xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) ปลากัดเดลิเวอรี! ไอเดียสร้างรายได้สุดเจ๋ง ขับรถพ่วงข้างเร่ขายแทนที่จะเปิดขายที่บ้านรอลูกค้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปลากัดเดลิเวอรี” ไอเดียสร้างรายได้สุดเจ๋งจากร้าน “นัทปลากัด” ที่ได้แนวคิดการนำปลากัดบรรจุขวดแก้วเร่ขายไปกับรถสามล้อพ่วงข้างแทนที่จะเปิดขายที่บ้านเพื่อรอลูกค้าเข้า แต่ออกไปหาลูกค้าดีกว่า เปิดขายมาได้ 1 เดือนผลตอบรับดีเกินคาดสร้างยอดขายได้เกือบ 20,000 บาท


นายชัยวัฒน์ มาลาพงษ์ หรือนัท เจ้าของร้านนัทปลากัด เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยทำอาชีพเป็นช่างตัดผมมาก่อน แต่พอเจอวิกฤตโควิด-19 ก็เริ่มล้มมาโดยตลอด จนกระทั่งเจอกับไอเดียขายปลากัดบนรถ ซึ่งจุดเริ่มต้นการทำธุรกิจรถขายปลากัดเคลื่อนที่เริ่มต้นมาจากการเห็นคลิปวิดีโอจากต่างประเทศที่นำปลากัดขายบนรถกระบะ ตนจึงปิ๊งไอเดียและเอาไอเดียดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับรถของตัวเองและคิดว่าในประเทศไทยน่าจะยังไม่มีการขายปลากัดในรูปแบบรถพ่วงข้างบวกกับเป็นคนชื่นชอบและเลี้ยงปลากัดมาตั้งแต่เด็ก จึงตัดสินใจใช้รถสามล้อพ่วงข้างที่ก่อนหน้าจะทำเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวแต่เปลี่ยนมาประยุกต์เป็นรถขายปลากัดเคลื่อนที่แทน โดยเริ่มจากการทำชั้นวางขวด 3 ด้าน ลองผิดลองถูกประมาณ 1 สัปดาห์ และเริ่มขายในที่สุด ปัจจุบันขายมาได้ประมาณ 1 เดือน


ปลากัดที่นำมาขายจะมีทั้งส่วนที่เพาะพันธุ์เองและไปรับจากที่อื่นมา โดยในช่วงเวลาภายใน 1 เดือนทางร้านได้ลงข่าวกับสำนักข่าวแห่งหนึ่งไป หลังจากข่าวเผยแพร่ไปก็มีลูกค้าสนใจและติดต่อเข้ามาซื้อจำนวนมากส่งผลให้ปลากัดที่เพาะเองหมดจนทำให้ต้องไปรับซื้อจากที่อื่นมาขายเพิ่มนั่นเอง ปัจจุบันมีปลากัดทั้งหมด 7 สายพันธุ์ได้แก่ 1.ปลากัดป่า 2.ปลากัดหม้อ 3.ปลากัดจีน 4.ปลากัดฮาฟมูน 5.ปลากัดหางมงกุฎ 6.ปลากัดหูช้าง 7.ปลากัดหางสามเหลี่ยม ซึ่งปลากัดที่นำออกไปขายจะเริ่มต้นอายุตั้งแต่ประมาณ 4-5 เดือน ราคา 20-100 กว่าบาท โดยทางร้านบอกว่าขายดีทุกสายพันธุ์เพราะแต่ละพื้นที่ขับรถไปขายจะชื่นชอบแตกต่างกัน และได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด ซึ่งคุณนัทบอกว่า 1 เดือนที่ผ่านมาขายปลากัดได้เกือบ 20,000 บาท


ในราคา 20-100 กว่าบาทนั้นจะมีการแบ่งเกรดของปลากัดออกไป โดยแบ่งออกเป็นสีและความสวยงาม ราคาขึ้นอยู่กับเกรดของปลากัด ซึ่งคุณนัทบอกว่าสำหรับมือใหม่ก็สามารถเลือกเลี้ยงได้ตามความชอบและความต้องการได้ ทั้งนี้ทางร้านจะขับรถออกไปขายวันละ 2 เวลาคือช่วงเช้าตั้งแต่ 08.00-11.00 น. และช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น. ซึ่งในช่วงเย็นจะไปขายที่โรงเรียนในวันจันทร์-ศุกร์ จะขายได้วันละ 10 ตัวคละเกรด คละราคากันไป นอกจากนี้ ทางร้านจะขับรถเร่ขายในพื้นที่อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นหลัก


หลังจากเปิดขายได้ 1 เดือนก็เริ่มมีลูกค้าสนใจและเข้ามาขอไอเดียการขายปลากัดรถพ่วงข้างแบบของทางร้านจำนวนมาก ทางร้านก็ให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาเพื่อให้ลูกค้านำไปต่อยอดเป็นของตัวเองได้ นอกจากนี้ รถสามล้อพ่วงข้างของทางร้านสามารถบรรจุปลากัดได้ประมาณ 130 ตัว ทั้งนี้ยังมีขายแบบออนไลน์ให้ลูกค้าที่สั่งซื้อเข้ามาอีกด้วย


ในอนาคตคุณนัทเปิดเผยว่ามีการวางแผนต่อยอดธุรกิจด้วยการเพิ่มรถขายอีก 1 คัน ซึ่งอาจจะเป็นรถกระบะ เนื่องจากรถกระบะจะสามารถบรรจุขวดปลากัดได้จำนวนมากกว่ารถสามล้อพ่วงข้าง และพัฒนาบ่อปลากัดที่เพาะเอาไว้ให้ได้คุณภาพเพื่อที่จะได้ปลากัดเกรดคุณภาพไปขายให้ลูกค้า ปัจจุบันมีทั้งหมด 10 บ่อ ซึ่งส่วนมากจะเน้นเพาะปลากัดสายพันธุ์ที่มีหางยาวอย่างเช่น ฮาฟมูน


“ผมคิดว่าการขับรถออกไปขายแบบนี้มันสนุกกว่าเปิดหน้าร้านขายที่บ้าน เพราะเราได้ไปเจอมิตรภาพความสัมพันธ์ใหม่ๆ เจอลูกค้าแลกเปลี่ยนความรู้กันผมว่าดีกว่าครับ ซึ่งการเปิดร้านที่บ้านลูกค้าจะมาหาเราบางวันอาจจะไม่มีลูกค้าเลย ไม่เหมือนเราวิ่งไปหาลูกค้าเองเพราะว่าเราทำให้เป็นจุดเด่น คนมองก็รู้ว่าขายอะไร พอคนเข้ามาดูก็เจอปลาสวยๆ ส่งผลให้ลูกค้าอยากซื้อกลับไปแน่นอนครับ ผมคิดว่ายิ่งเศรษฐกิจแบบนี้เราวิ่งหาลูกค้าผมว่าดีกว่า” คุณนัท ระบุ


นอกจากนี้ ทางร้านยังมีอุปกรณ์เสริมในการเลี้ยงปลากัดขายเพิ่มเติมให้ลูกค้า เช่น อาหารปลา ตู้ปลาขนาดเล็ก ซึ่งมีลูกค้าสนใจเข้ามารับซื้อและนำไปต่อยอดเองได้ ทั้งนี้ยอดขายระหว่างออนไลน์กับขับรถเร่ คุณนัทให้ข้อมูลว่าได้ยอดขายเท่าๆ กัน อย่างไรก็ตามพอเริ่มจับเป็นอาชีพคุณนัทมองว่าการขับรถเร่ขายปลากัดเป็นอาชีพที่สนุก ไม่เครียดเพราะเป็นสิ่งที่รักมาตั้งแต่เด็กและสามารถเดินต่อได้ด้วยปลากัดพร้อมกับยึดเป็นอาชีพหลักในการสร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัวในตอนนี้

ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : 
นัท ปลากัด




* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น