xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) “ป้าบุญคาเฟ่” ชู “ความต่าง” เพื่อไปต่อ จากครัวเล็กสู่คาเฟ่ครบวงจร ยอดขายไม่ธรรมดาปีนี้มาแน่ 500 ล้านบาท!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทำความรู้จัก “ป้าบุญคาเฟ่” คาเฟ่ครบวงจรที่มีทั้งร้านอาหาร สวนสัตว์ ห้องสัมมนา และสนามเด็กเล่น สถานที่พักผ่อนหย่อนใจแลนด์มาร์กพัทยาที่เริ่มจากครัวเล็กๆ ต่อยอดเป็นคาเฟ่ที่มีครบจบในที่เดียว ชูจุดแข็งสร้าง “ความต่าง” เพื่อให้ธุรกิจไปต่อและมีจุดยืนในตลาด พร้อมขยายสาขาอย่างเนื่อง ตั้งเป้าขยายตามหัวเมืองทั่วประเทศ คาดปีนี้สร้างยอดขายกว่า 500 ล้านบาท


คุณภาณุเดช สุวินิจจิต รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน CFO ป้าบุญคาเฟ่ เล่าว่า จุดเริ่มต้นเริ่มมาจากทำเป็นร้านอาหารครัวป้าบุญก่อนประมาณ 10 ปี และค่อยต่อยอดมาเป็นคาเฟ่ โดยมีคุณอำพล ยุติศรี เป็นประธานกรรมการบริษัท ซึ่งในช่วงที่ทำครัวป้าบุญได้ขยายสาขาเพิ่มจนในที่สุดขยายเป็นคาเฟ่ที่เปิดตั้งแต่เวลา 08.00-00.00 น. ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็น “ป้าบุญคาเฟ่”


จุดเด่นของป้าบุญคาเฟ่คือการมีพื้นที่สำหรับโต๊ะอาหารให้กว้างขึ้น พร้อมกับดูแลห้องน้ำให้แตกต่างจากที่อื่นให้สะอาด และมีแม่บ้านดูแลอยู่ตลอดเวลา ออกแบบคาเฟ่ให้ดูโล่งโปร่งสบายตาน่าพักผ่อน โดยมีทั้งห้องอาหารคาราโอเกะ และมีซุ้มด้านนอกเพื่อชมบรรยากาศบวกกับมีสัตว์เลี้ยงให้ชม มีสนามเด็กเล่นรองรับสำหรับครอบครัวที่มีเด็กมาด้วย ทำให้ตอบโจทย์ลูกค้าทุกเพศทุกวัย


ในแต่ละปีป้าบุญคาเฟ่มีการวางแผนขยายสาขาไว้ปีละประมาณ 1-2 สาขาเพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมวางแผนขยายเข้ามาในพื้นที่ปริมณฑลเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ โดยจุดแข็งของป้าบุญคาเฟ่คือการเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทย และเน้นคนในพื้นที่มากกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจให้คนในชุมชน ซึ่งสาขาที่จังหวัดชลบุรีเริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการบ้างแล้ว


เหตุผลที่เลือกเจาะกลุ่มลูกค้าในพื้นที่มากกว่านักท่องเที่ยวคือมีความต้องการให้เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนของคนในพื้นที่จริงๆ รวมถึงราคาอาหารเป็นราคาที่สามารถเข้าถึงได้เมื่อเปรียบเทียบกับร้านอาหารที่เจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ นอกจากนี้ ในการทำการตลาดนั้นทางคาเฟ่จะเน้นทำการตลาดออนไลน์ทั้งหมด เพื่อโปรโมตร้านให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทางโซเชียลมีเดียได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งทำคอนเทนต์ลงในช่องโซเชียลของตัวเองอีกด้วย


จุดที่พลิกผันของการทำป้าบุญคาเฟ่นั้น คุณภาณุเดช เปิดเผยว่าโควิด-19 ถึงแม้จะเป็นวิกฤตที่ทำให้ทุกฝ่ายได้รับผลกระทบในทางที่ไม่ดี แต่ระบบจัดการของทางร้านพร้อมกับพนักงานทุกคนต่างมีใจที่จะสู้และก้าวต่อด้วยใจ ส่งผลให้ธุรกิจดำเนินมาได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงจุดเปลี่ยนหลักๆ คือ การได้เข้าร่วมอบรมของตลาดหลักทรัพย์เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ พร้อมได้องค์ความรู้มาพัฒนาธุรกิจให้เติบโต ปรับเปลี่ยนการทำงาน การจัดการคนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ในปัจจุบันมีมินิครัวกลาง และเชฟมืออาชีพมาพัฒนาอาหารให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น


สำหรับยอดขายนั้นเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมามียอดขายประมาณ 300-400 ล้านบาททุกสาขารวมกัน โดยคาดว่าปีนี้จะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 500 ล้านบาทรวมกันทุกสาขา นอกจากนี้ ในช่วงไฮซีซันกับโลว์ซีซันมีผลต่อยอดขาย เนื่องจากในช่วงปิดเทอมยอดขายจะมากกว่า ส่วนช่วงโลว์ซีซันจะลดลงประมาณ 20-30%


“ถ้าเราไปทำในสิ่งที่มีคนทำอยู่แล้ว ไปแข่งก็ทำให้ตลาดเดือด เช่น ไปทำคาเฟ่เหมือนกันแล้วเราไม่มีจุดต่างอะไร เราก็เป็นคาเฟ่ไม่ได้ต่างจากเขา มันก็ไปตีกันยับเลย แต่ว่าของเรามันมีความต่างอยู่ค่อนข้างเยอะคือบรรยากาศต่างจากที่อื่นอย่างแน่นอน แล้วเราก็เป็นคาเฟ่ที่มีอาหารไทยหนักๆ ด้วย คือถ้าธุรกิจที่ไม่มีความต่างเลยก็จะแข่งกับเขาลำบากครับ” คุณภาณุเดช ระบุ


ทั้งนี้ การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในมุมมองของคุณภาณุเดชคือการเอาลูกค้าเป็นที่ตั้ง ซึ่งมีส่วนอย่างมากในการทำธุรกิจ เพราะว่าทุกอย่างที่ทางร้านพัฒนาล้วนมาจากการสำรวจพฤติกรรมลูกค้าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น บรรยากาศ ห้องน้ำ การบริการ อาหาร ราคาและคุณภาพ ล้วนมาจากฟีดแบ็กของลูกค้าทั้งหมด โดยนำมาพัฒนาปรับปรุงให้ตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด


อย่างไรก็ตาม ในการทำธุรกิจแน่นอนว่าจะต้องมีการตั้งเป้าความสำเร็จและตั้งเป้าการเติบโต ป้าบุญคาเฟ่ก็เช่นเดียวกัน การเติบโตของป้าบุญคาเฟ่จะเป็นไปในทิศทางของการขยายสาขาไปตามหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อให้ครอบคลุมและเจาะกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น ซึ่งเรียกได้ว่าในปัจจุบันประสบความสำเร็จแล้วระดับหนึ่ง แต่ยังมีการวางแผนต่อยอดในอนาคตอย่างต่อเนื่อง

ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook :
ป้าบุญคาเฟ่








* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น