xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) จากแม่ค้าตลาดนัดขายยีนส์กระสอบราคาส่ง 2 ปีสู่เจ้าของแบรนด์ “วันวิพรีเมียมยีนส์” ยอดขายวันละแสน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปุยเพิ่งมาเริ่มตัดงาน “Wanwi” ในชื่อของวันวินะคะและก็จดเครื่องหมายการค้าของวันวิเลย ตอนเกือบ ๆ ปลายปี 65 ช่วงต้นปีจนถึงกลางปียังขายเป็นงานจีนอยู่ และก็เริ่มตัดมาเรื่อย ๆ แรก ๆ ก็มีปัญหาแพทเทิร์นไม่ตรงบ้าง เรื่องผ้า เพราะว่ายังไม่รู้ใจกัน”


4 ปีกว่าเกือบ ๆ จะเข้าปีที่ 5 แล้วสำหรับธุรกิจยีนส์ของแม่ค้าคนสวย “ปุย-นางสาววันวิสาข์ รอดอุบล” สาวใต้ตาคมจากอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ในวัย 33 ปีกับธุรกิจที่เริ่มต้นมาจากเงินทุน 1 หมื่นบาท! ปุยเล่าให้ฟังว่าเป็นแม่ค้าตลาดนัดขายเสื้อกำไรตัวละ 25 บาทก่อนจากนั้น เริ่มมาขาย “กางเกงยีนส์” งานจากจีนสั่งเข้ามาทีละเป็นกระสอบในราคาส่งทำไปทำมาจนเริ่มจับทางของธุรกิจนี้ได้ “เริ่มที่เงิน1 หมื่นบาทเลยค่ะ1 หมื่นนั้นมาจากแฟนปุยให้ คือเงินตรงนี้มันมาจากแฟนปุยโดนรถชน ขาหักสองข้างเลย! แล้วเขาได้เงินทดแทนมาจากประกัน ประมาณ 2 แสนมั้งเหลือจากรักษาแล้วเขาให้ปุย 1 หมื่นเขาบอกว่าเอาไปทำอะไรก็ได้ ไปขายของอยากขายเสื้อ ตอนแรกปุยขายเสื้อก่อนปุยก็ลงเสื้อมา 5,000 หมื่นนึงเวลาเรามีเงินทุนก้อนหนึ่งเราไม่ลงทีเดียวเราจะแบ่งอย่างน้อย เราเจ็บครึ่งหนึ่งอีกครึ่งหนึ่งเรายังมีปุยก็ลงเสื้อ ปุยก็ขายเสื้อมาเรื่อย ๆ ขายเสื้อตัวละ100 กำไร 25 บาทก็มาเรื่อย ๆ จนปุยมาดูกางเกงยีนส์ ปุยเก็บกางเกงยีนส์ปุยขายก่อนค่ะ แล้วทีนี้ปุยขายได้ปุยก็เลยไปดูกางกางยีนส์ราคาส่ง” ครั้งแรกก็ลง 4,950 บาท 30 ตัวตอนนั้น ก็ไม่กล้าลงหมดอยู่ดีทยอยลง แต่เริ่มที่เงิน1 หมื่นบาทเลยตอนแรกปุยรับงานจีนมาอันนี้กล้าพูดได้เต็มปากเลยนะคะ ก็มันจะเป็นงานกระสอบแบบคละแบบคละไซซ์เนาะมาขายกับเพื่อนเมื่อก่อนนะคะ คละแบบคละไซซ์ทีนี้เราก็เอามาขายเหมือนกระสอบหนึ่งมีประมาณ 100 รหัส(หัวเราะ) 100 แบบอะไรเงี้ย เหมือน1 กระสอบมี 100 ตัว เราก็เอามา 1 ,000 ตัวแล้วก็มาแยกของกัน แยก ๆ เป็นรหัส ๆ ก็จะมีไม่ครบไซซ์หรอก เราก็ขายกัน ก็จะขายแพงมากไม่ได้เพราะว่าคุณภาพมันไม่ได้แบบว่าเริ่ด” ปุยก็ขายมาเรื่อย ๆ จนมันเกิดปัญหาตรงที่ งานมันไม่ตรงสเป็ก งานไม่ตรงสเป็กบ้างอย่างสั่งมา 1,000 ตัว งานเสียไปแล้ว700 ซึ่งแม่ค้าอย่างเราขาดทุนแน่นอน เยอะมาก! ก็ขาดทุนไป แล้วทีนี้ปุยก็เริ่มแล้วเริ่มหา “โรงงาน” ก็ไปติดต่อโรงงาน


“ปุยก็พยายามส่ง reference ไปให้เขาดูเรื่อย ๆ ดูเรื่อย ๆ ว่าพี่คะเทรนด์มันเป็นอย่างนี้นะคะ กลุ่ม target เราเป็นอย่างนี้ เขาก็ ปุยโชคดีตรงปุยไปเจอโรงงานที่เขารับฟัง” ซึ่งการปรับแพทเทิร์นแต่ละรอบก็มาจากปัญหา ก็คือลูกค้าบอกรอบนี้หัวเข่าใหญ่จังเลยพี่ปุย(ขาม้า) รอบนี้ปลายขามันกว้างไปค่ะพี่ปุย รอบนี้ต้นขามันติด ซึ่งถ้าต้นขาติดปัญหาใหญ่เลยเพราะว่าเราขาย คนเอวเล็ก สะโพกใหญ่ ต้นขาใหญ่ พอมันติดปุ๊บเรามองว่าต้องแก้“ขาม้า1 ตัวกว่าจะได้แก้แพทเทิร์นถูกใจนะคะ แพทเทิร์นปุยมีเป็นสิบ ๆ เลยค่ะ ต้องทำรีเสิร์ชไปด้วยเป็นแม่ค้าถ้าเราอยากทำ “แบรนด์” ค่ะเราต้องทำรีเสิร์ชลูกค้า เดี๋ยวนี้เขาจะบอกว่า Branding ก็สำคัญ ถูกต้องค่ะ คือแบรนดิ้งของปุยไม่ได้ยิงแอดไม่ได้สร้างตัวตนอะไรมากขนาดนั้น แบรนดิ้งของปุยก็คือหนึ่ง การใส่ใจ พวกแพทเทิร์นหนูก็พยายามแบบว่าถามลูกค้าว่าต้องการอะไรอีกไหม แก้อะไรอีกไหม ลูกค้าที่เขาซื้อของเราทุกคอลเล็กชันน่ะค่ะกลุ่มนี้เราต้องฟังเขา”อย่างขาม้าปุยมี 10 สี เขามีครบแล้ว 10 สี ปุยจะทักไปถามเขาเลยว่าต้องแก้อะไรอีกไหมคะ ถ้าเขาบอกให้แก้อะไรก็ติ๊กไว้ทุกคน ทีนี้เรามามองเรามาใส่เองแก้ ลองแก้มาให้เขา แล้วก็ลองทำขึ้นมา 1 รุ่น ไซซ์ละ 5 ตัว และก็ส่งไปให้เขาฟรี 1 ตัว ให้เขาลอง พอเขาโอเค ปุยก็จะผลิตมาเรื่อย ๆ


ตลาดหลักคือ “ออนไลน์” บริการหลังการขายสำคัญเพื่อเกิด “การซื้อซ้ำ”
ขายของออนไลน์เป็นอะไรที่แบบมันไม่ได้ยาก แต่มันก็ไม่ได้ง่าย ทุกคนสามารถเป็นแม่ค้าได้หมดแต่เราจะเป็นแม่ค้าออนไลน์อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ “ความสำเร็จของพี่ปุยคีย์หลักเลยนะคะคือหนึ่ง ขยัน อดทน เป็นแม่ค้าออนไลน์มี 2 อย่างนี้ อ้ออีกอย่างหนึ่งให้ก็คือ ความมีวินัย หลายคนค่ะขายของไปเรื่อย ๆ แล้วรู้สึกแบบว่า มันตัน! จริง ๆ แล้วพี่ปุยจะบอกว่าออนไลน์มันจะมียุคของมันอยู่ ยุครุ่งเรือง ยุคที่แบบว่าเรื่อย ๆ และก็ยุคที่ตกต่ำของมัน เพราะฉะนั้นนะคะยุคไหนที่รุ่งเรืองเรารีบโกยค่ะแล้วไม่ใช่ว่าเราโกยอย่างเดียวนะคะทุก ๆ ยุคมันจะมีช่วงระยะเวลาให้เราอยู่ สมมุติว่ามันจะมีช่วงที่ขาลงของเราใช่ไหม อย่าหยุดทำค่ะ ช่วงนั้นให้เรามีวินัยกับตัวเองให้มาก ทำเหมือนเดิมทำสม่ำเสมอ หรือทำมากกว่าเดิมนะคะ เพราะมันจะเป็นยุคของมันอยู่ เมื่อไหร่ที่เขาเรียกจังหวะชีวิตใช่ไหมคะเข้ามา ช่วงนั้นมันจะทำให้เราขึ้นโดยไม่รู้ตัว”สาเหตุที่ “Wanwi Jeans” อยู่ได้จนถึง 4-5 ปีมันเกิดมาจาก การบริการหลังการขาย หลายคนซื้อกางเกงไปแล้วพี่ปุยมั่นใจว่าการซื้อขายออนไลน์ไม่มีใครซื้อเสื้อผ้าแล้วใส่ได้เลยทุกตัว จะมีการที่แบบว่าหนึ่ง “ไซซ์” ไม่ตรงบ้างหรือมีปัญหาเกี่ยวกับเนื้อผ้า(การตำหนิ) ซึ่งของเราจะดูแลบริการหลังการขายหมด ใส่ไม่ได้ เปลี่ยนไซซ์ได้ เจอตำหนิไม่สบายใจแม้จะเป็นจุดเล็ก ๆ จุดเดียวเราก็เปลี่ยนให้ลูกค้าได้ แล้วก็จะมีบริการตอบหลังบ้านตลอด 24 ชม. อันนี้สำคัญ เมื่อไหร่ที่ลูกค้าทักมาหาเรา เราจะต้องรีบตอบลูกค้าทันทีเป็นการบริการหลังการขายที่ใจหลักสำคัญเลย มากกว่าการขายคือการบริการหลังการขาย “บางคน เคยเห็นไหมว่าเวลาเราขาย ขาย ๆ ไปบางคนน่ะขายดีมากเลยช่วงแรก ๆ แต่จะอยู่ได้ไม่เกิน 2 ปีเพราะ? นี่ล่ะค่ะบางคนนะคะไม่ได้มีบริการหลังการขายที่ดีให้กับลูกค้า บางคนเขามองว่าบริการหลังการขายไม่ต้องก็ได้ ขายไป ๆ ขายแล้วก็แล้วกัน ไม่ได้นะคะ! อยากรวยกับออนไลน์ “บริการหลังการขาย” ต้องดี ก็เหมือนเราไปใช้บริการอะไรก็แล้วแต่ถ้าบริการหลังการขายไม่ดี เราจะไปแค่ครั้งเดียว แต่ถ้าเมื่อไหร่บริการหลังการขายดี เราจะซื้อซ้ำ เป็นการซื้อซ้ำแม่ค้าออนไลน์ที่รวยได้นะคะเกิดจาก การซื้อซ้ำ”


ปุยแทบจะไม่ได้เสียค่าแอดเลย แทบจะไม่ได้เสียเลย เป็นการบอกต่อแล้วก็เน้นให้ “ความรู้” ในคอนเทนต์ซะส่วนใหญ่ ตลอดเวลา สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เราขายได้คืออะไรรู้ไหมคะ เวลาปุยทำคอนเทนต์ Storytelling ของปุยคือจะเล่าหมดเลยว่ามันเป็นยังไง บอกทั้งข้อดี-ข้อเสีย จุดเด่น-จุดด้อย บอกหมดเลย“แต่ถ้าเราฮาร์ดเซลล์อย่างเดียวค่ะ คือบางทีลูกค้าจะกลับมาหลังบ้านเราแล้วก็เขาจะใช้คำพูดที่ว่า ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก แต่ถ้าเราบอกไปแล้วลูกค้าจะบอกว่า(พอเราบอกไปแล้วว่ามันจะเป็นอย่างงี้ ๆ นะแต่ลูกค้าไม่ฟังเราใช่ไหม) เขาจะกลับมาบอกว่า รู้อย่างงี้เชื่อคุณปุยดีกว่า มันจะต่างกันค่ะ มันจะต่างกัน” ปุยใช้เวลาตอบแชทเองเป็นเวลา 3 ปีกว่า ๆ นะคะ ก็เพิ่งจะมาจ้างน้อง คือดูเองแบบ 100% เลย บางวันถ้ารู้สึกแบบว่าว่างจะมานั่งไล่ดูแชทหมดเลย หรือแอดมินเขาจะแค๊ปไว้คนนี้มีปัญหาเรื่องนี้ ก็จะเข้าไปดูแล้วไล่อ่านว่าเขามีปัญหาอะไรบ้าง ถ้ามันเป็นความผิดเกิดจากเราจริง ๆ ต้องรับผิดชอบให้เขา


ต้องรู้ว่า “กลุ่มลูกค้าของเรา” คือใคร? กำหนดให้ได้ให้ชัดแล้วจากนั้นพุ่งเข้าชนเลย!
ปุยกล้าการันตีว่า 80% ของลูกค้า “ตัวสูง” ที่ซื้อร้านปุยไปแล้วไม่ผิดหวัง ไม่ลอยแน่นอน คือถ้าเราอยากรวยจริงน่ะเราต้องรู้กลุ่มลูกค้าของเราว่า กลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มยังไง กลายเป็นว่าแม่ค้าออนไลน์ใคร ๆ ก็เป็นได้แต่เป็นอย่างไรให้ประสบความสำเร็จมันยาก! แต่ปุยมีเคล็ดลับบอกทุกคนอีกข้อหนึ่งก็คือ ถ้าเราไม่เข้าใจลูกค้าเรา เราไม่เข้าใจกลุ่มลูกค้าเรา เราจะทำออนไลน์ได้แป๊บเดียว “หนึ่งเลยต้องศึกษาค่ะ สมมุติเราขายตอนแรกเราอาจจะจับฉ่ายได้นะคะ เราจับฉ่ายได้ แต่พอเราขายมาสัก 2-3 รอบแล้วเอาของมาสัก 2-3 รอบ ต้องรู้แล้วนะว่าลูกค้าเราเป็นกลุ่มไหน ต้องการอะไร ถ้าเราจับได้นะ ต่อไปเราก็จะลงแต่ของแต่กลุ่มลูกค้านั้น ๆ นั้น ๆ คนไทยมี 70 ล้านคนได้ไหม? อย่างน้อยต้องมี 1 หมื่นคนแหละ”บางคนแบบว่าตัน! คิดอะไรไม่ออกเพราะอะไรรู้ไหม? ลืมคิดไปว่า target ของเราคือใคร ลงของมาแล้วทำไมขายไม่ได้! เพราะว่าลงมาไม่ตรงทาร์เก็ต การขายของเหมือนการทดลองวิทยาศาสตร์มันเป็นการเก็บข้อมูล การสังเกตการณ์ การเก็บข้อมูลหมดเลย แต่ถ้าเราเป็นแม่ค้าที่แบบไม่เป็นไรลงมาเลย 500 ตัว ขาย ๆ ขายหมด 500 ตัวเราลงใหม่ อย่างเงี้ยเราไม่รู้ทาร์เก็ต(ลูกค้า) เราไม่ได้เก็บข้อมูล “ปุยเคยนั่งขายของในตลาดนัดนะคะ ปุยเป็นร้านเดียวที่ปุยขายกางเกงยีนส์ 3 ชั่วโมงได้ 100 ตัว ครั้งแรกค่ะ! ปุยก็ไม่ขายได้นะคะปุยก็ขายได้ 10 ตัว 20 ตัว ใช่ค่ะแล้วทีนี้ปุยมานั่งสังเกตว่า อู้หูคนไทยหุ่นอย่างงี้นะ เอวเล็กนะ สะโพกใหญ่นะ ต้นขาใหญ่ หลัก ๆ เลยคนไทยสะโพกกับต้นขา ใช่! บอดี้คนไทยเอวเล็ก สะโพกใหญ่ ต้นขาใหญ่ แรก ๆ คือเอาแค่นี้ก่อน”ทีนี้เราลงของมาถูกกลุ่ม เราขายได้ เราขายหมด อันไหนที่มันไม่เหมาะกับสาวเอวเล็ก สะโพกใหญ่ ต้นขาใหญ่เราไม่เอามา เราไม่เอามาเสร็จแล้วอ้าว! ทำไมลูกค้าเราบางคนเขาใส่แล้วกอง ทำไมเราใส่แล้วลอย อะไรประมาณนี้ ก็มานั่งศึกษาอีก “ความยาว” ของกางเกงก็เป็นสิ่งสำคัญ


นอกจากแพทเทิร์นที่เหมาะกับสรีระ “เอวเล็ก สะโพกใหญ่ ต้นขาใหญ่” แล้วความยาวกางเกงก็ยังเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกด้วย
“กางเกงยีนส์ถ้าใส่ลอย ใส่ลอยได้ถ้าเราแบบว่าหุ่นดีอ่ะนะ ใส่ลอยได้อยู่เต่อได้อยู่แต่ก็ไม่ควร ถ้าเราใส่ความยาวพอดีน่ะหุ่นดี
หุ่นดี แต่ละทรงก็จะใส่ความยาวไม่เหมือนกันนะคะ แอดมินปุยจะเสียเวลาคุยกับลูกค้าหน่อยนึง แต่ลูกค้าจะได้ของที่ถูกใจแน่นอน”
ตอนปีแรก ๆ ช่วงสองปีแรก ๆ จะเป็น “ผู้หญิง” ก่อน อายุประมาณ 24-45 ประมาณนั้น แล้วก็ช่วงมาปีหลัง ๆ ปุยเริ่มตัดงานแพทเทิร์นที่มันเป็นแบบทันสมัยมากขึ้น งานเช่นกระบอกใหญ่ แบ็กกี้ คาโก้ ซึ่ง “ผู้ชาย” สามารถใส่ได้ด้วย อย่างพวกนี้(ชี้ให้ดูกางเกงยีนส์ขาสั้นซึ่งเป็นคอลเล็กชันใหม่ที่ออกมาในช่วงของหน้าฝน) ทรงนี้กำลังมาแรง “ทรงจอร์ช” ก็คือขาสั้น 3 ส่วน 4 ส่วน ก็คือเด็ก ๆ ก็ใส่ตอนนี้ก็คือจะได้กลุ่มวัยรุ่น ประมาณ 18 มาด้วย ปุยว่าเรื่องยีนส์ปุยเข้าใจ เพราะว่าตลอดระยะเวลา 4-5 ปีมันมีบทเรียนเยอะมากมาย“แรก ๆ เราไม่เข้าใจว่าทำไม ยีนส์ไซซ์เดียวกัน สีเดียวกัน แพทเทิร์นเดียวกัน แต่พอเอาไปฟอกสีน่ะค่ะไซซ์มันเพี้ยนเราไม่เข้าใจ เราตอบลูกค้าไม่ได้ เราก็เลยถามโรงฟอกว่ามันเกิดจากอะไร เขาบอกว่าแต่ละสีมีการฟอกที่ต่างกัน ใช้อุณหภูมิไม่เหมือนกันอาจจะใช้ความร้อนไม่เหมือนกัน การหดของสีการดึงสีมาทำให้ผ้ามีการหดเล็กน้อย ทำให้ใส่ออกมามีความฟิต-ความหลวม ไม่เท่ากัน อ่ะอันนี้ปุยตอบลูกค้าได้ ปัญหาตรงนี้อาจจะเกิดมาจากตัดผ้าไม่ดีนะคะ เย็บไม่ดี(เย็บกินเนื้อผ้า) แล้วก็อาจจะแบบเกิดจากการฟอกสีเราตอบลูกค้าได้หมด ลูกค้าเขาจะมั่นใจเราในตรงนี้”ถ้าเรื่องยีนส์ปุยกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าปุย แนะนำลูกค้าได้และก็บอกลูกค้าได้ว่า ปัญหาที่ลูกค้าเจอตอนนี้มาจากอะไร


ยอดขายวันละแสน! เป็นแม่ค้าออนไลน์ต้องมีการตั้งเป้า
ปุยเป็นคนที่ไม่เก่งเรื่องการ LIVE สด เวลาปุยขายนะปุยจะขายแบบตามสไตล์คุยกับลูกค้า อารมณ์ประมาณนี้มากกว่า แต่ขายได้!“คือไม่ได้แบบมาปุ๊บขาย ปึ้ง ๆ ปึ้ง! อย่างเงี้ยไม่ใช่ ลูกค้าบอกว่าพี่ปุยอยากดูรหัสนี้ ใส่ให้เขาดู คือถ้าเป็นการขายตามแพลตฟอร์มมันจะมีตะกร้า ก็จะมีรหัสในตะกร้าถูกไหมคะ พี่ปุยหนูอยากดูตะกร้านี้ใส่ให้หนูดูหน่อย ใส่ให้ดู ใส่ให้ดูทุกตัว การ LIVE สด 1 ไลฟ์เปลี่ยนผ้าไม่ต่ำกว่า 60 ตัว เปลี่ยนให้เขาดูแต่ขออนุญาตลูกค้าว่า ขอเปลี่ยนผ้าหน้าไลฟ์โดยใช้ผ้าถุงปิดเอาผ้าถุงคลุม ใส่ให้ดูตรงนั้นเลย”เนี่ยมันทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อของปุยง่าย! ก็คือเขาเห็นเราถ้าเราใส่สวยปุ๊บเขาก็ซื้อ เราใส่ไม่สวยปุ๊บเขาก็ไม่ซื้อ “แต่พอใส่ออกมามันจะเป็นทรงอย่างงี้นะ ขามันประมาณนี้นะ ยาวประมาณนี้ สะโพกประมาณนี้ เอวอยู่ระดับนี้ อันนี้คือเป็นการใส่ให้ดู อันเนี้ยคือจุดแข็งของเรา” ปุยกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าถ้า LIVE สด ไม่อึดจริง ๆ ทำแบบนี้ไม่ได้ เพราะมันต้องเปลี่ยนผ้าไม่ต่ำกว่า 60 ตัว รหัสสินค้าของ Wanwi ก็มีไม่ต่ำกว่า 58 SKU แล้วแต่ละรหัสมี “สี” 3 สี 4 สี 7 สี ให้เลือกอีก

ราคาจำหน่าย ถ้าถามของปุยจะสตาร์ท 399 ซึ่งราคานี้จะเป็นของยีนส์นำเข้า(นำเข้ามาจากจีน) แต่ถ้าเป็นงาน Wanwi จะสตาร์ทที่ประมาณ 490-690 คือราคามันก็จะรันไปตามไซซ์ยิ่งไซซ์ใหญ่พอเวลาเขาตัด เขาก็จะคิดเงินปุยเพิ่ม ปุยก็จะรันราคาไปตามไซซ์แต่ว่าก็จะไม่เกินสูงสุดที่ 690 บาท“พอเวลาเรา LIVE สด อย่างเงี้ยเราก็ 450 หรือ 459 แล้วแต่ แล้วแต่รอบ แต่บางทีเราใส่ราคาเต็มแต่พอเราไปขายในแพลตฟอร์ม ก็จะได้คูปองได้โค้ดส่วนลดลูกค้าก็ซื้อWanwi ในบางคนนะคะ ปุยเคยเห็นเขาซื้ออยู่ประมาณราคา 390-470 บาทประมาณนั้น”


ช่วงวันขายดีมาก ๆ หรือช่วงไหนดร็อปไปเลยก็มีปุยเคยร้องไห้ เคยนอยด์ในวันที่ปุยขายไม่ดี แต่แฟนปุยบอกว่าชอบคิดแต่เรื่องแต่วันแย่ ๆ ทำไมไม่คิดถึง วันที่เราขายดีจนมากกว่าวันที่เราขายดีประมาณ 3 เท่า! ทำไมไม่คิดถึงวันนั้นบ้าง “ถัวเฉลี่ยแล้วมันค่าเท่ากัน! ปุยจะบอกนะคะขายของเนี่ยมันไม่ได้ขายดีทุกวัน มันจะมีบางวันขายดีบางวันขายไม่ดี และบางวันก็ทรงตัว เพราะฉะนั้นนะคะถ้าเราอยากรู้ว่าเราขายดีไม่ดี ให้เอา 30 วันมาหารกับยอดที่เราได้ 1 เดือน สมมุติเดือนนี้เราตั้งไว้แสนนึง แต่เราขายไม่ได้แสนนึงเราไม่ต้องเสียใจนะคะเดือนหน้าเอาใหม่! อย่างของปุยน่ะค่ะต่อวันของปุยเบสิกอยู่แล้ว วันนึงประมาณ 1 แสนบาท 80% ก็จะมาจากtiktok ค่ะเป็นคลิปวิดีโอ แต่ถ้าวันไหนขายได้ไม่ถึงแสนก็ไม่ได้เสียใจ” เพราะว่าเราต้องรู้ว่าคนไม่ได้มีเวลาซื้อของของเราทุกวัน(หัวเราะ) ถ้าเราเป็นของกินน่ะของกินยังไม่ซื้อทุกวันเลย เราเป็นเสื้อผ้าคนจะหมุนเวียนกันซื้อ แล้วเราไม่ได้เป็นร้านเดียวที่ขายมีร้านอื่นด้วย เขาก็หมุนเวียนไปเรื่อย ๆ แต่ว่าสิ่งสำคัญคือเราต้อง “ตั้งเป้า” ให้ตัวเองว่าเดือนหนึ่ง ๆ เราต้องขายให้ได้กี่ตัว“ปุยเคยขายได้พีคสุด 5 แสนกว่าบาท! แต่แค่ tiktok นะคะเฉพาะคลิปวิดีโอ อยู่ ๆ คลิปมันติด (เป็นไวรัล) ยอดก็เลยโตขึ้นมาด้วยเลย นั่นคือพีคสุดนะคะ” แต่ว่าพอถ้าแบบขายไม่ได้เลยก็ไม่ถึงแสนก็มี เป้าไม่ถึงแสนก็มีมันแล้วแต่วัน คือปุยจะไม่ตั้งเป้าเยอะเพราะตั้งเป้าเยอะแล้วเราจะเหนื่อย จะรู้สึกเสียใจเวลามันไม่ถึงเป้า ถ้าเราตั้งเป้าไว้ตรงนี้ 12 เดือน (1 ปี) เราจะได้ทุกอย่างเลย คือสิ่งที่เราเคยตั้งเป้าไว้ว่าเราจะทำอะไร เราจะใช้อะไรอย่างเงี้ย คือมันได้หมดเลย“ปุยจะไม่ฝืนตัวเองเกินไปและก็จะไม่แบบว่า ลดเป้าหมายของตัวเองลงมาด้วยนะคะ สิ่งสำคัญของแม่ค้าก็คือหนึ่งเวลาเราขายของ เราต้องตั้งเป้านะคะถ้าเราไม่ตั้งเป้า มันไม่ได้นะ(หัวเราะ) ไม่ได้ค่ะเราจะไม่รู้เลยว่า เราจะต้องขายเท่าไหร่ ขายยังไง ขายอะไรบ้างเราไม่รู้เลยค่ะ”


และก็อย่ากลัวเรื่อง “ภาษี” ถ้าเราจ่ายถูกต้องมีข้อดีมากกว่า
ใครขายของพี่ปุยแนะนำนะคะให้เสียภาษีอย่างถูกต้อง จำไว้ว่าการเสียภาษีอย่างถูกต้องเราจะเติบโต ยกตัวอย่างเช่น วันนี้เราไม่เคยเสียภาษีเลยเราขายดีเรามีเงินนะ แต่เราอยากซื้อโรงงานเราอยากสร้างโรงงานสร้างโกดัง แน่นอนไม่มีใครใช้เงินสดสร้างเราต้องไปกู้ธนาคารถูกไหม“แต่ถ้าเราไม่เคยเสียภาษีเลย กู้ไม่ได้นะ! เพราะเขาต้องดูก่อนว่าเงินน่ะเรามาจากไหน? (หัวเราะ) เราเคยเสียภาษีหรือเปล่า ธนาคารเขาดูอย่างนี้ ทุกการเติบโตของปุยเนี่ยที่พี่ ๆ เห็นนะคะมันมาจากการที่ปุยเสียภาษี ปุยเป็นแม่ค้าออนไลน์ไม่ได้กู้ซื้อทุกอย่างง่าย ๆ นะคะ เขาดูเลย อันดับแรกเขาดูเลยว่าเสียภาษีไหม?”ถ้าใครจะขายของคำนวณภาษีดี ๆ เดี๋ยวจะแบบว่าเข้าเนื้อ! ภาษีก็จะมีที่เสียกันหลัก ๆ ก็จะมี VAT แล้วก็ ภค.36 (ภาษีออนไลน์) ก็เป็นภาษีรายปี“คำนวณดี ๆ ไม่ควรกลัวเกี่ยวกับภาษี ทุกคนมีหน้าที่ต้องจ่ายภาษีนะคะไม่ควรกลัว แล้วก็ถ้าเราอยากเติบโตอย่างที่ปุยบอกน่ะค่ะ เสียภาษี ทำตามระบบให้ถูกต้อง” ถ้าเราแบบไม่เก่งภาษีไปเรียน! เขามีคอร์สเรียนเยอะแยะ หรือจ้างบัญชีเลยสำหรับปุยนะจ้างพนักงานที่เป็นบัญชี เพื่อเราจะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นเราเป็นเจ้าของกิจการนะ แต่ก็แล้วแต่คน แต่สำหรับปุยมองว่า “ภาษี” สำคัญถ้าเรายังอยากทำธุรกิจในประเทศไทยภาษีสำคัญมาก


มองหาโอกาสเพิ่มช่องทางใหม่ ๆ อยู่เสมอ เป็นแม่ค้าไม่ควรสร้างศัตรู
แม่ค้าคนสวย “คุณปุย-วันวิสาข์ รอดอุบล” เจ้าของแบรนด์ “Wanwi” พรีเมียมยีนส์ ยังบอกด้วย“หลายคนถามว่าเออสำเร็จไวนะ สำเร็จไวสิ! เพราะเราไม่ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นเหมือนคนอื่นเลย(หัวเราะ) ปุยทำงานตลอดเลยค่ะ ทำงานตลอดแทบจะไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นกับคนอื่นเขาเลย ไม่หยุดทำเลย ยิ่งออนไลน์ปุยอยู่ในยุค “โซเชียลแคม” ยุคที่แบบแรก ๆ เลยค่ะ ปุยเห็นมาตั้งแต่ยุคแรกเลยเมื่อก่อนแอปฯ นี้มาแรงมาก แล้วก็หายไป และก็มาเฟซบุ้ก แล้วก็มาพวกไอจี แล้วมายุคของติ๊กต่อก ช้อปปี้ เห็นไหมแต่ละยุคแต่ละแอปค่ะ มันมีความแบบว่าไม่เหมือนกันน่ะ” ปุยอยู่ตั้งแต่โซเชียลแคมพอมันดร็อปไป ปุยก็กระโดดมาเฟซบุ้ก คือถ้าจะขายออนไลน์ต้องวิ่งให้หมด ต้อง 4x100 ต้องวิ่งแบบนั้นเลย“คือถ้าแบบว่าเดี๋ยวค่อยทำ ดูคนอื่นทำก่อน เข้าทีหลังไม่ทันแล้ว! เข้าทีหลังไม่ทันแล้วปีที่แล้วใครเข้าติ๊กต่อกปีที่แล้วทัน! ปี 2566 แต่ถ้าเข้าปี 2567 ไม่ทัน! ถ้าทันจริง ๆ ต้องมีเงินทุนพอสมควร ที่จะเปิดการมองเห็น(ต้องเสียเงินใช่!) ปุยน่ะเสียโอกาสอยู่อย่างหนึ่งปุยเคยเล่นตอนปี 2563 แล้วปุยหยุดไป” ทุก ๆ 3 ปีปุยว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลง เราต้องเข้าใจในแพลตฟอร์มว่าแพลตฟอร์มนี้เป็นอย่างไร ช่วงนี้เป็นยังไง ออนไลน์มีกี่ช่องขายให้หมดทุกช่อง “สิ่งสำคัญคืออย่าปิดกั้นตัวเอง บางคนอุ๊ย! ไม่กล้า ไม่กล้าไปขายตรงนั้นน่ะ อุ๊ยไม่กล้าไปขายตรงนี้ ไม่มีหรอกค่ะทำคลิป คลิปเดียวลง 5 ช่องเลย ลง 5 ที่ไปเลย! มันขายได้หมดสำหรับปุยนะ ปุยว่าการปิดกั้นไม่มีผลเท่ากับเราไม่มีวินัย ถามปุยสำหรับปุยนะคะปิดกั้นน่ะไม่มีผล แต่ถ้าเราไม่มีวินัยเราตุย(ศัพท์ชาวเน็ต “ตุย” แปลว่าตาย) จริง ๆ”


คุณปุยบอกว่า ในความคิดปุยนะเหมือนปีหนึ่งเราอาจจะอยู่ใน ไตรมาสแรกก็ได้ หรือไตรมาสสอง ไตรมาสสามอะไรอย่างนี้ก็ได้
เราไม่รู้ว่าเราอยู่ไตรมาสไหนของเขา เขาจะเปิดให้ทุกร้านปุยว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่คนที่จะเปิดได้ทุกวันทุกร้านคือคนที่ซื้อ คนที่จ่ายแน่นอน แต่เราเหมือนเป็นออร์แกนิกกึ่งจ่ายอย่างเงี้ย เราไม่รู้ว่าเราอยู่ในไตรมาสไหนถ้าเราไม่ทำ สมมุติเราอยู่ในไตรมาสสามอย่างเงี้ย เราแบบว่าไตรมาสหนึ่งเราเหนื่อยมากเลยเราไม่ทำ สองเราหยุดทำ พอมาถึงของเราแล้วเราไม่ทำแล้วเราจอด! เลยนะ“คือของปุยคือว่าหนึ่ง อย่าหยุดทำ มีวินัยอย่าหยุดทำ เพราะเราไม่รู้ว่าความสำเร็จมันรอเราอยู่ที่ 1, 2, 3, 4, 5 อะไรเงี้ยเราไม่รู้เลย”

ล่าสุดปุยโดนก๊อปปี้แบรนด์ “Wanwi Jeans” ด้วย ก๊อปป้ายแบรนด์แบบนี้ไปเลย เขาก๊อปปี้เป็นชื่อ “Wanwi” เลย“แล้วทีนี้หนูก็แบบทักไปคุยหลังบ้านกับเขาดีกว่า เผอิญเขาคุยง่ายลงตัว อันนี้ปุยจดเครื่องหมายการค้าก็บอกเขาดี ๆ ว่า ไม่ขายได้ไหมคะถามว่าเขาว่าทำมากี่ตัว เขาบอกทำมา 2,000 ตัว แฟนปุยก็เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวผมให้ขายก่อน ให้หมดภายในสิ้นปีนะ 2,000 ตัว แล้วพี่ไม่ต้องทำมาอีกนะอะไรเงี้ย ตอนแรกเขาก็ไม่ยอม เขาไม่เข้าใจคำว่าเครื่องหมายการค้า(หัวเราะ) ทำมาคือเหมือนเลย ถ้าเป็นคนอื่นเขาให้ทำลายนะคะ เขาไม่ให้ขาย ใช่ค่ะแต่ปุยก็ให้เขาขาย ให้เขาขายให้หมดจนถึงสิ้นปีอ่ะ 2,000 ตัว เป็นแม่ค้าด้วยกันปุยเข้าใจ ปุยเข้าใจในความที่แบบว่าขาดทุนน่ะมันเป็นยังไง”

เป็นแม่ค้าไม่ควรสร้างศัตรู อันนี้ใครที่เป็นแม่ค้าอยู่ถ้าอยากเป็นแม่ค้าที่สำเร็จ แล้วก็ success ในทุก ๆ เรื่อง ไม่ควรสร้างศัตรู ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในดราม่า“เราอาจจะเป็นกระแสได้พัก ๆ ค่ะ แต่! เราไม่รู้ว่าดราม่าจะสวนไปทางไหน ถ้าสวนไปทางอื่นโอเค แต่ถ้าสวนเข้าทางเราค่ะเราอาจจะดับได้! อันนี้คือปุยบอกลูกน้องปุยทุกคนเลยว่า ต่อให้มีดราม่าอะไรก็แล้วแต่ให้เราเงียบ! เงียบคือผู้ชนะ สำหรับปุยนะเป็นแม่ค้าหนึ่ง สงบปากสงบคำ อย่าเก่งกับลูกค้า(หัวเราะ) เด็ดขาดเลย! นะคะสงบปากสงบคำ อย่าเก่งกับลูกค้า สองอย่างนี้สำคัญมากค่ะ”



ในท่ามกลางความสำเร็จอย่างถล่มทลายเรื่องของรายได้ที่มหาศาลที่เราได้เห็นได้รับรู้มา “จากแม่ค้าออนไลน์” หลาย ๆ คนดังปรากฏเป็นข่าวเป็นกระแสจนชวนให้เราอยากจะมีโมเมนต์ที่ประสบความสำเร็จแบบนั้นบ้าง ว่ามันจะหอมหวานสักปานใดครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งวันนี้แบรนด์ “Wanwi” พรีเมียมยีนส์ ที่เริ่มต้นมาจากทุน 1 หมื่นบาท สู่ยีนส์แบรนด์ไทย ยอดขายวันละแสน! (บวก ๆ) โดยแม่ค้าคนสวยและเก่งมาก ๆ อย่าง “คุณปุย-วันวิสาข์ รอดอุบล” เจ้าของแบรนด์ก็ได้ทำให้เราเห็นแล้วว่า ความสำเร็จและก็การที่จะเติบโตได้นั้น อะไรคือคีย์หลักสำคัญในการยึดโยงเพื่อให้เราในฐานะเจ้าของธุรกิจสามารถเดินไปสู่เป้าหมายที่สูงสุดได้ ความสำเร็จไวหรือช้าให้ไปดูที่เขาทุ่มเท ความมุ่งมั่นและตั้งใจมากแค่ไหนต่างหากที่ทำให้คุณพบกับความสำเร็จได้ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจดี ๆ จากแบรนด์ “Wanwi” พรีเมียมยีนส์ ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความสำเร็จอย่างน่าชื่นใจในครั้งนี้

สามารถติดตามผลงานหรืออุดหนุนสินค้า “ยีนส์” พรีเมียม ๆ แบรนด์ของคนไทยทำเองได้ที่ เพจ : WANWI JEANS และทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในชื่อเดียวกันนี้หรือ โทร.081-458-7950

คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น