อาร์ตทอย ของเล่นของสะสม ที่มีการพูดถึงกันอย่างมากในช่วง 1-2 ปีนี้ เพราะว่า มีของเล่นอาร์ตทอยจากทั่วโลกที่ผลิตออกมา และ สร้างกระแส จนสามารถขายทำรายได้มหาศาล ประเทศไทยเอง ก็อยากจะมีอาร์ตทอยที่เกิดจากผู้ประกอบการไทย ไปสร้างชื่อ และทำรายได้ จำนวนมาก ในตลาดระดับโลก เช่นเดียวกัน วันนี้ พามารู้จัก กับผู้ผลิตอาร์ตทอย ที่เป็นคนไทย เป็นอาชีพเสริมที่เกิดจากความรักในอาร์ตทอย เป็นนักสะสมมาก่อน วันนี้ ก็เลยอยากจะลองมาเป็นผู้ผลิตดูบ้าง
จากนักสะสม ต่อยอดเป็นผู้ผลิตอาร์ตทอย ฝีมือคนไทย
นายสุรวิชญ์ เพชรบูรณ์ เจ้าของผลงาน อาร์ตทอย Art Toy ในรูปแบบของสะสมตัวการ์ตูน ที่ทำจากเรซิน พลาสติกพีวีซี และไวนิล เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการมาทำอาร์ตทอย รูปของการ์ตูนสะสมในครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นมาจากตนเอง เป็นนักสะสมการ์ตูนชื่อดัง อย่าง โปเกมอน ดิจิมอน มาก่อน โดยหลายคนรู้จักผ่านชื่อ ทางโซเชียลฯ ที่ใช้ชื่อว่า pokemon & monster master by peat ส่วนตัวชื่นชอบการ์ตูนโปเกมอนมาตั้งแต่เด็ก และเริ่มสะสม จากสะสมก็เริ่มวาด เพราะชื่นชอบงานศิลปะ หัดวาดการ์ตูนมาตั้งแต่เด็ก
และจากชื่นชอบและหลงรักในงานศิลปะ ของผมเองมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ต่อยอดมาทำงานอาร์ตทอยที่ผมทำออกมาในขณะนี้ ทั้งหมดเป็นจุดเริ่มของอาชีพเสริมของผมในปัจจุบัน คือ การสร้างงานอาร์ตทอย รูปการ์ตูน ในคาแรกเตอร์ต่างๆ ออกมาจำหน่าย ส่วนอาชีพหลักของผมคือ การทำงานด้านภูมิสถาปนิก และจากความรู้ด้านภูมิสถาปนิก สามารถนำมาใช้กับการออกแบบและทำงานอาร์ตทอยของผมได้เช่นกัน
สร้างคาแรกเตอร์ จากความชอบ เชื่อมโยงสัตว์น้ำและวัฒนธรรม
นายสุรวิชญ์ เล่าว่า การเริ่มต้นทำงานอาร์ตทอย เริ่ม หลังจากที่ตนเองได้เป็นนักสะสมมานานพอสมควร ก็เริ่มสนใจอยากผลิตงานของตัวเอง และตัวที่เริ่มต้น ก็มาจากความชอบของตัวเองก่อน และตั้งเพจชื่อ Dot Line Planet by peat มาจากงานศิลปะ ที่มีการวาดจาก จุด(dot) เส้น(line) ระนาบplane แต่เราเล่นคำเป็น planet เพราะอยากออกแบบตัวละครในโลกต่างๆ ที่เราคิดขึ้นมาเองจากความชอบซึ่งส่วนใหญ่อ้างอิงจาก สัตว์และวัฒนธรรมของโลกนี้
ในส่วนตัวแรก ที่ทำคือ โอก้า ( O-ca ) เป็นตัวละคร ที่ออกแบบมาจากวาฬเพชฌฆาต สัตว์ที่ผมชอบที่สุด และมีความเกี่ยวข้องกับผมตอนทำ thesis เพื่อจบการศึกษา คือการออกแบบ aquarium ที่อยากให้มีสัตว์ในสวนนํ้าเยอะๆและทำให้ต้องหาข้อมูลด้านสัตว์น้ำ และทำให้มุมมองของผมต่อ ชีวิต สัตว์นํ้า และสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป ถึงผมจะออกแบบพื้นที่ในการเป็นสวนสัตว์ดีขนาดไหน ก็ยังไม่มั่นใจ ว่ามันดีพอมากกว่า มหาสมุทร แต่อีกด้านนึง ตอนนี้ ในมหาสมุทรก็ไม่ปลอดภัยต่อสัตว์นํ้าอีกต่อไป งานนี้ เลยออกแบบมาด้วยแนวคิดที่อยากให้ วาฬ มีขาที่สามารถมาเดิน วิ่งเล่นบนบกได้ และมีความน่ารัก กวนๆ กับพวกพ้องที่จะตามออกมา
และล่าสุดที่ออกแบบมาเป็นตัวพิเศษ ชื่อ tilly the sad o-ca ที่ได้อ้างอิง จากวาฬตัวจริง ที่ถูกขังในsea worldมานานหลายปี และทำให้เกิดการตายของผู้คนที่เกี่ยวข้องหลายราย ซึ่งพูดได้เต็มปากว่าเกิดจากฝีมือของมนุษย์ และอีกตัวนึง คือชุดรามเกียรติ์ ที่ล่าสุดคือกล่องสุ่ม 18มงกุฎ 18สี ที่เป็นงานเรซิน handmadeทุกขั้นตอน โดยงานนี้ได่แรงบรรดาลใจมาจากตอนเด็ก ผมเล่นโขนที่โรงเรียน และชอบรามเกียรติ์มากๆ เพราะมีตัวละครและเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ และอยากออกแบบarttoyที่วางเป็นกองทัพ แบบที่เราได้ชมในงานแสดงโขนนั่นเอง โดยแบ่งเป็น4ชุดหลักๆคือ -ลิงพญา ( monkey king ) -๑๘ มงกุฎ ( 18 crown monkeys ) -วานรเตียวเพชร ( teowphech monkeys ) -เขนลิง ( monkey warrior ) ทั้งหมดคือ ผลงานที่ทำออกมาจนถึงปัจจุบัน
ช่องทางการขาย และกลุ่มลูกค้า
สำหรับการตลาด หลักๆ เนื่องจากต้องเพิ่งเปิดตัว และแนะนำตัวเองให้คนรู้จักชิ้นงานอาร์ตทอย โดยเราพยายามแนะนำตัวเองผ่านการออกงานอาร์ตทอยตามที่ต่างๆ ที่จัดขึ้นในแต่ละปี และใช้การแนะนำโดยการลงโพสในกลุ่มอาร์ตทอย เพิ่มการมองเห็นและติดตามในเพจ ส่วนใหญ่ผลงานที่ลงไปก็จะเป็นการอัพเดทผลงานใหม่ ที่เราทำ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเพิ่งเริ่มต้น การติดตามคนรู้จักเรายังน้อยมาก ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาเพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักเรามากขึ้น ตอนนี้ การทำงานทั้งหมดจะเป็นการลงทุนมากกว่า สิ่งที่ได้ คือ เราได้ทำงานในสิ่งที่เรารัก และชื่นชอบ แต่ยังต่อยอดกลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับเราในอนาคตได้
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้า จะเป็นกลุ่มชื่นชอบงานอาร์ตทอย ที่ปัจจุบันมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็เหมือนกับเรา คือ ชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก พอได้เห็นอาร์ตทอยที่ไหนก็มักจะชอบซื้อเก็บสะสม ไม่ได้มีเฉพาะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือ แม้แต่ผู้สูงอายุ ชื่นชอบ ก็เก็บสะสม เป็นงานอดิเรกในวัยเกษียณก็มี ในส่วนตลาดต่างประเทศ ถ้ามีโอกาส ก็อยากจะได้ไปโชว์ผลงานในต่างประเทศเช่นกัน
มูลค่าตลาดอาร์ตทอย น่าสนใจอย่างไร ทำไมรัฐบาลส่งเสริม
ในส่วนของมูลค่าตลาดอาร์ตทอยที่ผ่านมา นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง ตลาดอาร์ตทอยว่า มีการเติบโตอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จากเดิมเป็นเพียงสินค้าที่นิยมเฉพาะกลุ่ม จนขยายวงกว้างเป็นปรากฎการณ์ที่นิยมในปัจจุบัน โดยกลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่ม Gen Z (กลุ่มคนที่เกิดตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นไป) กลุ่มพนักงานออฟฟิศ (White-Collar) ที่มีอายุระหว่าง 15-40 ปี และกว่าร้อยละ 70 เป็นผู้หญิง เนื่องจากมีความหลงใหลชื่นชอบสินค้าที่มีรูปแบบน่ารักและน่าสะสม
ข้อมูลจาก HTF Market Intelligence ที่เป็นบริษัทวิจัยตลาดชั้นนำของโลก ระบุว่าในปี 2566 มูลค่าตลาดอาร์ตทอยของโลกอยู่ที่ 8,517.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดการณ์ว่าจะขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 4.26 จนมีมูลค่าสูงถึง 10,938.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2573 ซึ่งตลาดอาร์ตทอยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ในทวีปเอเชีย อเมริกาเหนือ และยุโรป ตามลำดับ
ติดต่อ Facebook : Dot Line Planet by peat
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *