“ธุรกิจนี้มันค่อนข้างพิเศษเพราะว่าลูกค้าตัวจริงของเรา เขาพูดไม่ได้เพราะว่าเขาเป็นหมาแมวแต่ว่า ผู้ที่เอามาส่งอันนี้คือที่เราจะต้องสื่อสารเพื่อให้เกิดความพึงพอใจกับน้อง ในการที่เราเน้นเรื่องความปลอดภัยและก็ทำให้น้องเขาแฮปปี้รู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้าน”
จากความ “ทาส”ที่เข้าใจในหัวอกทาสด้วยกันที่มีความหวัง ก่อเกิดกลายเป็นธุรกิจใหม่ถอดด้ามของคู่รักคู่นี้ “คุณปอ-ณพวีร์ บางกรวย” และ “คุณแนน-กิตติยา จิรวัฒนเศรษฐ์”ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรม Pet Needed สุนัขและแมว ที่มีบริการอาบน้ำตัดขน สปาครบวงจร ตั้งอยู่ในย่าน จ.นนทบุรี ถนนหอการค้าไทย อยู่ภายในโครงการ MARKET AVENUE โดยคุณปอเล่าให้เราฟังว่า เดิมทีทั้งสองคนเปิดทำธุรกิจเกี่ยวกับ Shipping การส่งสินค้าไปต่างประเทศอยู่ก่อนหน้าอยู่แล้ว จนกระทั่งเริ่มมองเห็นโอกาสใหม่ในการแตกไลน์ธุรกิจเพิ่มเติมที่เริ่มต้นมาจากความชอบโดยส่วนตัวของทั้งสองคนเป็นหลัก “ความชอบเนี่ยส่วนตัวทั้งผมและก็แนนเป็นคนที่แบบชอบหมาแมว สัตว์ อยู่แล้วอย่างเงี้ยครับทีนี้ ก่อนหน้านี้ทางผมเลี้ยงมีหมาตัวหนึ่งแล้วเราก็เป็นคนที่แบบค่อนข้างเป็น “ทาส” เลยครับคือ เลี้ยงเขาเสมือนแบบลูกคนหนึ่ง(ก่อนที่จะมีลูกจริง ๆ) ก็มีลูกหมามาก่อนและก็เราก็คือเลี้ยงหมาด้วยและเราก็ชอบไปเที่ยวด้วยอย่างเงี้ยครับ และเราก็จะเอาน้องหมาแบบถ้าไปด้วยกันได้ก็ไปหรือว่าถ้าเราไปที่ไหนที่ไปกับน้องหมาไม่ได้ เราก็มีความจำเป็นที่จะต้องเอาไปฝาก ทีนี้พอเวลาเราเอาไปฝากเนี่ยบางทีคือตัวเราไปเที่ยวแต่ว่าแบบเหมือนหมาเราก็เป็นห่วงด้วยเราก็เลยคิดว่าเออถ้าสมมุติว่า เรามีที่ ๆ หนึ่งที่เราสามารถที่จะแบบวางใจได้ว่าเอาน้องหมาน้องแมวมาฝากแล้ว ให้เขารู้สึกเหมือนว่าเขาอยู่บ้านตัวเองโดยที่เจ้าของก็สบายใจอย่างเงี้ยครับ” คิดว่าน่าจะดีบวกกับว่าโอกาสตรงที่ Location ที่เราอยู่เป็นจุดที่มีหมู่บ้านที่เป็นบ้านจัดสรรอยู่ค่อนข้างเยอะก็เลยคิดว่า เราอยากจะ Develop จากส่วนที่เราอยากมาแก้ปัญหาของตัวเราเอง และก็คิดว่าน่าจะมีปัญหาแบบนี้กับคนอื่นด้วย
สู่งาน “การให้บริการ” ตามแบบฉบับของมืออาชีพทำ
จากความชอบเราก็ต้องมาดีเวลล้อปว่าจากความชอบของเรามันจะมีประโยชน์กับลูกค้ายังไง หรือว่ามันแก้ไขปัญหาลูกค้ายังไงบ้าง“เราก็เลยคุยกันว่าถ้าเราสองคนเนี่ยเราอาจจะแบ่งหน้าที่กันว่า คนหนึ่งเนี่ยเราก็ไปดูเกี่ยวกับเรื่องโรงแรมเลยซึ่งตัวผมเนี่ยผมจะดูเรื่องเกี่ยวกับ “โรงแรม”เป็นหลัก ส่วนอีกคนหนึ่งเนี่ยก็ไปเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่อง Grooming ก็จะเป็นแนวเหมือนแบบอาบน้ำ ตัดขน สปาครบวงจร ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นคุณแนนก็คือไป take course แล้วก็เพื่อที่จะหาเน็ตเวิร์กในการที่เราจะดีเวลล้อปตัวธุรกิจอันนี้” ตอนนี้สำหรับในส่วนของ “โรงแรมแมว” เราจะมีตู้ที่เป็นแบบขนาดใหญ่อยู่ 4 ตู้ ซึ่งใน 1 ตู้ถ้าน้องแมวที่เป็นไซซ์แบบผอม ๆ นิดหนึ่งก็จะอยู่ได้สูงสุด4 ตัว/ตู้ โดยสามารถรองรับได้ maximum สุดต่อครั้งคือ 16 ตัว จากทั้งหมด 4 ตู้ ส่วนตัวของ “โรงแรมน้องหมา” เราจะมีห้องที่เป็นแบบ 2 ไซซ์ก็คือ ห้องที่เป็นไซซ์เล็กจะมี 4 ห้อง และห้องที่เป็นไซซ์ใหญ่จะมี 2 ห้อง ซึ่งน้องหมาคือแต่ละห้องจะอยู่ได้ maximum คือ 2 ตัว
“คนมีก็อยากให้น้องหมาน้องแมวมีด้วยอันนี้ก็คือ “อ่าง” ที่เราใช้สำหรับอาบน้ำน้อง แล้วก็รวมไปถึงว่าตัวอ่างเนี่ยมันจะมีฟังก์ชันที่เป็นจากุซซี่อย่างเงี้ยครับซึ่งจากุซซี่เราก็สั่งจากโรงงานที่เราจะเป็นลักษณะที่ฟองออกไป เขาจะเป็นฟองโอโซนซึ่งตัวฟองนี้เขาก็จะมีcertificate ว่ามันสามารถที่จะทำให้ขนของน้องเนี่ยนะครับ สะอาดมากขึ้นลดการเป็นสังกะตังแล้วก็สบายด้วย” อันนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่เราลงทุนในเรื่องของอุปกรณ์ที่มันทำให้เราแตกต่างจากคู่แข่งด้วย ในส่วนของเรื่องการ Grooming อันนี้ก็จะเป็นแพคเก็จที่ซื้อแยกต่างหากแต่เราก็จะมี โปรโมชันบางส่วนว่า ถ้าลูกค้าที่มานอนโรงแรมเกิน4 คืนขึ้นไปก็จะได้ส่วนลดสำหรับกรูมมิ่งด้วย จะได้ตัวหอมกลับบ้านไปด้วยประมาณนี้ แต่ส่วนใหญ่ธรรมชาติแล้วลูกค้านอนโรงแรมพอเขาเข้ามาเห็นตัวโรงแรมพอเราคุยกัน เขาก็จะส่วนใหญ่ฝากให้อาบน้ำน้องก่อนกลับบ้านไปเลย ตัวหอมไปเลย
ทำไมต้องมีทั้ง “น้องหมา& น้องแมว” แล้วบริหารจัดการอย่างไร?
มองว่าปัจจุบัน “ทาส” ก็มีทั้งทาสน้องหมา ทาสน้องแมว ซึ่งเราก็อยากจะทำให้มันครบวงจรแต่ว่าในขณะเดียวกันอันนี้ก็เป็นอีกโจทย์หนึ่งของเราว่า ในการที่เราจะรับ 2 ประเภทที่มันอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันได้อย่างตลอดไป เราก็ต้องมีการบริหารว่าในการที่เราเป็นชั้นของ “แมว” ก็จะเป็นชั้นของเขาเลย และก็มีการกั้นส่วนที่เป็นประตูเพื่อที่ว่าเวลาตอนที่น้องเขามาอยู่เราก็จะได้จัดการว่า ส่วนนี้เป็นชั้นของน้องแมว ส่วนนี้เป็นชั้นของน้องหมา“ก็อันดับแรกก็คือคงจะเป็นเรื่องของ “ชั้น” ที่เราแบ่งโซนไปเลยเพราะว่า ถ้าบางทีเนี่ยคือส่วนตัวมองว่าถ้าสมมุติเป็นชั้นเดียวกันแล้วเรากั้นผนังอย่างเงี้ยครับมันก็ มีความเป็นไปได้ว่าด้วย “กลิ่น” หรือว่าด้วย “เสียง” มันก็จะทำให้น้องเขาแบบเครียดอย่างเงี้ยครับ แต่ว่าพอเวลาเราแบ่งเป็นชั้นก็คือเหมือนหนึ่งก็คือเรื่องกลิ่นจะโอเคเลยเพราะว่า มันคือคนละชั้นกันอย่างแบบแยกส่วนน้องเขาจะได้ไม่เครียด” รวมไปถึงของเราจะมีสัตว์ประเภทที่เหมือนไม่ต้องการการดูแลมากอย่างเช่น สัปดาห์ที่แล้วก็มีลูกค้ามาฝาก “เต่า” ที่หน้าร้านซึ่งตอนแรกเราก็คุยกันก่อนเพราะว่าเต่ามันไม่ได้อยู่ในแพลตฟอร์มของทางโรงแรมที่ได้วางไว้ แต่ว่าพอเราศึกษากับทางผู้เลี้ยงเขาก็ให้อินสตรักชันมาว่าในการที่เลี้ยงมันเป็นแค่การให้อาหารแล้วก็มีการพาออกไปตากแดดบ้าง กินอาหารแค่ 2 เวลา เราก็ปรึกษาพี่เลี้ยงว่าในสโคปแบบนี้โอเคไหม ก็คือทำได้ แล้วเราก็แยกโดยเอาน้องไปอยู่ในอีกพื้นที่ซึ่งมันเป็นโซนที่เฉพาะพอดี สุดท้ายก็เลยมีเต่าด้วย
ระบบการ “เช็กอิน” เข้าพัก และเวลา “เช็กเอ้าท์” คิดเรทยังไง?
ด้วยความที่เราคิดแทนลูกค้าว่าเวลาคนมาฝาก ถ้าเป็นคนปกติโรงแรมก็จะมีกฎว่า Check in เที่ยง /Check in บ่าย 2 แล้วเวลา
Check out จะคิดตอนกี่โมงอะไรแบบนี้ใช่ไหม “แต่ว่าพอเราเป็นโรงแรมสำหรับน้องหมาน้องแมวเนี่ย เราก็เป็นห่วงว่าเหมือนเวลาคนไปเที่ยวอย่างเงี้ยครับเขาออาจจะออกเช้าบางคนออกเช้า บางคนออกเย็น อะไรอย่างเงี้ยครับเราก็เลยกำหนดว่า เวลาเช็กอินเรานับเป็น 24 ชั่วโมงเลย เมื่อไหร่ก็ได้ในเวลาทำการ เช่นแบบสมมุติวันนี้มาฝาก 09.00 น. ถ้าเขามารับ 09.00 น. ในอีกวันหนึ่งเราก็นับเป็น1 คืน อย่างเงี้ยครับก็จะแฟร์ทั้งสองฝ่าย แล้วก็ยืดหยุ่นในการจัดการด้วย”ถ้าเป็นช่วงวันหยุดหรือช่วงปีใหม่ก็คือ ลูกค้าจะค่อนข้างเยอะกว่าปกติอย่างตอนนี้ “ห้องใหญ่” ของเราตอนปีใหม่ก็เต็มแล้ว ก็จะมีที่เป็น “ห้องเล็ก” แต่ก็ถ้าเป็นช่วงของวันธรรมดา เมื่อก่อนเคยคิดว่ามันน่าจะ type แค่ช่วงวันหยุดยาวแต่จริง ๆ แล้ว วันที่เป็นวันธรรมดามันก็มีคนมาฝากเหมือนกัน ก็ลองเช็กคิวมาทางน้องแอดมินได้“ก็เวลาทำการของเราจะเป็น 09.00 น. ถึง 19.00 น. แล้วทีนี้ในส่วนของการติดต่อเข้ามาก็สามารถที่จะแชทผ่านทาง Line หรือว่าจะโทรมาบุคก่อนก็ได้ ทางน้องแอดมินเขาก็จะทำการเช็กเรื่องของห้องเรื่องของคิวและก็คอนเฟิร์มกับลูกค้าได้”น้อยสุด 1 ชั่วโมง เราก็มีฝากเป็นรายชั่วโมงด้วย เพราะว่าสมัยนี้ก็จะมีเหมือนผู้ปกครองบางคนไปธุระอย่างวันนี้ก็มี ก็คือมาตอนเช้าแล้วพอเขาทำธุระเสร็จเขามารับ รายชั่วโมงจะคิดที่ 50 บาท/ชม.
สำหรับเรทในการเข้าพักที่โรงแรมของ “น้องแมว” ก็จะเป็นราคาเดียวก็คือ 350 บาท/คืน ส่วนถ้าบ้านไหนที่มีมากกว่าหนึ่งตัว
ตัวที่สองขึ้นไปเราก็จะคิดที่ราคาส่วนลดให้แล้วก็คือ 50% แต่ว่า condition ก็คือ น้องต้องนอนห้องเดียวกันได้ เหมือนกันสำหรับห้องของ “น้องหมา”ที่เป็นห้องเล็กก็คือจะคืนละ 350 บาท ห้องใหญ่ก็คือคืนละ 550 บาท เหมือนกันก็คือว่าถ้าใครที่มีตัวที่สองที่นอนห้องเดียวกันได้ ตัวที่สองเราก็จะลดให้ 50% แล้วก็มีบริการพาไปเดินเล่นเหมือนเดิม “จริง ๆ ไม่มีเพดานเรื่องความใหญ่ครับ อย่างล่าสุดที่เรารับอาทิตย์ที่แล้ว เป็นน้องโกลเด้นฯ เก่งมากแบบว่า 8 ปีแล้วแต่เพิ่งนอนโรงแรมครั้งแรกอะไรอย่างเงี้ย ก็คุณแม่เขาก็บอกว่าเออแบบต้องช่วยดันก้นน้องขึ้นไปนิดหนึ่งอะไรแบบนี้ครับ(หัวเราะ) เพราะน้องอายุเยอะแล้วแต่น้องเก่งมากครับ”
ที่นี่ยังมีการสปอยทาสด้วย มีบริการกล้องส่อง “น้อง” ให้แบบเรียลไทม์
ตรงนี้จริง ๆ แล้วเป็นคีย์สำคัญของเราเลยเพราะว่า “พี่เลี้ยง”เรามี Brief เรื่องของกระบวนการ การทำงานเขาก็คือเขาจะอยู่ดูแล
24 ชั่วโมง แล้วก็ถ้าเป็น “น้องหมา” เขาจะพาเดินเล่นเช้า&เย็น แล้วก็เราจะมี Line ถ่ายรูปส่งให้กับผู้ปกครอง อัพเดตวันละ 2 ครั้ง ว่าโอเคน้องเดินเล่นเสร็จแล้ว น้องกินข้าว น้องทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว และก็ในขณะเดียวกันใน “ห้อง” เรายังสามารถที่จะให้ลูกค้าซื้อ “กล้องวงจรปิด” เพิ่มได้อีกด้วย วันละแค่ 50 บาท“อันนี้ก็จะมาตอบโจทย์คุณพ่อคุณแม่ แบบอยากจะเห็นลูกตลอดเวลาอะไรอย่างเงี้ย ซึ่งอันนี้ก็คือจุดหนึ่งที่เหมือนเมื่อก่อนตัวผมเองที่ไปฝากหมาแมวน่ะครับเขาไม่มี ร้านเขาไม่มีบริการตรงนี้ ผมก็ต้องเอามือถือผมเองเอาไปวาง/ขออนุญาตวางเขาอะไรอย่างเงี้ย เราก็เลยคิดว่าถ้าเรามี คือคิดเองว่าถ้าเรามีน่าจะดี แล้วพอเริ่มทำก็คือเกือบ 80% ลูกค้าที่มาฝากก็คือ เอาอันนี้เพิ่มด้วย” ที่นี่คือจะมีพี่เลี้ยงนอนอยู่ด้วยกันเลย ตลอด 24 ชั่วโมง แล้วเขาก็รักน้องหมาน้องแมวมาก เพราะว่าส่วนหนึ่งก็คือเราก็ต้องการให้เขาบริการแบบทุกตัวให้เขารู้สึกเหมือนเขาอยู่ที่บ้าน อย่างบางตัวเขาค่อนข้างติดคนเราก็ให้แบบ เล่นกับเขาบ่อย ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้เขาอยู่กับสถานที่
“ก็จะมี “เช้า” นะครับก็จะพาไปเดินเล่น เดินเล่นพอดีตรงนี้เราก็จะมีส่วนที่เป็นพื้นที่ที่สามารถให้น้องหมาไปเดินเล่นได้ เราก็จะมีเช้าเดินเล่น และก็เย็นก็เดินเล่นนะครับ ส่วนถ้าระหว่างวันเนี่ยทางพี่เลี้ยงเขาก็จะมีการสลับขึ้นไปเล่นกับน้อง ๆ โดยที่แบบเล่นนี่ก็คือจุดประสงค์แบบ ไม่ให้น้องเขาเกิดความเครียดอะไรอย่างเงี้ยครับ ไม่เหงา” สำหรับโรงแรม Pet Needed สุนัขและแมว ก็คือเราเน้นเรื่องการบริการที่มีความปลอดภัย ดังนั้นสิ่งแรกเลยก็คือทางเจ้าของสามารถมั่นใจได้ว่าอยู่กับเรา เรามีอุปกรณ์ เรามีสถานที่ แล้วเราก็มีพนักงานที่เราเทรนเขาเพื่อที่ทำให้โรงแรมของเราอยู่ใน Mood ที่รู้สึกเหมือนบ้านมากที่สุด“โดยที่ตัวที่สามารถการันตีได้เนี่ยก็คือ เรามีการเปิด access ตัวของ “กล้อง” นะครับซึ่งหมายความว่า ตรงนี้ก่อนที่เราทำ เราก็ต้องมั่นใจแล้วว่าภาพที่ลูกค้าจะเห็นน่ะมันคือภาพที่ ถูกต้องภาพที่ปลอดภัย อย่างเงี้ยนะครับซึ่งอันนี้เราก็อยากจะ เชิญชวนทุกคนนะครับว่าใครที่อยู่ละแวกหอการค้าไทยหรือถ้าใครอยู่ไกล ๆ ก็ได้นะครับถ้าผ่านมา นนทบุรี หรือปทุมฯ อะไรอย่างเงี้ยครับก็สามารถที่จะ เอาน้องมาฝากกับเราหรือว่ามากรูมมิ่งได้นะครับ”
การบริการที่เน้นเรื่อง “ความปลอดภัย” และรู้สึกสบายใจเหมือนน้อง ๆ เขาอยู่ที่บ้าน
คุณปอ - ณพวีร์ บางกรวย และ คุณแนน- กิตติยา จิรวัฒนเศรษฐ์ เจ้าของโรงแรม Pet Needed สุนัขและแมว ยังบอกด้วย ฟีดแบ็คตอนนี้ใน Google รีวิวเราได้ 5 ดาว ต้องขอบคุณลูกค้าทุกคนมาก ๆ เพราะว่าฟีดแบ็คมันก็คือส่วนหนึ่งที่เราต้องการเพื่อมาในการปรับปรุง ในการให้บริการของเรา แล้วเราก็รู้สึกว่าเสียงของลูกค้าส่วนใหญ่ก็ชอบในสิ่งที่เรานำเสนอ อย่างเช่นเรื่องของ “ความปลอดภัย”หรือว่าเรื่องของ “การบริการ” ก็คือลูกค้าก็มีการเขียนสิ่งนี้ขึ้นมาในรีวิว ซึ่งเราก็ต้องขอบคุณอีกครั้งและดีใจที่ทุกคนชอบ “ส่วนที่ลูกค้ามีการเสนอแนะมาเพิ่มเติมด้วยก็คือว่า เรื่องเวลาครับเพราะว่า คือเรายัง operate ในเวลาทำการทีนี ้บางทีก็จะมีเหมือนแบบ ผู้ปกครองที่เขาอยากจะรับ-ส่ง นอกเวลาอะไรอย่างเงี้ยครับ ซึ่งตรงนี้คือเราไม่ได้ปิดกั้นนะครับคือถ้าสมมุติว่ามันยังอยู่ในเวลาที่แบบพี่เลี้ยงเขายังสามารถรับ-ส่ง ได้นิดหน่อยอีกก็สามารถคุยกันได้ เราก็จะแบบเหมือนถามพี่เลี้ยงก่อนว่าจะมารับเลทนิดหนึ่งกี่โมงเขาโอเคไหม เพราะยังไงเขาอยู่ที่นี่อยู่แล้ว ครับ นี่ก็คือสิ่งที่ลูกค้าฟีดแบ็คมา”
สเต็ปถัดไปของทางโรงแรมหมากับแมวคือเราก็อยากจะมี พวกกิจกรรมอะไรให้น้อง ๆ ที่เป็นแบบแปลกใหม่มากขึ้น อย่างเช่น ที่เราลองทำแล้วคืออย่างเดือนนี้เราจะมีเรื่องของ Photo บูธ ก็คือเวลาน้องมาพักเราก็จะเอาน้องมาถ่ายรูปแล้วเราก็พอถ่ายเสร็จก็ปริ้นเหมือนเป็น “การ์ดปีใหม่” ให้กับเจ้าของเวลาตอนที่เขามาใช้ซ้ำ เพื่อที่เราจะได้สื่อสารว่าโอเคน้องเขามีกิจกรรมทำ แล้วก็เป็นกิจกรรมที่น้องเขาก็ได้รีแล็กซ์ด้วย ส่วนเจ้าของก็ได้รูปน่ารัก ๆ ไปด้วย อันนี้คิดว่ามันเป็นอะไรที่เราทำแล้วมันได้ฟีดแบ็คที่ดีก็เลยคิดว่า ถ้าในอนาคตเราอาจจะมี activities อื่น ๆ ที่หนึ่งก็คือ ต้องดีกับตัวน้อง และก็สื่อสารไปถึงเจ้าของเขาได้ด้วยว่ามันดีอย่างไร
คุณปอบอกว่า จริง ๆ แล้วในทุกงานรวมไปถึงงานนี้ด้วย เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็ต้องมีเรื่องของ “ความท้าทาย” บ้างโดยเฉพาะงานที่ผมทำมันงานที่แบบเป็นชีวิตของสัตว์ที่เขาแบบพูดไม่ได้ ฉะนั้นเนี่ยก็ต้องกลับมาที่จุดแรกว่าอย่างเคสที่เราเจอ มันก็มีลักษณะที่เหมือนน้องอาจจะมีอาการคล้าย ๆ กับ “แพ้” ลักษณะที่เป็นแพ้แต่ว่า ตัวที่แพ้เนี่ยหลังจากที่ลูกค้าฟีดแบ็คมาหนึ่งเราก็คือให้น้องแอดมินรับเรื่องแล้วเราก็ตรวจสอบทันทีเลยเพราะว่า ข้างในเราจะมีติด “กล้องวงจรปิด” แบบทุก ๆ มุมเลย แล้วก็จะดูว่าในกระบวนการที่น้องเข้ามามันมีสต็อปไหนที่มันทำให้เกิดความเสี่ยงน้องแพ้ไหม? แล้วเราก็อัปเดตทางเจ้าของว่า อันดับแรกก็คือถ้ามีอาการที่น้องผิดปกติสิ่งแรกก็คือ เขาต้องแนะนำให้ไปพบคุณหมอก่อน เพราะว่าตอนนี้คือปัญหาคือมันป่วย อันนั้นป่วยก็คือไปเจอคุณหมอก่อนแล้วเดี๋ยวระหว่างนั้น เราจะตรวจสอบว่าระหว่างเวลาที่น้องอยู่ เราทำอะไรบ้าง และก็ในเคสนั้นพอผมตรวจสอบเสร็จปุ๊บผมก็อัปเดตลูกค้าตลอดว่าโอเคเท่าที่เราทำคือ เราใช้ตัวน้ำยาหรือว่าตัวของสบู่ที่เป็นสูตรสำหรับแพ้ยากแล้ว อะไรแบบนี้แล้วก็มีการส่งข้อมูลให้ลูกค้าดูว่าอันนี้เราทำตามกระบวนการที่เราวางไว้อย่างเงี้ย ซึ่งสุดท้ายแล้วคือลูกค้าก็พบคุณหมอและก็คุณหมอก็แจ้งว่าน้องเป็นอาการที่อาจจะเกิดขึ้นจากอย่างอื่นได้ด้วย คือตัวผมเนี่ยผมมองว่าพวกฟีดแบ็คพวกนี้มันเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เรารู้ว่า เวลาตอนที่มันมีลักษณะแบบนี้เราควร ถ้าเรามีอะไรที่มันชัดเจนพอที่เราจะสื่อสารกับลูกค้าว่า เราทำอะไรไปบ้างมันก็จะช่วยทำให้มันชัดเจนทั้งสองฝ่ายและก็ตัวลูกค้าเองก็เข้าใจในส่วนนี้
“สิ่งที่อยากจะให้ทุกคนเชื่อมั่นนะครับก็คือหนึ่งก็คือ เรา Drive สิ่งนี้มาจากความชอบของเราที่เป็นพื้นฐานนะครับ และด้วยความที่เรามีประสบการณ์ด้านงานที่เป็นงานบริการซึ่งอาจจะเป็นแบบในฟิวส์อื่น ๆ แต่เราก็เชื่อว่าสิ่งที่เราแอคเซสสิ่งที่เราเทรนนิ่งไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ พนักงาน ระบบ หรือว่าวิธีการสื่อสารกับลูกค้าอย่างเงี้ยครับ มันจะเป็นซิสเต็มหนึ่งที่ช่วยทำให้ลูกค้าเนี่ยคือเกิดความพึงพอใจ ชัดเจน และก็ที่สำคัญก็คือปลอดภัยสำหรับน้อง ๆ ที่มาพัก รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน”
จากความ “ทาส” ที่เข้าใจในหัวอกและคาดหวัง สู่ “เพ็ทนีดเด็ด” โรงแรมสุนัขและแมวตอบโจทย์ทาสตัวจริง! ขอบคุณแนวคิดในการทำธุรกิจและไอเดียดี ๆ จากคุณปอ-คุณแนนที่กรุณาร่วมแบ่งปันในครั้งนี้ ทาสคนไหนสนใจกำลังมองหาที่รับฝากน้องที่สามารถจะวางใจได้ในตลอดระยะเวลาซึ่งต้องห่างกันแต่เราก็เชื่อใจได้ว่าลูกจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดโรงแรม Pet Needed ก็ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร. 089-351-6919 แอดไลน์: https://linktr.ee/Petneeded ที่ตั้งอยู่ในโครงการ มาร์เก็ต อเวนิว แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ การเดินทาง/แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/rMZmuP2CkTPXc6Pb7