มีนา กัลมาพิจิตร เจ้าของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กะเหรี่ยงเลี้ยงช้าง ธุรกิจปางช้าง จังหวัดเชียงใหม่ เล่าว่า ครอบครัวของสามีทำปางช้างมานานกว่า 40 ปี ส่วนตัวเป็นไกด์นำเที่ยวมาก่อน ซึ่งการเป็นไกด์ได้พานักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมปางช้าง ของครอบครัวสามี เราได้คลุกคลีอยู่กับปางช้างมาตลอด และเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา สามีได้แยกกิจการปางช้าง จากครอบครัวมาทำเอง ซึ่งปางช้างที่เราทำ ขนาดเล็ก ไม่ใหญ่มาก มีช้างอยู่ไม่ถึง 10 เชือก กิจกรรมที่เราทำจะเน้นออกแนวกึ่งศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับช้าง
เนื่องจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และ 90% เป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรป อเมริกา ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เวลามาเมืองไทย สิ่งหนึ่งที่ไกด์แนะนำคือ การไปดูช้าง เวลาเขามาอยากจะได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับช้าง เพื่อจะได้รู้จักช้างไทยมากขึ้น ดังนั้น กิจกรรมที่เราจัดให้เลยจะเน้นให้ความรู้ และเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของช้างไทยมาตั้งแต่ในอดีต นิสัยใจคอของข้างไทย ความสำคัญของช้างไทย นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ในมิติของวัฒนธรรมไทย ผ่านเรื่องราวของช้างไทยที่เราจะสามารถบอกเล่าให้เขาฟังได้
ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ถ้านักท่องเที่ยวมีเวลา เราจะจัดทริปให้เขาพาช้างเดินชมธรรมชาติในป่า เพราะส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวแวะมาปางช้าง ใช้เวลาไม่เกิน 2-3 ชั่วโมงก็จบทริป และเดินทางไปที่อื่นๆ ต่อไป ส่วนราคาค่าบริการคิดอยู่ที่หลักประมาณ 1,000 บาทต้นๆ รวมโปรแกรมต่างๆ แล้ว ซึ่งเป็นราคานักท่องเที่ยวต่างชาติถือว่าไม่ได้ราคาแพงอะไร
สำหรับลูกค้ามาจากการดีลกับบริษัททัวร์ นำนักท่องเที่ยวมา และแนะนำในช่องทางโซเชียล กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรปแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาตลอด มีแค่ช่วงโควิดที่เราหนักหนาสาหัสอยู่เหมือนกัน เพราะการทำปางช้างค่าใช้จ่ายสำหรับพนักงานคนดูแลช้าง และค่าใช้จ่ายสำหรับช้างในแต่ละวันค่อนข้างสูง แต่เราโชคดี เป็นปางช้างเล็กๆ มีช้างไม่กี่เชือก ค่าใช้จ่ายตรงนี้เลยไม่เยอะเท่ากับปางช้างใหญ่ที่มีช้างเยอะ ตอนนั้นไม่มีรายได้เข้ามาเลย ต้องกู้เงินสถาบันการเงินมาช่วยซัปพอร์ต ทุกวันนี้ยังต้องทำงานใช้หนี้ ในช่วงโควิดที่ไม่มีลูกค้าอยู่เลย
คุณมีนา บอกว่า สำหรับในช่วงน้ำท่วมเชียงใหม่ ในตอนนี้ปางช้างของเราไม่ได้รับผลกระทบอะไร เพราะอยู่บนดอย น้ำไม่ท่วม แต่ปางช้างอื่นๆ ที่เขาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ก็หนักหนาสาหัสเหมือนกัน เพราะค่าใช้จ่ายในการขนย้ายช้าง หรือหาที่ให้ช้างอยู่ค่อนข้างสูง เราโชคดีที่เราไม่เจอตรงนั้น ปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่มีแพลนมาเที่ยวปางช้างของเรายังคงเดินทางมาได้ตามปกติ
ทั้งนี้ คุณมีนา ยังพูดถึงโครงการปล่อยช้างกลับป่า ว่า ส่วนตัวมองว่าช้างไทยที่เป็นช้างเลี้ยงเขาคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตอยู่กับคนมาตลอด และการที่เราจะนำเข้าไปปล่อยป่า เป็นเรื่องใหญ่มาก ไหนจะเรื่องวิถีชีวิตของช้างต้องเปลี่ยนไป และสภาพป่าในบ้านเราเพียงพอหรือไม่ถ้าจะนำช้างเลี้ยงที่มีอยู่ในปัจจุบันกว่า 4,000 เชือก ไปปล่อยป่า ส่วนตัวไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วยเลยแต่มันยากมากๆ และอย่างที่ทราบกันช้างป่าตอนนี้เรามีปัญหามาก ช้างบ้านก็มีปัญหา ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับช้างเขามีการทำงานร่วมกันพยายามแก้ปัญหาอยู่ตลอด ถ้ามีการบริหารจัดการช้างให้ดีก็ไม่จำเป็นต้องนำเขาไปปล่อยป่า ทุกภาคส่วนรวมถึงรัฐด้วยต้องใส่ใจกับเรื่องช้างให้มากกว่าทุกวันนี้ เชื่อว่าในอนาคต ทั้งช้างป่า ช้างเลี้ยงจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ติดต่อ โทร.08-1783-7173
