xs
xsm
sm
md
lg

Cotton Farm เปิดคอร์สเวิร์คชอป ดึงคนไทย-ต่างชาติ ร่วมสานต่อภูมิปัญญาทอผ้า ย้อมสีแบบดั้งเดิม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Cotton Farm แบรนด์ผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ ใน จ.เชียงใหม่ นอกจากจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผ้าทอมือแล้ว ยังเปิดคอร์สสอนสำหรับผู้สนใจทั่วไปให้ได้มาสัมผัสประสบการณ์งานฝีมือ ทั้งเรื่องการทอผ้า , การย้อมสีธรรมชาติ และงานมัดย้อม ได้อีกด้วย


เปรมฤดี กุลสุ เจ้าของ Cotton Farm เล่าว่า ตนเองได้ก่อตั้งแบรนด์ Cotton Farm มานานกว่า 25 ปี ซึ่งผ้าทอของที่นี่เป็นผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ และยังคงรักษาภูมิปัญญาการทอผ้าแบบดั้งเดิมที่สืบทอดมายาวนาน ใช้เส้นใยฝ้ายเป็นหลักและย้อมสีธรรมชาติ เพื่อให้ได้ผ้าทอมือที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยต่อผู้บริโภค


จุดเริ่มต้นการก่อตั้งแบรนด์ Cotton Farm มาจากช่วงตนเองได้ไปอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นช่วงหนึ่ง ได้ไปเห็นงานหัตถกรรมจากไทยไปจำหน่ายที่นั่น ดูสะดุดตาและคิดว่าทำไมงานหัตถกรรมของบ้านเราถึงสวยจัง ทั้งที่ตอนอยู่เมืองไทยเราเห็นก็เฉยๆ มองไม่เห็นคุณค่าหรือชื่นชอบงานหัตถกรรม เท่าใดนัก อาจเหมือนสำนวนที่ว่า "ใกล้เกลือกินด่าง" คือเห็นมาแต่เด็กจึงมองไม่เห็นความสวยงามของมัน แต่พอได้ออกไปอยู่ไกลบ้านไกลเมือง ถึงได้มองเห็นคุณค่าและความสวยงามของงานศิลปะ-หัตถกรรม ของบ้านเรา เมื่อกลับมาประเทศไทย จึงเกิดแรงบันดาลใจอยากทำงานด้านงานหัตถกรรม เพราะงานฝีมือก็เป็นงานอดิเรกที่ตนเองชอบทำอยู่แล้ว


เริ่มจากการซื้อมาขายไป ต่อยอดด้วยการทำงานกับชุมชนต่างๆ เมื่อได้ทำงานกับชุมชนทอผ้าในหลากหลายชุมชน ก็พบว่า จำนวนช่างทอผ้าลดลงไปเยอะมาก ทั้งที่ล้มหายตายจากและทั้งที่เลิกทอ แต่กลับกันจำนวนช่างทอรุ่นใหม่มีน้อยมาก การสานต่องานภูมิปัญญาในครอบครัวน้อยลงอย่างมาก จึงมีความสนใจในเรื่องส่งเสริมและอนุรักษ์ เพื่อสร้างช่างฝีมือรุ่นใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อให้มีคนสืบทอด สานต่อ ไม่ให้ภูมิปัญญาด้านการทอผ้าสูญหายไป

โดย เป้าหมายของแบรนด์นอกจากการอนุรักษ์ คือการให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์งานฝีมือและช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่เป็นมิตรต่อธรรมชาติแต่ยังปลอดภัยต่อสุขภาพอีกด้วย


วิวัฒนาการและการพัฒนาในโลกยุคใหม่ในปัจจุบันดำเนินไปอย่างรวดเร็วจนบางครั้งเราลืมหรือมองข้ามธรรมชาติที่เป็นพื้นฐานที่สำคัญของชีวิตมนุษย์ไป และรวมไปถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่อาจส่งผลให้ภูมิปัญญาและกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมของช่างฝีมือสูญหายไป จึงเป็นที่มาของการเปิดสอน ให้นักท่องเที่ยว และผู้สนใจมาทำ Workshop มาหาประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบใหม่ โดยมาสัมผัสกับประสบการณ์ผ่านงานฝีมือ ในขณะเดียวกันก็มุ่งหวังอยากให้ผู้สนใจรวมไปถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้มาเรียนรู้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการต่อยอดงานด้านผ้าทอต่อไปในอนาคต


โดยเวิร์คชอปที่เปิดให้มาสัมผัสประสบการณ์ มีทั้งด้านการทอผ้า (Weaving) ,การย้อมสีธรรมชาติ(Natural Dye)และ งานมัดย้อม (Tie Dye) ซึ่งคอร์สทอผ้าอาจใช้เวลา 3-7 วันขึ้นอยู่กับความสนใจของผู้เรียนว่าต้องการเรียนเจาะลึกรายละเอียดมากน้อยแค่ไหน ส่วนคอร์สเรียนย้อมสีธรรมชาติและงานมัดย้อม สามารถลงเรียนได้ในเวลา 2-4 ชม


ที่ผ่านมา ผู้ที่มาเรียนส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ จีน ยุโรป และอเมริกา คนไทยยังมาเรียนกันไม่มากนัก ซึ่งจากความตั้งใจอยากจะเห็นคนไทยมาเรียนกันมาก ๆ เผื่อจะได้เป็นแรงบันดาลใจในการต่อยอดงานด้านผ้าทอ และเป็นการช่วยกันสืบทอดส่งต่อภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป


ผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook : Cotton Farm Chiang Mai Craft , website cottonfarm.co.th หรือ 0818846484


กำลังโหลดความคิดเห็น