xs
xsm
sm
md
lg

ร้านอาหารไทยให้ความสำคัญกับ “แม่ไก่” ด้วยการสนับสนุนการเลี้ยงแบบไม่ขังกรงเนื่องในวันไข่โลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Akiyoshi รีน่าเบเกอรี ร้านอาหารรสฤดี และร้านอาหารในเครือ Tap Home Cook ได้หันมาใช้ไข่ไก่จากระบบการเลี้ยงแบบไม่ขังกรง เพื่อความมีมนุษยธรรมที่มากกว่า

ร้านอาหารไทยอันเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคได้ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์ด้วยการเฉลิมฉลองเนื่องในวันไข่โลก ทั้ง Akiyoshi รีน่าเบเกอรี ร้านอาหารรสฤดี และร้านอาหารในเครือ Tap Home Cook ประกาศอย่างภาคภูมิใจถึงการเปลี่ยนไปใช้ไข่จากแม่ไก่ที่ถูกเลี้ยงแบบไม่ขังกรง (Cage-Free) เท่านั้น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าแม่ไก่เหล่านั้นได้รับการดูแลด้วยความเอาใจใส่และมีพื้นที่ให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

ด้วยความร่วมมือกับ Humane Society International ร้านอาหารยอดนิยมเหล่านี้ได้นำพาประเทศไทยไปสู่แนวทางการเลือกอาหารอย่างมีความเห็นอกเห็นใจมากขึ้น ร้านอาหารญี่ปุ่น Akiyoshi เบเกอรีสไตล์ไทย-ตะวันตก รีน่าเบเกอรี ร้านอาหารไทยโบราณ รสฤดี และร้านอาหารสไตล์ทำกินเองที่บ้านที่มีชื่อเสียงแบรนด์ Tap Home Cook ต่างกำลังมุ่งมั่นที่จะหันมาใช้ไข่ไก่เลี้ยงแบบไม่ขังกรง ซึ่งนั่นหมายถึงความเป็นอิสระของแม่ไก่ที่จะไม่ต้องถูกขังอยู่ในกรงที่แคบและแออัด แม่ไก่จะสามารถกางปีก เดินไปมา รวมทั้งแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติได้ เช่น การคลุกฝุ่นและการเกาะบนคอน

ในประเทศไทย แม่ไก่ประมาณ 96.3 ล้านตัวถูกเลี้ยงไว้เพื่อผลิตไข่ และส่วนมากต้องใช้เวลาทั้งชีวิตในกรงลวดที่มีขนาดเล็กเกินกว่าที่จะกางปีกหรือขยับตัวก้าวเดินไปไหนได้ ในทางตรงกันข้าม ระบบการเลี้ยงแบบไม่ขังกรงเป็นระบบที่ให้แม่ไก่ได้แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต เช่น การทำรัง การเกาะบนคอน และการคลุกฝุ่น ผลจากงานวิจัยค้นพบว่าแม่ไก่เป็นสัตว์ที่มีความอ่อนไหว ฉลาด และเป็นสัตว์สังคมที่เข้าใจความรู้สึกของฝูงได้ นอกจากนี้ แม่ไก่ยังสามารถนับเลขและคาดการณ์ถึงอนาคตได้ ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่ส่งผลต่อการตัดสินใจทั้งสิ้น

“วันไข่โลกเป็นโอกาสดีที่จะเน้นย้ำถึงความสำคัญของสวัสดิภาพสัตว์และสื่อสารอย่างชัดเจนว่าแม่ไก่สมควรได้รับการปกป้องขั้นพื้นฐาน” ลลดา ตั้งเจิดจรัส ผู้จัดการประจำประเทศไทยในโครงการเพื่อการปกป้องและดูแลสวัสดิภาพสัตว์ของ Humane Society International กล่าว “ผู้บริโภคชาวไทยเช่นเดียวกับผู้บริโภคทั่วโลกให้ความใส่ใจต่อสวัสดิภาพสัตว์ และพวกเขาสนับสนุนองค์กรที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน องค์กรเรามีความตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับ Akiyoshi รีน่าเบเกอรี ร้านอาหารรสฤดี และ Tap Home Cook ซึ่งล้วนแต่ได้นำนโยบายการใช้ไข่ไก่แบบเลี้ยงไม่ขังกรง และขับเคลื่อนนโยบายนี้ไปสู่ระบบการผลิตไข่แบบไม่ขังกรงอีกด้วย”

ทั้ง 4 บริษัทได้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นต่อทางเลือกอาหารด้านจริยธรรม สำหรับพวกเขาการตัดสินใจที่จะใช้ไข่ไก่เลี้ยงแบบไม่ขังกรงนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อธุรกิจ แต่เป็นการเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องสำหรับพวกเขา

“การเปลี่ยนมาใช้ไข่ไก่แบบเลี้ยงไม่ขังกรงทั้งหมดนั้นถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญสำหรับเราเพราะเป็นทางเลือกที่บ่งบอกถึงตัวตนของเราและเป็นสิ่งที่ลูกค้าของเราต้องการ” ผู้แทนคณะผู้บริหารของ Akiyoshi กล่าว

คุณฉัตรชัย โคมินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่งรีน่าเบเกอรีเสริมว่า “หลังจากที่เราได้เรียนรู้ว่าปกติแล้วแม่ไก่มีความเป็นอยู่อย่างไร เราก็ตัดสินใจว่าเราต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ความช่วยเหลือในทันที”

คุณทัพพ์นภัทร จรัมพรสกุล ผู้ร่วมก่อตั้งร้านอาหารรสฤดี กล่าวว่า “การพัฒนาสวัสดิภาพสัตว์ถือเป็นส่วนขยายตามธรรมชาติในภารกิจของเรา เพื่อยกย่องอาหารในขณะที่มีการดูแลสัตว์และสังคมในเวลาเดียวกัน”

“ที่ Tap Home Cook เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสรรหาวัตุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ” คุณจิตราพรรณ จรณะจิตต์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท กล่าว “การเปลี่ยนไปใช้ไข่ไก่เลี้ยงแบบไม่ขังกรงนั้นสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราอย่างสมบูรณ์ เรารู้สึกขอบคุณ Humane Society International สำหรับการสนับสนุนช่วยเหลือเราในกระบวนการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ และเรามีความตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวระดับโลกไปสู่การปฏิบัติที่มีมนุษยธรรมมากยิ่งขึ้น”

ทั้ง 4 บริษัทได้เข้าร่วมกับมากกว่า 50 บริษัทในประเทศไทย เช่น Minor Foods และ Marriot ซึ่งได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้เพียงไข่ไก่เลี้ยงแบบไม่ขังกรงเท่านั้น แบรนด์ไทยอื่นๆ เช่น ร้านอาหารเครือบ้านหญิง Bite Me Softly ร้านอาหารกัลปพฤกษ์ และ Sukishi ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงไปสู่การสรรหาวัตถุดิบอย่างมีมนุษยธรรมมากขึ้นเช่นกัน กว่า 2,000 บริษัททั่วโลกรวมไปถึง Burger King, Bimbo และ Accor ก็ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเลิกใช้ไข่ไก่แบบขังกรง

การเปลี่ยนไปใช้ไข่แบบไม่ขังกรงนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงไปสู่ทางเลือกอย่างมีจริยธรรมซึ่งให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์และบอกให้รับรู้ถึงความพึงพอใจของพวกเขา นี่คืออีกก้าวสำคัญสู่อนาคตที่สดใสและใส่ใจกันมากขึ้นสำหรับแม่ไก่ที่เลี้ยงกันในประเทศไทย

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับงานของเราได้ที่ hsi.org ติดตาม HSI ได้บน Twitter, Facebook และ Instagram


กำลังโหลดความคิดเห็น