xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) จากชาวนาเลี้ยงควายไว้ใช้แรงงาน สู่ “ควายยักษ์” พันธุ์ไทยเงินล้าน!!! อาชีพที่เหมือนฝันของ “ลุงติ๊ก”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ก็ที่ท่านเสด็จฯ มานี่ก็เขาว่าตอนนั้นกำนัน(น้องชาย) และก็ทางจังหวัดฯ ก็โทรมาว่าพระองค์ท่านเคยเห็นในโซเชียลนะ คิดว่าเป็นรูปปั้นอะไรเงี้ย มันเป็นตัวเป็น ๆ หรือเปล่า บอกว่ามันมีชื่อถึงเมืองนอกเมืองนาซึ่งบ้านเมืองของท่าน ท่านทำไมต้องไม่เห็นด้วยอะไรเงี้ย ท่านต้องเห็น”


บทสนทนาตอนหนึ่งซึ่งลุงติ๊ก “นายวิโรจน์ คุ้งโพ” เจ้าของฟาร์มอนุรักษ์ควายไทยสายพันธุ์ยักษ์ที่รู้จักกันในวงการภายใต้ชื่อ
“บ้านติ๊กควายไทย” ได้ตอบคำถามของพ่อเลี้ยงเจในระหว่างที่ผู้ไปเยือนได้เห็นภาพที่ติดเอาไว้ภายในบ้านอย่างน่าปีติ เมื่อครั้งที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯได้เสด็จพระราชดำเนินมาที่ฟาร์มแห่งนี้ช่วงหลายปีก่อน เพื่อทรงทอดพระเนตร “ควายไทย” พันธุ์ยักษ์! ตัวเป็น ๆ ด้วยพระองค์ท่านเองถึงบ้านของลุงติ๊ก นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณฯ และสร้างความปลื้มปีติใจให้กับลุงติ๊กและครอบครัวมาจนถึงทุกวันนี้ “ต่างชาติก็มาเยอะครับ ฝรั่งก็มาดู ฝรั่งมาชูโป้งบอกว่า บิ๊ก บิ๊ก!
เลย”



ทำนาเป็นอาชีพหลัก
ผมทำนาเป็นอาชีพหลักครับ และก็แต่ก่อนผมใช้แรงงานควายนะครับมันก็ต้องทำนาก็คู่กับควายแหละ ทำนา&เลี้ยงควาย เป็นของคู่กันการทำนาต้องใช้แรงงานควาย ผมก็เลี้ยงควายมาเรื่อยตั้งแต่ “ควายเหล็ก”(รถไถนา) เข้ามานี่ก็ผมไม่ได้ขายหมดนะ ก็เลี้ยงรุ่นต่อรุ่นมาถึงปัจจุบันนี้ครับมันก็ มันเหลือน้อยครับควายโบราณ-ควายใหญ่ใหญ่น่ะครับ แต่ว่าก็ยังมีอยู่ที่นี่ครับ พอเริ่มมีโซเชียลฯ ก็ลูกหลานก็รู้จักกัน เป็นควายเก่าควายโบราณครับ”


เลี้ยงควายไว้ใช้แรงงาน
แต่ผมเป็นเด็กมาเลยนะครับ และก็พอแยกเรือนมาแล้วผมก็ไปหาควายใหญ่แต่ก่อนมันเยอะนะครับที่จังหวัดอุทัยฯ เราเนี่ย “แต่ก่อนเนี่ยผมก็เริ่มทุนน้อย ๆ ก็เอาควายที่ว่าทำนากินไหวครับ พอเริ่มมีทุนมากขายข้าวขายปลาได้ก็เริ่มซื้อควายใหญ่ ๆ เพราะว่า “กำลัง” ของเขาเยอะจะลากเกวียน จะไถนานี่เขาไม่โลเลครับ”

เมื่อก่อนราคาซื้อขาย ตัวใหญ่ ๆ ก็หลักหมื่น
เมื่อก่อนควายก็ขายธรรมดาทั่วไปเนี่ยแหละครับ ควายใหญ่ก็ได้เปรียบหน่อยเขาว่าขายได้ราคาหน่อยนึงเพราะเขาใหญ่“เมื่อก่อนนี้เขาก็ 9,500 นี่ก็แม่ลูกติดอย่างใหญ่เลยครับ 8,500 อย่างเงี้ยครับ อย่างพ่อพันธุ์คุมฝูงนี่ก็เนี่ยขั้นหมื่นนึงบ้าง ล่าสุดนี่ก็ไปซื้อเจ้าหมูมา 30,000 ครับ เจ้าหมูยักษ์นะครับไอ้นั่นมันใหญ่มากเลยฮะ! ใหญ่เรียกว่าผมอายุ 60 กว่าเพิ่งจะเจอเจ้าหมูเนี่ย”ตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยมีใครซื้อควายแบบผมมากนัก เพราะว่ามันราคามันแพง มันสูง โดยมากเขาจะเอาง่าย ๆ เอาในฝูง ทับกันเองบ้าง เขาขี้เกียจไปหาขี้เกียจระวังเพราะสมัยนั้นถ้าควายใหญ่มันอันตราย เพราะว่าขโมยขโจรมันเยอะ“พอขายเจ้าหมูไป แล้วไปซื้อเจ้าดาวใหญ่มา เจ้าดาวใหญ่ก็ใหญ่พอ ๆ กับเจ้าหมูยักษ์ แต่นี่ก็ประมาณ 10 กว่าปีเนี่ย เคยขายให้ท่านรองฯ ไปแม่รวย(ลูกเจ้าหมูยักษ์) ครอกแรกแม่ลูกติด(ลูกตัวเมีย) ก็ขายไป 70,000” ราคาก็เพิ่มขึ้นและคนก็เริ่มเห็นควายใหญ่มีคุณค่าแล้ว เริ่มจะเอาไว้กันบ้างแล้ว




เริ่มเป็นรายได้หลักมา ช่วง 10 กว่าปีนี้
เริ่มเป็นรายได้หลักนี่ก็ 10 กว่าปีนี้ เริ่มราคา 3 หมื่น 4 หมื่น 5 หมื่นเนี่ยแหละ “แซงขาดหลักล้านนี่ก็เมื่อ 3 ปี 4 ปีนี้ครับ เป็นเพราะรุ่งเพชรใช่ไหมครับ? (พ่อเสี้ยงเจถามลุงติ๊ก) เพราะรุ่งเพชรครับ” จากเจ้าหมู เจ้าดาวใหญ่ แล้วมาถึง “เจ้ารุ่งเพชร”ก็เอาลูกเขาไว้ที่เป็นแม่พันธุ์นะครับ แม่เหลืองทอง แม่มากเนี่ยครับ เจ้าแอร์ลูกเจ้าหมู(ของเล้าเจ้าหมู) นะฮะ และก็มาได้เจ้าหนุ่มมาเป็นพ่อพันธุ์ ก็เป็นสายของทองสุกครับ และก็ซื้อพ่อพันธุ์มาอีกตัวชื่อเจ้าเพิ่มมาจากท่านผู้กำกับฯ มา 3 หมื่นนั่นก็แพงแล้วล่ะ แล้วก็เอาลูกมันไว้ลอง ๆ มาทดลองดูว่าไอ้สามสี่ตัวเนี่ย ลูกตัวไหนจะดี พอลูกดีแล้วเราก็เอาตัวเมียไว้ เอาแม่พันธุ์ไว้” รุ่งเพชรนี่เป็นลูกของเจ้าหนุ่มเหล่าควายลาดยาวของลุงแกละ เอามาบวกกับพวกแม่เหลืองทอง พวกแม่มากพวกนี้ครับ ลูกโอเคเลยครับ “รุ่งเพชร” เขาเป็นควายตามสาย ผสมขึ้นมาตามสายเลย“รุ่งเพชร ก็เป็นควายที่เด็ก ๆ ก็โก้ง ๆ เก้ง ๆ ขนฟู ๆ ฮะ ก็ไม่ใหญ่โตเท่าไหร่ครับ มันจะดูไม่ค่อยออกเลย ทีนี้เขาจะมาโตเมื่อตอนขวบไปแล้วเนี่ยครับ ขาจะใหญ่ ออกมารุ่งเพชรตอนออกมานี่ก็มีเขากับหัว(หัวเราะ) แลดูสั้น ๆ พุงใหญ่ครับ” ก็เอาไปให้เขาดูตามงานประกวดบ้างอะไรบ้างอย่างเงี้ยครับ แต่ “รุ่งเพชร” มันเป็นโครงสร้างผอมก็เอาไปให้เขาดูความแปลก(หัวเราะ) บางทีเขาก็ชวนไปเป็นเพื่อนบ้างอะไรบ้าง เอาติดเขาไปหรืออะไรเงี้ย ไปเที่ยวด้วย


มีพาไปออกงานโชว์ตัวบ้าง ตามสนามประกวด
เมื่อก่อนสนามประกวดก็เริ่มมีบ้าง แต่ก็ไม่มากอย่างเดี๋ยวนี้นะ ส่วนมากจะเอาควายชาวบ้านเลยนะเรียกว่าไล่ ๆ เรียกว่าจูงออกจากคอกมาเลย ล้างให้เกลี้ยงไม่ได้ขุนให้สมบูรณ์อะไรเลย เอาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ว่าของใครใหญ่ ลักษณะเขากระชอน หัวตั้งดีก็ลักษณะสง่า ขา-แข้งขาใหญ่ก็เหมือนตอนนี้ ก็ได้เลยแต่ไม่อ้วนเมื่อก่อนเพราะเราไล่จากทุ่งมาครับ แต่ว่า “รุ่งเพชร” นี่มันฉีกตัวอื่นเลย ด้วยโครงสร้างอาจจะเห็นกระดูกกระเดี้ยวเนี่ยแข้งขาใหญ่ ทุกคนก็เกิดเขาเรียกว่า ช็อก! ขึ้นมาเลย“ก็มีลุงแกอยู่คนหนึ่งอายุ 80 ก็แกมาเห็นบอก อู้หู! ไอ้ตัวนี้มันพญาควาย มันเขา หัวมันใหญ่ไอ้หนูมึงอย่าขายนะเนี่ย มันจะต้องใหญ่! หัวใหญ่ เขาใหญ่ มันต้องใหญ่ลูกเนี่ย เอ้!หัวใหญ่ ๆ อย่างเงี้ยผมก็ไม่ค่อยเคยเห็น(หัวเราะ) เขาใหญ่ ๆ อย่างเงี้ยผมก็ลองเอาไว้เนี่ยฮะ”


“รุ่งเพชร” เริ่มถ่ายทอดผลงาน ตอนอายุได้ 2 ขวบกว่า
รุ่งเพชรเนี่ยเขาผสมตั้งแต่อายุ 2 ขวบกว่า ๆ เนี่ยล่ะครับ ลูกดีครับ ลูกดีอย่างพวกนิลมังกรพวกนี้ เพชรพระยา เจ้าซัน ลูกรุ่งเพชรทั้งนั้นเลย“ราคาก็หลักแสน ก็ลูกรุ่งเพชรที่รุ่นแรกขายไปแสนสองบ้าง แสนนึงบ้าง หกหมื่นก็มี ครับก็ทุกคนมาเห็นบอกโอ้โห! อย่างนี้มันสมราคาของเขาเลยเนี่ย (หัวเราะ) มาเห็นที่ฝูงแล้ว” การผสมจะผสมที่คอกของเราเท่านั้น เพราะว่าเราเคยมี ประสบการณ์เราเลี้ยงมาหลายสิบตัว(พ่อพันธุ์) แต่ก่อนมันก็จะเป็นอย่างเจ้าหมู เพราะว่าเขาอิสระไปทับฝูงโน้นฝูงนี้อะไรเนี่ยเขาเอามาทับสดอย่างเงี้ยนะ เพราะว่าพอเขาไปแล้วมันจะไม่ค่อยอยู่ เพราะว่าเราเลี้ยงไม่ใช่เลี้ยงยืนโรง เราเลี้ยงปล่อยทุ่ง ทีนี้เขาจะก้าวร้าวเขาจะไป จะเอาพรวนล่ามก็ไม่อยู่ครับนั่นแหละ“และก็ผมมีแรงบันดาลใจคือว่าตอนรุ่งเพชรมันแปลกมาเนี่ยที่ “รีดน้ำเชื้อ” จำหน่ายครั้งนั้นนะ 2,000 กว่าหลอดเนี่ย ผมก็แรงบันดาลใจกลัวมันจะสูญพันธุ์แบบเจ้าหมูครับ เมื่อก่อนไม่มีการรีดน้ำเชื้ออะไรอย่างเงี้ยนะผมกลัวจะสูญพันธุ์ว่าเออให้ลูกหลานมันดูกันต่อไปว่างั้น พอดีมีเอกบ้านสวนเขาก็อยากได้พันธุ์เหมือนกันและก็มีแนวโน้มก็ร่วมกัน เขาก็เอารุ่งเพชรมารีดน้ำเชื้อแต่ว่ารีดที่นี่ก็บางทีรุ่งเพชรอยู่ที่นี่ เอาตัวล่อ(แม่พันธุ์) มา 5 ตัว รุ่งเพชรไม่ขึ้นสักตัวเลย(หัวเราะ) รุ่งเพชรมันเลือกครับ ต้องเอาไปอยู่ที่ฝูงเขาไป ๆ มา ๆ ก็เกือบ 2 ปี ให้คุ้นกับตัวล่อ คนมากก็ไม่ขึ้นอีกรุ่งเพชร”


ตอนนั้นรีดไว้ประมาณ 2,000 กว่าหลอด ขายตอนนั้นผมขาย 1 ชุด 5,500 บาท (12 หลอด) แต่ถ้าชาวบ้านแบ่งซื้อ 1 หลอดก็ บาท ที่หมอพันธุ์เขาผสมอยู่นะ ตอนนี้ก็เอาไปทางลูกค้าทางอีสานบ้างทั่วครับ ก็พวกหมอเขาก็สนใจแล้วก็เริ่มมีโซเชียลฯ ได้ดูได้อะไรแล้วก็ เขาก็มารับไป


ปัจจุบันราคาน้ำเชื้อรุ่งเพชร พุ่งสูงขึ้นมาก ๆ
ขณะที่พ่อเลี้ยงเจก็ได้ร่วมให้ข้อมูล “ราคา” ของน้ำเชื้อรุ่งเพชรที่จำหน่ายกันในตลาดตอนนี้ว่า น้ำเชื้อรุ่งเพชรตอนนี้นะครับ หลอดละนะครับ ในตลาดนะครับเพราะว่าหาไม่ได้เลยนะครับ ซื้อกันถึงประมาณ 40,000-50,000 บาทด้วยซ้ำนะครับ แล้วในอนาคตเนี่ยอาจจะเกิดประมาณถึง “แสนบาท”!!! ด้วยนะครับ ทำไมน้ำเชื้อรุ่งเพชรถึงราคาเป็นแบบนี้ครับลุงติ๊ก?“เพราะรุ่งเพชรนี่เราไม่ใช่ควายประกวด แต่ว่าเขาดังเพราะตัวเขาเองเพราะว่าเขาถ่ายทอดพันธุกรรมเนี่ยครับ ไปไม่เลือกแม่ด้วยรุ่งเพชรนะครับ แม่อีสานก็ใหญ่หมดแหละฮะ คือไม่ค่อยพลาด” แต่ว่าน้ำเชื้อเราไม่ได้รีดอีกเลยหลังจากครั้งนั้นมาแล้ว “ตอนนั้นผมมีอุปสรรคคือต้องพึ่งพาหมอแล้ว “รถ” ผมก็ขับไม่เป็น(หัวเราะ) สองคนตายายครับ บางทีลูกค้ามาเอาหมอมาเอาทางอีสานเป็นร้อย ๆ หลอด ต้องพึ่งหมออีกแล้วเพราะว่าเวลานับต้องนับในถังครับ ตาเราก็ไม่ดีเพราะเราเปิดเราไม่เคยใช่ไหมควันมืดไปหมด(หัวเราะ) ต้องเอาไฟหม้อแบตเยืองอะไรเงี้ยครับ” ไม่เอาน้ำเชื้อแล้ว หันมาเน้นขาย “ลูก” แทนดีกว่า เพราะว่าแม่พันธุ์ในคอกของเราก็เริ่มมีเยอะแล้ว อีกอย่างคือถ้าเอารุ่งเพชรไปรีดน้ำเชื้อคือต้องไปอยู่ที่ฟาร์มเลย ถ้าเอาตัวล่อมาที่บ้านยังไงก็ไม่ขึ้น


จากราคาแสนทะยานสู่ ราคาหลักล้าน!
จากราคา 1 แสนเปลี่ยนเป็น “ล้าน” แล้ว! เป็นล้านเลยครับพอเขาไปเห็นลูกรุ่งเพชรได้ไปก็มีกำไร ทำพ่อพันธุ์ก็โอเคครับ ตอนนี้เขาก็ตามหา เดิมทีผมก็ไม่ได้คิดว่าบอกล้านนะ ผมก็หลักแสนเนี่ยแหละแต่ว่ามี “เสี่ย” เขามาบอกว่า วันแรก ๆ นะ แต่ก่อนผมก็ไม่เคยเห็นหรอกนะเงินล้าน(หัวเราะ) ทีนี้เขาก็มาวันแรกเขาก็ชอบฮะ ก็ชอบก็คุยบอกลูกรุ่งเพชรตัวนี้ลุงจะแบ่งไหม ที่จริงผมยังไม่ได้แบ่งนะผมก็จะเก็บเอาไว้อะไรเงี้ยให้มันโตสักหน่อย เขาชอบมาสองหนสามหนเขาก็ไม่ได้ เขาบอกลุงตัวนี้ผมชอบแต่ผมให้กิโลนึงเนี่ยลุงให้ผมเถอะ ผมก็ไม่เข้าใจกิโลอะไรกิโลเนื้อหรืออะไร (หัวเราะ) กิโลก็คือ ล้านในภาษาควาย 1 กิโลก็คือ 1 ล้าน นับขีดคือแสน ตอนนั้นผมก็ไม่รู้นะให้กิโลนึงเขาบอกว่า ล้านสิลุง ผมก็เอ๊ะ ผมฝันไปหรือเปล่า(หัวเราะ) ตกใจ(ล้านแตก!) ตกใจครับตกใจ ดีใจด้วยเอ๊ะมันฝันไปหรือเปล่า ให้จริงหรือเปล่า เขาบอกให้จริง ครับนั่นแหละฮะ”


ราคาเพิ่มขึ้นเป็นหลัก ล้านบวก ๆ
คราวนี้เลยกลายเป็นว่าลูกรุ่งเพชรราคาขายต้องมี “ล้าน”เป็นต้นไป ปัจจัยที่ทำให้ราคาอาจขยับขึ้นไปอีก(มากกว่า1 ล้าน) คืออะไร“ดูเหมือนกันครับทั้งตัวผู้-ตัวเมีย ต้องดูลักษณะ แข้งขาใหญ่ โครงสร้างดี เขามาดี รูปร่างหน้าตาทุกอย่าง”ถ้าลูกแม่มาก ควายลุงติ๊กนี่ก็ที่ขายแพงก็คือ มังกรเงิน ขายไป 8 ล้านครับ แล้วก็มาตัวเมีย(ลูกรุ่งเพชร) ก็นั่นก็ขายไป 5 ล้าน แล้วก็เพชรทองธรรมขายไปทางวัดมะขามเฒ่านั่น 4 ล้าน ขายแม่เลี้ยงไปก็ 3.5 ล้าน

แล้วลูกของรุ่งเพชรเขามีการจองกันข้ามปีจริงไหม?“อ๋อแต่ในท้องผมไม่ได้ให้จองนะฮะ ต้องให้คลอดมาเสียก่อน คลอดมาแล้วก็เข้ามาดู ชอบก็จองได้ครับ จองได้ ก็หย่านมหรือว่า 11 เดือนหรือ ขวบ ก็มาจับได้ครับ “คือรอทุกปีล่ะฮะ เพราะว่าในท้องผมไม่ได้ให้จองนะครับ ใครมาก่อนก็ได้เลยฮะ พอดีพร้อมแล้วก็ทางลูกสาวเนี่ยก็เขาจะถ่ายไป ว่าลูกแม่นี้ออกอะไรพอเขารู้แล้วก็คนไหนมาก่อนก็ได้เลยครับ”อันนี้มันก็ต้องอยู่ที่แม่ด้วยนะฮะ เชื้อสายแม่ด้วยถ้าเชื้อสายดี ๆ ก็มันจะไวครับ ถ้าไม่มีเชื้อสายก็ต้องใช้เวลาหน่อยนะ ความอดทนหน่อย ก็ต้องเอารุ่นต่อรุ่นน่ะเอาไว้ เอาที่ดีไว้ นั่นแหละเราถึงจะได้ประสบความสำเร็จ

“ควายไทย” เป็นสายพันธุ์ดี ที่หนึ่งไม่แพ้ใคร
ลุงติ๊กคิดว่า “ควายไทย” ดีที่สุดในโลกไหม? ดีที่สุดครับ เนื้อก็ดี เนื้อดีกว่าควายต่างประเทศนะ ควายไทยเราเนื้อจะแน่น เนื้อจะดีมากเลยครับ เนื้อแดงก็ดี“ครับพี่น้องเกษตรกรอยากฝากฝังไว้ว่า อย่าเพิ่งเบื่อหน่ายกัน เราทำนาทำไร่เนี่ย ทำไร่ถ้าที่ราบสูงก็มีวัวสัก 2 แม่อะไรเงี้ย เป็นอาชีพเสริมก็ดีนะครับหญ้าเดี๋ยวนี้มีทั่วไป ควายเหมือนกันนะครับถ้าทำนาก็ ถ้านาน้อยก็เลี้ยงสักติดไว้สัก 2-3 แม่ทำเป็นอาชีพเสริมครับ ลูกไม่ต้องเอาราคาแสนราคาล้านหรอกครับ หลักหมื่นเนี่ยเราอยู่ได้แล้วฮะ ไม่ต้องเวลาเราเดือดร้อนไม่ต้องไปพึ่งพา ธ.ก.ส. ครับและก็ ได้ใช้สบายครับ หญ้าที่เราตัดทิ้งก็เป็นเงินเป็นทองหมดล่ะครับ”


ถามใจตัวเองก่อนชอบไหม ถ้าชอบ...ก็ลุยเลย
ก็อยากจะแนะนำถ้า เราต้องถามใจเราด้วยว่าเราชอบไหม? ครับต้องถามตัวเองว่าเรามาถูกทางไหม เราชอบไหมต้องถามตัวเองก่อน ต้องมีที่ครับ มีที่ มีคอกมีที่ครับ มีแปลงหญ้าเลี้ยงได้ครับ ถ้าเรามีที่น้อยเราก็ทำแปลงหญ้าและก็มีให้เขาเดินเล่นสัก 1 ไร่ มีสระน้ำ ได้ครับอย่างงั้นก็ได้ ถ้าคนชอบนะและก็ใจเราถามใจว่าเราชอบ โอเคทำได้เลี้ยงได้ทุกคนละครับ ก็ได้เงินก็ซื้อที่ไร่ที่นาเพิ่มที่เลี้ยงเขา ให้เขาเล็มหญ้าได้สมบูรณ์แล้วเราก็จะสบาย ที่เยอะมันสบายครับหญ้าก็ทำแปลงหญ้าน้อยได้ หญ้าธรรมชาติมันเยอะปล่อยไล่ทุ่งอย่างเงี้ยเราสบาย


ถึงมี “เงินล้าน” แล้วก็ยังใช้ชีวิต ทำนา & เลี้ยงควายแบบเดิม
ลุงติ๊กได้ตอบคำถามของพ่อเลี้ยงเจที่ถามถึงชีวิตหลังจากที่มีรายได้หลักหลายล้านบาทต่อปีจากควายไทยพันธุ์ยักษ์ที่เลี้ยงอยู่ในคอกว่า ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างไหม? ซึ่งคำตอบของลุงติ๊กดูเรียบง่ายและบ่งบอกถึงความพอเพียงที่มีอยู่ในใจได้อย่างน่านิยม“ผมก็ยังทำนา เลี้ยงควายอยู่(หัวเราะ) ก็มันเนี่ยความรู้สึกของผมไม่เปลี่ยนนะฮะ ครับถึงจะมีเงินเป็นล้านก็ความรู้สึกไม่เปลี่ยนเลย ซื้อที่นาเพิ่มมันสะดวกกับเราเพราะว่าเรามีที่เลี้ยงควายเยอะ เราก็สบายฮะ อยากได้อะไรก็ได้แหละครับเพราะว่าเรามีสะตุ้งสตางค์บ้างอะไรอย่างเงี้ยครับ”



จากชาวนาเลี้ยงควายไว้ใช้แรงงาน สู่ “ควายยักษ์” สายพันธุ์ไทยขายได้ราคาหลักล้านบวก ๆ อาชีพที่เหมือนฝันของ “ลุงติ๊ก-นายวิโรจน์ คุ้งโพ”ขอบคุณเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจดี ๆ ในการประกอบอาชีพครั้งนี้ที่เจ้าของฟาร์ม “บ้านติ๊กควายไทย” จ.อุทัยธานี ที่ได้กรุณาร่วมแบ่งปัน สามารถติดตามผลงานได้ที่เพจ: บ้านติ๊กควายไทย ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากเพจ: พ่อเลี้ยงเจจากดาวอังคาร


กำลังโหลดความคิดเห็น