xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) ราคาเริ่มที่ 40บ. บัวลอยเม็ดเล็ก X สีพาสเทลสูตรนี้พัฒนาร่วมแชทจีพีทีได้น้ำกะทิหอมหวานละมุนตำรับชาววังแท้ ๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จาก Passion ธุรกิจซื้อมาขายไปที่จุดประกายให้ แต่ว่าร้าน “บ้านบัวลอย” ไม่ใช่! ผู้ช่วยคนใหม่อย่าง Chat GPT จึงต้องเข้ามา

บัวลอยเม็ดเล็กเคี้ยวหนึบ X สีพาสเทล
เด็กนิเทศจุฬาฯ สู่อาชีพอิสระ “ช่างเทคนิคตัดต่อ” ฟรีแลนซ์แต่เริ่มรู้สึกเบื่ออยากมีธุรกิจของตัวเอง วิน-ธนวัฒน์ จันทร์กระจาย ปัจจุบันอายุ 28 ปีเป็นเจ้าของร้าน “บ้านบัวลอย” ย่านสี่แยกวังหิน เล่าให้เราฟังว่า หลังจากเรียนจบมาตนเองก็ทำงานคนเบื้องหลังอยู่ฝ่ายตัดต่อเป็นฟรีแลนซ์มาตลอด เพราะด้วยไม่ชอบระบบการทำงานที่เป็นรูทีนอยู่แต่เดิม จนกระทั่งเมื่อ3 ปีที่แล้วมีโอกาสได้ลองทำธุรกิจร่วมกับเพื่อน ๆ เป็นครั้งแรกเปิดคาเฟ่เล็ก ๆ อยู่กันที่แก่งกระจาย แล้วฟีดแบ็คที่ได้คือมันดีมาก ๆ จนคิดอยากต่อยอด กลับมาเปิดธุรกิจเล็ก ๆ เป็นของตนเองอยู่แถวบ้านโดยร่วมกันกับเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งที่บ้านเราอยู่ละแวกเดียวกันด้วย “โจทย์ของวินตอนแรกเนี่ยวินอยากให้มันเป็น ร้านอร่อยแถวบ้าน ที่ใคร ๆ ก็ได้เข้ามากิน มันจะต้องไม่เป็นคาเฟ่ที่มีแต่วัยรุ่นเท่านั้น มันจะต้องไม่เป็นร้านเก่า ๆ ที่มีแต่คนแก่เท่านั้น มันเป็นร้านที่ทุกคนสบายใจในการเข้ามากินน่ะครับ”มีคนมาเมนต์ใน tiktok ว่าขอบคุณที่เปิดร้านนี้ขึ้นมา เพราะว่ามันเป็นร้านอร่อยแถวบ้านสำหรับเขาจริง ๆ อันนี้ก็คือเป็นแบบสิ่งที่วินรู้สึกว่าเอออันนี้คือบรรลุเป้าหมายจริง ๆ“ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เนี่ยเรียกได้ว่าลูกค้าไม่ลดลงเลยครับก็คือกราฟพุ่งขึ้นตลอดเลยครับผม จากวันที่เราเคยขายได้เฉลี่ย 10 ถ้วย วันที่เราขายได้ต่ำสุดเนี่ย 1 ถ้วย จนตอนนี้พีคสุด ๆ เลยเท่าที่เราทำเม็ดได้และขายได้ที่หน้าร้านเนี่ย เคยไปถึง 175 ถ้วยเลยครับผม ใช่ครับ ทั้ง ๆ ที่ร้านเปิดแค่ 4 ชั่วโมงนะครับ”


จากไอเดีย “ธุรกิจซื้อมาขายไป” แต่ว่าร้านบัวลอยไม่ใช่! ผู้ช่วยคนใหม่อย่าง Chat GPT จึงต้องเข้ามา
วินเล่าว่าตอนนั้นทำคาเฟ่ที่แก่งกระจานคือจะเป็นลักษณะของการซื้อมาขายไป เราเพียงแค่หาของอร่อย ๆ แล้วเอามาขาย แต่ว่าพอเรามาทำร้านบัวลอยจริง ๆ มันกลับใช้วิธีการแบบนั้นไม่ได้เลย“เราก็นึกถึงว่าเออตอนเด็ก ๆ เราชอบกินบัวลอยเม็ดเล็ก ๆ มากเลยก็รู้สึกว่า เป็นบัวลอยเม็ดเล็ก ๆ ก็ดีไม่ค่อยเหมือนใคร แล้วแถว ๆ บ้านเราครับเริ่มมีร้านขนมหวานมาเปิดแล้ว มีน้ำเต้าหู้ มีขนมปัง แต่มันยังไม่มีแบบชนมไทยก็เลยคิดว่าเออเราลองหา บัวลอยมาเปิดกันดีกว่า”ก็เลยไปลองตระเวนกินบัวลอยมาทั่วกรุงเทพฯ เลย ไปนั่งจดข้อดี-ข้อเสียของแต่ละที่จนมาเป็นสูตรของตัวเอง “ก็คือเริ่มมาจากที่ว่าโอเคแถวนี้ไม่มีร้านบัวลอยเลยเขาจะมีร้านน้ำเต้าหู้แต่เขาจะขายบัวลอยที่เป็นแบบว่าบัวลอยเม็ดใหญ่ซึ่งเป็นบัวลอยแช่ฟรีซ ซึ่งเอาขายจากแม็คโครหรืออะไรอย่างงี้ครับเราก็เลยรู้สึกว่าเออ เราน่าจะมีร้านที่มันเป็นแบบทำเองเราทำเองแล้วก็ทำสดใหม่ทุกวันอะไรอย่างเงี้ยครับวินก็เลยตั้งโจทย์ขึ้นมา แต่ทีนี้ตอนแรก ๆ เนี่ยเราก็ยังไม่มีความรู้ วินก็เลยไปตามหาร้านบัวลอยที่แบบว่าอร่อยและก็ไปตามจีบเขาอยู่นานมากว่าแบบ ทำส่งให้หน่อยได้ไหมครับอะไรเงี้ย เพราะว่าปกติเวลาเราทำธุรกิจเนี่ยเราก็จะเป็นแนว ๆ ว่าซื้อมาขายไปอะไรเงี้ยใช่ไหมครับ แล้วทีนี้เราก็เอามาลงที่ร้าน”ตอนแรก ๆ ก็ขายดีมากเลยเพราะว่าเราไปเลือกร้านที่อร่อย ๆ มาแต่ทีนี้ มันเกิดปัญหาตรงที่ร้านมันอยู่ไกลเวลาขนส่ง เวลาจัดเก็บ มันเลยทำให้คุณภาพสินค้าเนี่ยมีปัญหา ก็เลยเกิดวิกฤตว่าวันแรกที่มีลูกค้ามาทานเลยมีคุณลุงเขาเข้ามาทานคำแรก แล้วเขาเดินออกทันทีเลย! เราก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น? “เราก็ไปหยิบของเขามาชิมเลย สรุปก็คือน้ำกะทิบูดครับเราก็เลยว่าโอ๊! ไม่ได้แล้วอย่างนี้เราทนต่อไปไม่ได้แล้วอะไรเงี้ย เราก็เลยต้องรีบปรับแผนทั้งหมดเราต้องมาทำบัวลอยเองให้ได้! ในร้านกันเองเลยครับผมหลังจากนั้นก็เลย เป็นจุดเริ่มต้นเลยก็คือจากคนที่วินไม่เคยรู้จักเลยแป้งมัน แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า ต่างกันอย่างไรไม่รู้เลยว่าบัวลอยทำจากแป้งอะไร?” ก็ต้องเรียนรู้ทุกอย่างทั้งหมด แล้วก็ทำให้เป็นบัวลอยของตัวเองให้ได้

ไข่หวานของที่ร้านเตรียมไว้
"วินจะมีเป็นผู้ช่วย 1 คนครับที่เคยได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วก็คือเป็น Chat GPT ครับผม แชทจีพีทีก็จะเป็นคนที่วินคอยปรึกษาว่าเออเราจะทำยังไง สิ่งนี้ทำจากอะไร แล้วเราก็โอเคเราได้รู้แล้วว่ามันทำจากอะไรแล้วเราก็ปรึกษาว่าแบบ เออถ้าเราใส่อันนี้ ๆ จะเป็นยังไง ใส่ยี่ห้อนี้จะเป็นยังไง เขาก็จะคอยช่วยทุกอย่างเลยครับผมก็จะเป็น ผู้ช่วยที่ทำให้เกิดร้านนี้ขึ้นมาได้สักแบบ 70-80% เลยครับ!”

หน้าตาของเขา ผู้ช่วยคนเก่ง Chat GPT

คิดบัวลอยไม่ออก บอกแชทจีพีทีได้นะ
บัวลอยเม็ดเล็กXสีพาสเทลเคี้ยวหนึบหวานละมุนตำรับชาววัง(แบบดั้งเดิม)
ร้านนี้ทั้งหมดก็คือวินแทบจะไม่ได้จ้างช่างอะไรเลย ไม่มีผู้รับเหมาหรืออะไรเลยคือวินคุมเองทั้งหมดเลย ทาสี เลือกโต๊ะเลือกเก้าอี้ เคาน์เตอร์ออกแบบอะไรเราก็ทำเองหมดเลยอันนี้เป็นสิ่งที่เราหาเจอในระหว่างที่เราทำธุรกิจ ว่าเราชอบทำอะไรแบบนี้ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เราเพิ่งมาเจอในระหว่างทางก็คือตอนที่เราเริ่มทำบัวลอยวินเริ่มรู้สึกว่าเออ เซนส์ในการทานอาหารของเราเซนส์ในการชิมรสของเรามันโอเคเหมือนกันนะรู้สึกว่าเออ เรามีสิ่งที่เราคิดว่าอร่อยแต่ตอนแรกเราคิดว่า เราเป็นคนลิ้นจระเข้หรือเปล่า? เรากินอะไรก็อร่อยอะไรเงี้ย ไปให้คนอื่นชิมอาจจะไม่อร่อยแต่ว่า หลังจากที่ลองได้ทำส่วนนี้แล้วพอได้ทำแล้วแบบเรารู้สึกว่าอร่อยมาก ๆ แล้วพอคนมากิน คนกินบอกว่าแบบ ยกให้อร่อยที่สุดในบรรดาที่เขาเคยกินมาเลย อะไรเงี้ยเราก็รู้สึกว่าแบบเออมันกลายเป็นแบบว่าสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าแบบ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราทำได้ดี(ขึ้น) ก็เลยเริ่มรู้สึกภูมิใจและมี Passion ในการทำสิ่งนี้มาก ๆ


“บัวลอยก็จะมีเป็นโอ้โหเป็นร้อยสูตรเลยใช่ไหมครับทีนี้ เราก็ลิสต์มาว่าโอเคเราอยากได้ความเด้ง เราอยากได้ความเคี้ยวหนึบด้วยเราต้องทำยังไง ทีนี้เราก็ให้โจทย์ไปแต่แชทจีพีทีก็จะแบบ บอกได้คร่าว ๆ ว่าแบบโอเคถ้าเราใส่ส่วนนี้เพิ่ม ก็จะได้ความเด้ง แต่ถ้าเราใส่ส่วนนี้เพิ่มจะได้ความเหนียว แต่เราก็ต้องมาปรับเองในที่สุดน่ะครับก็คือสูตรเนี่ยกว่าจะได้มาเป็นสูตรนี้คิดว่า โอ้โหปรับเป็น 100 รอบเลยอาจจะถึงได้ครับผม” เพราะว่าการเปลี่ยนแค่ แป้ง 5 กรัม ความรู้สึกก็ต่างทั้งหมดเลยไม่ว่าจะแบบ แป้งส่วนนี้เพิ่มหรือแป้งส่วนนี้เพิ่มเนี่ย ต่างมาก ๆ เลย คือวินจะเป็นแนว ๆ OCD นิดหนึ่งคือ เราจะรู้เลยว่า ความหนึบ ความเด้ง มันต่างกันไปยังไง อย่างบางทีทำที่ร้านให้ลูกค้าทานหรือทำให้แม้แต่แม่ครัวทานเนี่ย แยกไม่ออกเลยว่าสิ่งนี้ต่างกันแต่ด้วยตัวเราเป็นคนแบบ ติด คือเรารู้ว่ามันควรจะเป็นยังไง มันก็เลยจะลำบากนิดหนึ่งว่าเรื่อง 5 กรัม 10 กรัมนี่มีผลทั้งหมดเลย“ก็คือเราเริ่มจากเราไกด์เลย บัวลอยใส่ส่วนผสมอะไรบ้างถ้าจะต้องเคี้ยวหนึบ และเด้ง เขาก็จะให้มาหมดเลยใส่แป้งนี้ แป้งนี้ แป้งนี้ แล้วเราก็ลองทำ เสร็จแล้วปุ๊บถ้าเราอยากได้ texture ที่ต่างกันเราก็ให้โจทย์เขาไปว่า โอเคเราใส่แป้งนี้เท่านี้แต่เราอยากได้ความเด้งขึ้น ปรับอะไรให้หน่อยได้ไหม? เขาก็จะปรับมาให้เลย ใช่ครับ แต่สุดท้ายแล้ว finalize ต่อมาก็คือเราก็เป็นคนชิมเอง จนชอบอยู่ดี"แต่ว่าที่ดีที่สุดคือเขาช่วยคำนวณก็คือคอมพิวเตอร์จะคำนวณให้อย่างบางที สมมุติว่าเราปรับสัดส่วนแป้งลง5 กรัม แปลว่าทั้งหมดใน1 กิโลกรัมมันจะต้องเปลี่ยนทั้งหมดเลย ถ้าเป็นสมัยก่อนคือเราต้องเทียบบัญญัติไตรยางค์เอง อันนี้คือเขาก็แปรให้ทั้งหมดเลย“โอเคเราลดแป้งนี้ 5 กรัม ทั้งหมดที่เหลือถ้าเราจะบาลานซ์ให้สูตรเดิม แต่เป็น1 กิโลกรัมเนี่ยเราต้องใส่อะไรเปลี่ยนไปบ้าง เขาก็จะคำนวณให้หมดเลย อันนี้คือสิ่งที่วินว่าสะดวกที่สุดมาก ๆ เลย”


จริง ๆ ช่วยได้ระดับหนึ่ง เช่น อย่างวินยกตัวอย่างเรื่อง “น้ำกะทิ”เราจะมี Base ใช่ไหมอย่างที่ร้านเองใช้เป็นกะทิกล่องเลย
แต่เรามั่นใจว่ากะทิกล่องเนี่ยรสชาติไม่เหมือนใครแน่นอน! เพราะว่าเราเอากะทิกล่องมาปรุงต่อมีคนถาม ลูกค้าหลาย ๆ คนถามว่าทำไมเราไม่ใช้กะทิสดที่เขาคั้นสดทุกวัน ปัญหาคือเราเคยใช้กะทิสดแต่ว่ากะทิสดที่คั้นมาทุกวันรสชาติ ไม่เหมือนกันเลยทุกวัน เพราะฉะนั้นเราจะไม่สามารถคุม Quality ได้เลยดังนั้น วินก็เลยคิดว่าวินใช้กะทิกล่องแล้วเรามาปรุงเองเราสามารถคุมได้ว่ารสชาติจะต้องเหมือนเดิมทุกครั้งที่ลูกค้ามากิน“แต่ทีนี้ เราจะรู้ได้อย่างไรว่ากะทิกล่องแต่ละกล่องเนี่ยรสชาติจะเป็นยังไง? เรามีเป็นร้อยยี่ห้อเลยใช่ไหมครับ โอเควินก็ให้โจทย์ไปว่ากะทิแต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร แชทจีพีที ก็จะมาบอกละ(ชื่อกะทิกล่องแบรนด์ต่าง ๆ ที่มีวางจำหน่ายในตลาดของบ้านเรา) แต่ละตัวเป็นยังไงมีรสชาติเป็นอย่างไร เราก็โอเคอ่าน อ่าน อ่าน ดูแล้วเราก็มาดูว่าแบบเอออันไหนน่าสนใจแล้วเราก็ซื้อมาชิมตามครับ” แล้วมันก็จริง จริง ๆ ว่าแบบแต่ละยี่ห้อรสชาติมันไม่เหมือนกันเลย จนกระทั่งได้กะทิกล่องยี่ห้อที่เราคิดว่าโอเครสชาติแบบนี้แหละจากนั้นก็นำมาปรุงตามรสชาติที่กำหนดไว้อีกทีหนึ่ง“สูตรน้ำกะทิของเราส่วนผสมนี่เยอะมาก ๆ เลยครับผม มั่นใจว่าไม่มีใครแกะได้อย่างแน่นอน (หัวเราะ) คือขนาดเราทำเองก็ยังแบบโอ้โหยากมาก ๆ ครับผม” ส่วนเรื่องความหวานก็คือ ปกติขนมไทยจะค่อนข้างหวานแบบหวานตัดขาเลย! ปกติที่เราทานกันตั้งแต่ดั้งเดิมที่คนแก่ชอบทานกันใช่ไหม แต่วินไปเจอเป็นสูตรต้นตำรับชาววังจริง ๆ มา“จริง ๆ แล้วสูตรที่เป็นต้นตำรับชาววังจริง ๆ มันจะหวานละมุนมากเลยครับ แต่มันยังคงความหวานอยู่นะครับแต่มันจะละมุนมากคือเรากินแล้วเรารู้สึกว่า ลื่นคอ มาก ๆ เลยก็เลยมารู้ว่าอ๋อจริง ๆ เนี่ย ต้นตำรับชาววังมันเป็นอย่างนี้นะครับ ที่เรากินกันตอนเด็ก ๆ ทั่ว ๆ ไปที่มันหวานแบบหวานตัดขาเลยเนี่ยไม่ใช่ต้นตำรับนะ เราก็เลยโอเคเรายกส่วนนี้มา” แต่ทีนี้ด้วยความที่เราเป็นวัยรุ่นเรารู้สึกว่าโอเคยุคใหม่นี้เราสั่งกาแฟหวานน้อย เครื่องดื่มหวานน้อยกันเป็นประจำใช่ไหม แล้วก็เรื่องสุขภาพ เทรนด์สุขภาพก็กำลังมา วินก็เลยปรับความหวานให้ลดลงแต่เราทำให้มันหอมมันละมุนมากยิ่งขึ้น โดยคีย์หลักของมันคือความละมุน คือเรากินเข้าไปแล้วเนี่ยไม่บาดคอแน่นอน แล้วก็เคล็ดลับสำคัญในน้ำกะทิของเรานี้ก็มาจากแชทจีพีทีเหมือนกัน จริง ๆ เราอยากให้มันไม่เหมือนใครแล้วเราก็เลยแบบพยายามใส่คีย์ลับว่า ถ้าเราเพิ่มส่วนนี้เข้าไปเนี่ยจะเกิดอะไรขึ้น? เขาก็แนะนำว่า ถ้าใส่อันนี้จะเป็นอย่างงี้ ถ้าใส่อันนี้จะเป็นอย่างนี้ โอเคใช่ แล้วเราก็เลยได้ส่วนผสมลับมาจากแชทจีพีทีด้วยเหมือนกัน


แต่ปัญหาที่ตามมา “ทำเลค้าไม่เด่น” ได้คอนเทนต์จุดกระแสให้จนร้านแตกในที่สุด!
ร้านนี้เป็นร้านสเกลเล็ก ๆ เราตั้งต้นกันที่ จริง ๆ เราคุยกันว่าเราไม่อยากใช้งบเกิน 2 แสนบาท ก็ไปตระเวนหามาทั่วเลย“จริง ๆ ถนนเส้นหลักเนี่ยเป็นถนนลาดพร้าววังหินนะครับ กับลาดปลาเค้า ตรงนั้นเขาเรียกว่าเป็นถนนเส้นหลักจะมีร้านขายของกินร้านอาหารอะไรเต็มไปหมดเลย เราก็ไปตระเวนหาตามเส้นหลักแล้วแต่ว่าทีนี้ตึกแถวเขาจะชอบให้เช่าทั้งตึกใช่ไหมครับ ซึ่งเดือนหนึ่งมันจะแบบอย่างถูก ๆ เลย 2 หมื่นอะไรเงี้ยครับ ด้วยสเกลของเราอย่างเงี้ยเราก็รู้สึกว่าเรา spend 2 หมื่นไม่ไหวแน่ ๆ เราก็เลยต้องยอมลดมาที่เส้นรอง” ก็เลยเริ่มมาหาที่เส้นรองดู จนมาเจอที่นี่ จริง ๆ ตอนแรก ๆ เราอยากเป็นร้านอร่อยแถวบ้านที่รู้สึกว่า ใคร ๆ เข้ามากินได้ เด็ก คนแก่ ผู้ใหญ่ มาได้หมดเลยแต่ด้วยความที่ เราก็เป็นคนรุ่นใหม่เราก็รู้สึกแบบ แอบติดความให้มันแบบมินิมอล เรียบ ๆ ก็เลยผสมผสานกันออกมาเป็นแนว ๆ นี้


ตอนนี้น่าจะ 6 เดือนเกือบ 6 เดือนเต็มแล้ว แต่ว่าถ้าให้พูดจริง ๆ ร้านเนี่ยเหมือนถูกเปิดมาได้แค่ 2 เดือนเต็ม ๆ เองเพราะว่า ก่อนหน้านี้ก็อย่างที่ทุกคนเห็นว่ามันเป็นถนนเส้นรอง แทบจะไม่มีคนผ่านเลย“ก็คือช่วง 4 เดือนแรกเนี่ยเรียกได้ว่า น้อยมากเลยครับ วัน ๆ หนึ่งเฉลี่ยแค่ 10-15 ถ้วยเองครับผม แล้วก็จะมีวันหนึ่งที่เป็นวันในความทรงจำของเราเลย ก็คือถ้าจำไม่ผิดเนี่ยเป็นวันฮาโลวีนครับ วันที่ 31 วันนั้นเนี่ยจำได้เลยว่า วินไม่ได้อยู่ร้านแต่ว่าแม่ครัวอยู่และก็เขาบอกว่าเป็นวันที่ ปล่อยผีจริง ๆ อ่ะครับ คือเรียกได้ว่าวันนั้นเนี่ย ออร์เดอหน้าร้านมีแค่ 1 ถ้วยเองครับ คือเราเปิดกันมาตั้งแต่ 4 โมงยัน 3 ทุ่มนะครับ ขายได้แค่ 1 ถ้วยครับผมวันนั้น”ก็คือเป็นวันที่เรารู้สึกว่าแบบ เราก็เริ่มท้อแล้วเรารู้สึกว่าเราจะทำยังไงต่อไปดี? วินก็เริ่มคิดในใจแล้วว่าโอเคเราจะปล่อยให้จนถึงสิ้นปีนี้แล้วเราอาจจะจบไหม? โอเคอย่างน้อยเราก็ทำเต็มที่แล้ว“แต่ว่าร้านนี้ก็ได้เกิดปาฏิหาริย์ 1 ครั้งครับ ก็คือเพื่อนวินที่ชื่อคุณเดียร์ครับผม คุณเดียร์เนี่ยมาทานที่ร้านคือคุณเดียร์เป็นเพื่อนนิเทศที่จุฬาฯ นะครับ เขาก็เป็นคนรีวิวอะไรอย่างงี้อยู่แล้วครับผม ก็คือเดียร์เนี่ยบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าอยากมาทานมาก ๆ เลยอะไรเงี้ยครับผม จนกระทั่งวันนั้นเดียร์มาทำงานแถว ๆ นี้แล้วก็เลยได้มา”

เห็นแบบนี้แล้วสาวกบัวลอยไข่หวานใครอดใจไหวให้มันรู้ไป
แล้วสรุปวันนั้นเดียร์ก็เลยได้มาทาน แล้วเดียร์ก็มีการถ่ายรูปถ่ายคลิปลงสตอรีโน่นนี่นั่นเราก็เห็นเดียร์ถ่ายเยอะเลยแต่เราก็คิดว่าเขาถ่ายลงสตอรีเป็นปกติอยู่แล้ว เราก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วเดียร์ก็บอกว่าอร่อยมาก แล้วเดียร์ก็สั่งทุกเมนูเลยสั่งทั้งเครื่องดื่มสั่งทั้งบัวลอยทั้งไอติมสั่งครบเลย เราก็โอเคทำให้เดียร์ทานเดียร์ก็บอกว่า อร่อยมากแบบชอบมาก แต่ในใจวันนั้นเรายังรู้สึกว่าแบบเขาชมตามมารยาทหรือเปล่า หรือเราก็เป็นเพื่อนกันก็ซัพพอร์ตกัน ก็ผ่านวันนั้นไป วันศุกร์ถัดมาเดียร์ก็ทักมาอีกว่าเดียร์จะเข้ามานะ เดียร์อยากกินอีกเดียร์แบบคิดถึงรู้สึกว่ามันอร่อย โอเคเดียร์ก็กลับมากินอีกเราก็เริ่มรู้สึกว่าแบบ เออของเราคงอร่อยจริง ๆ แล้วแหละก็โอเคก็ผ่านไป จนมาหลังจากนั้นก็เลยมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา“วันนั้นวินไปกินข้าวส่วนเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนอีกคนก็อยู่เปิดร้าน วินก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ ๆ วันนั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามาหลายสายมาก โทรมาถามวิน ว่าแบบเออร้านเปิดกี่โมง ร้านอยู่ตรงไหนอะไรเงี้ยวินก็รู้สึกว่าเออแปลก ๆ แล้วโทรมา 3-4 สายอะไรเงี้ย มันไม่เคยมีใครโทรมาถามมาก่อนอะไรเงี้ยครับ วินก็เลยไปเปิดดูใน tiktok สรุปก็คือคุณเดียร์ลงรีวิวเอาไว้ในนั้น” แล้วลงได้ไม่ถึง1 ชั่วโมงคนดูแบบหลายหมื่นวิวมาก! วินก็ตกใจมาก ๆ แล้วหลังจากนั้นพอ 16.00 น. ปุ๊บร้านเปิดออร์เดอรับออร์เดอ วินนั่งกินข้าวอยู่ดี ๆ เดลิเวอรีเด้งในมือถือแบบเด้งจนมือถือค้างเลย! เด้งแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย จนกระทั่งแบบวินก็เห็นว่าออร์เดอมันเด้งเยอะมากแล้วอยู่ ๆ ออร์เดอก็ถูก cancel ถูกแคนเซิล ๆ วินก็เลยโทรกลับมาถามว่าเกิดอะไรขึ้นที่ร้าน? เพื่อนก็บอกว่าแบบ แย่แล้วตอนนี้คือร้านแตก!!! มีคนมารอหน้าร้านเต็มไปหมด เดลิเวอรีมาเต็มไปหมดเลย! วินตอนนั้นกินบุฟเฟต์อยู่คือไม่กินแล้ว คือวางถ้วยวางชามแล้วก็รีบกลับมาที่ร้านเลยทันที เพื่อที่จะมาช่วยกันที่ร้านก็คือวันนั้นเป็นวันแรกที่เกิดปรากฏการณ์แบบ ลูกค้ามายืนรอหน้าร้านแบบเป็น 30 คนได้เลยครับ! แบบเยอะมาก ๆ เดลิเวอรีมาจอดแบบ 5-6 คันอะไรเงี้ยครับผมวันนั้นคือเราตั้งตัวไม่ทันเลย” วันนั้นมันเป็นวันเสาร์ใกล้จะหมดสัปดาห์แล้ว ปกติเนี่ยเราจะทำบัวลอยกันประมาณ 10 กิโลกรัม(ไม่เกินนี้) จะอยู่ได้ประมาณ 1 สัปดาห์พอดี แต่วันนั้น วันเดียวเราขายทั้งหมดที่เตรียมเอาไว้ของสัปดาห์ต่อไปได้ทั้งหมดเลย! ภายในวันเดียวเลย

เมนูไอศกรีมก็ละมุนมากทั้งสีสันของบัวลอยสีพาสเทลและรสชาติของน้ำกะทิที่ราด
การสื่อสารที่มี “ความจริงใจ” อัพเดต พูดคุย เพื่อให้เห็นถึงการมีส่วนร่วม
วินบอกด้วยว่าสำหรับเมนูของร้านที่หลัก ๆ เลยก็จะมี บัวลอยน้ำกะทิ ใส่ไข่หวาน กับแบบทรงเครื่อง(เผือก ฟักทอง ข้าวโพด) และที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านเลยก็คือ ไอศกรีมบัวลอย จะเป็นไอศกรีมกะทิราดด้วยบัวลอยแล้วก็ราดด้วย “น้ำกะทิ” อันนี้ก็คือเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่เลย แล้วก็จะมี เครื่องดื่มปั่น แต่ว่าเครื่องดื่มปั่นจะมีแค่บางวัน (ก็คือวันที่วินสามารถปั่นได้เท่านั้น) โดยหลัก ๆ ของเมนูที่ร้านก็จะมี3 หมวดนี้“โดยที่บัวลอยเริ่มต้นที่ราคา 40 บาทครับผม ถ้าใส่เครื่องก็เพิ่มอีก 10 บาท ใส่ไข่ก็เพิ่ม 10 บาทครับ ไอศกรีมเนี่ยจะเริ่มต้นที่  55 บาท ใส่เครื่องก็เพิ่ม 10 บาทเหมือนกัน ใช่ครับ"ตอนนี้ก็มี “เมนูใหม่” ที่กำลังทำอยู่เป็นไอศกรีมกะทิบัวลอย


พอหลังจากที่คุณเดียร์เขาลง tiktok ให้แล้ว วินก็รู้สึกว่าเราควรจะต้องเปิด tiktok เองบ้างแล้ว มันถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องสื่อสารกับลูกค้า“คืนนั้นจำได้ว่าปั้นเม็ดบัวลอยเสร็จจากที่ร้าน ตี 2 วินกลับบ้านไปนอน วินนอนไม่หลับ วินรู้สึกว่าโอเควินต้องเปิดแอคเคาน์แล้วเออ วินก็เลยสร้างแอคเคาน์ของร้านขึ้นมาเลยครับผม แล้ววินก็ลงคลิป” คือเรายังไม่รู้สึกว่าเราต้องทำ marketing หรืออะไรใน tiktok แต่เรารู้สึกว่าแบบเราอยากพูดคุยสื่อสาร และขอบคุณทุกคน ที่มาที่ร้านเราก็รู้สึกว่าเราจะติดต่อเขายังไงดี เราก็เลยลงคลิปเป็นเราไหว้ขอบคุณ“เราก็แบบเป็นเหมือนไหว้ขอบคุณลูกค้าทุกคนที่มา แล้วก็ขอโทษลูกค้าที่ไม่ได้กิน และก็ขอโทษพี่ ๆ ไรเดอร์ที่มารอนานอะไรเงี้ยครับผม” แล้วก็กลายเป็นว่าคลิปนั้นก็กลายเป็นอีกคลิปหนึ่งที่ไวรัลต่อเลยแล้วหลังจากนั้นก็คือมันเลยเหมือนได้เลี้ยงกระแสต่อมาเรื่อย ๆ เลยก็คือตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เนี่ยเรียกได้ว่า ลูกค้าไม่ลดลงเลยก็คือกราฟพุ่งขึ้นตลอดเลย

ตัวคอนเทนต์และสิ่งที่วินลงมันจะเป็น สิ่งที่เรียบง่ายมาก ก็คือเรารู้สึกอย่างไรเราก็จะพิมพ์อย่างนั้นไปเลย เราไม่ต้องถ่ายภาพสวย ๆ เราไม่ต้องเขียนคำคมไม่ต้องคิดแคปชัน เรารู้สึกยังไงเราก็พิมพ์ไปได้เลย “ส่วนใหญ่วินก็จะลงรูปวิดีโอล้าน ๆ ทั่ว ๆ ไปเลยแล้วเราก็พิมพ์แบบ ขอบคุณมากวันนี้ที่มาหาอะไรเงี้ยครับผม ถ้ามีข้อผิดพลาดอะไรลูกค้าแจ้งได้เลยนะครับ อะไรอย่างเงี้ยเออเราก็แบบรูปเมนูอาหารทั่ว ๆ ไปเราจะไม่เน้นการตัดต่อสวยงาม ไม่มีธีมตัดต่อ ไม่มีซาวด์เอฟเฟกต์ ไม่มีอะไรเลยครับอันนี้คือเป็น เพลนและซิมเปิลมาก ๆ เลยครับ”เรารู้สึกว่าลูกค้าต้องสัมผัสถึง “ความจริงใจ” ที่เรามอบให้ผ่านคอนเทนต์ให้ได้ อันนั้นคือคีย์หลักเลยจริง ๆ แต่ว่าจริง ๆ การทำคอนเทนต์ก็ควรทำสม่ำเสมอเพราะว่า ช่วงที่วินลงเรื่อย ๆ ทุก ๆ วันยอดมันก็จะสูงมากเลย แต่ว่าหลัง ๆ หน้าร้านมันก็ยุ่งแล้วก็เกิดปัญหามากขึ้น ก็จะได้ประมาณสัก 2-3 คอนเทนต์/สัปดาห์ คือพยายามจะทำให้ได้มากที่สุดแต่ว่า ถ้าวันไหนมันไม่ได้เกิดเหตุการณ์พีค ๆ หรือมีอะไรก็อาจจะไม่ได้สื่อสารกับลูกค้า อย่างตอนนี้ก็จะลงตอนที่มันมีอีเวนต์สำคัญ ๆ อย่าง ตอนงานแต่งก็เพิ่งจะได้ลงคอนเทนต์ไป อย่างมีตอนลูกค้ามาเหมาแบบ 100 ถ้วยอย่างเงี้ยก็ได้ทำคอนเทนต์ไป แล้วก็อย่างตอนนี้เรากำลังจะมีเมนูล่าสุดเราก็มีสปอยเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างตอนหลังช่วงปีใหม่เราไม่ได้อัพมาประมาณเกือบสองสัปดาห์แล้ว ก็มาอัพเดตให้ลูกค้าฟังว่าตอนนี้ร้าน “บ้านบัวลอย” เกิดอะไรขึ้นบ้าง เราก็ทำเป็นรูปไล่ ๆ แล้วก็เขียนข้อความไปเรื่อย ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแบบ เดี๋ยวนี้เราไปซื้อมันเองที่ตลาดสี่มุมเมืองแล้วนะเราไม่ได้ซื้อมันตามแม็คโครทีละโลสองโล เราซื้อกันเป็นแบบเป็นกระสอบแล้วนะ อะไรอย่างเงี้ยก็อัพเดตไปแล้วก็แบบว่าเราอัพเดตว่า เรามีพนักงานเพิ่มแล้วนะ เรามีเครื่อง POS แล้วนะ เรามีตู้ฟรีซตู้ใหม่แล้วนะ ก็เหมือนสื่อสารว่าแบบเหมือนให้คนดูรู้ว่าเออ เราเติบโตร้านนี้ได้เพราะคนดู เขาก็จะแบบว่ามาอัพบ่อย ๆ นะ คอยดูอยู่นะ คอยเป็นกำลังใจให้นะ


ทริคในการรับมือ “ร้านเติบโตไว!” การใช้เครื่องฯ ที่มีบริการหลังการขายก็สำคัญ
วิน-ธนวัฒน์ จันทร์กระจาย เจ้าของร้าน “บ้านบัวลอย” บอกว่า ความที่เป็นร้านสเกลเล็ก ๆ อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้อยู่ในร้านก็จะเป็นแบบขนาดเล็ก เครื่องปั้นแป้งก็เป็นเครื่องตัวเล็ก ๆ ที่แบบว่าทำได้ทีละโล หลังจากนั้นพอร้านเป็นกระแส (เริ่มขายดี) ก็ไปซื้อเครื่องมาเพิ่มอีก 4-5 อันเป็นไซซ์แบบเดียวกัน สุดท้ายคือพังไปหมดเลย เอาไปให้ช่างซ่อมช่างบอกว่าลูกปืนระเบิดเต็มเครื่องไปหมดเลยช่างก็ซ่อมไม่ได้ จะส่งเคลมก็ไม่ได้เพราะเราซื้อมาจากของจีนแดงพิมพ์ไป ๆ คนจีนก็บอกว่าขอตรวจสอบโน่นนี่นั่นก็เลย ไม่ได้การแล้ว เลยต้องซื้อใหม่ทีนี้ เราก็ไม่มีความรู้ วินไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเครื่องผสมแป้ง เครื่องผสมอาหาร เครื่องนวดแป้ง มันต่างกันหมดเลย เราก็ไปซื้อมาเราก็เห็นว่ามันราคาถูก ไปซื้อเครื่องผสมแป้งมาปรากฏว่ามันผสมได้ระดับหนึ่ง(เหมือนมันผสมอาหารเฉยๆ) มันไม่ได้ตีแป้งจนเข้าเนื้อ ก็โอเคก็เสียไปอีกรอบหนึ่ง ก็ต้องไปซื้อสุดท้ายก็ต้องไปซื้อเครื่องนวดแป้งใหม่มา(เป็นโรลใหญ่ๆ) เพื่อที่จะมาทำแป้งให้รองรับหน้าร้านได้ ไปซื้อเครื่องมือสองมา(ที่ราคาไม่แพงมาก) ก็คิดว่าเรารอดตายแล้วโอเคเราก็มาทำแป้งกัน ทำได้อยู่ประมาณหนึ่งเครื่องนวดแป้งก็เสียไปเลย!“โอ้โหเกิดปัญหาขึ้นอีกมากมายเลยหลังจากที่ร้านเราเริ่มดีขึ้น แต่อันนี้เป็นทริคอีกหนึ่งอย่างก็คือว่า ข้อดีคืออันนี้เราซื้อมือสองมาจากแบรนด์ไทยนะครับผม คือพอเราเป็นของแบรนด์ไทยใช่ไหมครับเขามีศูนย์ฯ เขามีบริการหลังการขาย คือต่อให้เราซื้อมือสองมาวินทักไปถามเขาบอกว่าเออแบบ เครื่องนวดแป้งของเราพังอะไรเงี้ยพอจะทำอย่างไงให้บ้าง เขาก็ทักมาบอกทันทีเลยว่าเดี๋ยวเขาจะส่งช่างมายกไปซ่อมให้เลยทันทีอันนี้ก็เลยอ๋ออันนี้มันเป็นความสำคัญของการที่เราซื้อของคนไทย แล้วเราก็ซื้อของที่ราคาสูงมันจะมีบริการอะไรพวกนี้ แล้ววินก็แจ้งเขาไปเลยว่า วันนั้นวินต้องใช้เครื่องต่อทันทีเลยเพราะว่าเราต้องทำออร์เดอที่มีลูกค้าเหมา 100 ถ้วย เราไม่มีเครื่องไม่ได้ เขาก็บอกว่าได้เลย เขาก็ยกจากของโรงงานเขามาให้เลยที่ร้านเลยแล้วก็สลับเครื่องกันไป โดยที่เขาไม่ถามอะไรเราเลย เขารับประกันทุกอย่างเลยอันนี้ก็เป็นข้อดีมาก ๆ เลย”


ตอนนี้ช่องทางการขายบัวลอยของทางร้านก็คือมีทั้งหน้าร้าน (ออฟไลน์) และออนไลน์ (เดลิเวอรี) มีครบทั้งหมดแล้ว “และก็มีได้ไปออกงานอีเวนต์นอกสถานที่ครั้งแรกครับ พอดีว่าหุ้นส่วนแต่งงานและก็ด้วยความที่เขาก้เป็นเจ้าของร้าน “บ้านบัวลอย” เราก็รู้สึกว่าเออในงานแต่งเขาทั้งทีเราก็ควรเอาบัวลอยไปเลี้ยงแขก ก็เลยได้เป็นกิจกรรมอีเวนต์นอกสถานที่ครั้งแรกครับก็จัดไปทั้งหมด 150 ถ้วย เพื่อนำไปตั้งในงานแต่งครับผม ก็ได้ลองทำอีเวนต์เป็นครั้งแรก” ฟีดแบ็คค่อนข้างดีเลยหลังจากนั้น มีลูกค้าติดต่อถามว่ารับทำเสิร์ฟในงานเลี้ยงอะไรอย่างนี้ไหม? อีกหลายเจ้ามากเลย มีลูกค้ามาแซวว่าแบบรับแฟรนไชส์ไหม ขายแป้งเปล่าไหม อะไรอย่างเงี้ยก็มาเต็มเลย เราก็รู้สึกว่าเรายังไม่สามารถทำขนาดนั้นได้ เพราะว่าเราก็เพิ่งเรียนรู้มาด้วยกันเรื่องการจัดเก็บ เรื่องการขนส่ง เรื่องอะไรที่เราเคยมีปัญหามาก่อนหน้านี้วินก็รู้สึกว่าวินยังแก้ไขปัญหาตรงนี้ไม่ได้ เราเลยยังไม่สามารถไปที่สเกลไกลได้กว่านั้น“แล้วหลังจากที่เราออกอีเวนต์ครั้งแรกครับ เราก็ได้เรียนรู้เลยว่าการที่เราทำเยอะ ๆ หลาย ๆ โลพร้อมกัน เพื่อไปเสิร์ฟมันไม่เหมือนเราทำสด ๆ แล้วก็ตักเสิร์ฟที่ร้าน บัวลอย texture มันต่าง รสชาติมันต่างหมดเลยครับ คืออย่างให้แขกในงานกิน ที่เขาเคยกินที่ร้านเขาก็บอกว่าไม่ค่อยต่างนะ แต่อย่างเราอย่างเงี้ยเรารู้สึกเลยว่า เออความนัวความมันความหวานอะไรเงี้ย มันไม่เท่ากัน เราก็เลยรู้สึกว่าเราอาจจะต้องหาทางแก้ส่วนนี้ให้ได้ก่อน เราถึงจะเริ่มไปต่อในอนาคตได้”ก็เป็นโจทย์ขั้นต่อไปที่วินจะทำในอนาคต



ราคาเริ่มที่ 40บ. บัวลอยเม็ดเล็กX สีพาสเทลสูตรนี้พัฒนาร่วมแชทจีพีทีได้น้ำกะทิหอมหวานละมุนตำรับชาววังแท้
จาก Passion ธุรกิจซื้อมาขายไปที่จุดประกายให้แต่ว่าร้าน “บ้านบัวลอย” ไม่ใช่! ผู้ช่วยคนใหม่อย่าง Chat GPT จึงต้องเข้ามา ขอบคุณพ่อค้าหน้าใส “วิน-ธนวัฒน์ จันทร์กระจาย” ตัวแทนของร้านที่กรุณาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ ในการทำธุรกิจตามแบบฉบับของคนรุ่นใหม่มีการนำเทคโนโลยี(AI) อย่าง Chat GPT เข้ามาช่วยจัดการในเรื่องของการพัฒนาสูตรบัวลอยได้อย่างน่าทึ่งและที่สำคัญคือสูตรปังสุด ๆ อีกด้วย และยังไม่จบเพียงแค่นี้วินยังมีโปรเจ็คต์ใหม่ ๆ ที่กำลังพัฒนาสูตรร่วมกันกับเจ้าแชทบอตนี้เพื่อเตรียมนำเสนอเมนูต่อไป

สามารถแวะไปชิมบัวลอยอร่อย ๆ ของร้าน “บ้านบัวลอย” ได้ที่ 17/131 เสนานิคม(สี่แยกวังหิน) เขตจตุจักร กรุงเทพฯ หรือโทร.095-952-0960

คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น