xs
xsm
sm
md
lg

“สวนตั้งสิน” ฟื้นคืนชีพมะริด จากไม้ใกล้สูญพันธุ์ ปลูก 5 ปีขายไปเป็นล้านต้น รายได้เกือบ 50 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มะริดไม้ป่าหายากใกล้จะสูญพันธุ์จากประเทศไทย เป็นไม้โบราณ แต่วันนี้ ไม่ได้เป็นไม้หายากอีกต่อไป และการกลับมามีชีวิตและได้รับความนิยมสำหรับคนปลูกไม้ป่า อีกครั้ง มาจากผู้ชายคนนี้ “นายบัญชา ตั้งสิน” เจ้าของ ต้นมะริด สวนตั้งสิน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม


ที่มา จุดเริ่มต้นของไม้มะริดจากสวนตั้งสิน

ย้อนกลับไป เมื่อ 11 ปีที่ผ่านมา “นายบัญชา” ได้ไปเจอกับต้นมะริด จากการไปซื้อไม้ป่า จากตลาดนัดสวนจตุจักร มาปลูกที่สวน อาชีพหลังจากเกษียณอายุ วัย 60 ปี ต้องการจะพักผ่อน เพราะก่อนหน้านั้น คุณบัญชา ทำธุรกิจโรงแรม มาก่อน และได้ไปซื้อไม้ป่า เพื่อจะมาปลูกที่สวน และได้ไปเจอไม้มะริด จากการแนะนำพ่อค้าคนไม้ บอกเพียงแค่ว่า เป็นไม้หายากใกล้จะสูญพันธุ์ ราคาแพง ตอนนั้นคุณบัญชา ไม่สนใจเรื่องราคา เพราะทางพ่อค้าบอกเพียงว่าใกล้จะสูญพันธุ์ เราก็เลยอยากจะปลูกเอาไว้ ตัดสินใจเหมามาทั้งหมดเลย คนขายบอกว่ามี 22 ต้น ปกติขายต้นละ 250 บาท ลดราคาให้เหลือต้นละ 240 บาท

นายบัญชา เล่าว่า ตอนผมไปซื้อไม้ป่า ตอนนั้นผมซื้อมา 100 กว่าต้น ไม้สัก พยูน ไม้มะค่า ไม้ป่าอื่นๆ ต้นหนึ่งหลักสิบบาทราคาไม่แพง แต่มะริดจะแพงกว่าไม้อื่นๆ เยอะมาก คนขายยังบอกว่ามะริดเป็นไม้ที่โตช้ามาก ซึ่งผมก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะด้วยว่าเป็นไม้โบราณที่ใกล้จะสูญพันธุ์ เราก็ควรจะอนุรักษ์เอาไว้ ตอนผมได้มาก็เอามาวางไว้รอบบ้านก่อน คือมันโตช้าจริงๆ โตช้ามาก ผ่านมา 8 เดือน ต้นเล็กเท่าเดิมแทบจะไม่โตเลย


ข้อดีมะริด ฟอร์มต้นสวย ไม่ทิ้งใบ และให้ผลสุกขายได้

ครั้งนั้น ผมก็เลยตัดสินใจขนต้นมะริดมาปลูกที่สวน ผมมีทีดิน จำนวน 30 ไร่ อำเภอสามพราน ทำสวนยกร่อง เราก็ใช้เรือรดน้ำรดน้ำทุกวัน ปรากฎว่าเริ่มโตขึ้นเรื่อย พอผ่านไปเข้าปีที่ 4 มันเริ่มมีผล ซึ่งผลมันสวยมาก ผมก็ไม่รู้ว่าผลมันกินได้ไหม แต่สังเกตว่า กระรอกก็ไม่กิน พอผลสุกผมก็เอามาให้ปลากิน ปลาก็ไม่กินอีก แต่ด้วยฟอร์มตันมันสวยเหมือนต้นคริสมาสต์เลยตอนมันเริ่มโต และมันไม่ทิ้งใบมีใบร่วงบ้างไม่เยอะ และผลก็สวย ผมก็เลยคิดว่า น่าจะเพาะเมล็ดเป็นต้นพันธุ์ขายได้ ตอนนั้น ไม่ได้คิดว่าจะขายผล เพราะไม่รู้ว่าผลมันกินได้ไหม และรสชาติเป็นอย่างไร

จนกระทั่งเข้าปีที่ 5 ปรากฎว่า มีกระรอกมากินผลสุก และผมก็เอาไปโยนให้ปลาปรากฎว่าปลากิน แสดงว่ากินได้ ผมก็เลยลองเอามาผ่ากิน รสชาติมันก็ดี ให้หลายคนชิมชอบ เค้าว่าเนื้ออร่อยดี ผมก็เลยถึงได้เริ่มขายผล เริ่มขายให้กับคนที่มาซื้อต้นพันธุ์ก่อน เพราะเค้าชอบก็เลยขอซื้อ ตอนแรกผมขายลูกละ 150 บาท แต่ด้วยความที่ผมไม่ได้ตั้งใจจะขายเป็นผลไม้ อะไร แต่คนที่กินแล้วชอบ ก็มาขอซื้อ ผมก็ขาย แต่หลักคือ ผมต้องการจะเอาเมล็ดมาเพาะเป็นต้นพันธุ์ขายมากกว่า ส่วนเนื้อเอาไปแปรรูปทำแยมบ้าง อะไรบ้าง แต่พอตอนหลังคนมาขอซื้อผลมะริดไปกินเป็นผลไม้กันเยอะ ไม่พอจะเอามาแปรรูป


ผ่านมาเข้าปีที่ 6 ขายต้นพันธุ์มากกว่า 1 ล้านต้น

ส่วนต้นพันธุ์ ผมขายอยู่ที่ต้นละ 120 บาท ในปีแรกๆ ผมเพาะต้นพันธุ์ไว้ทั้งหมด 38,000 ต้น เพาะจากเมล็ดที่ได้ หนึ่งผลจะได้เมล็ดอยู่ 5-8 เมล็ด พอผมได้ไปออกรายการไทยพีบีเอส ปรากฎว่า ผ่านมา ไม่เท่าไหร่ ผมขายต้นพันธุ์ 38,00 ต้นจนหมด ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมะริดที่ผมปลูกก็เข้ามาปีที่ 6 ผมขายต้นพันธุ์มะริด ออกไปทั่วประเทศ มากกว่า 1 ล้านต้น ส่วนราคาต้นไม้พันธุ์ ปรับราคาลงมาตามราคาตลาด จากต้นละ 120 บาท เหลือ 80 บาท และปัจจุบันเหลือต้นละ 40 บาท ส่วนผลก็เหลือผลละ 100 บาท

ทำไมคนถึงสนใจปลูกมะริด

สำหรับข้อดีที่ทำให้หลายคนสนใจปลูกมะริด “คุณบัญชา” บอกว่า มะริดมีข้อดี คือ ไม่ทิ้งใบ ปลูกตรงไหนก็ได้ แม้แต่ริมบ่อปลา บ่อกุ้ง และเป็นไม้เนื้อแข็งราคาแพง ไม่แพ้ไม้ป่าชนิดอื่นๆ ซึ่งอาจจะแพงกว่าด้วยซ้ำ เพราะเป็นไม้หายาก ด้วยความที่เป็นโตช้า และใกล้สูญพันธุ์จากป่าเมืองไทย ประกอบกับด้วยความที่เป็นไม้ไม่ผลัดใบ คนลักลอบตัดต้นไม้ก็เลยจะเห็นได้ง่าย ใบก็จะเขียวตลอดทำให้เขาโดนตัด เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม้มะริดสูญพันธุ์จากป่าในไทย ตามที่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เล่าให้ผมฟัง


มะริดไม้ป่าปลูกรอเวลา ระหว่างรอมีรายได้จากผลมะริด

คุณบัญชา ยังได้พูดถึง ข้อดี ทำไมคนหันมาสนใจปลูกมะริดอีกอย่างหนึ่ง คือ ระหว่างทางที่รอการเติบโตเพราะการปลูกไม้ป่า อาจจะต้องรอนาน 20 ปีขึ้นไป จนถึง30-40 -60 ปี ระหว่างทางที่รอก็สามารถเก็บผลมะริดมาขายได้ หรือ เพาะต้นกล้าจากเมล็ดขายได้ สำหรับที่สวนของผม ถ้าคิดคำนวณต่อปีต่อต้นประมาณ เกือบ 10,000 บาท ปัจจุบันผมปลูกไว้จำนวน 5,000 ต้น รายได้ต่อปี ประมาณ 50 ล้านบาท

ทั้งนี้ ด้วยความที่ผมเป็นนักธุรกิจมาก่อน เวลาผมลงทุนทำอะไร ผมก็ต้องคิดคำนวณก่อน มีคนมาขอซื้อต้นที่ปลูกมา 5-6 ปี แต่ผมก็ไม่ได้แบ่งขายให้ เพราะถ้าอยู่กับผมมันสามารถทำเงินให้กับเราได้ตลอดไปเรื่อย เหมือนคนที่เลี้ยงไก่ไข่ ผมก็เหมือนกัน ต้นมันก็เหมือนแม่ไก่ที่ออกไข่ให้เราได้ขายตลอด


อนุรักษ์ไม้ใกล้สูญพันธุ์ และเติมความชุ่มชื้นผืนแผ่นดิน

นอกจากนี้ มะริด ยังมีข้อดี คือ คืนความชุมชื้นให้กับพื้นแผ่นดิน ผมจะตอบแทนแผ่นดินแห่งนี้ ในช่วงเวลานี้ คือการปลูกมะริด เพราะมะริดให้ร่มเงาให้ความชุ่มชื้นแก่แผ่นดิน เวลาอยู่ในป่า หรือ อยู่ในพื้นที่ไหน ที่ผมขายไปกว่า 1 ล้านต้น ก็ไปช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นแผ่นดิน แค่นี้ ผมก็พอใจ และที่สำคัญ เรายังได้ช่วยอนุรักษ์ไม้โบราณของไทยให้ยังคงอยู่คู่กับประเทศไทย

เมื่อเวลาผ่านไป ลูกหลานก็นำไปใช้ประโยชน์ ส่งต่อให้ลูกหลานได้ ผ่านไปสัก 60 ปี ต้นหนึ่งผมก็ขายได้หลายล้านบาท ก่อนหน้านี้ ลูกชายบอกว่า พ่อไปซื้อไม้มะริดมาโชว์ให้ลูกค้าดูว่า เนื้อไม้เป็นแบบไหน ผมไปได้มาที่สุขุมวิท ขายผมในราคา 72,000 บาท ขนาด กว้าง 75 เซ็นติเมตร ยาว 2 เมตร และหนา 3 นิ้ว ซึ่งถ้าคำนวณจากการเติบโตมะริดในป่า ที่อาจจะโตช้ากว่าที่เราเลี้ยง ไม้ที่ผมได้มาน่าจะมีอายุประมาณ 50-60 ปี


ข้อดีมะริดช่วยประหยัดต้นทุนพื้นที่ ที่ดินปัจจุบันราคาแพง

ทั้งนี้ ข้อดีของมะริดอีกอย่างหนึ่ง ไม้ชอบเพื่อน คือ ชอบอยู่แบบเบียดๆ กันได้ ทำให้การใช้พื้นที่ในการปลูกไม่เยอะเท่ากับไม้มะค่า พยูน หรือ ไม้สัก มะริดสามารถปลูกแบบเว้นห่าง กันไม่เกิน 3เมตรได้ อย่างพื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกมะริดได้ถึง 133 ต้น ขณะที่ปลูกไม้อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน หรือ ไม้สัก ฯลฯ ประมาณ 30-40 ต้น ต่อหนึ่งไร่ เท่านั้น

บัญชา เจ้าของสวนตั้งสิน บอกว่า ตอนที่เริ่มต้นปลูกมะริด ก็ศึกษาหาความรู้ ว่า มีที่ไหนปลูกมะริดกันบ้าง พบว่า มีที่ภาคใต้ 2 ต้น ปราจีน และราชบุรีอย่างละ 1 ต้น และ เจอที่โครงการชั่งหัวมัน ในหลวงรัชกาล 9 อีก 7 ต้น เท่านั้น แต่ตอนนี้ สามารถทำให้ทั่วประเทศ มีการปลูกมะริดกลับมามีชีวิต และมีการปลูกทั่วประเทศ กว่า 1 ล้านต้น เท่ากับเราได้ตอบแทนคุณแผ่นดินแล้ว


พร้อมกับบอกเทคนิคการปลูกมะริดไม้โตช้าให้โตเร็ว ง่ายแค่เรารดน้ำให้ถึง เพราะมีใบเยอะชอบน้ำ ผมได้ไปติดสปริงเกอร์ไว้ที่บนยอด ผมให้ใบเปียกตลอด จะได้ไม่ต้องอาศัยน้ำจากรากเพื่อดึงมาเลี้ยงลำต้น เท่านั้น แค่นี้ เค้าก็โตเร็วขึ้น และให้ผลตลอดทั้งปี ต้นหนึ่งให้ผลประมาณ 3-4 ผล เท่านั้น

ติดต่อ Facebook : ต้นมะริด สวนตั้งสิน
โทร.08-3555-1656


* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น