Synology เผยผู้ประกอบการไทยไทยมีความต้องการจัดเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิดนานขึ้น ทั้งยังประสบ 3 อุปสรรค ในการจัดการและรวมศูนย์การจัดการกล้องหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ชูโซลูชันระบบบริหารจัดการเฝ้าระวังและเตือนภัยครบวงจร บุกตลาดไทย ต่อยอดจากจุดแข็งธุรกิจเดิม ด้วยจุดเด่นเพิ่มการจัดเก็บข้อมูลวิดีโอแบบไม่จำกัด และประหยัดต้นทุนไม่ต้องเสียค่าไลเซนส์ทุกเดือน ด้วยการลงทุนแค่ครั้งเดียว และเปลี่ยนกล้องวงจรปิด IP Camera ทุกรุ่นที่ใช้ให้เป็น AI ยกระดับการเฝ้าระวังและเตือนภัยให้มีประสิทธิภาพ พร้อมการันตีความปลอดภัยข้อมูลมาตรฐานอเมริกา เผยดีมานด์ตลาดไทยเป็นไปตามตลาดโลก คาดการณ์ว่าตลาดการสำรองข้อมูลและการกู้คืนจะเติบโตเป็น 17 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 และแนวโน้มข้อมูลจากกล้องวงจรปิดมากถึง 5,600 เพตะไบต์ต่อวันภายในปี 2025
นายรหัท บุญตันจีน ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทยของบริษัท ซินโนโลจี้ จำกัด (Synology) เปิดเผยว่า องค์กรในประเทศไทยในทุกขนาด ตั้งแต่ระดับเล็กไปจนถึงระบบองค์กรขนาดใหญ่ กำลังเผชิญกับปัญหาการบริหารจัดการและการจัดเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งในองค์กร ใน 3 ด้าน ได้แก่
1.การบริหารจัดการกล้องวงจรปิด IP Camera ยุ่งยาก เนื่องจากมีการติดตั้งกล้องหลายรุ่นและหลายยี่ห้อ ทำให้ต้องควบคุมจากหลายแอปพลิเคชัน ไม่สามารถบริหารจัดการได้แบบเรียลไทม์
2.การเข้าถึงข้อมูลกล้องวงจรปิดยากในองค์กรที่มีสาขากระจายอยู่หลายแห่ง การตรวจสอบกล้องวงจรปิดจำเป็นต้องเดินทางไปยังสาขาที่ต้องการค้นหาข้อมูล ซึ่งทำให้การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินเป็นไปได้ยาก
3.ความต้องการจัดเก็บข้อมูลวิดีโอเพิ่มมากขึ้นอุตสาหกรรมหลายแห่งต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิด เช่น การจัดเก็บไฟล์วิดีโอให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ISO ซึ่งกำหนดระยะเวลาการจัดเก็บไฟล์วิดีโอไว้นานกว่า 3 ปีในบางธุรกิจ ขณะเดียวกัน พื้นที่จัดเก็บข้อมูลยังมีข้อจำกัดและมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นตามปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ Synology ได้พัฒนาโซลูชันระบบบริหารจัดการเฝ้าระวังและเตือนภัยครบวงจร (Surveillance Station) ซึ่งเป็นการนำจุดแข็งด้านการจัดเก็บและปกป้องข้อมูลบน NAS ของบริษัทมาต่อยอดในการบริหารจัดการกล้องวงจรปิดแบบรวมศูนย์ โซลูชันนี้สามารถควบคุมกล้องจากทุกตัวและทุกสาขาของลูกค้าในที่เดียว โดยยังสามารถเพิ่มการจัดเก็บข้อมูลภาพวิดีโอได้อย่างไม่จำกัด ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรไทยในการจัดเก็บข้อมูลเป็นระยะเวลานานและง่ายต่อการค้นหาวิดีโอย้อนหลัง มีความปลอดภัยในการรักษาข้อมูลสูงตามมาตรฐานของ Synology รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัย NDAA/TAA ของอเมริกา
โซลูชันระบบบริหารจัดการเฝ้าระวังนี้ออกแบบให้สามารถเลือกใช้งานได้ 2 รูปแบบ ได้แก่แบบแรก คือ การติดตั้งระบบ NAS ของบริษัทเพื่อรวมศูนย์กล้องวงจรปิด IP Camera ซึ่งสามารถรองรับกล้องวงจรปิดในตลาดได้ถึง 170 ยี่ห้อ จำนวนกว่า 8,700 รุ่น อีกทั้งยังรองรับการใช้งานร่วมกับ AI ต่างๆ นอกจากนี้ยังมี NAS ซีรีส์พิเศษที่สามารถเปลี่ยนการใช้งานกล้องวงจรปิดธรรมดา ให้กลายเป็นกล้อง AI ได้โดยมีฟีเจอร์ AI ช่วยในการตรวจจับบุคคล ยานพาหนะ ป้ายทะเบียน และการปิดบังใบหน้า การตรวจจับการบุกรุก เป็นต้น แบบที่สองคือ การติดตั้งระบบ NAS พร้อมกล้องวงจรปิดของ Synology AI Camera ที่มาพร้อมกับความสามารถในการตรวจจับบุคคล ยานพาหะนะ การป้องกันการบุกรุก และ instant search ที่สามารถใช้ AI ช่วยในการค้นหาความผิดปกติในไฟล์วิดีโอเป็นไปอย่างรวดเร็ว เช่น กรณีเครื่องเพชรในร้านหาย สามารถทำเครื่องหมายเพื่อค้นหาช่วงเวลาที่เครื่องเพชรหายได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ โซลูชันนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับโดรน ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดูภาพสดจากกล้องของโดรนได้แบบเรียลไทม์ พร้อมกับดูแผนที่เพื่อบอกพิกัดของโดรนและจัดเก็บไฟล์ภาพวีดีโอจากโดรนได้อีกด้วย
นายรหัท ยังได้เปิดเผยว่า ความต้องการในการจัดการและแก้ไขปัญหาการจัดเก็บข้อมูลในประเทศไทยกำลังเติบโตและสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับทั่วโลก โดยการสำรองข้อมูล (Backup) ข้อมูลไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกอีกต่อไป แต่กลายเป็น “ทางรอด” ในโลกยุคที่ข้อมูลสำคัญต่อการวางกลยุทธ์องค์กร ด้วยเหตุนี้ Synology จึงมุ่งมั่นในการพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในประเทศไทย พร้อมกับช่วยองค์กรในการจัดการและเก็บข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพในยุคที่ข้อมูลมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ การเติบโตของข้อมูลในยุคดิจิทัลกำลังเพิ่มความต้องการในการสำรองข้อมูลอย่างรวดเร็ว รายงานจาก Allied Market Research และ ResearchAndMarkets คาดการณ์ว่าตลาดการสำรองข้อมูลและการกู้คืนจะเติบโตเป็น 17 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ประมาณ 7.5-9.8%
นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดจะสร้างข้อมูลมากถึง 5,600 เพตะไบต์ต่อวันภายในปี 2025 ซึ่งส่งผลให้การจัดเก็บข้อมูลกลายเป็นสิ่งจำเป็นมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการใช้งานกล้องความละเอียดสูงและเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Edge Computing และ Cloud Storage และIDC ยังได้คาดการณ์ว่าปริมาณข้อมูลจากโดรนจะเพิ่มขึ้น 30% ต่อปีจนถึงปี 2026 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการนำข้อมูลไปใช้ในระบบ AI ในภาคธุรกิจเพื่อพัฒนากระบวนการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลให้ดียิ่งขึ้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรายละเอียดการใช้งานสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.synology.com/th-th เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่รองรับการจัดเก็บข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *