BABE FRUIT (เบ๊บฟรุ๊ต) ร้านแตงโม เปิดให้บริการอยู่ที่ตลาดสดธนบุรี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า แค่ร้านแตงโม แต่ทำไมมีคนให้ความสนใจ และมีการพูดถึงกันเยอะมากในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าจะเปิดให้บริการมาได้ไม่ถึง 1 ปี วันนี้ อาสาพามารู้จักเรื่องราวความเป็นมากว่าจะเป็น BABE FRUIT ผ่านการบอกเล่าของ เจ้าของร้าน สาวสวย “คุณออย” “นางสาวไอลัดดา สารีธา”
แค่แตงโม ทำอะไรได้บ้างให้แตกต่าง
นางสาวไอลัดดา (คุณออย) เล่าถึง BABE FRUIT ว่า เดิมตนเองขายสเลอปี้น้ำลำไยสดมาก่อน แต่ด้วยลำไยที่เราใช้ลำไยสด ราคาไม่แน่นอน ช่วงไหนผลผลิตไม่มีราคาก็จะแพงมาก ทำให้เราต้องเปลี่ยนหันมาหาผลไม้ชนิดอื่นๆ และที่เลือกแตงโม เพราะแตงโมเป็นผลไม้ที่เหมาะกับสภาพอากาศในบ้านเรา ที่เป็นเมืองร้อน และคนไทยชื่นชอบการกินแตงโมอยู่แล้ว และกินแตงโมกันมาช้านาน และส่วนตัวเองก็ชื่นชอบแตงโม ก็เลยเลือกที่จะทำร้านแตงโม แต่เราจะทำแตงโมอย่างไรให้มันแตกต่าง จากที่ขายกันทั่วไป ก็เลยได้ออกมาเป็น น้ำแตงโมปั่นสเลอปี้สกัดเย็น
นอกจากสเลอปี้แตงโมปั่นสกัดเย็น แล้ว ยังมีแตงโมสเลอปี้ครีมชีส และด้วยความที่คัดเลือกวัตถุดิบอย่างดี ทำให้ลูกค้าหลายคนที่มาชิมก็จะรู้สึกแปลกใจว่า และมักจะเกิดคำถามว่า ทำไมแตงโมปั่นสเลอปี้ของเราถึงมีสีแดงสด และมีรสชาติที่หวานมาก บางคนก็บอกว่าเราใส่น้ำหวานเฮลล์บลูบอยลงไปหรือเปล่า เกิดคำถามมากมายตามมา ทำให้เราต้องพิสูจน์ตัวเอง โดยการทำโปรดักส์เนื้อแตงโมออกมาขายด้วย ซึ่งประกอบไปด้วย แตงโมบอล และแกนแตงโม เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นว่า น้ำแตงโมที่กินนั่น มาจากเนื้อแตงโมจริง เป็นความหวานตามธรรมชาติจากแตงโม โดยที่เราไม่ได้ใส่ส่วนผสมอะไรเพื่อเพิ่มความหวานหรือเพิ่มสีลงไปเลย
สร้างยอดขายแบบไม่ธรรมดา
โดยราคาขายน้ำสเลอปี้แตงโม ขายในราคาแก้วละ 60 บาท สเลอปี้แตงโมครีมชีส ราคาแก้วละ 90 บาท ส่วนแตงโมบอลขายกล่องละ 60 บาท แกนแตงโมกล่องละ 90 บาท มีทั้งหมด 7 แกน ซึ่งแตงโมแต่ละลูกจะได้แกนแตงโมเพียงแค่แกนเดียว ดังนั้น ในแต่ละวันจะมีแกนแตงโมออกมาขายเพียงแค่ประมาณ 40 กล่อง เท่านั้น ลูกค้าส่วนใหญ่เวลามาซื้อหน้าร้านก็เลยจะไม่ค่อยได้กินแกนแตงโม เพราะส่วนใหญ่จะสั่งจองมาล่วงหน้าก่อน ก็จะหมดแล้ว
ในส่วนของยอดขายต่อวันไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท สูงสุดประมาณ 30,000 บาท โดยสเลอปี้แตงโมประมาณวันละ 200 แก้วต่อวัน ส่วนน้ำสเลอปี้แตงโมครีมชีส ประมาณใกล้เคียงกันประมาณ 200-250แก้วต่อวัน ส่วนเนื้อแตงโมบอลประมาณ 50 กล่องต่อวัน แกนแตงโม 40-50 กล่อง ต่อวัน เราพยายามทำออกมาให้พอดีต่อการขายในแต่ละวัน เพราะสินค้าที่เหลือ จะไม่เก็บนำกลับมาขายในวันต่อไป เพราะต้องการความสดใหม่ทุกๆ วัน
กว่าจะมาเป็นแตงโม BABE FRUIT
ความยากในการทำธุรกิจนี้ คุณออย บอกว่า มีความยากอยู่ 2 เรื่อง คือ การควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบ ให้มันได้เหมือนกันทุกๆ วัน ถึงแม้ว่าเราจะคัดเลือกวัตถุดิบที่มาแหล่งหรือร้านค้าส่งที่จำหน่ายแตงโมคุณภาพดีแล้ว แต่ยังเจอปัญหาบางลูกคุณภาพไม่ได้ตามมาตรฐานอย่างที่เราต้องการ เราก็เลือกที่จะไม่นำมาใช้ ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบของเราค่อนข้างสูง และด้วยความที่เป็นงานที่ต้องใช้แรงงานคนในการทำงาน มีต้นทุนแรงงาน บางครั้งต้องทำแข่งกับเวลา ต้องจ่ายโอทีให้พนักงาน ต้นทุนเพิ่มขึ้น และยังมีเรื่องของค่าเช่าพื้นที่ ค่าน้ำ ค่าไฟที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนที่ค่อนข้างสูง อย่างล็อกค่าเช่าที่ตลาดสดธนบุรี ต้องจ่ายค่าไฟถึงเดือนละ 4,000 บาท ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ เป็นต้นทุนที่เราต้องบริหารจัดการให้ดี
คุณออย เล่าถึงแผนการตลาดในอนาคต ว่า ตั้งใจว่าจะมีสาขาเพิ่ม และพัฒนาสินค้าใหม่จากแตงโม หรือ ผลไม้อื่นๆ เพิ่มขึ้นมา เพราะชื่อร้านของเรา คือ BABE FRUIT ก็คงจะเป็นในแนวของผลไม้ เพราะเป็นสิ่งที่เราชื่นชอบอยู่แล้วด้วย การเปิดสาขาเยอะ และเราไม่ลงไปดูแลเองให้พนักงานขาย รู้สึกว่า เค้าจะบริการลูกค้าได้ไม่เหมือนอย่างที่เราทำ เพราะทุกวันนี้ ตัว “ออย” เอง ก็มาขายเองกับแฟน ไม่ได้ให้พนักงานมาขาย ส่วนหนึ่งออยต้องการจะรู้ปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเอง เพื่อจะได้นำกลับมาปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วย เราก็เลือกที่จะขายเอง และค่อยเติบโตไปแบบนี้ดีกว่า
เริ่มต้นเล็กในการออกงานอีเวนต์ ก่อนเปิดหน้าร้าน
ทั้งนี้ เพราะเริ่มต้นมาจากเล็กๆ ลงทุนไม่กี่บาท และค่อยเติบโตขยับขยายขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ เราไม่ได้มีเงินทุนเยอะ อยากจะค่อยๆ ทำไปมากกว่า ซึ่งตอนที่เริ่มทำร้านเล็กในช่วงแรกครอบครัว มองว่า เปิดร้านขายน้ำแตงโม จะได้อะไรเท่าไหร่ แต่วันนี้ เราก็พิสูจน์ให้เขาเห็นว่า การเปิดร้านน้ำแตงโมเล็ก สามารถสร้างธุรกิจที่มีรายได้หลายแสนบาทต่อเดือนได้ ถ้าเรามีความตั้งใจ และทำในสิ่งที่ดีให้กับลูกค้า ๆ ก็จะกลับมาซื้อซ้ำ
ในช่วงแรก “ออย” ก็ยอมรับว่า ท้อเหมือนกัน เพราะวันแรกขายได้เพียง 900 บาท โดยเราก็ต้องมาดูว่า ทำไมเราขายได้น้อย ถ้าสินค้าเราดีแล้ว เราก็ต้องหันมาทำให้คนรู้จัก ต้องหาช่องทางสื่อในโซเชียลฯ มาช่วย หลังจากนั้น พอคนที่ได้ชิมได้รู้จักเราเพิ่มขึ้น ยอดขายค่อยๆ เพิ่มขึ้น จากหลักร้อย เป็นหลักพัน 4,000-5,000 บาท ไปจนถึงหลักหมื่น ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือน และยังพิสูจน์และลบคำดูถูกของคนในครอบครัวที่มองว่าแค่น้ำแตงโมจะไปทำอะไรได้ วันนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า แค่ร้านแตงโมถ้าเราตั้งใจทำก็ประสบความสำเร็จได้
คุณออย เล่าว่า ก่อนจะมาขายผลไม้ปั่นสเลอปี้ ตนเองก็เคยเป็นพนักงานประจำมาก่อน เคยทำงานธนาคารแห่งหนึ่ง และเกิดป่วยหนัก จากการติดเชื้อลงปอด ทำให้ต้องตัดสินใจลาออกจากงาน ตอนนั้นทำงานที่สาขาในสนามบินสุวรรณภูมิ ในตำแหน่งพนักงานแลกเปลี่ยนเงิน ทำให้เราต้องสัมผัสเงินทุกวัน ซึ่งเชื้อโรคน่าจะติดมากับเงินที่เราต้องจับทุกวัน พอออกมา และรักษาตัวจนหาย ก็เริ่มต้องมาเริ่มมองหาช่องทางทำมาหากิน ตอนแลกขายเครื่องดื่มในงานอีเวนต์ต่างๆ ก่อนจะมาเปิด BABE FRUIT ที่ตลาดสดธนบุรี ส่วนของสเลอปี้แตงโมก่อนหน้านั้น เราก็ขายในงานอีเวนต์มาเป็นปีเหมือนกัน กว่าจะได้มีหน้าร้านเหมือนอย่างทุกวันนี้
ติดต่อ Facebook : Babe Fruit – เบ๊บฟรุ๊ต
