xs
xsm
sm
md
lg

ต่อสู้ “เจ๊น้อย” ก๋วยเตี๋ยวข้างทาง จนเป็นเจ้าของ “ร้านอาหารเจ๊น้อย” ร้านดังนักท่องเที่ยวปักหมุดไปกิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พอพูดถึงเจ๊น้อย เป็นชื่อร้านอาหารที่เราได้ยินบ่อยมาก ไม่ว่าจะไปภาคไหนของประเทศไทย หนึ่งในร้านดังมักจะใช้ชื่อ “เจ๊น้อย” เช่นเดียวกับที่ จังหวัดเพชรบุรี มีร้านดังที่ใช้ชื่อเจ๊น้อย หลายร้าน จนเจ้าของร้านอาหารเจ๊น้อย อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ถึงกับบ่น “หรือว่าคนชื่อน้อยจะทำอาหารอร่อย” ถึงมีร้านอาหารชื่อเจ๊น้อย อยู่เต็มไปหมดจนลูกค้าปักหมุดไปผิดร้านหลายครั้ง


เจ๊น้อย เจ้าของร้าน
30 ปี ร้านอาหารเจ๊น้อย
คงเส้นคงวา ไม่เคยเปลี่ยนแม่ครัว


วันนี้ พามารู้จัก กับร้านอาหารเจ๊น้อย ท่ายาง เริ่มต้นมาจากรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวเล็ก และด้วยรสมือในการทำอาหารไม่แพ้ใครของ “เจ๊น้อย ธนูทอง” เจ้าของร้าน จากร้านก๋วยเตี๋ยวรถเข็นข้างทาง ได้ขยับขึ้นมาเป็นร้านอาหาร ชื่อดัง ที่นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชะอำ ปักหมุดมาร้านนี้ เพื่อมากินรสมือของแม่ครัวที่ชื่อว่า “เจ๊น้อย” แห่งอำเภอท่ายาง คนนี้

ตลอดระยะเวลา 30 ปี ในการทำร้านอาหารเจ๊น้อยแห่งนี้ ทางร้านไม่เคยเปลี่ยนแม่ครัว ซึ่งเป็นจุดขายอย่างหนึ่ง ที่ว่าลูกค้ามากี่ครั้ง ก็จะได้กินรสชาติของอาหารเหมือนครั้งแรกที่เขามากิน ทำให้ทางร้านมีลูกค้าประจำแวะเวียนกันมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และเกิดการบอกต่อจนร้านอาหารเจ๊น้อย เป็นที่รู้จัก และมีการพูดถึงกันในวงกว้าง ว่าใครมาท่ายาง หรือ มาเที่ยวชะอำ และอยากกินอาหารรสชาติในแบบฉบับของคนเพชรบุรี ต้องแวะมากินรสมือของเจ๊น้อย

นายศุภนัฎฐ์ ธนูทอง เจ้าของร้านอาหารเจ๊น้อย ท่ายาง (สามีเจ๊น้อย)
จากก๋วยเตี๋ยวรถเข็นข้างทาง ด้วยรสมือ
เป็นที่มาของ“ร้านอาหารเจ๊น้อย ท่ายาง”


นายศุภนัฎฐ์ ธนูทอง เจ้าของร้านอาหารเจ๊น้อย ท่ายาง (สามีเจ๊น้อย) เล่าว่า ร้านอาหารเจ๊น้อยเปิดมาได้ 30 ปี ซึ่งกว่าจะมาเป็นร้านอาหารเจ๊น้อย ที่หลายคนรู้จัก ไม่ได้มาง่าย เพราะเราสองคนสามีภรรรยา ต้องต่อสู้เริ่มต้นกันมาตั้งแต่ร้านก๋วยเตี๋ยวรถเข็นเล็กๆ ข้างทาง โดยเริ่มมาจากเจ๊น้อยทำร้านก๋วยเตี๋ยวรถเข็น ข้างทาง และด้วยรสมือการทำอาหารของเจ๊น้อย ทำให้ร้านก๋วยเตี๋ยวได้รับการตอบรับที่ดีมาก และวันหนึ่งผมก็ผัดข้าวกินเอง ลูกค้าเห็นก็เลยอยากกินบ้าง ก็ให้เจ๊น้อยทำให้กิน ตั้งแต่นั้นมา ลูกค้าจะมาขอให้เราช่วยทำอาหารตามสั่งให้กินหน่อย

และพอคนอื่นๆมาเห็นก็อยากจะกินบ้าง ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้ “เจ๊น้อย” ต้องหันมาขายอาหารตามสั่งเพิ่มเข้ามาขายคู่กับก๋วยเตี๋ยวด้วย แต่หลังๆ กลายเป็นว่าอาหารตามสั่งไปได้ดีกว่าก๋วยเตี๋ยว ทำให้เจ๊น้อยคิดว่าควรจะมีหน้าร้าน เพราะเริ่มขายอาหารหลายอย่าง และสุดท้ายได้เช่าพื้นที่เปิดหน้าร้านขายอาหารตามสั่ง


เปิดร้านแรกๆขายดีจนทำไม่ทัน

และ จากอาหารตามสั่ง ที่ลูกค้าติดใจรสมือการทำอาหารเจ๊น้อย ก็เลยค่อยพัฒนามาเป็นร้านอาหาร เพราะถ้าย้อนกลับไปช่วงเริ่มทำร้านอาหารใหม่ ช่วงนั้น ขายดีมาก ขนาดทำกันไม่ทัน ลูกค้าแน่นร้านทุกวัน จุดขายของเรานอกจากรสมือของแม่ครัวแล้ว สิ่งสำคัญที่ทางร้านให้ความสำคัญมาตลอด นั่นคือ วัตถุดิบต้องสดใหม่ การทำอาหารเน้นความสดใหม่ ทำให้เราไม่จำเป็นต้องพึ่งผงชูรส กลายเป็นสโลแกนของทางร้าน "อร่อย สะอาด ปราศจากผงชูรส"

ทั้งนี้ ด้วยรสชาติอาหารถูกปากลูกค้า จนกลับมากินอีกในครั้งต่อไป และมีการบอกกันแบบปากต่อปาก ในกลุ่มนักท่องเที่ยวแวะมาเที่ยวชะอำ เพชรบุรี และร้านของเราอยู่ในทำเลที่นักท่องเที่ยวเดินทางผ่าน ทำให้เราได้กลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก นอกเหนือจากคนในพื้นที่


กลุ่มลูกค้าของร้านอาหารเจ๊น้อย

จนวันหนึ่งเจ้าของที่ขอพื้นที่คืน เป็นเหตุทำให้ต้องหาเช่าพื้นที่ใหม่ ก็เลยได้มาเป็นร้านอาหารเจ๊น้อย ท่ายางในปัจจุบัน แม้ว่าทำเลที่ใหม่อาจจะไม่ดีเท่าที่เก่า แต่ว่าลูกค้าที่เคยกินก็จะตามมากินเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าหลักของเรามี 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคนในพื้นที่ กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว มาเที่ยวชะอำ และกลุ่มที่สาม เป็นหน่วยงาน อบต. อบจ. มาศึกษาดูงานแวะมากิน แต่ก็ยังไม่มาก

“ กว่าจะมาถึงวันนี้ ตนเองและภรรยา เจ๊น้อย เราก็ต่อสู้กันมาเยอะเริ่มมาจากรถเข็นริมทางจนมาเป็นร้านอาหาร ซึ่งความคงเส้นคงวาในการทำอาหาร และการเลือกวัตถุดิบเป็นส่วนสำคัญ เน้นวัตถุดิบที่สดใหม่ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ผงชูรส ซึ่งด้วยเจ๊น้อยไม่ได้เป็นเชฟ แต่มีฝีมือในการทำอาหาร ดังนั้น ลูกค้าที่มากินที่ร้าน จะชื่นชอบในความเป็นอาหารพื้นบ้านไม่ได้ปรุงแต่งอะไรมากนัก และเป็นรสมือในแบบของคนเพชรบุรี ซึ่งคนต่างถิ่น หรือ นักท่องเที่ยว มากินสามารถบอกได้ว่า ลดความหวาน หรือ ชอบรสชาติแบบไหนก็บอกได้”


ราคามิตรภาพ เริ่มต้น 40 บาท
ราคาหาไม่ได้แล้วในเมืองหลวง

นายศุภนัฎฐ์ พูดถึงราคาอาหารของร้านอาหารเจ๊น้อย ท่ายาง ว่า ราคาอาหารของเราถือว่าเป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่งก็ว่าได้ เพราะปัจจุบัน ค่าวัตถุดิบที่ปรับราคาสูงขึ้นมาก ในขณะที่ทางร้านเองก็ไม่กล้าปรับราคาขึ้นในช่วงนี้ เพราะตอนนี้ลูกค้าของเราหายไปกว่าครึ่ง จากภาวะเศรษฐกิจที่ทดถอย คนไม่กล้าใช้เงิน ซึ่งในช่วงโควิด ยังไม่แย่ขนาดนี้ ยังมีนักท่องเที่ยว หรือ คนในพื้นที่ ก็มากินกันเยอะเพราะมีโครงการคนละครึ่ง ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้าของเราหายไปเยอะมาก ตอนนี้การปรับตัวได้แค่ประคับประคองกิจการไป และใช้การลดปริมาณอาหารแทนการปรับราคา แต่ต้องเป็นการลดปริมาณที่ไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าน้อยไป

สำหรับราคาอาหารของทางร้าน เริ่มต้นอยู่ที่ 40 บาท 60 บาทและ 70บาท สำหรับอาหารตามสั่ง อาหารจานเดียว ส่วนราคาอาหารเป็นกับ เริ่มต้นที่ 60 บาท 70 บาท 80 บาท และถ้าเป็นอาหารทะเล มีตั้งแต่หลักร้อยต้นไปจนถึง 400 บาท แม้ว่าเราจะบริหารจัดการเรื่องวัตถุดิบได้ แต่ยังมีค่าน้ำ ค่าไฟ ที่ปรับเพิ่มขึ้น และยังมีค่าแรงพนักงาน อีก


ช่วงนี้ขายหมูย่างเมืองเพชร งานคอนเสิร์ต
ประคองกิจการร้าน

เจ้าของร้านอาหารเจ๊น้อย เล่าถึงสถานการณ์ของร้านในปัจจุบันว่า ในปีนี้ ถือว่าแย่กว่าทุกปี เป็นอย่างนี้มาเกือบ 2 ปีแล้ว ถ้าเทียบรายได้เป็นกราฟช่วงนี้ ปักหัวลงอย่างเดียวไม่มีขึ้น ซึ่งต้องหารายได้จากช่องทางอื่นๆ มาช่วยประคับประคองร้านอาหารไปก่อน เช่น ส่วนตัวมีการออกงานอีเวนต์ เป็นบูทขายหมูย่างเมืองเพชร ออกบูทร่วมกับ เครื่องดื่มสิงห์ ในงานคอนเสิร์ต ต่างๆ และงานอื่นๆ ที่หน่วยงานหรือจังหวัดจัด เป็นต้น รายได้หมูย่างเมืองเพชร จากการออกบูท รายได้ดีกว่า ร้านอาหารในปัจจุบัน เพราะออกบูทหมูย่าง คืนหนึ่ง มีรายได้หลักหมื่นบาท แต่ร้านอาหารปัจจุบัน มีรายได้ ประมาณวันละ 4,000 – 6,000 บาท เท่านั้น

ติดต่อ โทร. 08-1845-6377
Facebook : ร้านอาหารเจ๊น้อย ท่ายาง


คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด






กำลังโหลดความคิดเห็น