กระแสข่าว ดิไอคอนกรุ๊ป ทำให้หลายคนรู้สึกกังวล กับการลงทุน หรือ การค้าขายบนโลกออนไลน์ แต่ในความเป็นจริง ต้องยอมรับว่าช่องทางออนไลน์ เป็นโอกาสให้กับผู้ประกอบการรายเล็กๆแจ้งเกิด และประสบความสำเร็จในการสร้างยอดขายมานักต่อนัก เช่นเดียวกับ สาวคนนี้ “นิภา เอกแก้วนำชัย” เจ้าของผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ที่หลายคนบนโลกโซเชียลฯ จะรู้จักกันในชื่อ “น้ำสมุนไพรชินเอม่อน แก้ขับลมท้องอืดท้องเฟ้อ กรดไหลย้อน” เธอเป็นตัวอย่างของผู้ประกอบการโอทอปรายเล็ก ในต่างจังหวัด ที่รุกขึ้นมาทำตลาดออนไลน์ บนโลกโซเชียลฯ และประสบความสำเร็จ จากยอดขายเดือนหนึ่งไม่กี่บาท ตอนนี้ มียอดขายเดือนหนึ่งมากกว่า 5-6 แสนบาท
การทำตลาดออนไลน์ วิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพร
“ถ้าไม่มีโซเชียลฯ เราคงจะไม่ได้เดินมาถึงทุกวันนี้ เพราะแค่อาศัยออกร้านงานโอทอปอย่างเดียวอยู่ไม่ได้ หรือ จะไปฝากขายในร้านขายยา มีคู่แข่งเยอะมาก และไม่รู้ว่าจะขายได้หรือไม่ ทุกวันนี้ ยอมใช้เงินกว่าวันละ1,000-3,000 บาท ซื้อโฆษณา แลกมากับยอดขายวันละประมาณ 100 ขวดๆละ 290 บาท รายได้วันละ 20,000-30,000 บาท เป็นการทำตลาดที่คุ้มกับการลงทุน”
พทภ.นิภา เอกแก้วนำชัย ประธานวิสาหกิจชุมชน บ้านแก้วกลางสวนสมุนไพร และเจ้าของ บริษัท บ้านแก้วสมุนไพร จำกัด เล่าว่า บ้านแก้วสมุนไพร เป็นวิสาหกิจชุมชนด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรในรูปแบบยาแผนไทย และ ตอนหลังมาทำท่องเที่ยวชุมชน และ ที่พักโฮมสเตย์ท่ามกลางสวนมะพร้าว เพิ่มขึ้นมา โดยวิสาหกิจชุมชน บ้านแก้วกลางสวนสมุนไพร ตั้งอยู่จังหวัดราชบุรี มีสมาชิกรวมกันทำงาน 12 ราย
ตำรับยาแผนไทย แจ้งเกิดบ้านแก้วสมุนไพร บนโลกออนไลน์
สำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพร มีหลายชนิด แต่ที่สร้างชื่อให้กับเรามี 2 ตัว 1.ผลิตภัณฑ์น้ำสมุนไพรชินเอม่อน มีสรรพคุณช่วยขับลม ท้องอืดท้องเฟ้อ บำรุงธาตุ กรดไหลย้อน อาการจุกเสียด แน่น แสบร้อนกลางอก อาหารไม่ย่อย อันเกิดมาจากอาการกรดไหลย้อน อาการยอดฮิตของคนรุ่นใหม่ และ 2.ยาน้ำมันผสมไพล ตราบ้านแก้วสมุนไพร สรรพคุณ ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ออฟฟิศซินโดรม ปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง ขา เข่า คลายกล้ามเนื้อ คลายเส้น ผดผื่น คัน แมลงสัตว์กัดต่อย ทำจากสมุนไพร100% เช่นไพล ขมิ้นชัน เถาวัลย์เปรียง เถาเอ็นอ่อน โคคลาน และน้ำมันงา
โดยผลิตภัณฑ์สมุนไพรทุกชนิดของ บ้านแก้วสมุนไพร ได้รับมาตราฐานผลิตภัณฑ์ จาก อย. กระทรวงสาธารณสุข มั่นใจ คุณภาพ มาตรฐาน ความปลอดภัย สำหรับสมุนไพรทั้งสองชนิด เจาะกลุ่มลูกค้า ในวัยทำงาน และ ผู้สูงอายุในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน
คนรุ่นใหม่มาช่วย ทำตลาดออนไลน์
ในส่วนของการทำตลาด ในช่วงแรกต้องอยู่ในขั้นตอนการขอมาตรฐาน อย. อยู่ประมาณ 2-3 ปี และการได้มาตรฐาน อย. ตาม พรบ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพรปี 2562 และการขออนุญาตขึ้นทะเบียนตำรับยาแผนไทย ยากมาก โรงงานต้องได้อนุญาตเป็นสถานที่ผลิต ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ซึ่งเราเองก็ต้องใช้เวลาในสร้างสถานที่ผลิต ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ใช้เงิงบประมาณ 2 ล้านบาท พอทุกอย่างเสร็จทำให้เราได้บุกทำตลาดอย่างจริง
ในช่วงแรก ยังไม่ได้เปิดตลาดออนไลน์ ขายหน้าร้านของเราเอง และวางขายในร้านขายยา ยอดขายก็ไม่ค่อยดี แต่หลังจากได้หลานสาวมาช่วยทำการตลาดออนไลน์ ยอดขายเพิ่มขึ้น หลายเท่าตัว
โดยการทำตลาดออนไลน์ ของเราจะใช้ช่องทางการขายผ่านโซเชียลฯ Facebook และTiktok หลังจากมาทำตลาดผ่านโซเชียล ยอดขายเพิ่มขึ้น ต่อวันประมาณ 100 ชุด สำหรับน้ำสมุนไพรชินเอม่อน ขายในราคาขวดละ 290 บาท รวมแล้วมีรายได้ต่อวันประมาณ 20.000-30.000 บาท ซึ่งการขายออนไลน์ จะต้องมีการซื้อสื่อโฆษณา โดยเรามีแพลนการซื้อแอดโฆษณาออนไลน์ วันละ 1,000-3.000 บาท ต่อเดือนละประมาณ 300.000 บาท ซึ่งไม่ได้ซื้อแอดโฆษณาทุกวัน ดูว่าช่วงไหนขายไม่ได้ ก็ต้องมีการกระตุ้นยอดขายบ้าง
ลาออกจากงาน มาดูแลพ่อ ก่อนต่อยอดสร้างอาชีพจากสมุนไพรไทย
คุณนิภา กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของบ้านแก้วสมุนไพร เริ่มมาจาก ตนเองเคยทำงานประจำ ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายควบคุมคุณภาพ (QA manger) ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ด้วยเรียนจบด้านวิทยาศาสตร์(เคมี ) จาก มหาวิทยาลัยมหิดล ต้องทำงานในห้องแล็บมาตลอด แต่พอวันหนึ่ง พ่ออายุมากขึ้น ต้องการคนดูแล ก็เลยตัดสินใจลาออกจากงานมาดูแลคุณพ่อ ที่อายุมากกว่า 80 ปี และพอลาออกมาก็มาทำสวน จากเดิมทำงานในออฟฟิศ ไม่เคยทำสวน ทำเกษตร ก็เลยมีปัญหาเรื่องปวดเมื่่อยกล้ามเนื้อ อาการปวดหลัง ปวดแขน ขา และพ่อก็ปวดเมื่อยเนื่องจากเสื่อมของร่างกาย แต่ไม่อยากกินยาแผนปัจจุบันมาก เนื่องจากมีอาการข้างเคียง จากการกินยาแก้ปวดเราก็เลยคิดทำยาใช้เอง
สำหรับอาการของคุณพ่ออายุมากมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย มีลมในกระเพาะอาหาร ซึ่งคุณพ่อจะมีตำรับยาสมุนไพร ที่ช่วยดูแลอาการเหล่านั้น แต่เรายังรู้ไม่มากพอ ที่จะทำออกจำหน่ายได้ ตนเองก็เลยไปเรียนแพทย์แผนไทย จนได้ตำรับยาสมุนไพร 2 ผลิตภัณฑ์ ออกมาขายจนถึงปัจจุบันมาเกือบ 7 ปี ตั้งแต่ ปี 2560
ทั้งนี้ โชคดีที่ปัจจุบันมีช่องทางการทำตลาดออนไลน์เข้ามาช่วยส่งผลให้การทำตลาดง่ายขึ้น และเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคเปลี่ยนไป หลายคนหันมาซื้อออนไลน์ เราก็เลยได้ขาย และประสบความสำเร็จช่องทางออนไลน์ มีคนรู้จักในวงกว้าง มีรายได้ในระดับที่น่าพอใจ และสะดวกกับเราในฐานะเจ้าของสินค้า และสะดวกกับผู้ซื้อหรือ ผู้ป่วยที่ต้องการสมุนไพรมาดูแลสุขภาพทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะที่ผลข้างเคียงในภายหลังได้
ถ้าไม่มีโซเชียลฯ คงจะไม่ได้เดินมาถึงวันนี้ได้
อย่างไรก็ดี ถ้าวันนี้ ไม่มีช่องทางตลาดออนไลน์ เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำตลาดอย่างไรให้คนเข้าถึงสินค้าของเราได้ เพราะการพึ่งออฟไลน์ ในร้านขายยา ยากมากเพราะมีตัวเลือกเยอะ แต่พอมีตลาดออนไลน์ ทุกอย่างง่ายขึ้น การเข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพราะได้ตัวช่วยจากแพลตฟอร์ม เฟสบุ๊ก หรือ Tiktok มาช่วย แม้ว่าจะต้องลงทุน ซื้อโฆษณามากถึงเดือนละ 3 แสนบาท แต่ผลตอบแทนที่เราได้ ก็ยังคุ้มค่ากับการลงทุน ขายได้วันละ 2 – 3 หมื่น รายได้ต่อเดือน ไม่ต่ำกว่า 6-7 แสนบาท หักค่าใช้จ่าย เหลือเดือนละหลักแสนบาท ในส่วนของการผลิต มีลูกค้าที่รับไปจำหน่าย และบางคนก็นำสินค้าของเราไปปักตระกร้าขายใน แพลตฟอร์ม Tiktok ของตนเอง
“ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าการขายผลิตภัณฑ์สมุนไพร ถ้าไม่มีช่องทางออนไลน์ขายยาก เพราะต้องอธิบายให้ลูกค้าได้รู้จักสินค้าของเราก่อนตัดสินใจ ซื้อ หลายคนมองหาสมุนไพรเพื่อรักษาอาการต่างๆ แต่ไม่รู้จะไปซื้อที่ไหน แต่พอเราได้ช่องทางออนไลน์ เค้าก็จะได้เห็นและก็ตัดสินใจซื้อ ได้ผลก็จะกลับมาซื้อซ้ำอีก เชื่อว่า ตำรับยาแผนไทยจากสมุนไพรไทย เป็นทางเลือกที่ช่วยให้คนไทยได้เข้าถึงการดูแลสุขภาพ ที่ไม่ต้องจ่ายราคาแพง และปลอดภัย”
ติดต่อ โทร./ line ID : 0986919989
Facebook : นิภา เอกแก้วนำชัย
Facebook : Cinnamon Herb ห่างไกลกรดไหลย้อน
Tiktok : /@nipa.ekkaewnumcha?_t=8qiwxzarcFL&_r=1
* * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *