xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) ขายโจ๊ก 2 ชั่วโมงกว่าได้วันเกือบ 5,000 งานโซเชียลก็ตามเข้าอีกรัว ๆ กว่าจะมาเป็น “แจ็คพ่อค้าโจ๊ก”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ผมว่าโซเชียลเนี่ยมีประโยชน์มากคนอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระแต่บางทีผมไม่เคยโปรโมตร้านของผมเองเลยนะเพราะว่าร้านผมเป็นร้านริมทางอย่างเงี้ย เราก็เลยไม่อยากโปรโมตผมกลัวมาแล้วผิดหวังเราก็เลยโปรโมตโดยการทำคลิปสนุก ๆ ให้คนดู ให้รู้จักเราดีกว่า


พอคนรู้จักเราเขารู้ว่าเราขายโจ๊กเนี่ยเขาก็มาหาเราเพื่อที่จะอุดหนุนมาเจอมาเที่ยวมาหามาเต้นอะไรเงี้ย” แจ็คพ่อค้าโจ๊ก หรือชื่อจริงของเขาก็คือ นายอิทธิพล บุญลาภ เจ้าของร้าน “โจ๊กนาวา BY แจ็คพ่อค้าโจ๊ก” วันนี้เขาคือหนึ่งใน Influencer คนดังที่แจ้งเกิดบนโลกโซเชียลมาจากการสร้างตัวตนในแพลตฟอร์ม TikTok ก่อนและหนึ่งในภาพจำที่เหล่า FC ตลอดจนคนทั่วไปรู้จักเขาคนนี้เป็นอย่างดีก็คือ การเต้น“จริง ๆ ทำคลิปมา ทำคลิปเล่นเนี่ยมาเรื่อย ๆ แหละก็ไม่ได้คิดว่า จะปั้นตัวเองหรือว่าดังหรือจะอะไรอย่างเงี้ยพี่ ก็เหมือนคนอื่น ๆ ที่เล่นติ๊กต่อกกัน ทีแรกไม่ได้มาจากการเต้นทีแรกอ่ะร้องเพลง โจ๊กต้องต้มให้เละอะไรเนี่ย แล้วทีนี้มันเป็นไวรัลคลิปนั้นน่ะ ใช่ แล้วทีนี้เราก็มา “เต้น” เล่นของเราเรื่อยเปื่อยที่ร้านก็กลายเป็นว่าคนชอบเข้าไปอีก ก็กลายเป็นไวรัลอีก ก็ทีนี้ก็เลยทำยาวแล้วก็มาช่วงโควิดฯ ช่วงโควิดเราก็ขายหน้าร้านไม่ค่อยได้เราส่ง เราก็เลยต้องยิ่งทำออนไลน์เร่งพอคนเป็นไวรัลแล้วเราก็เลยทำต่อ ทำต่อก็เต้นเล่นอย่างเงี้ย เพื่อให้คนรู้จักร้านเราด้วยแล้วเราก็เล่นสนุกของเราไปด้วย ก็กลายเป็นคน ผู้ติดตามเยอะขึ้น ๆ เยอะขึ้น นั่นแหละที่มา” พี่แจ็คยังบอกด้วยว่าแต่เวลาขายโจ๊กอยู่บางทีเราก็เต้นไม่ได้นะเวลาที่แบบลูกค้ารุม ๆ อย่างเงี้ย เพราะเราไม่รู้ว่าใครจะเล่นกับเราหรือไม่เล่นกับเราบางทีเขารีบ แต่ถ้าแบบว่าพี่แจ็คมาเต้นกันอะไรอย่างเงี้ย โอเคได้ เราก็เปิดเพลงเล่นกับลูกค้าเต้นไปทำคลิปไปด้วยได้


จากพนักงานประจำ สู่ “แจ็คเดลิเวอรี” ผู้มาก่อนกาล
ร้านโจ๊กเปิดมาประมาณ 8-9 ปีแล้ว เท่าอายุลูกชาย เมื่อก่อนทั้งสองคนก็ทำงานบริษัทกัน “เบื่อครับ เบื่อคน มันถึงจุดที่ว่าเบื่อคนเบื่องาน แฟนเป็นผู้จัดการเมื่อก่อนนี้แล้วถูกกดดัน ถูกกดดันยอดขายอะไรงี้แล้วเราทำงาน เราก็เบื่อเพื่อนร่วมงานบางคนเบื่องาน เบื่อจำเจแล้วเราก็มาถูกลดโอฯ ลดเงินด้วยอย่างเงี้ย เราก็เลยตัดสินใจออก” ตอนแรกแฟนออกก่อน แล้วก็แฟนขายผมก็ขายตอนเช้าตอนบ่ายผมไปทำงาน ผมกลับมาเที่ยงคืนผมนอน 2 ชั่วโมง ตี 2 ต้องตื่นมาเคี่ยวโจ๊ก เคี่ยวโจ๊ก-ขายของถึง 09.00 น./10.00 น. เข้าไปนอน“ผมอยู่อย่างนี้เป็นปีพี่ ผมทำปีกว่าแบบนี้ นอนวันละ 2 ชั่วโมง 3 ชั่วโมง เลิกงานมาแวะตลาดซื้อของเข้าบ้าน นอน2 ชั่วโมง ตี2 เคี่ยวข้าว อยู่อย่างเงี้ยประมาณปีนึงจนแบบว่า ไม่ไหวแล้ว! ตัดสินใจออกดีกว่า” ตอนนั้นก็ยังไม่ดีก็พออยู่ได้ ก็เรื่อย ๆ กระท่อนกระแท่นพอได้จ่ายค่าใช้จ่ายในบ้าน ชั่วโมงนั้นวัดดวงด้วยดูจากยอดขายของเราแล้ว เรามาเปิดเราออกจากงานมาเรามาเปิดอีกร้านหนึ่ง ทีแรกมาเปิดอีกร้านหนึ่ง คนละร้านแฟนอยู่ตรงนี้เราก็ไปขายอยู่อีกร้านหนึ่งแล้วทีนี้กำลังเราไม่ถึง ไม่ไหว เราก็ต้องยุบอีกร้านนึงมาเต็มที่ร้านนี้ส่งด้วยวิ่งส่งเองด้วย วิ่งส่งเนี่ยเส้นคลอง 3 ผมก็วิ่งส่งเอง แอปฯ ก็เข้าด้วยแต่ว่า เราส่งก่อนที่จะมีแอปฯ อีกนะ แอปฯนี่เพิ่งจะมาเกิด ใช่ ตอนนั้นมันยังไม่มีแอปฯ ผมวิ่งส่ง ใช่ ผมมาก่อน ผมวิ่งส่งทั่วเลย” ตอนนั้นก็ถือว่าดีเลย ยอดสองร้านก็เท่ากันก็เท่ากับยอดสองร้าน เราได้วิ่งส่งได้ลูกค้าข้างนอกได้ลูกค้าในหมู่บ้านฯ นี้ด้วยเราก็เลยว่าเอออยู่ได้แล้วหน้าหมู่บ้านลงมาก็เจอเลย ผมว่าหลัก ๆ เลยมีที่จอดรถ ผมเคยมองหาที่อื่นนะแต่ผมกลัวเรื่องที่จอดรถ บางทีแล้วตอนนี้คนมาหาผมค่อนข้างเยอะ แล้วอีกอย่างคือตรงนี้เราสะดวกในเรื่องของการได้วิ่งส่งเองด้วยได้ลูกค้าที่ไม่ออกจากบ้านอย่างเงี้ย ลูกเล็กเด็กแดง คนป่วย เราก็ได้ส่งเนี่ยสองหมู่บ้านนี้สองหมู่บ้านฯ”


เรื่อง “โจ๊ก” แจ็คจริงจัง!
ที่มาของการมาขายโจ๊กก็คือ เป็นคนชอบทำกินอยู่แล้วและก็ชอบกิน “โจ๊ก” อยู่แล้ว แล้วโจ๊กก็เป็นสูตรที่ผมทำขึ้นมาเองไม่ได้ไปเอาสูตรจากไหนเลย ไม่ได้มีวิชาด้วยทางด้านนี้เริ่มแรกผมแบบโง่ ๆ เลย(หัวเราะ) ถ้าพูดแบบภาษาบ้านบ้าน ไม่รู้อะไรเลย ทำเองเลยก็มีดูในยูทูบบ้างดูแค่แต่ในนั้นเขาไม่ได้บอกส่วนผสมว่าต้องใส่เท่าไหร่ ๆ แค่บอกว่าทำยังไง แค่วิธีทำ เราก็มาทำเองเป็นหม้อ ๆ ทำกินเอง ทำแจก ด้วยความที่เราไม่รู้แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรตอนนั้น ก่อนที่จะออกจากงาน

“โจ๊กของผมจะเป็นโจ๊กที่ค่อนข้างข้น และก็เคี่ยวด้วยเตาถ่าน ใช้เตาถ่านตั้งแต่เริ่มเคี่ยวจนขายจะอยู่บนเตาถ่านตลอด หลายชั่วโมงมากข้าวจะเนียนจะข้นอยู่ตลอดเวลา ใช่ ผมไปอย่างบางทีบ่ายสอง-บ่ายสามผมเอาไปให้เขากิน โจ๊กของผมมันก็ยังข้นอยู่เลย” หรืออย่างหมูสับที่ร้านใช้อยู่ก็จะ หมักเองปรุงรสขึ้นมาเอง เครื่องในก็มีสูตรล้างเพื่อไม่ให้มันเหม็นหรือมีกลิ่นเพราะบางคนที่ไม่ชอบกินเครื่องในเลยคือเรื่องกลิ่น ไข่ลวกก็ต้องมีสูตร(ไข่ลวกของที่ร้านจะเป็นสูตร “ไข่ออนเซ็น”) หรือว่าท้อปปิ้งต่าง ๆ ที่ต้องมีสำหรับโจ๊กซึ่งที่ร้านก็จะพิถีพิถันในเรื่องของการเตรียมเรื่องของคุณภาพเป็นอย่างดี “ของผมจะเป็นโจ๊กที่แบบเราโตมาแบบไหน กินโจ๊กแบบไหนก็จะเป็นโจ๊กแบบนั้น ที่เราเคยโตมาผมจะไม่มี หมูกรอบหรือจะไม่มีอะไรที่มันแปลกไปจากโจ๊กหมูเลย ใช่ เป็นโจ๊กในความทรงจำของเราของทุก ๆ คนในวัยเด็ก สมัยก่อนเราไม่มีหรอกครับโจ๊กมาใส่กุ้งใส่หมูกรอบอะไรเงี้ย เราก็เป็นโจ๊กหมูสับแบบนี้บ้านบ้านเลย”


จากทำงานเงินเดือนตอนนั้นขายโจ๊กมันก็ยังได้ไม่เท่า แต่เราก็พยายามที่จะยืนพื้นให้มันได้(กำไร) อยู่ที่ประมาณ 500-600 บาท/คน/วัน คือเฉลี่ยต่อคนให้มันได้ไม่ต่ำกว่าเรทนี้ ก็เหมือนเราทำงานประจำ ตอนนั้นก็มีภาระค่าใช้จ่าย (ผ่อนบ้าน&ผ่อนรถ) ไม่ต่างจากคนอื่น ๆ เหมือนคนทั่วไปที่ติดภาระการผ่อนค่างวด แต่เราก็อาศัยว่าตอนนั้นเราไม่หยุดเลยเราขายเพราะว่าเราไม่มีรายได้อย่างอื่น ก่อนที่เราจะมาทำโซเชียลนะครับ


สร้างภาพจำ(ตัวตนในโลกโซเชียล) : แจ็คพ่อค้าสายเต้น
“คลิปเป็นไวรัล พอมันเป็นไวรัลปึ๊บเนี่ยเราก็เลยมองเห็นว่าเฮ้ยโซเชียลเนี่ยมันช่วยเราได้นี่ มันไปต่อได้ หลังจากนั้นเราก็เลยเริ่มตั้งใจที่จะเล่น ซึ่งไวรัลคลิปแรกจะเป็นเพลงโจ๊กของพี่นุ้ยเชิญยิ้ม ที่เขาเล่นอยู่ในคาเฟ่ โจ๊กต้องต้มให้เละถ้าต้มไม่เละมันไม่เป็นโจ๊ก แล้วเราก็ยืนตักโจ๊กก็ร้องเพลงนี้ เราลิปซิงค์ในช่องติ๊กต่อกแล้วมันก็ตรงกับอาชีพเราด้วยมั้ง คนมันก็กลายเป็นไวรัลตอนนั้น เยอะครับตอนนั้น 3 ล้านกว่าวิว! ข้ามวันเองครับ 3 ล้านกว่าวิวพีกเลย ออกข่าวเพื่อนโทรมาบอกแจ็คเฮ้ยคลิปมึงออกข่าวเนี่ย ออกหมดเลยหลายช่องเลย เขาเอาคลิปเราไปลงข่าว” ก็กลายเป็นเพจโน้นเพจนี้ก็เอาคลิปเราไปลง คนเริ่มรู้จักแต่ยังไม่ค่อยมีใครตามเรามาเพราะว่าตอนนั้นยังแรก ๆ อยู่ เราก็เลยว่ามันไปต่อได้หลังจากที่คลิปนั้นเป็นไวรัล เราก็เลยเริ่มทำมาเรื่อย ๆ ทำมาสักพักหนึ่งก็เริ่มมีโฆษณาเริ่มมีรายได้จากการโฆษณา โฆษณาเริ่มเข้า“เป็น TikTok แล้วเขาจ้างเรารีวิว ใช่ รายได้ตรงนั้นก็เข้ามาทีนี้พอเราทำไปเรื่อย ๆ เนี่ยคนก็เริ่มรู้จักเรามากขึ้น ตอนแรกเราก็ยังไม่ได้ทำเพจเฟซบุ้ก จนติ๊กต่อกเราเริ่มมีชื่อเสียงพอคนเริ่มรู้จัก เรามาทำเพจเฟซบุ้กคนก็ตามจากเพจมาอีก” คอนเทนต์ต้องทำทุกวันเลย อย่างน้อยต้องมี 1 คลิป แต่ถ้าวันไหนมีคนมาเล่นกับเรามาเต้นกับเราสมองโลดแล่น คิดอะไรออก ก็มากกว่า1 บางที 3 คลิปก็มี(หัวเราะ) ถ้าถามว่าการเต้นเริ่มมาตอนไหนไม่รู้เลย แต่ก็เริ่มเต้นมาหลังจากเป็นไวรัลก็เต้นสนุกกับแฟนอย่างเงี้ย หรือช่วงไหนมีเพลงไหนที่เป็นกระแสก็จะเล่นทุกเพลงด้วย แล้วก็คนก็ติดภาพจำเราในการเต้นไปเลย ก็ทำอย่างนั้นมาตลอด” ยอดวิวจากการเต้นก็ดี(ดีที่สุดแล้ว) บางทีมีคนมาขอเราเต้น เต้นด้วยกันทำคลิป มาจากที่อื่นมาจากเหนือมาจากใต้มาถ่ายคลิปกับผม มาทำคลิปกันมาเต้น อย่างคนที่เขาทำคลิปของช่องโน้นช่องนี้เขาเห็นเราเขาก็มาถ่ายกับเรา เต้นกับเรา เราก็เลยมองว่าโซเชียลเนี่ยมันไปต่อได้นะเราก็เลยไม่ทิ้งโซเชียลด้วย ก็ทำควบคู่ คู่ขนานกันไปเลยระหว่างขายโจ๊กกับโซเชียล


แจ็คคนกลัวเมีย!
ตอนหลังมีเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวด้วย “มีครับมี เอาจากชีวิตของแต่ละคนเนี่ยแหละครับ บางทีเราเต้นบ่อย ๆ คอมเมนต์ลบ ๆ ก็มี เต้นอีกแล้ว เต้นอีกแล้ว ไร้สาระ! เดี๋ยวก็เจ๊งเต้นอย่างเงี้ย อะไรอย่างเงี้ย บางคนเขาไม่รู้คนที่คอยจ้องจะแอนตี้เรามี! ก็มีด่า ก็มีด่าแบบว่าด่าจริงจังมาก (หัวเราะ) บางทีผมก็ไม่รู้ว่าด่าทำไม” แจ็คกลัวเมีย(ทำอะไรหรือพยายามจะกบฏยังไงแต่สุดท้ายก็แพ้ภัย พ่ายแพ้เมียตลอด) ก็เป็นอีกเรื่องราวหนึ่งที่พยายามจะสอดแทรกตัวละครอื่น ๆ เพิ่มขึ้นมาด้วย มันอาจจะมีอยู่ในชีวิตจริง มันอาจจะอยู่ในจิตใต้สำนึกเราลึก ๆ ด้วยแหละ“จริง ๆ เริ่มจากแฟนเนี่ย เริ่มเพิ่มตัวละครก็คือเพิ่ม แฟน ขึ้นมา คนก็จะเริ่มจำแฟนได้แล้วตอนนี้ แล้วก็จะเพิ่มคนในครอบครัว พี่ชาย พี่สาวเรา กันคนว่าดูเราคนจะเบื่ออะไรเงี้ยเราก็ทำเป็นเรื่องราว ทำคลิปขึ้นมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดกับทุกคนแหละ” ต้องมีความจริงอยู่ในนั้น ที่ผมเล่นคือเอาความจริงมาเล่นส่วนใหญ่(หัวเราะ) เพิ่มตัวละครเพิ่มเรื่องราวอื่น ๆ เข้ามา แต่เมื่อใดก็ตามที่ลูกค้ามาที่ร้านส่วนใหญ่ก็คือจะมาขอเต้นด้วย แต่จริง ๆ ก็ไม่ได้ขอเต้นทั้งหมดบางทีมีเรื่องราวคิดมาในหัวเลยก็มี เขาคิดมาจากบ้านเลย แล้วแค่มาอาศัยเราให้เป็นตัวละคร “พี่แจ็คมาถ่ายอย่างงี้ดีกว่ามันมีเรื่องราวแบบนี้ ๆ ผมคิดอย่างงี้พี่ ผมอยากถ่ายกับพี่” ก็มาถ่ายได้ก็มา ก็ได้ผมก็ไม่ติดอะไรเราก็ถ่ายเล่นกับลูกค้าไป “เราก็ได้คอนเทนต์ด้วยแล้วเขาก็มาอุดหนุนโจ๊กเราด้วย แต่ว่าต้องดูจังหวะถ้าดูจังหวะลูกค้าอยากเต้นแล้วหน้าร้านเขาอยากเห็น โอเคเขายอมเขาบอกหนูไม่รีบพี่ทำเลยเล่นไปเลย ได้ แต่บางทีเราก็ต้องดูว่าลูกค้าคนนี้เขารีบนะ เราก็จะต้องบอกอีกคนก่อนว่าพี่รอแป๊บนึงนะอะไรเงี้ย” ก็ต้องดูด้วยเพราะว่าขนาดเราไม่ได้ทำ เราแค่เต้นลงโซเชียลบางทีเรายังโดนด่าในโซเชียลเลย


ถามพี่แจ็คว่ามี “ตัน” บ้างไหม? มี ตันผมเป็นเหมือนทุกช่องนั่นแหละ ตัน เวลาผมตันผมก็ออกข้างนอกเลย ออกข้างนอกไปข้างนอกเพื่อให้ ไปหาเหตุการณ์ไปหาเรื่องราวอะไรที่มันต้องทำ“แต่ว่าในร้านเนี่ยส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยตันหรอก ถ้าสมมุติว่าผมมาขายของนะบางทีเขาก็จะมีเรื่องราวมาให้ผมทำ บางทีเราก็คิดได้เองอย่างเงี้ย บางทีคิดอะไรไม่ออกลูกค้ามาขอเต้นด้วยก็เอ้าได้แล้ว”


รายได้ขายโจ๊กก็ไม่แผ่ว แถมงานจากโซเชียลก็เข้ามารัว ๆ
เห็นพี่แจ็คมีคลิปที่ไปขอแม่ค้าร้านแกงใต้เต้นด้วยเพื่อแลกกับการรีวิวร้านให้ อันนั้นก็คอนเทนต์ด้วยและก็รีวิวด้วย ใจผมอยากจะทำอย่างนั้นมีหลาย ๆ ร้านเลย แต่บางทีเวลาเรามันไม่ได้ บางทีเราขายของเช้าอย่างบ่ายเราต้องเตรียมของ นอกเสียจากว่าเราไปแล้วไปเจอแบบเอออร่อยจริง! เราก็เลยถ่ายเดี๋ยวนั้นเลยขอเขาถ่ายเลยว่า “พี่ผมถ่ายให้เอาไหม แต่พี่เต้นกับผมนิดนึงนะ” ก็จะเป็นประมาณนั้น ก็จะได้ถ่ายแบบนั้นเลย Real เลยแล้วเราก็มาตัดต่อเอา ณ วันนี้ถ้าถามถึงเรื่องรายได้ก็จะมีทั้งรายได้หลักเลยจากการขายโจ๊ก รายได้ที่มาจากการรีวิว การโฆษณา และก็จากโซเชียล“ผมว่ายุคนี้นะไม่ควรทิ้งโซเชียลโดยเด็ดขาด เราอยู่ในยุคของโซเชียลจริง ๆ เลย ใครที่เข้าถึงโซเชียลได้ก็ผมว่าชั่วโมงนี้ได้เปรียบ เพราะว่าแม่ค้าตามข้างทางเล็ก ๆ น้อย ๆ เนี่ยที่เขาไม่เข้าถึงโซเชียลเนี่ยหลาย ๆ ร้านแย่เลยนะ เขายังไม่รู้หรืออาจจะยังเข้าไม่ถึงทำไม่เป็นอะไรอย่างเงี้ย เราก็เลยอยากจะทำคลิปแบบที่ผมทำเนี่ย ไปชวนเขาเต้นแล้วก็ให้เขาเข้าถึงในโซเชียล”มันก็จะได้ทั้งสองอย่างได้ทั้งคนดูเห็นเราเต้นด้วย แล้วก็ร้านค้าก็จะได้ประโยชน์จากการที่เราไปถ่าย คนดูก็ได้เห็นของกินตรงนี้เพิ่มเติม มันเป็นคลิปที่ผมอยากทำ “เต้นแลกรีวิว”

“ขายโจ๊กตอนนี้ก็อยู่ผมขาย ผมขายแค่จากตี 5 ครึ่งเนี่ยก็คือเริ่มขายจริง ๆ เนี่ยประมาณเกือบ ๆ 06.00 น. ถึงประมาณสัก 09.00 น. ประมาณ 3 ชั่วโมงเฉลี่ยเลยวันละ 3 ชม.ทุกวัน ยอดอยู่ที่ประมาณ 4,000 กว่าบาท ได้แน่ ๆ เราไม่ได้ขายยืดเราแค่หมดปุ๊บเดียว เพราะกลางวันเราต้องไปทำโซเชียลไปทำอย่างอื่นต่อ” ขายหมดหม้อก็คือเลิกเลย เราจะได้มีเวลาไปทำคอนเทนต์ไปทำโฆษณาที่เขามาจ้างเราต่อ เราก็จะมีรายได้ตรงนั้นเพิ่มเติมที่มาจากโซเชียล


อุบัติเหตุ “ความดัง”!!! โซเชียลช่วยได้ ขายของแบบไม่เน้นการเชียร์ร้านตัวเอง
เราถามพี่แจ็คว่ามีคนมาขอซื้อแฟรนไชส์บ้างไหม? คำตอบ คือ แฟรนไชส์มีคนถามเยอะมากแต่เราไม่มีความรู้ เราก็เลยยังไม่ได้ปล่อยออกไป ยังไม่ได้ศึกษาจริงจังที่จะขายแฟรนไชส์ด้วย เราก็เลยขายตรงนี้ไปก่อน“แต่ถามว่าอยากมีหน้าร้านไหม อยากมี แต่เรายังหาไม่ได้เพราะว่าหนึ่งคือเรื่องที่จอดรถ สองคือค่าใช้จ่ายที่มีที่จอดรถเนี่ยค่าใช้จ่ายก็จะเยอะ และเรายังคงขายราคานี้อยู่เราไม่อยากเพิ่มให้มันเปลี่ยนราคา เราขายราคาที่แบบว่าใครก็กินได้ 30 บาท 40 บาท สมมุติว่าถ้าเราไปอยู่ในร้านใหญ่เราก็ต้องเพิ่มด้วยภาระค่าเช่า เราก็ต้องเพิ่มราคาโจ๊กขึ้นมาอย่างเงี้ย เราก็กลัวว่าเอ้ยคาแรคเตอร์การขายโจ๊กของเราแบบนี้มันจะหายไปไหม แต่ในใจก็อยากมีร้านใหญ่ ๆ แต่ต้องหาดี ๆ หาต้องมีที่จอดรถ ค่าเช่าไม่แพงมากเท่าไร และก็เรายังขายในราคานี้ได้”


บางวันเราไม่ได้ดีตลอด ก็มีบ้างที่เงียบ ๆ บางวันเหลือก็มีแต่ว่าไม่เยอะ เราก็คิดว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ขายใหม่ได้ไม่เป็นไร มีเฟลบ้างในช่วงแรก ๆ เพราะว่าตอนนั้นมันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เราหาเงินได้เข้าบ้าน ณ เวลานั้น พอเราขายไม่ได้เราก็เครียด“แต่ถามว่าอุปสรรคในการค้าขายมีไหม ผมว่าผมไม่มีนะ ก็ขายได้ของเราเรื่อย ๆ” ตอนนี้ก็ยังทำช่วยกัน 2 คนกับแฟน แบ่งกันคนละหน้าที่มันก็ยังสามารถบริหารจัดการได้อยู่ แฟนก็จะเป็นคนเตรียมของ ตัวผมเองก็จะเป็นคนเก็บคนล้างของ“แล้วก็อีกอย่างหนึ่งเช้าเราขายเสร็จเนี่ย ตอนเช้าเราก็มีเวลาไปส่งลูก มันมีเวลาในครอบครัว ใช่ ตอนเย็นเราก็มีเวลาไปรับลูกเองเราไม่ต้องเสียค่ารถ ไม่ต้องไปฝากลูกไว้กับใครเรามีเวลาดูลูกได้เต็มที่เลย ค้าขายชีวิตเราก็เปลี่ยน” อย่างวันไหนไม่ไหวจริง ๆ เหนื่อยจริง ๆ ก็นอนกลางวัน บางทีหลับลึกไปเลย ตื่นสายไปเลยแต่สายสุดนี่ก็ไม่เกิน 06.00 หรือ 07.00 น. ก็ตื่นเด้งแล้วรู้สึกว่าสายแล้ว! เวลาวันไหนที่เราจะต้องปิดร้านอย่างบางทีมีธุระบ้างก็จะแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อน ในเพจเฟซบุ๊ก: แจ็คพ่อค้าโจ๊ก และก็ แจ็คพ่อค้าโจ๊ก อิทธิพล บุญลาภ จะมี 2 ช่องทาง แล้วก็ TikTok : แจ็คพ่อค้าโจ๊ก อีกหนึ่งช่องทางด้วย


เป็นที่น่าตื่นตาว่าตลอดระยะเวลาที่ทีมงานไปถึงร้านตั้งแต่ 06.30 น. และลากยาวในการทำงานสัมภาษณ์จนถึงประมาณสัก 09.30 น. ร้านโจ๊กนาวา BY แจ็คพ่อค้าโจ๊ก ที่เปิดขายอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการหมู่บ้านพฤกษา 64/2 ถนนเลียบคลอง 3 ย่านคลองหลวง ปทุมธานี ไม่เคยขาดสายเลยลูกค้าแวะเวียนเข้ามารุมกันซื้อโจ๊กอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่ง “โจ๊ก” หมดเกลี้ยงหม้อ! แต่ก็ไม่วายมีลูกค้าเก็บตกแวะเข้ามาถามแล้วก็ต้องกลับไปมือเปล่า พี่แจ็คบอกว่าก็จะเป็นอย่างนี้แหละทุกวันที่ตนเองมาเปิดร้านขายและเราก็ยังเห็นด้วยว่ามี ร้านกาแฟสดแบบฉบับมินิ ๆ สองล้อที่ดูเก๋ไม่หยอกก็มาร่วมแจมการขายด้วย มีร้านหมูปิ้งโบราณหมูหน้าตาน่ากินมาก ๆ ซึ่งแต่ละร้านก็สาละวนในการขายดีด้วยไม่แพ้กันเลย“ก็เป็นอย่างนี้แหละผมถึงบอกว่าโซเชียลเนี่ยมีประโยชน์มากบางคนอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ แต่บางทีผมไม่เคยโปรโมตร้านของผมเองเลยนะเพราะว่าร้านผมเป็นร้านริมทางอย่างเงี้ยเราก็เลยไม่อยากโปรโมต ผมกลัวมาแล้วผิดหวังเราก็เลยโปรโมตโดยการทำคลิปสนุก ๆ ให้คนดูให้รู้จักเราดีกว่าพอคนรู้จักเรา เขารู้ว่าเราขายโจ๊กเนี่ยเขาก็มาหาเราเพื่อที่จะอุดหนุนมาเจอมาเที่ยวมาหามาเต้นอะไรเงี้ย มันก็เป็นเรื่องที่ดีอีกเรื่องหนึ่ง”


ในมุมของผมก็คือง่ายมากเลย “ของ” ของเราจะอร่อยไม่อร่อย การเป็นมิตรกับลูกค้าเนี่ยสำคัญเป็นอันดับหนึ่งแน่ ๆ ล่ะสำหรับการขายของนะ บางทีของเราอาจจะไม่ได้ถึงอร่อยเว่อร์แต่พ่อค้าอารมณ์ดีจังเลยพ่อมีปฏิสัมพันธ์กับเราดีจังเลย พ่อค้าดีเราก็ไปกินต่อ เขาก็มากินซ้ำ แต่กับบางร้านอร่อยมากเว่อร์แต่พ่อค้าแบบโอ้โหหยิ่งมากไม่ต้อนรับลูกค้า ไม่ง้อลูกค้าเลย ก็ครั้งเดียวนะผมว่าสำหรับคนที่ไปกินนะ ให้อร่อยแค่ไหนผมว่าอย่างแรกจะต้องเป็นมิตรกับลูกค้าก่อน

ก็จะฝากอีกเรื่องหนึ่ง “โซเชียล” ที่ผมบอกว่าเราอยู่ในยุคของโซเชียล พยายามหาจุดแตกต่างจากร้านอื่นจากคนอื่นให้ได้มากที่สุด สักวันหนึ่งเราจะเจอ “ตัวตน” ของเราในโซเชียลที่เราทำเองเนี่ยแหละ จริง ๆ แต่ถ้าเราไม่ทำเราจะไม่รู้เลยว่าเฮ้ยเรามันจะไปในทิศทางไหนได้ สักวันหนึ่งเราทำเราลงมือทำเข้าไปในโซเชียลจริง ๆ เดี๋ยวเราจะเห็นเลยว่า อุบัติเหตุความดัง! มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน จริง ๆ ผมว่าในคนที่ทำโซเชียลจริง ๆ ไม่มีใครคาดคิด เพราะบางทีตั้งใจมันก็ยังไม่เกิดก็มี ส่วนใหญ่ที่เห็นไม่ค่อยมีใครตั้งใจหรอกเขาก็ทำออกมาจากตัวเองเนี่ยแหละ ส่วนใหญ่เขาก็ทำออกมาจากตัวเขาเอง แล้วมันกลายเป็นว่าอ้าว! คนนี้มันเป็นอย่างนี้วะ คนชอบ พี่สังเกตดูคนดังในโซเชียลหลายคนดัง อยู่ ๆ อ้าวนี่ก็ดังแค่นี้ก็ดังเหรอวะ! อะไรอย่างเงี้ย ซึ่งมันเป็นตัวเขาเองจริง ๆ ไงผมมองแบบนั้น



อุบัติเหตุความดัง! ที่แจ้งเกิด “ดาว” ในยุคโซเชียลมีเดียเฟื่องฟูยามนี้ กลายเป็นโอกาสการทำกินที่สร้างความสำเร็จให้อย่างถล่มทลายกับหลาย ๆ คน ที่มองเห็นและปรับตัวให้รู้เท่าทันได้ “ขายโจ๊ก 2 ชั่วโมงกว่าได้วันเกือบ 5,000 งานจากโซเขียลก็ตามอีกรัว ๆ กว่าจะมาเป็น #แจ็คพ่อค้าโจ๊ก” ขอบคุณเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจดี ๆ จากพี่แจ็ค-อิทธิพล บุญลาภ และภรรยาคนสวย เจ้าของร้าน “โจ๊กนาวา BY แจ็คพ่อค้าโจ๊ก” ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์ความสำเร็จในการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์และกลายเป็นโอกาสมากมายสำหรับการทำกินและธุรกิจที่ดีวันดีคืนตามไปด้วยอย่างน่าตื่นใจแทนจริง ๆ

สามารถติดตามผลงานหรือแวะไปอุดหนุน “โจ๊กหมูสับ” อร่อย ๆ ได้ที่ร้าน หรือค้นหาคำว่า “แจ็คพ่อค้าโจ๊ก” ที่ปรากฏอยู่ในโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม

คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น