดสัญญา 3 ปี จะยังคงต่อสัญญาไหม

ถามว่า เมื่อค่าเช่าสูงขนาดนี้ และ ยอดขายอาจจะไม่ได้ตามเป้า จะยังคงต่อสัญญาที่ สาขา ถนนบรรทัดทองนี้ หรือไม่ คุณสุทธิพล บอกว่า วางแผนว่าจะต่อสัญญาแน่นอน เพราะยอดขายก็ยังไปได้ เปิดไปนานลูกค้ารู้ว่ามีสาขาที่นี่ ก็จะกลับมากินอีก และด้วยความที่เราประสบการณ์การทำร้านอาหารมานาน ทำให้การบริหารจัดการเรื่องต้นทุนวัตถุดิบ และพนักงานได้ ส่งผลให้ต้นทุนตรงนี้ไม่ได้สูง เหมือนกับร้านอาหารเปิดใหม่ ไม่ยังรู้วิธีการบริหารจัดการวัตถุดิบ ก็จะอยู่ยาก เพราะปัจจุบันวัตถุดิบทำอาหารมีต้นทุนที่สูงขึ้นจากในอดีตมาก

นายสุทธิพล เล่าว่า ตนเองมาเปิดร้านที่บรรทัดทอง ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2567 เป็นช่วงไฮซีซันต์พอดี ตอนนั้นวางแผนไว้อย่างนั้น ว่าอยากจะมาเปิดช่วงไฮซีซันต์ปลายปี และยาวต่อมาถึงช่วงสงกรานต์ มีเวลาในการสร้างฐานลูกค้า 6 เดือน  ก็ได้มาเปิดช่วงนั้น พอดี ตอนเปิดเดือนแรกขาย โดยที่ไม่ได้มีการโปรโมทแต่อย่างใด เพราะตั้งใจจะดูแลลูกค้าที่ตั้งใจมากินให้ดีเสียก่อน ได้ลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยรู้จักเรามาก่อน และลูกค้าเก่าที่รู้จักเราจากสาขาที่เทเวศน์ ส่วนราคาอาหารเมื่อเทียบกับสาขาเทเวศน์ ราคาสูงขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อเทียบราคากับร้านอื่นๆ ในย่านนี้ ก็ถือว่า เป็นราคาระดับกลางๆ ของเราไม่ได้สูงมาก


เชี่ยวชาญพานิชร้านของชำ สู่ร้านข้าวต้มเก่าแก่ย่านเทเวศร์

ประวัติความเป็นมาของร้านข้าวต้มเทเวศน์ เชี่ยวชาญพานิช เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมา 2498 นายสุทธิพล เล่าให้ฟังว่า เดิมร้านนี้ทำมาตั้งแต่รุ่นอากง มารุ่น คุณพ่อ ก่อนจะมาถึงรุ่นของตัวเอง ผ่านมาเกือบ 70 ปี เดิมอากงไม่ได้ทำร้านข้าวต้ม เปิดเป็นร้านของชำ

แต่เจอวิกฤติ ที่มีช่วงหนึ่งแอนตี้ คนจีนที่มาเปิดร้านในย่านนั้น ห้ามขึ้นป้าย ห้ามโน่น ห้ามนี่ จนอากงก็เลยตัดสินใจเลิกทำร้านของชำ และมาเปิดร้านข้าวต้มเป็นร้านข้าวต้มกุ้ย และมีเมนูกับข้าว ที่กินกับข้าวต้มให้เลือกเป็น ร้อยเมนู พอตกมาถึงรุ่นคุณพ่อ เมนูเพิ่มขึ้นมาอีก ทุกวันนี้ มีกับข้าว เกือบ 200 เมนู เป็นจุดขายของร้านเราด้วย แต่ถ้ามองจริงเป็นเนเจอร์ร้านข้าวต้มกุ้ยอยู่แล้ว ที่ต้องมีกับข้าวให้เลือกเยอะ ส่วนลูกค้าของเราก็เยอะตลอด เพราะเปิดมานานมีคนรู้จักเยอะ


ดราม่า บรรทัดทอง โซเชียลฯ คนเดินหายยอดขายลด

หลังจากที่มีดราม่า ถนนบรรทัดทอง ค่าเช่าโหด อาหารไม่ได้อร่อยเหมือนรีวิวกัน และมีการพูดถึงกันมากบนโซเชียลฯ คุณสุทธิพล บอกว่า หลังจากมีกระแสด้านลบ ที่ถนนบรรทัดทอง ส่งผลกระทบต่อยอดขายของเราอย่างเห็นได้ชัดทันที่ คนมาเดินน้อยลงไป ลูกค้าของเราก็ลดลงด้วยเช่นกัน ก็อยากจะบอกว่า จริงๆ ร้านอาหารอร่อยๆ ร้านดังๆ รสชาติอาหารของเค้าก็ต้องอร่อยอยู่แล้ว เพราะเป็นร้านดัง ที่เปิดมานาน

ส่วนที่บอกว่า รสชาติไม่อร่อย เหมือนรีวิว ก็น่าจะเป็นแค่บางร้าน เพราะถ้าร้านไหนไม่อร่อย สุดท้ายลูกค้าไม่ไปกินอีก ก็ต้องเลิกไป เปลี่ยนคนเช่าหน้าใหม่ๆ เข้ามา ทำให้เราได้หน้าใหม่ แวะเวียนกันมา แต่ทุกคนที่มาขายที่นี่ ก็ตั้งใจจะมาขาย เพราะลงทุนกันเป็นหลักล้าน ไม่มีใครคิดว่ามาแล้วจะต้องเลิก ส่วนค่าเช่าที่สูงมาก ต้องแลกมากับทำเลที่ดี คนเดินเยอะ ก็เป็นเรื่องปกติ


บรรทัดทองจากแหล่งขายอุปกรณ์กีฬา
มาถึงทำเลทองร้านอาหารดัง “เยาวราช2”


ประวัติความเป็นมา ทำเลทองย่านบรรทัดทอง คือ พื้นที่ตั้งแต่แยกสะพานเหลืองไปจนถึงถนนพระราม 4 ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เดิมเคยเป็นย่านร้านขายอุปกรณ์และเสื้อผ้ากีฬา เนื่องจากเป็นถนนที่ตัดผ่านสนามกีฬาแห่งชาติ หรือ สนามศุภชลาสัย และเป็นย่านที่มีร้านอะไหล่ยนต์จำนวนมากถูกเรียกว่า “เซียงกงปทุมวัน”

จนกระทั่ง ทางสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ (PMCU) ต้องการที่ยกระดับพื้นที่รอบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ทันสมัยและน่าอยู่มากขึ้น จึงได้ทำโครงการ Samyan Smart City เป็นจุดเริ่มต้นในการยกระดับพื้นรอบจุฬาลงกรณ์ ซึ่งรวมถึงพื้นที่ย่านบรรทัดทองด้วย โดยมี Stadium One คอมมูนิตี้สำหรับคนรักสุขภาพ เข้ามาร่วมพัฒนาพื้นที่มุ่งหวังให้เป็นโซนกีฬา
.
ทั้งนี้ กระแสกีฬาในย่านบรรทัดทองดูจะแผ่วลง ทาง Stadium One จึงได้มีการปรับแผนใหม่ หันมาเอาดีด้านอาหารที่ดูจะถูกใจคนไทยมากกว่าแทน ด้วยการดึงร้านดังจากย่านใกล้เคียงให้มาเปิดในบรรทัดทอง รวมกับร้านเก่าแก่ที่อยู่ตรงนี้มานาน ด้วยความสำเร็จของร้านเหล่านี้ จึงยิ่งดึงดูดร้านหน้าเก่าหน้าใหม่มากมายให้หลั่งไหลเข้ามา รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์มากมายที่จุดกระแสบรรทัดทองให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น จนย่านนี้กลายเป็นแหล่งสตรีทฟู้ดดังของไทย และได้ชื่อว่า “เยาวราช2”


คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น