เทรนด์แปลงผักปลอดสารในร้านอาหารมาแรง! ครัวอิ่มอร่อยนครหลวง อยุธยา ไม่พลาดจัดไป ยอดขายเพิ่มเท่าตัว

เกาะกระแสเทรนด์การทำแปลงผักในร้านอาหารที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่โหยหาธรรมชาติ และการกินอาหารเพื่อสุขภาพแนวคิดกระทรวงสาธารณสุข คือการกินอาหารเป็นยา ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เราได้เห็นร้านอาหารหลายๆ ร้านโดยเฉพาะคาเฟ่นำแนวคิดดังกล่าวไปใช้กับคาเฟ่ ร้านอาหารของตัวเอง และประสบความสำเร็จยอดขายเพิ่มขึ้น

จากอาหารพื้นบ้านต่อยอดสู่อาหารเพื่อสุขภาพ

วันนี้ พามารู้จัก “ร้านครัวอิ่มอร่อย นครหลวง” อำเภอนครหลวง จังหวัดอยุธา ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านที่นำแนวคิด การทำแปลงปลูกผักปลอดสารในร้านอาหารมาปรับใช้กับร้านของตัวเอง เพื่อดึงลูกค้าเข้าร้านตามเทรนด์คนรักสุขภาพในช่วงโควิด หลังจากปรับยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัว

นางสาวณัฐทิชา กลิ่นสวาทหอม (แอม) เล่าว่า จุดเริ่มต้นของ ครัวอิ่มอร่อยนครหลวง เริ่มมาจากคุณแม่ คือ “นางสมพร กลิ่นสวาทหอม” (แม่เต๋า) เปิดร้านอาหารเพราะชื่นชอบการทำอาหารซึ่งร้านอาหารของแม่จะเป็นร้านอาหารแบบอาหารพื้นบ้าน คือ ทำอาหารให้คนที่บ้านกินแบบไหน ก็มาทำขายแบบนั้น เหมือนชวนเพื่อนมากินข้าวที่บ้าน ในสมัยนั้นสัก 20 ปีที่ผ่านมา อาหารที่ขายจะเป็นอาหารไทยแบบภาคกลาง ที่คนในพื้นที่ทำกินกัน ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานบริษัทบ้าง เพราะอยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม และคนในพื้นที่บ้าง

วิกฤตโควิดกลายเป็นโอกาส ไอเดียคนรุ่นใหม่

หลังจากที่ตนเองเข้ามาดูแลกิจการรับช่วงต่อ เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา จากสถานการณ์โควิดทำให้ร้านต้องปิดให้บริการ แต่แม่ก็ไม่อยากจะทิ้งพนักงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่ ในช่วงนั้นทำได้แค่เปิดให้บริการส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่เท่านั้น และพนักงานบางส่วนก็จะว่างงาน เราก็เลยเกิดไอเดียให้พนักงานมารวมตัวกันปลูกผัก ทำแปลงผักสมุนไพรปลอดสารพิษภายในร้านพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ แบ่งครึ่งหนึ่งมาทำแปลงปลูกผัก พร้อมกับใช้เวลาช่วงโควิดปรับปรุงร้านใหม่ และประหยัดต้นทุนของร้านโดยไม่ซื้อผักจากภายนอก แต่ใช้ผักที่ปลูกเองมาประกอบอาหารขายลูกค้า และรับผักบางส่วนจากพนักงานปลูกที่บ้านมาส่งให้กับเรา

“ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด แม่คิดว่าอยากจะเลิกทำ แต่ตนเองรู้สึกเสียดาย ก็เลยขอเข้ามาสานต่อ โดยได้ทำการปรับปรุงร้านใหม่ ชูจุดขายร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่ทำจากแปลงผักปลอดสารพิษที่เราปลูกเอง และเปิดให้ลูกค้าได้สัมผัสและชมแปลงสวนผักอย่างใกล้ชิด เป็นการเสิร์ฟอาหารท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมกับปรับพื้นที่บางส่วนของร้านเปิดเป็นคาเฟ่ เบเกอรี่และเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นมา”

จัดมุมถ่ายภาพสวยๆ เอาใจคนชอบถ่ายภาพลงโซเชียล

นอกจากนี้ “คุณแอม” ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ได้นำไอเดียการทำสื่อออนไลน์มาปรับใช้กับร้าน โดยปรับพื้นที่หลายๆมุมของร้านให้เป็นจุดถ่ายภาพ เพื่อลูกค้าจะได้มีภาพสวยไปลงโซเชียลฯ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพลงโซเชียลฯ ซึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์ร้านดีมากอีกทางหนึ่งด้วย โดยที่ทางร้านไม่ต้องทำโฆษณาเอง

สำหรับเมนูเพื่อสุขภาพ และเป็นเมนูเด่นของร้าน ได้แก่ ผัดผักกู๊ดกุ้งสด ยำผักกู๊ด โดยทางร้านใช้ผักกู๊ดที่ปลูกในพื้นที่ ได้รับเครื่องหมายมาตรฐาน GAP และ Q จากกรมส่งเสริมการเกษตรฯ นอกจากนี้ ยังมีเมนู น้ำพริกปูหล่น แกงส้มชะอมกุ้ง ฯลฯ และทางร้านครัวอิ่มอร่อยนครหลวงก็ยังได้มาตรฐานเมนูอาหารเป็นยา เป็นมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุขด้วย ซึ่งเป็นการการันตรีว่า ร้านครัวอิ่มอร่อยนครหลวงเป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง

บุกเบิกไอเดียแปลงผักปลอดสาร
ในร้านอาหารรายแรกๆ

โดยหลังจาก ที่ “คุณแอม” เจ้าของร้านครัวอิ่มอร่อย นครหลวง ได้เข้ามารับช่วงต่อพร้อมกับปรับปรุงร้าน และชูจุดขายอาหารเพื่อสุขภาพ จากแปลงผักสดปลอดสารในร้าน ในช่วงนั้น “คุณแอม” บอกว่า ร้านของเธอเป็นร้านอาหารแรกในย่านนั้นที่มีการทำแปลงผักปลอดสารภายในร้าน เพื่อให้ลูกค้าได้กินอาหารและมาชมแปลงผักของเธอด้วย

และในระยะหลังๆกระแสของร้านอาหารที่หันมาชูจุดขายการทำแปลงสวนผักภายในร้าน เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น จะเห็นได้จากคาเฟ่หลายแห่ง ใช้แนวคิดนี้กันเยอะมาก เพราะไม่ได้แค่การปลูกผักใช้ที่ร้านอาหารเองเท่านั้น แต่ยังสามารถเก็บผักที่สวนมาขายที่หน้าร้านเป็นรายได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับดีมาก เพราะนอกจากจะได้ทำกิจกรรมเก็บผักจากสวน และยังได้ผักจากแปลงผักที่ปลอดสารกลับไปรับประทานด้วย

สำหรับผักที่นำมาใช้ที่ร้าน ครัวอิ่มอร่อยนครหลวง นอกจากผักที่ได้จากแปลงผักที่ทางร้านปลูกเองแล้วส่วนหนึ่งมาจากเกษตรกร ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นพนักงานของทางร้านปลูกและนำมาขายด้วย เพราะเราไม่ได้เป็นแค่ร้านอาหาร แต่เรายังเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชผักสมุนไพรปลอดสารพิษ และสมุนไพรเพื่อสุขภาพ

ได้ลูกค้าบริษัททัวร์ ทั้งไทยและต่างประเทศ

ณัฐทิชา เล่าว่า หลังจากที่ตนเองเข้ามาปรับปรุงร้านใหม่ และชูอาหารเพื่อสุขภาพโดยมีแปลงผักปลอดสารในบริเวณร้าน เราก็จะได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่ใช่คนในพื้นที่เท่านั้น เช่น กลุ่มนักท่องเที่ยว คนไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวไหว้พระ หรือ หน่วยงานอบต.มีศึกษาดูงานก็จะแวะมากินอาหารที่ร้านของเรา เพราะกลุ่มวิสาหกิจฯ ของเราเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ด้วย

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวบางส่วน มาจาก บริษัททัวร์ นำนักท่องเที่ยวมาแวะกินอาหารที่ร้านของเรามีทั้งคนไทย และต่างชาติ โดยทางบริษัททัวร์ รู้จักเราจากการทำประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ และติดต่อเข้ามา ขอนำนักท่องเที่ยวมาลงที่ร้านของเรา ซึ่งที่อำเภอนครหลวงเองมีวัดที่มีชื่อเสียง และนักท่องเที่ยวนิยมมาไหว้พระกันหลายวัด รวมถึงอำเภอนครหลวง มีสถานที่ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ กลุ่มอบต.มักจะเดินทางมาศึกษาดูงาน บ่อยครั้ง รวมถึงลูกค้าสัญจรผ่านไปมา ก็จะแวะมากินอาหารที่ร้านของเราเยอะขึ้น จากการได้เห็นรีวิว ทางช่องทางออนไลน์

รายได้เพิ่มจาก300,000บาทเป็น700,000บาทต่อเดือน
ณัฐทิชา เล่าว่า ก่อนหน้าที่ยังไม่ได้ปรับปรุงร้าน คุณแม่เองมีลูกค้าประจำ และขาจร แวะเข้ามากินอาหารต่อเนื่อง โดยในตอนนั้นที่คุณแม่ดูแลร้าน รายได้ของร้านต่อเดือนประมาณ 300,000 บาท พอ “แอม” ได้เข้ามาบริหารร้านต่อ ในช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมา มีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว ประมาณเดือน 700,000 บาทบางเดือนเป็นหลักล้านบาท

ส่วนเมนูอาหาร จากเดิมเน้นอาหารไทยพื้นบ้าน มีเมนูอาหารจีน และอาหารอีสานเพิ่มขึ้นมา ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่มมากขึ้น รวมถึงในส่วนของคาเฟ่ ก็เช่นเดียวกัน เดิมไม่มีคาเฟ่ พอมีคาเฟ่ตอบโจทย์กลุ่มคนที่ชอบถ่ายรูป หรือ ชอบนั่งชิลๆ ดื่มกินอาหารในช่วงวันหยุด หรือ ช่วงพักกลางวัน สำหรับคนทำงาน

เกือบสิ้นชื่อครัวอิ่มอร่อยนครหลวง
แต่ในวิกฤตกลายเป็นโอกาส

ณัฐทิชา เล่าว่า เดิมตนเองก็ทำงานประจำ แต่พอแม่คิดว่าจะเลิกทำร้านอาหารในช่วงโควิด ตนเองก็รู้สึกเสียดาย และห่วงพนักงานกว่า 10 ชีวิตที่อยู่กันมานานส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่ ก็เลยตัดสินใจมาทำต่อ และคิดว่าถ้าจะให้ได้ลูกค้าเยอะขึ้นต้องปรับปรุงร้าน เพราะในสมัยแม่เริ่มทำร้านในตอนนั้น แม่คิดแค่ว่า ทำอาหารให้คนที่ชอบกินอาหารรสมือของเขาได้มากินกัน เหมือนกินข้าวที่บ้าน

โดยบรรยากาศร้านในตอนนั้น เป็นร้านอาหารเล็กง่าย เหมือนเอาบ้านมาทำเป็นร้านอาหารอะไรแบบนั้น ไม่มีมุมถ่ายภาพ คือคนที่มากิน คือ ตั้งใจมากินอาหารฝีมือแม่จริง เหมือนชวนเพื่อนมากินข้าวที่บ้าน ซึ่งจะได้แค่ลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ชื่นชอบรสมือของแม่ และการบอกต่อของคนที่ชอบอาหารรสชาติที่แม่ทำ แต่พลาดลูกค้าบางกลุ่มที่ชื่นชอบ อาหารอีสาน หรือ ชอบอาหารจีนไป อย่างไรก็ดี แม้จะมีการปรับเปลี่ยนร้าน และเมนูอาหารแต่ยังคงอาหารพื้นบ้านในแบบของแม่ที่ลูกค้าชื่นชอบก็ยังคงทำอยู่ เพราะหลายคนชอบแบบนั้น แต่การปรับเป็นการเพิ่มเมนูอาหารที่มีความเป็นสากลในแบบของร้านอาหารทั่วไปเข้ามาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น