วันฮาโลวีน Halloween จัดขึ้นในคืนวันที่ 31 ตุลาคม ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากชาวโรมันคาทอลิกต้องการกำจัดพิธีเฉลิมฉลองของกลุ่มชนนอกศาสนาคริสต์ สันตะปาปา Gregory ที่ 4 จึงได้กำหนดวันที่ 1 พฤศจิกายน ให้เป็นวันเฉลิมฉลอง All Saints' Day หรือ All Hallows' Day สำหรับชาวคริสต์เพื่อระลึกถึงนักบุญและผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่การเฉลิมฉลองในคืนวันที่ 31 ตุลาคม หรือ Hallows' Eve ก็ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน แต่ชื่อเรียกได้เพี้ยนไปเป็น Halloween
เดิมเทศกาลฮาโลวีนจัดขึ้นในประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ สกอตแลนด์ และประเทศข้างเคียงเท่านั้น แต่เมื่อชาวไอริชและชาวสกอตอพยพไปตั้งหลักแหล่งในสหรัฐอเมริกา ในช่วงทศวรรษที่ 1840 ก็นำเอาประเพณีนี้ไปปฏิบัติด้วย ปรากฏว่าถูกใจชาวอเมริกันทุกเชื้อชาติ จึงปฏิบัติตามกันอย่างจริงจังตลอดมา และตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมาก็กลายเป็นเทศกาลประจำชาติมาจนทุกวันนี้
โดยในประเทศที่กล่าวมาข้างต้น มีการฉลองฮาโลวีน โดยการตกแต่งบ้าน การแต่งกายเป็นผี ออกมา ร่วมฉลองปลุกความหลอนในรูปแบบปาร์ตี้ กันตามสถานที่ต่างๆ โดยบ้านหลังไหนที่จัดแต่งบ้านร่วมเทศกาลฮาโลวีน จะมีเด็กแต่งกายในชุดปลุกความหลอนออกมาร่วมสนุกในเทศกาล และเคาะประตูบ้าน และเจ้าของบ้านจะมีขนมออกมาแจกให้กับเด็ก ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช็อกโกแลต ลูกอม เยลลี่ และกัมมี่ ฯลฯ
อมยิ้ม กัมมี่ ช็อกโกแลต ขนมคู่ฮาโลวีน
วันนี้ พามารู้จักกับ ไอเทมขนมสุดหลอนที่ทางเหล่าผู้ประกอบเจ้าของสินค้า ออกแบบมาร่วมฉลองปลุกความหลอนในเทศกาลฮาโลวีน เพื่อจะเอาใจเหล่าบรรดาสายปาร์ตี้ และเด็กๆ ต้องมีในคืนวันปล่อยผี ปีนี้ 2567 ทางร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น จัดมาเพียบทั้งรูปแบบเดิมและเพิ่มเติมรูปแบบใหม่ ไม่เฉพาะในเซเว่น ทาง โมเดิร์นเทรด และซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ก็จัดเต็มเช่นกัน นอกจากนี้ ร้านกิ๊ฟชอป ทั้งแบรนด์ไทย จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่น เต็มไปด้วยไอเทมสินค้าเพื่อฉลองฮาโลวีน โดยเริ่มขายกันตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม เพื่อกระตุ้นให้คนไทยได้หันมาช้อปปิ้งในวันสำคัญดังกล่าว สำหรับไอเทมขนมฮาโลวีน ที่นำเสนอ ได้แก่ อมยิ้ม กัมมี่ และ ช็อกโกแลต จากแบรนด์ดัง
อมยิ้มต้องยกให้ “จูปาจุ๊บ” ไม่พลาดไอเทมฮาโลวีน
สำหรับอมยิ้มจะมีแบรนด์ดัง อย่าง จูปาจู๊บ และ ช็อกกาจุ๊บ ทำอมยิ้มมาพร้อมกับหัวกะโหลกขนาดใหญ่ และที่พลาดไม่ได้สำหรับธีมฮาโลวีน นั่นคือ ฟักทองที่มาพร้อมกับอมยิ้มข้างใน เมื่อกินอมยิ้มหมด ก็นำฟักทองไปตกแต่งในงานปาร์ตี้ ได้ แบบไม่ต้องลงทุน
ประวัติความเป็นมาของอมยิ้ม จูปาจุ๊บ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสเปน เมืองบาร์เซโลนา ในปี 1950 โดย Mr. Enric Bernat ผู้คิดการออกแบบอมยิ้มที่มีไม้เสียบ เดิมทำงานอยู่โรงงานแยม ชื่อ “Granja Asturias” และวันหนึ่งเขาสังเกตเห็นว่า ขนมหวานส่วนใหญ่ในสมัยนั้น ไม่ได้ออกแบบมาให้เหมาะกับเด็ก เพราะละลายง่าย เหนียว หรือต้องใช้มือเปล่าเพื่อจับกิน ทำให้มือของเด็ก ๆ มักเปื้อนเลอะเทอะอยู่เสมอ และเด็กบางคนมือสกปรก พอสัมผัสขนมเข้าปากก็อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเด็กๆได้
Mr. Enric Bernat จึงได้ไอเดียออกแบบอมยิ้ม เสียบไม้เล็กๆ ขึ้นมา เพื่อให้เด็กๆ ไม่ต้องใช้มือสัมผัสลูกกวาดโดยตรง และเด็กยังสามารถคายและสลับกับอม ได้ตลอดเวลา โดยไม่เปื้อนมือ และในขณะที่ได้ไอเดียการทำอมยิ้มแล้ว เป็นช่วงเวลาพอดีกับ เจ้าของโรงงานที่เขาทำงานดันทิ้งโรงงานไป ในปี 1958 ทำให้เขาได้มีโอกาสเป็นเจ้าของโรงงานแห่งนี้ และเปลี่ยนชื่อเป็น “Chupa Chups” และได้มีการปรับปรุงโรงงานใหม่ทั้งหมด โดยนำเครื่องจักร เพื่อเข้ามาผลิต อมยิ้มเสียบไม้ หรือ Lollipop ตามแนวคิดที่เขาวางไว้จนในที่สุด Enric Bernat ก็สามารถทำอมยิ้ม Chupa Chups ออกวางขายได้สำเร็จ ส่วนการออกแบบ จูปาจุ๊บ ร่วมในเทศกาลฮาโลวีน จะเห็นว่า แบรนด์นี้ ไม่พลาดที่จะออกแบบอมยิ้ม หรือ ลูกกวาด Lollipop ร่วมในเทศกาลทุกปี และวางขายไปทั่วโลก รวมถึง ประเทศไทย
แบรนด์อมยิ้มน้องใหม่ร่วมฮาโลวีน ราคาเบา 5 บาท
ส่วนแบรนด์อมยิ้มน้องใหม่ในเซเว่น ไม่น้อยหน้า ด้วยการออกแบบอมยิ้มเป็น ลูกตากลม และอมยิ้มหัวกะโหลก เพิ่มความหลอนในราคาเบาเพียงแค่ 5 บาท และก็ยังมีอมยิ้มแฟนเทเชียกลิ่นผลไม้ ธีมฮาโลวีน ราคา 15 บาท เป็นงานปั้นออกมาเป็นรูปตัวการ์ตูนธีมฮาโลวีนด้วย
กัมมี่ รวมความหลอน ปีนี้ยกให้ Play More
และอีกหนึ่งแบรนด์ที่มาแรงในช่วงเทศกาลฮาโลวีนในปีนี้ 2567 คือ Play More บริษัท เอเวอร์มอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมตราเพลย์มอร์ อาทิ ลูกอมแตงโม ลูกอมองุ่นเย็น และกัมมี่ โดยเป็นแบรนด์ลูกอม และกัมมี่ ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ อยากสนุกเท่าไหร่ Playmore เท่านั้น เพราะเชื่อว่า ความคิดสร้างสรรค์เกิขึ้นได้ทุกเวลา เพลย์มอร์ จึงได้ออกแบบขนมให้เปี่ยมด้วยจินตนาการ ทั้งอร่อยสนุก เสริมความคิด สร้างแรงบันดาลใจ ด้วยความตั้งใจว่า นอกจากเป็นสินค้าคุณภาพแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่ง ของการสร้างพลังความคิดใหม่ๆ ให้มากขึ้น อย่าง ไม่มีขีดจำกัดสำหรบทุกเศทุกวัย
สำหรับในช่วงเทศกาลฮาโลวีน แบรนด์นี้ จัดเต็มเช่นกัน เอาใจน้องๆ สายปาร์ตี้ฮาโลวีน โดยออกแบบกัมมี่ ออกมาเป็นรูปของ ลูกตากลมโต หรือ จะเป็นกัมมี่รูปของ โครงกระดูกผี และยังมีลิ้นยาว ในชื่อว่ากัมมี่ลิ้นยาว กัมมี่ผีกุ๊กกู๋ รวมตัวแก๊งผีจากทั่วโลก และยังมีกัมมี่ผีฝรั่ง ที่รวมอวัยวะจิ๋ว ไว้ หรือ กัมมี่น้าผีแดนซ์ ผีไทยสุดจี๊ด รอคนมาแดนซ์ ฯลฯ ส่วนช่องทางขายหลักที่ เพลย์มอร์ อยู่ในร้านสะดวกซื้อชื่อดังอย่าง เซ่เว่นอีเลฟเว่น
Melt Me ร้านช็อกโกแลตสุดพรีเมี่ยม
ขนทัพความน่ารักภูตผีปีศาจมาใส่ในกล่อง
นอกจากนี้ ยังมีช็อกโกแลต ที่ร่วมในเทศกาลฮาโลวีน อีกหลายแบรนด์ เช่น Melt Me Hokkaido Chocolate บริษัท กินกับตัน จำกัด เป็นร้านที่เจ้าของร้าน “อิง ภาสกรนที” ทำร้านนี้ขึ้นมาด้วยความรักในการทานช็อกโกแลต ได้นำช็อกโกแลตเกรดพรีเมี่ยมจากฮอกไกโด เข้ามาผลิตเป็นช็อกโกแลต ขายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม หรือ เจลาโต้ รวมถึงช็อกโกแลตบาร์ อื่น ฯลฯ
และในช่วงเทศกาลฮาโลวีนทาง Melt Me ได้จัด Chocolate Halloween โดยยกขบวนความคิวท์ของภูตผีปีศาจมาใส่ลงในช็อกโกแลตของทางร้าน มีทั้งความน่ารัก น่ากิน ปนน่ากลัวเล็กๆ เพื่อให้เข้ากับเทศกาลปล่อยผี และมีรสชาติให้เลือกกว่า 10 รสชาติในหนึ่งกล่อง เหมาะแก่การนำไปมอบเป็นของขวัญ ของฝาก แจกให้กับเด็กๆ ในวันฮาโลวีน ซึ่ง Melt Me ได้นำช็อกโกแลตรูปแบบของฮาโลวีนออกมาจำหน่าย ทุกสาขา ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม เพื่อต้อรับเทศกาลปล่อยผี
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด