xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) กว่า 29 ปีสวนมาลัยบัววิคตอเรียความหลงใหลสู่อาชีพพลิกชีวิตได้! จากเงิน 1,500 ก้อนเดียวที่มีอยู่ในบ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"บัวนี้เรารู้อยู่ในใจเสมอว่าเป็นบัวนำเข้ายังไงก็ต้องแพง แต่เหมือนเราอยากได้แล้วเราก็เป็นคนที่แบบว่าอยากได้อะไรต้องไม่เกินความสามารถก็ไปหาซื้อ หาซื้อสั่งเป็นเดือนต้นหนึ่งก็ 1,500 บาท แล้วเราเป็นคนจน กลับบ้านเอามือก่ายหน้าผากอยากได้ อย่างไรต้องเอาให้ได้"


เก็บตังค์ได้ 1,600 บาท เก็บตังค์อยู่เป็นเดือนเลย ในเงิน 1,600 บาทแล้วไปซื้อบัวมาต้นละ 1,500 บาท เหลือเงิน 100 บาท ซื้อไข่ไก่กลับมาทำกับข้าวให้สามีกับลูกๆ กิน พอทั้งลูกทั้งแฟนถามไปไหนมา ยังไม่บอกว่าเราไปซื้อบัวเราบอกวันนี้กินไข่นะฉันเอาเงินไปซื้อบัวหมด ลุงพงศ์ (สามี) บอกอย่างงั้นก็กินบัวนั่นแหละไป! โกรธให้เราว่าทำไม ทั้งๆ ที่เป็นคนจนแต่ไปซื้อต้นไม้ขนาดนี้ ลูกมองเราด้วยสายตาที่เราเองก็พออ่านใจของเขาออก แม่นะเอาเงินไปซื้อบัวแทนที่จะซื้ออาหารมาให้เขาทานแต่ดันไปซื้อบัวมา ตอนนั้นยังไม่คิดเลยว่าจะมาเป็นแม่ค้าขายบัวซื้อมาเพราะความอยากได้” พี่มาลัย-นางมาลัย มณีดำ เจ้าของ “สวนมาลัยบัววิคตอเรีย” แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร จ.นนทบุรี ผู้เป็นเจ้าแรกในไทยกับการเปิดโลก “เรื่องบัวยักษ์” (บัววิกตอเรีย) ที่สามารถให้คนลงไปอยู่บนบัวใบได้โดยที่ไม่จมน้ำ! สร้างปรากฏการณ์สุดอะเมซิ่งในห้วงช่วงเวลากว่า 29 ปีที่ผ่านมาซึ่งพี่มาลัยเองได้ถือโอกาสเปิดตัวอาชีพใหม่อย่างไม่คิดไม่ฝันและนำมาสู่การพลิกชีวิตได้! จากเงินทุนเพียง 1,500 บาทก้อนเดียวที่มีอยู่ในบ้านตอนนั้น

จากความหลงใหลสู่อาชีพพลิกชีวิตได้ของพี่มาลัย
“สมัยก่อนตอนที่พี่มาลัยเด็กๆ ก็แบบว่าจะเห็นอยู่ที่เดียวคือ ที่หน้าพระราชวังสวนจิตรลดาฯ (พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน) ทีนี่แม่พาเข้ากรุงเทพฯ เนี่ยค่ะก็อายุประมาณ 8-10 ขวบผ่านหน้าพระราชวังนี้ เห็นบัวมันเหมือนตกใจแต่เราไม่รู้ว่าอะไรก็ตะโกนถามแม่นะคะ ดังลั่นรถเมล์เลยว่าแม่นั่นอะไร! แม่บอกบัวกระด้ง เราก็เลยจำฝังใจมาตั้งแต่เด็กๆ นั่นแหละค่ะ” ต่อมาพอเรามีครอบครัวแล้วและได้มาอยู่ตรงจุดนี้ ก็นึกถึงเมื่อตอนเด็กๆ เราได้เห็น “บัว” เป็นบัวที่สวยงาม แต่รู้จักในนามของบัวกระด้งแต่จริงๆ แล้วเขามีชื่อว่า “บัววิกตอเรีย” (Victoria) “พี่มาลัยเนี่ยเป็นคนที่ทำอาหารอร่อย ทำอาหารอร่อยอาหารทุกอย่าง ข้าวแกง ข้าวหมก ข้าวมัน โจ๊ก ก๋วยจั๊บ หอยทอด ผัดไทย คืออร่อยหมดทุกอย่างไปขายที่ตลาด แต่เหมือนกับว่าของเราอร่อยแต่แปลก! ขายดีสู้คนที่ทำไม่อร่อยไม่ได้ มันแปลกตรงนี้ค่ะ ใครมากินของเราก็ว่าอร่อยหมดเลย แต่คนที่เขาทำไม่อร่อยเอ๊ะทำไมเขาขายดีกว่าเรา? ก็มานึกในใจว่า “พระเจ้า” แต่ละคนเนี่ยพระเจ้าเขาจะให้พรสวรรค์มาคนละด้าน ซึ่งพี่มาลัยคงไม่ใช่ตรงนั้น” มันคงไม่ใช่ทางของเรา อยู่ๆ มาก็เอาบัวนี้มาปลูก ซึ่งเหมือนกับว่าเรารักเราอยากได้ ซื้อมาเพราะความอยากได้ยังไม่คิดว่าจะเป็นแม่ค้าขายบัว “พี่มาลัยเป็นมุสลิมนะคะก่อนจะออกไปขายอาหารก็จะละหมาด เราต้องละหมาดใช่ไหม พอละหมาดเสร็จก็ยกมือขึ้นอย่างนี้ พระองค์ทรงเมตตา ให้ลูกทำอะไรก็ได้ที่อยู่บ้านแล้วได้ตังค์ ลูกลำบากเหลือเกินเหมือนกับออกไประหกระเหิน กว่าจะได้เงินกลับมาเลี้ยงลูกเลี้ยงอะไรอย่างเงี้ยค่ะ คือเราระหกระเหินไปค้าขายตลอดเลยแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จ พอกินบ้างไม่พอกินบ้าง พี่มาลัยประสบความสำเร็จเพราะ “บัว” ต้นแรก เหมือนพระเจ้าให้เรา”

พันธุ์บัววิกตอเรียที่มีเพาะขยายเอาไว้สำหรับจำหน่ายให้ผู้สนใจ
เปิดโลก “เรื่องบัวยักษ์” ในไทย คนลงไปอยู่บนใบบัวได้โดยที่ไม่จม!!!
ตอนพอบัวโต ใหญ่สักขนาดนี้ก็มีหลานเล็กที่นอนดิ้นดุ๊กดิ๊กๆ อยู่ในเบาะ ลองเอาหลานลงไปวางอยู่บนใบบัวลองดู ตอนนั้นนุ่งกระโจมอกพร้อมกับยกเอาเบาะนอนที่มีหลานอยู่ในนั้นลงไป ใจหนึ่งก็กลัวว่าหลานจะจมน้ำไหม แต่ปรากฏว่าพอเอาหลานลงไปวางแล้วใบบัวนั้นมันกลับไม่กระดิกเลย "ดีใจค่ะสมัยก่อนยังไม่มีมือถือ (โทรศัพท์) ที่มีกล้องนะคะ ก็ใช้กล้องถ่ายรูปที่กดแป๊กๆ นั่นล่ะถ่ายเดี๋ยวหลานนั่ง เดี๋ยวหลานนอน พอโตหน่อยก็หลานยืน นั่นล่ะค่ะดังสุดๆ" ถนนก็ไม่มี นักข่าวเดินคันดินมาตะโกนกันโว๊กว๊ากๆ อยากจะดูบัวยักษ์! ที่เด็กลงไปนั่งไปนอนได้ หลังจากนั้นก็มีการถ่ายทำทั้งข่าวทั้งรายการทีวีมากมาย “ตอนแรกพอบัวเริ่มโตใช่ไหมคะ พอถ่ายรูปออกมาเนี่ยพี่มาลัยไปหาเกษตรอำเภอบางบัวทอง เอารูปไปให้เขาดู โอ้โห! เขาตกใจเกษตรอำเภอบอกว่าอู้ยบัวยักษ์! เด็กลงไปนั่งไปนอนได้ เกษตรไม่เคยเห็นเพราะพี่มาลัยเป็นคนแรกเอาเป็นว่า ของโลก! เลยดีกว่าทีนี้ก็ เกษตรอำเภอพาหนังสือพิมพ์เดลินิวส์มายุคนั้น” แล้วก็เริ่มผลิตมันมีลูกมีอะไรขึ้นมา เริ่มผลิตเราก็จนไม่มีเงินไปซื้ออ่างบัว นำกะละมังที่มีอยู่ในครัวนั่นละ เอามาใช้ชำบัวจนหมดเลย พอขายได้เงินก็นำไปซื้อมาทีละ 5 ใบ 10 ใบมาชำบัวต่อ

ลุงพงศ์ (สามี) ผู้เชี่ยวชาญด้านการขึ้นใบบัวยักษ์ประจำสวนแห่งนี้ถ้าลุงชี้ว่าใบไหนก็คือใบนั้นเลยที่คนขึ้นไปได้

หนุ่มน้อยคนนี้น้ำหนักตัวประมาณ ช่วง 30-40 กก.
“แต่ว่าเราดีใจ เหมือนกับเราว่าเราอยู่บ้านแล้วเรามีความสุขนะ ทำต้นไม้ไปซึ่งแต่ก่อนมีต้นไม้อื่นที่นำมาชำด้วยนะ แต่ด้วยความที่ ที่นี่น้ำจมบ่อยเราก็เลยผลิตบัวอย่างเดียว แล้วก็พอหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ หนังสือพิมพ์มติชน รายการที่นี่ประเทศไทย อะไรต่ออะไรเยอะแยะทุกอย่าง แล้วพอจดทะเบียนเกษตรทีนี้สำนักงานเกษตรอำเภอเขาทำลงในเว็บไซต์ให้ สื่อมาเหมือนกับว่าเดือนหนึ่งหลายสำนักเลย แต่เราดีใจแล้วก็สำนักงานเกษตรฯ เขาช่วยเหลือเรา แล้วพี่มาลัยไม่ลืมนะคะพอออกสื่อเราจะบอกว่าเกษตรอำเภอ เกษตรจังหวัดเข้ามาสนับสนุนถึงเราได้มีวันนี้” แล้วก็ประสบความสำเร็จถึงทุกวันนี้เพราะมี “สื่อสารมวลชน” เข้ามาช่วยเหลือเรา


สร้างรายได้ช่วงแรกมาจากการขาย “พันธุ์บัว” ก่อน
พ่อแม่แฟนเขาบอกว่าอยากจะมาอยู่ที่นี่เขาก็จะให้ที่ แล้วมาเลือกที่ปลูกเอา พอเรามาปลูกก็บ่อนี้เป็นบ่อที่พ่อเขาขุดทำสวนทำไร่ ตอนแรกยังเป็นพื้นนาแต่พ่อไม่ชอบทำนาเขาก็ขุดเป็นร่องสวน ปลูกพริกปลูกมะเขือปลูกกล้วยปลูกข้าวโพด พอพี่มาลัยมาอยู่ด้วยความที่เราชอบต้นไม้เราก็เลยจัดไปเรื่อยๆ “แต่พอทางเจ้าหน้าที่เขามาเห็น มันเหมือนธรรมชาติที่หายากแล้วเป็นธรรมชาติที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ นะคะ ทีนี้ทุกคนก็สนับสนุนเราทุกอย่างถ้าเราทำเนี่ยถ้าเรามีกำลังใจแล้วทุกอย่างเราใส่ใจมันจะประสบความสำเร็จทุกอย่างนะคะ” ตอนแรกๆ รายได้ที่เราได้ได้จากการขาย “พันธุ์บัว” เพียงอย่างเดียวเราขายตั้งแต่เมล็ด ต้นใหญ่-ต้นเล็ก จะได้จากตรงนี้เพียงอย่างเดียว แล้วก็ท่องเที่ยวคนมาชมเข้าฟรีหมด ตอนนั้นขึ้นบนใบบัวยังฟรีเลย แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ (หลายปีต่อมา) บอกว่า ให้เราเก็บค่าเข้าไหม? “มันเหมือนเราอึดอัดใจ มันเหมือนเราจะอ้าปากบอกนักท่องเที่ยวว่าเก็บเขา ค่าเข้าชม ค่ายืนใบบัว อะไรเงี้ยมันเหมือนเราอึดอัดใจ เหมือนกับว่าเราให้เขาฟรีอย่างเดียวนะ กว่าจะอ้าปากบอกเขาได้ว่าขอเก็บค่าเข้า คนละ 20 บาท (คนโต) แต่ถ้าเป็นเด็กแค่ 10 บาท แต่ถ้ายืนใบบัวเด็กๆ 50 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาท มันเหมือนจะอ้าปากบอกเขาเหมือนเราเกรงใจเขามากนะ อึดอัดใจมาก แต่บางคนจะบอกว่าโอ้ยเต็มใจให้แค่ 20 บาท แค่ 20 บาทไม่มีปัญหา แต่บางคน (แต่ว่าส่วนน้อยนะคะ) อะไร! มาดูบัวแค่นี้ต้องเก็บด้วยเหรอ? แต่เราก็ไม่ว่าอะไรเขาบอกว่า ที่นี่เก็บมาก็ไม่ได้เอาไปทำอะไรนะคะมาทำห้องน้ำให้เข้าแบบสบายๆ แล้วก็เราปลูกต้นไม้ให้สวยๆ ที่นี่เข้ามาจะได้ร่มรื่นนะคะ เขาก็อ่ะๆ เต็มใจ” ต่อมาหลังจากนั้นก็ไม่มีปัญหา




ด้วยธรรมชาติที่ร่มรื่นใกล้เมืองลูกค้าเรียกร้องให้เปิดเป็น “ที่พัก” ด้วย
นักท่องเที่ยว ลูกค้าที่มาซื้อบัว เขาบอกว่าที่นี่ร่มรื่นมากถ้ามี “บ้านพัก” จะดีมากคนที่ชอบอยู่กับธรรมชาติ เขาจะชอบมากพี่มาลัยก็เอาเงินจากตรงนั้น เหมือนกับว่าเราพอมีรายได้เริ่มสร้างค่ะ เริ่มสร้างหลังที่ 1 นะคะ ทีนี้เราก็เปิดหลังที่ 1 นะก็เชิญคุณรักชาติ สุขเปรม เขาเป็น ททท.ทั่วไทยให้มาเปิด แล้วเขาสนับสนุนเราทุกอย่าง ใช่ค่ะแล้วเขาก็พูดว่า วันนี้นะเปิดหลังที่ 1 หลังแรกแล้วต่อไปคุณมาลัยเขาจะค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ มันเหมือนพระเจ้าให้เขาตามปากเขาทุกอย่างเลยนะ” เราไม่มีเงินสร้างทีเดียวทุกอย่าง แต่เราจะค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ แล้วตอนเด็กๆ พี่มาลัยชอบไปอยู่บนต้นไม้นะขนาดเป็นเด็กผู้หญิง พอทำโฮมสเตย์ที่หน้าบ้านแล้ว 2 ห้องแล้ว ก็มาต้นไม้เพาะจากเมล็ดเลย “ต้นมะขวิด” อายุ 30 ปี จมน้ำไม่ตาย แต่ต้นอื่นจมน้ำตายหมดเราก็เลยสร้างหลังแรก หลังแรกคือบ้านมะขวิดซึ่งต้นเพาะจากเมล็ดเลย แล้วพอสร้างหลังแรกเอ๊ะ! ฝรั่งต่างชาติใครมาก็ชอบบ้านบนต้นไม้หมด สร้างหลังที่สองชื่อบ้านมะขาม มะขามเราก็เพาะจากเมล็ดอีกอันโน้นอายุ 29 ปี ทีนี้ถ้าต่างชาติมาพักจะพักบ้านบนต้นไม้ทั้งสองหลัง” ถึงตอนนี้ถ้ารวมทั้งหมดแล้วในส่วนของที่พักก็จะมีอยู่ทั้งหมด 6 หลัง

มีที่พักซึ่งสร้างบนต้นไม้ ชื่อบ้านมะขวิด กับบ้านมะขาม


พลิกชีวิตได้เพราะ “บัววิกตอเรีย” เพาะพันธุ์ขายมีเท่าไรก็ไม่พอ!
เอาเป็นว่าเมื่อ 4-5 ปีที่แล้วพี่มาลัยดังมาก! จากที่เราแบบเป็น “จน” อาหารไม่พอกิน กลายเป็นว่าเราผลิตบัวเท่าไรก็ไม่พอขายนะช่วง 4-5 ปีที่แล้ว ผลผลิตเท่าไหร่ไม่พอขาย แม้กระทั่งต่างชาติมาซื้อเราไปมีคนมาติดต่อแล้วเขาส่งไป เวียดนาม กัมพูชา ญี่ปุ่น ต่างประเทศคือเราดังมาก เราขายสายพันธุ์ผลิตเท่าไรก็ไม่พอขาย“มันเหมือนเรามีพรสวรรค์ทางด้านนี้ แต่เราอยากผลิตบัวสีแล้วก็ไปซื้อมาทุกสีเลยนะมาปลูก แต่มันไม่ประสบความสำเร็จ มันแปลกมาก แล้วลูกค้าที่เขามาซื้อบัวนี้เราไป เขาก็จะทำแบบเรา เราไม่เคยปิดกั้นนะคะ เราบอกเขาทุกอย่างแต่เขา ไม่ประสบความสำเร็จ เขาทำบัวสีสำเร็จแต่ทำบัววิกตอเรียไม่สำเร็จเหมือนเรา” แต่เราทำบัวสีซื้อมาให้แพงยังไงก็ตายหมด มันแปลก!


แล้วลูกชายบอกว่าแม่คนมาที่สวนเราเยอะนะเราเปิด “คาเฟ่” ดีกว่า ก็เลยมีคาเฟ่ด้วยซึ่งจะเป็นของลูกชาย เราเลยไม่ขายน้ำตู้แล้ว (พวกน้ำขวดต่างๆ แช่เย็น) เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาได้ไปอุดหนุนคาเฟ่ แล้วลูกสาวช่วงที่มีคนมาเยอะมากๆ ลูกสาวเขาจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ ส้มตำจะมีตำก้านบัวด้วย โอ้โหเวิร์กมาก อร่อย กรอบมากจากก้านบัว นอกจากนี้ยังสามารถทำเมนูแกงส้ม ต้มกะทิปลาทู ผัดกุ้ง-ไก่-ปลาหมึก แล้วทำขนม แต่ช่วงนี้มะพร้าว (ใช้มะพร้าวทึนทึก) หายากก็เลยไม่ได้ทำ ขนมบัววิกตอเรียหนึ่งเดียวในโลก แล้วก็เป็น OTOP จ.นนทบุรี ด้วย หนึ่งเดียวในโลกจริงๆ จะไปที่ไหนก็ช่างจะไม่ได้กินนอกจากที่สวนมาลัยบัววิกตอเรีย

ขนมบัววิกตอเรีย มีให้ชิมที่เดียวในโลก
วิกฤต “โควิด” แต่ไม่วิกฤตศรัทธา ยังคงเดินหน้าพัฒนาต่อ...
ที่พี่มาลัยคิดว่าเอาหลานลงไปได้เพราะอะไร เพราะว่าพี่มาลัยเนี่ยอ่านหนังสือแล้วก็ดูสารคดีเห็นบัวใบใหญ่ๆ ดูในสารคดี “งูอนาคอนด้า” ตัวใหญ่มาก! แล้วเขาขึ้นไปพันกันอยู่ในใบบัว พี่มาลัยเลยนึกงูอนาคอนด้าตัวใหญ่เป็น 100 กิโลขึ้น! เราลองเอาคนสิ ให้คนลองลงไปอยู่บนใบบัว แล้วหลานที่ลงไปคนแรกเด็กๆ แบเบาะใช่ไหม พอต่อไปเขานั่งได้ ยืนได้ ทุกอิริยาบถเลยนะแล้วพอหลังๆ เนี่ย เขาน้ำหนักมาก (เป็น 100 กิโล!) จนเขาลงไปไม่ได้แล้ว เราเลยให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาตั้งแต่ 20-30 กก. ล่าสุดตอนที่บัวสมบูรณ์มากๆ เคยได้ถึง 82 กิโลกรัม อันนั้นว้าว! มาก (เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.10 เมตร) แต่ว่าไม่ใช่ทุกใบที่จะให้คนลงไปได้ มันจะเป็นบางใบที่เราเลือกแล้วว่าใบไหนสมบูรณ์ที่สุด ของเราทำมานานเราจะรู้ว่าใบไหนสมบูรณ์ ใบไหนไม่สมบูรณ์

“วิกตอเรียจะพิเศษกว่าบัวไทยบ้านเรา วิกตอเรียดอกเขาจะบานตอนกลางคืนพอเริ่มพลบค่ำเขาจะเริ่มแย้ม ในสวนของเราจะมีกลิ่นหอม เริ่มแย้มจะเริ่มเป็นสีขาวในสวนของเราถ้ามาเดินกลางคืนจะหอมนะ หอมชื่นใจ แล้วพอรุ่งขึ้นอีกวันหนึ่งจะกลายเป็นชมพูอ่อน พอ 16.00-17.00 น.จากสีขาวเมื่อคืนเป็นสีแดงม่วง แล้วจะบานคนละรูปแบบหมดเลยนะคะ พอบานได้สองวันกลีบดอกจะเริ่มเน่าสลายแต่ว่าจะเหลือตุ้มดอกของเขา ตุ้มดอกของเขาก็จะค่อยๆ โน้ม จมลงในน้ำ แต่ว่าดอกใหม่จะโผล่ขึ้นมาคือเขามีตลอด”


เป็นธรรมชาติที่ร่มรื่นมากๆ อยู่ใกล้กรุงเทพฯ
แล้วพอมาเจอกับวิกฤต “โควิด-19” ก็เหมือนกับว่านักท่องเที่ยวน้อยลง แล้วก็หลังโควิดฯ ก็เป็นเศรษฐกิจย่ำแย่“ช่วงโควิดฯ
จริง ๆ ก็ไม่ได้ถึงกับนิ่งไปเลยนะ คนโทรมาบอกว่า อยู่บ้านมันเหมือนกับว่ากลุ้มใจอะไรอย่างเงี้ย ลูกหลานก็อยากจะมาเที่ยวมาอยู่กับธรรมชาติ ขออนุญาตเข้ามาเดินอยู่ในสวนคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม ก็เข้ามานะในนี้เราก็มีเปลมีที่ให้นั่งพักผ่อนกันได้ พาลูกมาเดินในสวน มีค่ะมีตลอดแต่ว่าเราก็ให้เขาใส่แมสก์ป้องกัน แล้วก็เราจะมีแอลกอฮอล์ไว้ให้ล้างมือด้วย เพื่อเป็นการป้องกัน”
แต่พี่มาลัยไปเที่ยวทุกที่ก็เหมือนกัน ก็เงียบเหมือนกับสวนเรา แต่พี่มาลัยสู้เหมือนกับว่าเราก็ไปเที่ยวที่อื่น ที่อื่นเขาก็เหมือนเรา เขาก็เงียบเหมือนเรา แต่เราสู้มาตลอดยังไงก็สู้แล้วเราก็ปรับปรุงสถานที่ของเราไปเรื่อย ๆ ไม่จำเป็นว่านักท่องเที่ยวมาเยอะแล้วเราถึงจะปรับปรุง เราจะปรับปรุงของเราไปเรื่อย ๆ แล้วก็พอนักท่องเที่ยวเริ่มมา ของเราก็ดูดีเหมือนเดิม



กว่า 29 ปีสวนมาลัยบัววิคตอเรีย ความหลงใหลสู่อาชีพพลิกชีวิตได้! จากเงิน 1,500 ก้อนเดียวที่มีอยู่ในบ้านขอบคุณไอเดียอาชีพดี ๆ จากพี่มาลัยเจ้าของสวนมาลัยบัววิคตอเรียที่กรุณาร่วมแบ่งปันแนวคิดและประสบการณ์สุดพิเศษในการแจ้งเกิดธุรกิจได้จาก “บัวยักษ์” ความหลงใหลสู่อาชีพพลิกชีวิตได้! อย่างแท้จริงและถึงแม้ว่าในวันนี้สถานการณ์และก็สภาพการณ์ทางเศรษฐกิจอาจจะส่งผลต่อการมาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่ยังแน่วแน่อยู่เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยก็คือ ความรัก ความตั้งใจ และเอาใจใส่ในอาชีพนี้พยายามพัฒนาเพื่อจะไปต่อไป อย่างไม่เคยหมดศรัทธาเหมือนดั่งเป็นอาชีพที่ “พระเจ้าให้มา” ที่มาลัยเชื่ออย่างหมดใจมาตั้งแต่นั้น

สามารถไปดื่มด่ำบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติมาก ๆ ใกล้เมือง หรือไปท้าพิสูจน์ความใหญ่ยักษ์! ของบัววิกตอเรียที่นี่ได้ซึ่งจะมีมือโปรอย่าง “คุณลุงพงศ์” คอยดูแลใกล้ชิดที่รับรองได้ขึ้นแล้วไม่จมแน่นอนจากประสบการณ์กว่า 29 ปีเป็นประกัน ติดตามผลงานหรือสอบถามเพิ่มเติมไปได้ที่ 66/1 ถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ตำบลละหาร อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี FB : สวนมาลัย บัววิคตอเรีย Victoria Water Lily Malai Garden หรือโทร.089-057-2289

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น